สัญญาวิปลาส
ไม่ถึงขั้นที่เห็นว่า รูปกับนาม กายกับใจ นั้นไม่มีอยู่จริงๆ
ยังไม่ได้ ธรรมะอะไรสูงล้ำขนาดนั้น
มีบ้างที่ว่ากายนี้ รูปนี้ไม่ใช่เรา เห็นแว้บเดียว นานๆ เกิดที
เห็นตอนที่ไม่จงใจจะเห็น มันเห็นขึ้นมาเอง เช่น ตอนที่แปรงฟัน เห็นแว้บเดียวว่า ตัวนี้มันไม่ใช่เรา ...
ตอนหนึ่งเหยียดขาออก ต้องการผ่อนคลายสบายๆ เห็นว่า ขาสองท่อนนี้ เป็น ขาของใครก็ไม่รู้ ไม่ใช่ขาของเรา ..
มีเห็นลมหายใจของตัวเอง บ้าง บางครั้ง
ตอนนี้เจอสภาวะที่เด็ดกว่านั้นคือ เกิดสัญญาเพี้ยนๆ เรียก สิ่งของ ผิดๆ ถูกๆ บ่อย
เพียงแต่เริ่มจะจับ อาการแปลกๆ ของสัญญา..ที่จู่ๆ ก็วิปลาศให้เห็นเอาดื้อๆ
ขั้นตอนที่จะเข้าไปเห็น ปกิจจสมุทบาท ก็ไม่ชัดนักค่ะ อธิบาย เป็นถ้อยคำ
ก็รับรู้ได้ ถึงกระบวนการบางอย่าง แต่เรียกไม่ถูกว่ารู้อะไร แต่รู้ แค่รู้ว่ารู้อยู่ อย่างหนึ่ง
พักนี้ สัญญามันไม่เที่ยงให้เห็นเอาดื้อๆ เลย เช่น เรียก หนังสือเป็นสมุด
เรียกโต๊ะเป็นเก้าอี้ เรียกดินสอกดเป็นปากกา เรียกชามเป็นจาน ฯลฯ
สลับกันมั่วไปหมด ท่าทางจะบ้อง ซะแล้ว
คืออะไรที่คล้ายกัน สัญญามันจะไปหมายรู้ผิดๆ สลับข้างกันหมด ตัวแปล มันมั่ว 555555
จิตมันก็พูดขึ้นมาเองว่า ...แล้วไงละ
นี่ไงสัญญามันไม่เที่ยง เธอ บังคับฉันไม่ได้ หรอก ...จะใส่ใจอะไร กับสมมุติบัญญัติ เธอมุ่ง ใสใจศึกษา ปรมัตถธรรม มิใช่เหรอ
ฉันจะเรียกของฉันผิดอย่างนี้ เรื่องของฉันงะ ฉันเป็นอนัตตา…นั่นแน่จิตมันพูดเองได้ ด้วย
จิตดวงที่คิดประโยคนี้ดับไป
จิตอีกดวงหนึ่งก็เกิดขึ้นมารู้จิตที่คิด แล้วจิตอีกดวงก็ปรุงขึ้นมาใหม่ว่า
สรุปเธอจะเลือกข้างไหน เอาสมมุติบัญญัติ หรือจะเอา ปรมัตถธรรม
เลือกสิ…ถึงเวลาเลือกข้างแล้วนะ...ดวงนี้ดับ
เกิดจิตอีกดวงก็มารู้ดวงตะกี้ก่อนหน้านี้อีกที ดวงจิตเมื่อสักครู่นั้นดับไป
ดวงใหม่ก็ไปปรุงอยู่มันคิดอยู่ว่า
.....ไม่ได้ นะ หลวงพ่อ ท่านเคยเทศน์ว่า สมมุติบัญญัติ ก็จริง ตามสมมุตินะ ต้องเคารพสมมตินะ อย่าปฏิเสธสมมุติ ปรมัตฯ ก็จริงอย่างปรมัติ อย่ามาเอาเทียบกันไม่ได้ ธรรมคนละอย่างกัน.....
จิตดวงที่คิดดับไป แล้ว จิตดวงใหม่เกิดขึ้นพร้อมกับตัวรู้ที่บอกว่า ไม่ต้องเลือกจะเอาอะไรสักอย่างเดียว หลวงพ่อท่านบอกว่า เราภาวนา ไม่ได้จะเอาอะไรทั้งนั้น
จิตดวงที่คิดช็อตนี้ก็ดับ จิตอีกดวงก็เกิด แล้วก็ปรุงแต่งใหม่ว่า “รู้แค่ว่า สิ่งใด เกิดขึ้น สิ่งนั้นดับไป เป็นธรรมดา” ไม่ได้มุ่งเอาอะไรทั้งนั้น จิตดวงนี้ มันก็ดับไป
เกิดจิตอีกดวงที่เกิดขึ้นมาใหม่ จิตรู้สว่าง ว้าบขึ้นมากลางใจ สว่าง โพลงเลย
ขณะนั้น เห็น จิตเกิดแล้วดับ เกิดแล้ว ดับถี่ยิบเลย ตัวปรุงก็ขยันปรุง เป็น ช็อตๆ
หากไม่ได้ โยนิโสมนสิการละแย่เลย .....กิเลส ชั้นเชิงเยอะจริงๆ ....มาเหนือเมฆจริงๆ
ไม่น่าเชื่อเลยว่า ฟังซีดี เล่นๆ ชิวๆ ไป ฟังเป็น แบ็ค เฉยๆ
พอถึงเวลาคับขับจะโดนกิเลสลากไป สติ ปัญญาก็ผุดขึ้นมาช่วยได้ทัน
สาธุ อัศจรรย์จริงๆ ไม่เคยตั้งอกตั้งใจฟัง ซีดี เท่าไหร่ค่ะ
ฟังเป็นเครื่องอยู่ของจิต เป็นวิหารธรรมบ้าง ฟังไปอย่างนั้นๆ
รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง
ฟังซีดี แล้วรู้ทันจิตตัวเอง เพิ่ง จะเข้าใจ เพิ่ง Get ว่า
ไม่ได้ ใช้หูฟังซีดี แต่จิตต่างหากที่เป็นคนฟัง
เปิดตลอดค่ะ ตอนนอนหลับก็เปิด ทั้งคืน
เปิดแล้วไม่ฝันอีกเลย ตื่นขึ้นมาก็แสนจะสดชื่น
ความอัศจรรย์ที่เจอกับตัวเองค่ะ ธรรมะมันซึ้ง ถึงอกถึงใจจริงๆ สาธุ สาธุ สาธุ
จากคุณ : รุ่งฟ้าสาง
http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y10419758/Y10419758.html