แสดงกระทู้
|
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to. |
Messages - เสกสรรค์
|
หน้า: [1] 2 3 ... 11
|
13
|
กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ขอเสนอให้ พระอาจารย์ พบลูกศิษย์ ทาง MSN อาทิตย์ ละครั้ง
|
เมื่อ: ธันวาคม 07, 2012, 12:02:13 pm
|
อยากทราบ แนวทางที่คุณ komol คิดไว้นะครับ เพราะว่า การใช้ skype นั้นต้องมีการติดต่อระหว่าง เน็ต ใช่หรือไม่ครับ จะกำหนดให้มีการพบคุยกันบ้าง ใช่หรือไม่ครับ ตามความเข้าใจ นะครับ และจะนัดพบคุยกันได้ใช่หรือไม่ครับ แต่ skype นี้ รองรับ คนเข้าฟังพร้อมกันได้ กี่คน ครับ มีรายละเอียดหรือไม่ครับ เช่น สมมุติ ว่านัดพระอาจารย์ 1 ชม. ในวัน ปรากฏมีคนที่อยากเข้าฟัง มากกว่า 10 ท่านขึ้นไป อันนี้ skype รองรับหรือไม่ครับ หรือ ว่าขณะที่ฟังออกไป สัญญาณเน็ตไม่ดี ทำให้ข้อความขาดช่วง เป็นไปได้หรือไม่ครับ คือผมคิดว่า ถ้า ไม่เกิน 3 คนนั้น น่าจะโอเค อยู่นะครับ แต่ถ้าเกินแล้ว น่าจะเป็นการใช้ พวก วีดีโอสตรีมมิ่ง คล้าย ๆ วิทยุออนไลน์ แต่มีค่าใช้จ่ายสูงกว่า นะครับ 
|
|
|
14
|
ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: "ข่มวาสนา รักษาศรัทธา" พระสารีบุตรแสดงไว้อย่างไร.?
|
เมื่อ: พฤศจิกายน 27, 2012, 11:34:49 am
|
อนุโมทนา สาธุ ครับนับว่าเป็นเรื่องที่ทำให้ ผมได้เปิดตาด้วยครับ กับเนื้อเรื่องที่ฟังมาเนิ่นนานแล้ว แต่ยังไม่แน่ใจ สิ่งสำคัญ คือ เมื่อศรัทธาตั้งมั่นแล้ว ก็อย่าล้มศรัทธา เพราะเหตุปัจจัยภายนอก ใช่หรือไม่ครับ ? โอกาสไม่ได้ มีหลายหน นะครับ ยิ่งการถวายผ้าไตรแก่ พระอัตรสาวก ด้วย แต่ผมวิเคราะห์แล้ว ในเมื่อพระสารีบุตร ท่านมีเจโตปริยญาณ ท่านรู้ว่าทำอย่างนี้ เศรษฐี จักเปลี่ยนใจผมว่ามีเหตุผลอยู่ นะครับ 1. เศรษฐี มีความศรัทธามาก เกิน ถวายผ้าไตร 3 ไตร อันนี้ลำบาก ศรัทธาได้ทำแต่ทำเกิน ซึ่งอาจจะมีผลคือเกิดมานะในทานได้ 2. พระสารีบุตร ต้องการรับเพียงไตรเดียว จึงแสร้งทำกิริยา ให้เศรษฐีนั้นคลายศรัทธาลงบ้าง 3.เชื่อว่าเป็นเรื่องจงใจ ของพระสารีบุตร ผู้มีปัญญามาก นะครับ ( อันนี้ไม่หมิ่นในปัญญาท่าน ) อนุโมทนา สาธุ ครับ 
|
|
|
18
|
กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ครูอาจารย์ ที่สอนกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ มีใครบ้างครับ
|
เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2012, 09:21:20 am
|
ที่สอนและให้ความรู้เป็นทางการ ก็ตอนนี้ มีที่เดียว ที่รับแจ้งกรรมฐาน พร้อมสรรพ ก็ศูนย์กลางพระกรรมฐาน ครับ ส่วนครูอาจารย์ ท่าน ๆ อื่น ๆ ท่านก็สอน แต่เงียบ ที่ลำปาง ก็มีที่สุสานไตรลักษณ์ นะครับ ผมได้สนทนากรรมฐานบ้าง ส่วนที่อื่น ๆ นั้นก็ต้องเรียนถามครูอาจารย์ กันอีกครั้งนะครับ ส่วนมาก ครูอาจารย์ ในสายนี้ไม่ค่อยออกตัวสอน เมื่อถามก็มักจะให้ไปเรียน ที่ คณะ 5 วัดราชสิทธาราม กับ พระครูสิทธิสังวร ( หลวงพ่อจิ่ว )  ภาพจาก board.palungjit.com/f107/ปฏิบัติธรรม-วันมหาสงกรานต์-ณ-วัดราชสิทธาราม-พลับ-2553-a-235323.html
|
|
|
27
|
เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / เพื่อนๆ สมาชิก มีความเห็นอย่างไรกับการภาวนาที่ โสด กับ ไม่โสด
|
เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2012, 09:15:04 am
|
เพื่อนๆ สมาชิก มีความเห็นอย่างไรกับการภาวนาที่ โสด กับ ไม่โสด คือผมไปร่วมปฏิบัติธรรม มาหลายที่ แล้วก็เลยเกิดความสงสัยว่า การมีครอบครัวก่อนแล้วภาวนา จะทำให้เห็นธรรมได้ดีกว่า เร็วกว่า อย่างนี้ถูกต้องใช่หรือไม่ครับ ถ้าพิจารณา พระพุทธเจ้าเป็นตัวอย่าง คือ พระองค์มีครอบครัวก่อนแล้วจึงแสวงโมกขธรรม ดังนั้นอยากเรียนถามเพื่อน สมาชิก ทุกท่านว่า การภาวนาธรรม ตอนที่โสด กับ ตอนที่ไม่โสดอันไหน จะทำให้เราเข้าถึงธรรม ได้ดีกว่าครับ
|
|
|
28
|
ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / การศึกษาเชิงวิเคราะห์อานาปานัสสติกถาในคัมภีร์ปฏิสัมภิทามรรค (๒๕๕๐)
|
เมื่อ: พฤศจิกายน 13, 2012, 11:25:48 am
|
การศึกษาเชิงวิเคราะห์อานาปานัสสติกถาในคัมภีร์ปฏิสัมภิทามรรค (๒๕๕๐)
วิทยานิพนธ์ฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาอานาปานัสสติสมาธิที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง ที่พระสารีบุตรเถระอธิบายไว้ในคัมภีร์ปฏิสัมภิทามรรค และความสอดคล้องของอานาปานัสสติสมาธิที่พระสารีบุตรเถระอธิบายกับที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง อันมีปรากฏในพระไตรปิฏกและคัมภีร์ ที่เกี่ยวข้อง ผลการวิจัยพบว่า อานาปานัสสติที่ปรากฏในพระสูตรต่างๆ ทั้งที่กล่าวไว้เป็นการเฉพาะ และที่มารวมกับกรรมฐานอื่น ถือได้ว่าเป็นพระสูตรสำคัญที่บันทึกหลักการของการปฏิกรรมฐานได้อย่างสมบูรณ์ พระสังคีกาจารย์ทั้งหลายได้ร้อยกรองสังคายนาทรงจำนำสืบกันมา และได้มีการจารึกเป็นอักษรจัดพิมพ์เป็นพระไตรปิฏก รักษาสืบมาจนถึงปัจจุบัน จึงกล่าวได้ว่าเป็นพระสูตรที่สำคัญต่อ พระพุทธศานา ทั้งในด้านวิชาการ ด้านการปฏิบัติกรรมฐานและหลักพุทธธรรม โดยพระสารีบุตรเถระ ผู้ได้รับยกย่องจากพระพุทธองค์ว่า เป็นผู้มีปัญญามาก ได้นำพระพุทธดำรัสที่ตรัสไว้มาอธิบายในคัมภีร์ปฏิสัมภิทามรรค พระไตรปิฏกเล่มที่ ๓๑ ได้ย่างแจ่มแจ้งชัดเจน นับเป็นคัมภีร์สำคัญที่บันทึกหลักการของการเจริญอานาปานัสสติสมาธิ และได้รับการรักษาสืบทอดอย่างแพร่หลาย ทำให้การปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา มีความเจริญรุ่งเรืองมาตราบเท่าถึงทุกวัน
ดาวน์โหลดอ่านได้ที่ลิงก์นี้ นะครับ http://lib.mcu.ac.th/En/thesiscontent_desc.php?ct=1&t_id=517
|
|
|
29
|
ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / โลกนี้จักไม่ว่างจากพระอรหันต์
|
เมื่อ: พฤศจิกายน 13, 2012, 11:13:19 am
|
สุภัททะ ! ในธรรมวินัยใด ไม่มีอริยมรรคมีองค์แปด สมณะที่หนึ่ง (พระโสดาบัน) ก็หาไม่ได้ในธรรมวินัยนั้น; แม้สมณะที่สอง (พระสกทาคามี) ก็หาไม่ได้; แม้สมณะที่สาม (พระอนาคามี) ก็หาไม่ได้; แม้สมณะที่สี่ (พระอรหันต์) ก็หาไม่ได้ในธรรมวินัยนั้น.
สุภัททะ ! ในธรรมวินัยนี้แล มีอริยมรรคมีองค์แปด สมณะที่หนึ่ง (พระโสดาบัน) ก็หาได้ในธรรมวินัยนี้; แม้สมณะที่สอง (พระสกทาคามี) ก็หาได้; แม้สมณะที่สาม (พระอนาคามี) ก็หาได้; แม้สมณะที่สี่ (พระอรหันต์) ก็หาได้ในธรรมวินัยนี้.
สุภัททะ ! ถ้าภิกษุทั้งหลายเหล่านี้ จะพึงอยู่โดยชอบไซร้ โลกก็จะไม่ว่างจากพระอรหันต์ทั้งหลาย แล. มหา. ที. ๑๐/๑๗๕/๑๓๘.
|
|
|
30
|
เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ขอเชิญร่วมตักบาตร อาหารสด-อาหารแห้ง พระธุดงคกรรมฐาน 13 พ.ย.55
|
เมื่อ: พฤศจิกายน 13, 2012, 10:57:39 am
|
ขอเชิญร่วมตักบาตร อาหารสด-อาหารแห้ง พระธุดงคกรรมฐาน สายท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต จำนวน 10 รูป ณ มหาวิทยาลัยรามคำแหง (หัวหมาก)
****************************
กำหนดการ
วันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
เวลา 07. 30 น. พ่อแม่ครูอาจารย์เดินทางมาถึง กลุ่มพุทธธรรมกรรมฐาน มหาวิทยาลัยรามคำแหง อาคารสวรรคโลก (SWB) ชั้น 4 ห้อง 403 เวลา 08.00 น. เริ่มตักบาตรพ่อแม่ครูอาจารย์พร้อมพระติดตาม ณ บริเวณลานพ่อขุนรามคำแหงมหาราช รายนามพ่อแม่ครูอาจารย์ที่นิมนต์ในครั้งนี้ 1.หลวงปู่ทอง จันทสิริ วัดอโศการาม อ.เมือง จ.สมุทรปราการ 2.หลวงปู่สนธิ์ อนาลโย วัดพุทธบูชา เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ 3.หลวงปู่บุญกู้ อนุวัฑฒโน วัดพระศรีมหาธาตุ เขตบางเขน กรุงเทพฯ 4.พระอาจารย์อำนวย ภูริสุนทโร วัดบรมนิวาส เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 5.พระอาจารย์ไชยา สิริธัมโม วัดพระรามเก้า เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ ( รวมพ่อแม่ครูอาจารย์และพระติดตามแล้วทั้งหมดประมาณ 10 รูป )
เวลา 08.30 น. ประธานฝ่ายฆราวาสจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย , พิธีรับศีล , เจริญพระพุทธมนต์ ณ ห้องกลุ่มพุทธธรรมกรรมฐาน มหาวิทยาลัยรามคำแหง อาคารสวรรคโลก (SWB) ชั้น 4 ห้อง 403 เวลา 09.00 น. ถวายภัตตาหารพ่อแม่ครูอาจารย์, รับพร, พ่อแม่ครูอาจารย์ฉันภัตตาหาร เวลา 10.30 น. แสดงพระธรรมเทศนา โดย พระอาจารย์อำนวย ภูริสุนทโร วัดบรมนิวาส เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เวลา 11.30 น. เสร็จพิธี
********************************
สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 084-1232750, 082-1020323, 089-1371759  นำข่าวมาให้ช้าไปหน่อยนะครับ แต่ยังพอได้สนทนาธรรม ครับ
|
|
|
34
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: สกัดพวกนอกรีต.! ร่างเกณฑ์ตั้งสำนักปฏิบัติธรรมใหม่..ต้องมีวิปัสสนาจารย์ประจำ
|
เมื่อ: พฤศจิกายน 10, 2012, 09:19:22 am
|
การจัดระเบียบ ก็เพื่อเป็นการวางรากฐาน ให้มีการตรวจสอบได้ ถ้าเราไปขัด ก็จะลำบากกันอีก ดีเหมือนกันไม่สอนสะเปะสะปะ ก็ดีนะครับ ผมเชือว่า ครูอาจารย์แท้ ๆ ยังอยู่ได้ในสถานการณ์นี้ครับ แ่ต่ครูอาจารย์ที่ไม่แท้ ก็จะต้องปิดไปตามระเบียบของ ระเบียบการจัดการครับ ตอนนี้ ที่น่ากลัว คือจำนวนของพระภิกษุ ก็น้อยลงทุกวัน พูดง่าย ๆ คนไทยไม่นิยมบวช แล้ว พวกที่มาบวชก็คือพวกที่ไม่รู้จะไปไหนแล้ว มาบวชกันแต่จำนวนก็ต้องลดลงเพราะ เศรษฐกิจเมืองไทยผันแปรด้วยครับ ที่วัดใกล้บ้านผมนั้น มีพระเหลืออยู่ 2 รูป ผมได้ไปถามพระว่าทำไมพระมีน้อย คำตอบก็คือ อาหารการช้ ความเป็นอยู่ อัตคัต วัดบ้านนอกไม่มีรายได้ ลำัพังแค่จ่ายค่น้ำ ค่าไฟฟ้า บางเดือนต้อง ยืมกำนัน ผู้ใหญ่ มาจ่ายก่อนเลย คือชาวบ้านที่อยู่รอบวัดมีฐานะยากจนเป็นส่วนใหญ่ เป็นชาวนา ชาวไร่ รายได้รับจ้างเป็นคราว ๆ รายวัน ถ้าเป็นสถานการณ์อย่างนี้พระที่ไม่ตั้งใจบวชก็อยู่ไม่ทนกันหรอกครับ งานนี้ สาธุ จัดระเบียบก็ดีครับ 
|
|
|
39
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: อึ้ง.! "จองกฐิน..ข้ามภพข้ามชาติ" เกือบ ๕๐๐ ปี
|
เมื่อ: พฤศจิกายน 08, 2012, 11:27:44 am
|
เป็นเรื่องที่คิดยาวไกล มาก ๆ เปรียบเหมือนคนที่คิดจะทำบุญในวันพรุ่งนี้ แต่ยังไม่ได้ทำบุญ อายุขัยหมดก่อนบุญนั้นจะปรากฏอย่างไร ลูกหลานในอนาคตจะทำจริง หรือไม่ ใครจะรับรองอย่างไร แต่ผู้ที่จองอย่างนี้ก็ย่อมคิดว่าตนเองได้บุญแล้ว ใช่หรือไม่ ? สรุปแล้วในแง่ จิตใจที่เป็นกุศลปรากฏชัดว่าเป็นบุญ แต่ทางกายกรรมนั้นจะเป็นอย่างไร ผมคิดในมุมกลับ มีวัดที่ร้างกฐิน ถึงแม้จะมีพระอยู่ครบตามกติกา ก็มีอยู่จำนวนมาก ถ้าเราเปลี่ยนการจองแบบนี้โดยให้วัดแจ้งก็ไม่เหมาะ เพราะกฐิน นั้นพระไปเรียกร้องไม่ได้ จึงไม่มีวัดไปแจ้ง อันนี้จึงทำให้เกิดมีกฐินร้างตามวัดอยู่หลายวัด 
|
|
|
40
|
ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / "ผู้เป็นอยู่แม้เพียงราตรีเดียว ก็น่าชม" หมายถึง มีชีวิตแค่วันเดียว ก็ยังดีกว่า
|
เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2012, 08:35:26 am
|
วันนี้ขอนำบท ภัทเทกรัตตคาถา ซึ่งมีบทเริ่มต้นว่า
หันทะ มะยัง ภัทเทกะรัตตะคาถาโย ภะณามะ เส เชิญเถิด เราทั้งหลาย จงกล่าวคาถาแสดงผู้มีราตรีเดียวเจริญเถิด
คาถาของผู้ราตรีเดียว?? คนเราไม่รู้หรอกว่า วันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะความตายนั้นอาจจะมาถึงเราโดยไม่รู้ตัวก็ได้ สมมุติว่า... เราจะมีชีวิตอยู่อีกเพียง 1 คืน จะมีสิ่งใดที่เราควรคร่ำครวญหรือ?? หรือจะมองอีกอย่าง คืนนี้ก็เฉพาะคืนนี้ คือ ปัจจุบันนี้
อะตีตัง นานวาคะเมยยะ นัปปะฏิกังเข อะนาคะตัง
บุคคลไม่ควรตามคิดถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้วด้วยอาลัย, และไม่พึงพะวงถึงสิ่งที่ยังไม่มาถึง
ยะทะตีตัมปะหีนันตัง อัปปัตตัญจะ อะนาคะตัง
สิ่งเป็นอดีตก็ละไปแล้ว, สิ่งเป็นอนาคตก็ยังไม่มา
คิดพะวงถึงความหลัง รังแต่จะโศกเศร้า โศกา หรือโกรธ พยาบาท โดยไม่เกิดประโยชน์อะไร ส่วนสิ่งที่ยังมาไม่ถึง กังวลก็นอนไม่หลับเปล่าๆ?? เคยนอนไม่หลับกันใช่มั้ยครับ ทรมานยิ่งนัก

ปัจจุปปันนัญจะ โย ธัมมัง ตัตถะ ตัตถะ วิปัสสะติ,
อะสังหิรัง อะสังกุปปัง ตัง วิทธา มะนุพ๎รูหะเย
ผู้ใดเห็นธรรมอันเกิดขึ้นเฉพาะหน้าที่นั้นๆ อย่างแจ่มแจ้ง,
ไม่ง่อนแง่นคลอนแคลน, เขาควรพอกพูนอาการเช่นนั้นไว้
อัชเชวะ กิจจะมาตัปปัง โก ชัญญา มะระณัง สุเว
ความเพียรเป็นกิจที่ต้องทำวันนี้, ใครจะรู้ความตายแม้พรุ่งนี้
นะ หิ โน สังคะรันเตนะ มะหาเสเนนะ มัจจุนา
เพราะการผัดเพี้ยนต่อมัจจุราชซึ่งมีเสนามากย่อมไม่มีสำหรับเรา
เอวัง วิหาริมาตาปิง อะโหรัตตะมะตันทิตัง,
ตัง เว ภัทเทกะรัตโตติ สันโต อาจิกขะเต มุนิ
มุนีผู้สงบย่อมกล่าวเรียกผู้มีความเพียรอยู่เช่นนั้น,
ไม่เกียจคร้านทั้งกลางวันกลางคืนว่า, "ผู้เป็นอยู่แม้เพียงราตรีเดียว ก็น่าชม" อยู่แบบลืมตาย-หลงตาย น่าสงสัยว่าทุกวันนี้ จะมีใครสักกี่คนที่สามารถจากไปในลักษณะนั้นได้ เพราะว่าเดี๋ยวนี้เรามองความตายเป็นเรื่องน่ากลัว เป็นเพราะเห็นความตายเป็นเรื่องน่ากลัวเราจึงพยายามไม่นึกถึงมัน เราพยายามทำใจให้วุ่น ทำชีวิตไม่ให้ว่าง ส่วนหนึ่งก็เพื่อเราจะได้ไม่ต้องนึกถึงความตายที่จะต้องเกิดขึ้นกับเราอย่างแน่นอนไม่วันใดก็วันหนึ่ง
เราทำตัวให้วุ่น ทำชีวิตไม่ให้ว่าง ทำงานทั้งวันทั้งคืน หรือไม่ก็สนุกสนานรื่นเริง เสพสุข เที่ยวห้าง แสวงหาความบันเทิง สรรหาสิ่งแปลก ๆ ใหม่ ๆ อยู่เสมอก็เพื่อจะได้ไม่ต้องนึกถึงความตาย เราจึงมีชีวิตอยู่เหมือนคนลืมตาย
ทุกวันนี้คนที่อยู่แบบลืมตายมีเป็นจำนวนมาก คือลืมไปว่าตนเองจะต้องตาย และส่วนใหญ่เมื่อมีชีวิตอยู่แบบลืมตาย ถึงเวลาสิ้นลมก็จะมีอาการอย่างที่คนโบราณเรียกว่า หลงตาย คือตายด้วยความหลง ตายด้วยความทุกข์ทรมาน กระสับกระส่าย ยิ่งสมัยนี้มีเทคโนโลยีนานาชนิด ซึ่งในบางกรณีแทนที่จะเป็นการยืดชีวิตหรือช่วยชีวิต กลับเป็นกระบวนการยืดความตาย ก็เท่ากับว่าทำให้สภาวะหลงตายยืดยาวไปด้วยเช่นกัน มรณานุสติกรรมฐาน ในหนังสือคู่มือปฏิบัติพระกรรมฐาน ซึ่งในคำสอนยังระบุไว้อีกว่า... จะทำอย่างไรความตายก็ต้องจัดการกับชีวิตแน่นอน เมื่อกฎธรรมดาเป็นอย่างนี้ พระพุทธเจ้าจึงทรงสอน คือย้ำตามความเป็นจริงว่า ภิกขเว ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความตายนั้นเป็นสิ่งปกติธรรมดาไม่มีใครจะหลีกหนีพ้น ทั้งนี้ ความตายนี้แบ่งออกเป็น 3 อย่างด้วยกันคือ.....
1. สมุจเฉทมรณะ ความตายขาดตอน หมายถึงความตายของพระอรหันต์ ท่านเสร็จกิจแห่งพรหมจรรย์ คือสิ้นกิเลสแล้ว เหตุที่จะต้องทำให้เกิด คือกิเลสและตัณหาที่จะควบคุมบังคับท่านให้เกิดอีก ไม่มี ท่านมรณะแล้วท่านไม่ต้องกลับมาเกิดอีก เรียกว่า สมุจเฉทมรณะ แปลว่าตายขาดตอน ไม่กลับมาเกิดอีก
2. ขณิกมรณะ แปลว่า ตายเล็ก ๆ น้อย ๆ ท่านหมายเอาความตาย คือความดับ หรือการเคลื่อนไปของชีวิต ที่มีการเคลื่อนไปวันหนึ่ง ๆ วันเวลาล่วงไป ชีวิตก็เคลื่อนไปใกล้จุดจบสุดยอดคือตายดับทุกขณะ การผ่านไปของชีวิตท่านถือเป็นความตาย คือ ตายทุกลมหายใจออก และเกิดต่อทุก ๆ ลมหายใจเข้า อาหารเก่าที่บริโภคเข้าไปเป็นการหล่อเลี้ยงชีวิตชั่วคราว เมื่อสิ้นอำนาจของอาหารเก่า ร่างกายต้องการอาหารใหม่เข้าไปหล่อเลี้ยงแทน แต่ถ้าไม่ได้อาหารใหม่เข้าไปทดแทนชีวิตก็จะต้องดับ ชีวิตที่ทรงอยู่ได้ก็เพราะอาหารใหม่เข้าไปหล่อเลี้ยงไว้
เมื่อสิ้นสภาพของอาหารเก่า ท่านถือว่าร่างกายต้องตายแล้วไปยุคหนึ่ง พอได้อาหารใหม่มาทดแทน ชีวิตก็เกิดใหม่อีกวาระหนึ่ง การเกิดการตายต่อเนื่องกันทุกวันเวลาอย่างนี้ ถ้าอาหารเก่าหมดสภาพ ไม่บริโภคใหม่ หรือลมหายใจออกแล้ว ไม่หายใจเข้า สภาพของร่างกายก็จะสิ้นลมปราณ คือตายทันที ที่ทรงอยู่ได้อย่างนี้ก็เพราะได้ปัจจัยบางอย่างค้ำจุนทดแทน ท่านสอนให้มองเห็นสภาพของสังขารร่างกายว่ามีความตายเป็นปกติทุกวันเวลา อย่างนี้ท่านเรียกว่า ขณิกมรณะ แปลว่า ตายทีละเล็กละน้อย หรือตายเล็ก ๆ น้อย ๆ
3. กาลมรณะ และ อกาลมรณะ กาลมรณะ แปลว่า ตายตามกาลตามสมัยที่ชาวโลกนิยม เรียกว่า ถึงที่ตาย คือ สิ้นอายุ อย่างชนิดที่ไม่มีการแก้ไขได้ อกาลมรณะ แปลว่า ตายในโอกาสที่ยังไม่ถึงกาลควรตาย แต่ต้อง ตายเพราะกรรมบางอย่างที่เป็นอกุศลเข้ามาบีบคั้นให้ตาย การตายประเภทหลังนี้พอมีทางต่อให้อายุยืนยาวต่อไปได้ตามสมควรแก่กรรมในอดีต จะต่อให้เลยพอดีนั้นไม่ได้ พวกตายตามแบบกาลมรณะตายไปแล้วเสวยผลกรรมทันที แต่พวกที่ตายตามแบบอกาลมรณะนี้ ตายแล้วยังไม่ไปเสวยผลกรรมทันที ต้องไปเป็นสัมภเวสี แสวงหาที่เกิดก่อน คือรอกาลที่จะถึงกาลมรณะก่อน เมื่อถึงเวลาแล้วจึงจะได้รับผลกรรมดีและกรรมชั่วที่ทำไว้
ทั้งนี้ คำสอนของพระราชพรหมยาน ยังระบุไว้อีกว่า ’... การนึกถึงความตายมีประโยชน์ ประโยชน์ของการนึกถึงความตายทำให้เป็นคนไม่ประมาท เพราะรู้ตัวว่าจะตาย จะได้แสวงหาความดีใส่ตัว
รู้ตัวว่าชาตินี้จนเพราะชาติก่อนให้ทานไว้น้อย ถ้าชาติหน้าไม่อยากจนอีก ก็พยายามให้ทานเสมอ ๆ ตามกำลังทรัพย์ที่พอจะให้ได้ และอย่าให้จนหมดตัว จะเกินพอดี ต้องให้พอเหมาะพอดี ไม่เดือดร้อนภายหลัง นั่นแหละจึงจะควร, รู้ตัวว่ามีโรคมาก ป่วยไข้ไม่สบายเสมอ ๆ ของหายบ่อย ๆ รูปร่างสวยน้อยไป คนในบังคับบัญชาดื้อด้าน วาจาไม่ศักดิ์สิทธิ์ อารมณ์ความจำเสื่อม ถ้าต้องการให้สิ่งบกพร่องเหล่านี้สมบูรณ์ในชาติหน้า จะได้พยายาม รักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์ครบถ้วน แล้วก็จะได้รับอานิสงส์ มีอายุยืน รูปสวย ไม่มีโรคภัยรบกวน ไม่มีภัยจากโจร คนในบังคับบัญชาอยู่ในโอวาทเป็นอันดี ไม่มีใครดื้อด้าน มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์
ถ้าเห็นว่ามีปัญญาน้อย ไม่ใคร่ทันเพื่อน ก็พยายาม เจริญสมถกรรมฐาน วิปัสสนากรรมฐาน พอมีฌานมีญาณเล็กน้อย ในชาติต่อไปก็จะเป็นคนมีปัญญาเลิศ, ถ้าเห็นว่าความเกิดเป็นโทษเป็นทุกข์ เพราะการเกิด ไม่ว่าจะเกิดเป็นอะไร มีตระกูลสูงส่งประการใดก็ตาม ต้องประสบกับความทุกข์อย่างมหันต์ และหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ต้องการความเกิดอีก ก็เร่งรัดเจริญสมถะให้ได้ฌานต้น แล้วเจริญวิปัสสนาญาณให้จบกิจพระศาสนา ซึ่งเป็นของไม่หนักเลยสำหรับท่านที่นึกถึงความตายเป็นปกติ หรือที่เรียกว่า เจริญมรณานุสติกรรมฐาน ...”
’มรณานุสติ“ นึกถึงความตาย ’เพื่อจะได้ทำความดี“
|
|
|
|