ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ทำอย่างไร จะชนะคนที่เกลียดเราได้คะ  (อ่าน 17529 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Lux

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 113
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
มีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง เป็นเพื่อนห่าง ๆ คะ ทำงานที่เดียวกัน บ้านอยู่ใกล้กัน แต่เพื่อนคนนี้ไม่ยอมผูกมิตรด้วยคะเวลาเจอกันก็ชอบแสดงอาการรังเกียจออกมาอย่างให้เห็น เลยคะ ดิฉันก็พยายามแผ่เมตตา และคุยดี ๆ ด้วยนะคะ แต่ก็ไม่ได้ผลเลยคะ 3 - 4 ปีแล้วคะ จะทำอย่างไรที่จะให้เขาไม่เกลียดเรา และเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันคะ

  :41: :smiley_confused1:
บันทึกการเข้า
อยากให้ทุกคนได้มีรอยยิ้ม มีความสุข แม้แบบชาวโลก
อยากให้ทุกคนไม่มีทุกข์ มีแต่สุข ในการภาวนา
อยากหนอ .... ก็ทุกข์หนอ ใช่หรือไม่จ๊ะ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออนไลน์ ออนไลน์
  • กระทู้: 28442
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ทำอย่างไร จะชนะคนที่เกลียดเราได้คะ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: เมษายน 03, 2012, 02:42:00 pm »
0


เปลี่ยนศัตรูในที่ทำงานให้เป็นมิตร

    หนึ่งในเทคนิคชั้นเลิศของการเอาตัวรอดในออฟฟิสคือ จงเป็นมิตรกับศัตรู ดีกว่าสร้างศัตรูให้ตัวเองเดือดร้อน "คุณควรสร้างมิตรภาพกับทุกคนในออฟฟิศ แต่ไม่ต้องเป็นเพื่อนกับพวกเขาก็ได้"

     ผู้เชี่ยวชาญด้านการงาน หลุยส์ พี.แฟรงเกล (Lois P.Frankel) ให้ความเห็น เพราะส่วนใหญ่เวลาเจ้านายตัดสินใจจะเลื่อนตำแหน่งใคร มักเช็คฟีดแบ็กกับเพื่อนร่วมงานก่อนเสมอ ลองคิดดูว่าจะดีสักแค่ไหนหากใครๆ ก็เข้าข้างคุณ

     1. มองหาความสนใจที่คล้ายๆ กัน
     ชวนคุยเรื่องที่เขา หรือเธอชอบ มันต้องมีสักเรื่องละน่า ลองหว่านไปเรื่อยๆ ดูว่าเขาสนใจเรื่องท่องเที่ยวไหม ชอบช้อปปิ้ง หรือชอบสรรหาของอร่อยกิน หรือเป็นแนวนักกีฬาประจำออฟฟิศ


     2. อย่ายอมแพ้
     อย่าเพิ่มตัดใจ หากเขาไม่คุยด้วย เพราะการเริ่มต้นทำความรู้จักใครสักคนไม่ง่ายขนาดนั้น แต่ให้ลองชวนคุยไปเรื่อยๆ ทำให้เขาเห็นถึงความตั้งใจ รับรองว่าวันหนึ่งเดี่ยวเขาก็หันมาคุยกับคุณเอง


     3. ทลายกำแพง
     วันไหนว่างๆ ลองชวนเขาหรือเธอไปกินข่าวเที่ยวด้วยกันสองคน จะได้มีเวลาคุยกันเต็มที่ พยายามสร้างมิตรภาพ (อันนี้อาจจะยากแต่ถ้าตั้งใจจะทำแล้วก็ทำได้) หลีกเลี่ยงเรื่องที่คิดเห็นไม่ตรงกัน จำไว้ว่ามื้อนี้เรามุ่งเน้นการกระชับความสัมพันธ์ ไม่ใช่การโต้วาที



อ้างอิง
Source : Women's Health
http://women.sanook.com/940128/เปลี่ยนศัตรูในที่ทำงานให้เป็นมิตร/
ขอบคุณภาพจาก http://p.s1sf.com/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออนไลน์ ออนไลน์
  • กระทู้: 28442
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ทำอย่างไร จะชนะคนที่เกลียดเราได้คะ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: เมษายน 03, 2012, 03:15:37 pm »
0
ธรรมนูญชีวิต
A Constitution For Living
โดย พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต)

คนที่มีคุณแก่ส่วนรวม (สมาชิกที่ดีของสังคม)
สมาชิกที่ดีผู้ช่วยสร้างสรรค์สังคม มีธรรม คือ หลักความประพฤติ ดังนี้

ก. มีพรหมวิหาร คือ ธรรมประจำใจของผู้ประเสริฐหรือผู้มีจิตใจยิ่งใหญ่กว้างขวางดุจพระพรหม ๔ อย่าง ต่อไปนี้
๑. เมตตา ความรัก คือ ความปรารถนาดี มีไมตรี ต้องการช่วยเหลือให้ทุกคนประสบประโยชน์และความสุข
๒. กรุณา ความสงสาร คือ อยากช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นจากความทุกข์ ใฝ่ใจที่จะปลดเปลื้องบำบัดความทุกข์ยากเดือดร้อนของคนและสัตว์ทั้งปวง
๓. มุทิตา ความเบิกบานพลอยยินดี เมื่อเห็นผู้อื่นอยู่ดีมีสุข ก็มีใจแช่มชื่นเบิกบาน เมื่อเห็นเขาทำดีงามแระสบความสำเร็จก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป ก็พลอยยินดีบันเทิงใจด้วย พร้อมที่จะช่วยส่งเสริมสนับสนุน
๔. อุเบกขา ความมีใจเป็นกลาง คือ มองตามเป็นจริง โดยวางจิตเรียบสม่ำเสมอ มั่นคง เที่ยงตรงดุจตาชั่ง มองเห็นการที่บุคคลจะได้รับผลดีหรือชั่ว สมควรแก่เหตุที่ตนประกอบ พร้อมที่จะวินิจฉัย วางตน และปฏิบัติไปตามหลักการ เหตุผล และความเที่ยงธรรม *

(ที.ม. ๑๐/๑๘๔/๒๒๕)

* กรณีสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ใช้อุเบกขา คือ เมื่อเห็นคนที่ตนดูแล เป็นอยู่ดี ต่างขวนขวายในกิจหน้าที่ของตน ก็รู้จักวางทีเฉยคอยดูโดยสงบ ไม่เซ้าซี้จู้จี้ ไม่ก้าวก่ายแทรกแซง
         ท่านแสดงอุปมาข้อหนึ่งว่า อุเบกขานั้น เหมือนดังนายสารถี
         เมื่อม้าวิ่งถูกทางเรียบสนิทดี ก็นั่งคุมสงบนิ่งคอยดูเฉยอยู่
         โดยนัยนี้ จึงแสดงความหมายของอุเบกขาอย่างคลุมความว่า ความรู้จักวางทีเฉยดู
         เมื่อเห็นเขารับผิดชอบตนเองได้ หรือในเมื่อเขาควรต้องได้รับผลสมควรแก่ความรับผิดชอบของตน

         ดู วิสุทฺธิ. ๗๔๑; วิสุทฺธิ.ฎีกา ๒/๑๓๖; ๗๑๑๒


เมื่อมีคุณธรรมภายในเป็นพื้นฐานจิตใจเช่นนี้แล้ว พึงแสดงออกภายนอกตามหลักความประพฤติ ต่อไปนี้

ข. บำเพ็ญการสงเคราะห์ คือ ปฏิบัติตามหลักการสงเคราะห์ หรือธรรมเครื่องยึดเหนี่ยวใจคน และประสานหมู่ชนไว้ในสามัคคี ที่เรียกว่า สังคหวัตถุ ๔ อย่าง ดังต่อไปนี้
๑. ทาน ให้ปัน คือ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เสียสละ แบ่งปัน ช่วยเหลือสงเคราะห์ ด้วยปัจจัยสี่ ทุนหรือทรัพย์สินสิ่งของ ตลอดจนให้ความรู้ความเข้าใจ และศิลปวิทยา
๒. ปิยวาจา พูดอย่างรักกัน คือ กล่าวคำสุภาพ ไพเราะ น่าฟัง ชี้แจงแนะนำสิ่งที่เป็นประโยชน์ มีเหตุผลเป็นหลักฐาน ชักจูงในทางที่ดีงาม หรือคำแสดงความเห็นอกเห็นใจ ให้กำลังใจ รู้จักพูดให้เกิดความเข้าใจดี สมานสามัคคี เกิดไมตรี ทำให้รักใคร่นับถือและช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
๓. อัตถจริยา ทำประโยชน์แก่เขา คือ ช่วยเหลือด้วยแรงกาย และขวนขวายช่วยเหลือกิจการต่างๆ บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ รวมทั้งช่วยแก้ไขปัญหาและช่วยปรับปรุงส่งเสริมในด้านจริยธรรม
๔. สมานัตตตา เอาตัวเข้าสมาน คือ ทำตัวให้เข้ากับเขาได้ วางตนเสมอต้นเสมอปลาย ให้ความเสมอภาค ปฏิบัติสม่ำเสมอกันต่อคนทั้งหลาย ไม่เอาเปรียบและเสมอในสุขทุกข์ คือ ร่วมสุข ร่วมทุกข์ ร่วมรับรู้ ร่วมแก้ไขปัญหาเพื่อให้เกิดประโยชน์สุขร่วมกัน

พูดสั้นๆ ว่า ช่วยด้วยทุนด้วยของหรือความรู้; ช่วยด้วยถ้อยคำ; ช่วยด้วยกำลังงาน; ช่วยด้วยการร่วมเผชิญและแก้ปัญหา

(ที.ปา. ๑๑/๑๔๐/๑๖๗)



ที่มา http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=6642

     

หลักธรรมของ "พรหมวิหารและสังคหวัตถุ"
สามารถนำไปใช้ได้ในที่ทำงานหรือในสังคมต่างๆ ในทุกกรณี
:welcome: :49: :25: :s_good:   
     
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 03, 2012, 03:22:17 pm โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออนไลน์ ออนไลน์
  • กระทู้: 28442
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ทำอย่างไร จะชนะคนที่เกลียดเราได้คะ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: เมษายน 03, 2012, 03:39:18 pm »
0

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๓  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๕ มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์

๑๒ . มหาราหุโลวาทสูตร
สูตรว่าด้วยการประทานโอวาทแก่พระราหุล สูตรใหญ่

    ๑ . พระผู้มีพระภาคประทับ ณ เชตวนาราม. ตรัสสอนพระราหุลในระหว่างที่ท่านตามเสด็จไปบิณฑบาตในเวลาเช้าว่า พึงพิจารณาเห็นรูปทุกชนิด ทั้งอดีตอนาคตปัจจุบัน ,ภายในภายนอก ,   หยาบละเอียด ,เลวดี ,ไกลใกล้ ว่ารูปทั้งหมดนั้น มิใช่ของเรา เราไม่เป็นนั่น นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา.

    พระราหุลกลับจากที่นั้น นั่งคู้บัลลงก์(ขัดสมาธิ) ณ โคนไม้ตันหนึ่ง ตั้งกายตรง ดำรงสติเฉพาะหน้า พระสารีบุตรเห็นเข้าจึงสอนให้เจริญอานาปาปานสติ (สติกำหนดลมมหายใจเข้าออก). ในเวลาเย็นพระราหุลออกจากที่เร้น เข้าไปเฝ้ากราบทูลถามถึงวิธีเจริญอานาปานสติที่จะมีผลมาก มีอานิสงส์มาก.

   ๒. พระผู้มีพระภาคตรัสสอนเรื่องรูปภายใน(ร่างกาย) ที่แข้นแข็ง มีผม ขน เป็นต้น
    ที่เรียกว่าธาติดินภายใน ตลอดจนธาตุน้ำ ,ไฟ ,ลม ,อากาศ ทั้งภายนอกภายใน
    ให้เห็นเป็นแต่สักว่าธาตุ ไม่ใช่ของเรา เราไม่ได้เป็นนั่น นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา
    เมื่อเห็นตามเป็นจริงอย่างนี้ ย่อมเบื่อหน่ายธาตุเหล่านั้น
    ทำจิตให้คลายกำหนด(หรือความติดใจ) ในธาตุเหล่านั้น

  ๓. ครั้นแล้วตรัสสอนให้เจริญภาวนา(อบรมจิต) เสมอด้วยธาตุแต่ละอย่าง
   ซึ่งผัสสะที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจเกิดขึ้นแล้ว จักไม่ครอบงำจิตตั้งอยู่ได้     
   โดยชี้ให้เห็นว่า ธาตุเหล่านั้นย่อมไม่แสดงอาการผิดปกติ เช่น เบื่อหน่าย
   เกลียดชังสิ่งสะอาดหรือสกปรก ที่ทิ้งลงไปใส่ หรือที่ธาตุเหล่านั้นฝ่านไป.


  ๔. ตรัสสอนให้เจริญ
    เมตตาภาวนา (ไมตรีจิต คิดจะให้เป็นสุข) ซึ่งจะเป็นเหตุให้ละพยาบาท (ความคิดปองร้าย) ได้ ,
   กรุณาภาวนา (เอ็นดู คิดจะช่วยให้พ้นทุกข์) ซึ่งจะเป็นเหตุให้ละวิหิงสา (การคิดเบียดเบียน ) ได้ ,
   มุทิตาภาวนา (พลอยยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี) ซึ่งจะเป็นเหตุให้ละอรติ (ความไม่ยินดีหรือริษยา ) ได้,
   อุเบกขาภาวนา (วางใจเป็นกลาง) ซึ่งจะเป็นเหตุให้ละปฎิฆะ (ความขัดใจ) ได้,. 
   อสุภภาวนา(เห็นความไม่งาม) ซึ่งจะเป็นเหตุให้ละราคะ (ความกำหนัดยินดี) ได้,
   อนิจจสัญญาภาวนา (กำหนดหมายสิ่งที่ไม่เที่ยง) ซึ่งเป็นเหตุให้ละอัสมิมานะ (ความถือตัวถือตนได้).


   ๕. ครั้นแล้วตรัสสอนวิธีเจริญสติกำหนดลมหายใจเข้าออกที่มีเหตุผลมาก มีอานิสงส์มาก ( แบบเดียวกับที่ตรัสไว้ในอานาปานบรรพ คือ หมวดว่าด้วยลมหายใจเข้าออกในมหาสติปัฎฐาน ที่ย่อมาแล้วในพระสุตตันตะเล่ม ๒ หน้า ๔


อ้างอิง
พระไตรปิฎก ฉบับประชาชน โดย อ.สุชีพ  ปุญญานุภาพ
http://www.larnbuddhism.com/tripitaka/prasuttanta/5.2.html
ขอบคุณภาพจาก http://www.84000.org/,http://www.chanakarnthaiclassical.com/


แนะนำให้อ่าน "มหาราหุโลวาทสูตร" ยากนิดหนึ่ง :s_good:
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออนไลน์ ออนไลน์
  • กระทู้: 28442
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ทำอย่างไร จะชนะคนที่เกลียดเราได้คะ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: เมษายน 03, 2012, 03:59:18 pm »
0

   มีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง เป็นเพื่อนห่าง ๆ คะ ทำงานที่เดียวกัน บ้านอยู่ใกล้กัน
   แต่เพื่อนคนนี้ไม่ยอมผูกมิตรด้วยคะเวลาเจอกันก็ชอบแสดงอาการรังเกียจออกมาอย่างให้เห็น เลยคะ
   ดิฉันก็พยายามแผ่เมตตา และคุยดี ๆ ด้วยนะคะ แต่ก็ไม่ได้ผลเลยคะ 3 - 4 ปีแล้วคะ
   จะทำอย่างไรที่จะให้เขาไม่เกลียดเรา และเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันคะ


   
   เอาล่ะครับ..หลังจากอ่านบทความต่างๆแล้ว มาคุยถึงปัญหากันบ้าง
   เพื่อนคนนี้ ไม่ทราบว่าหญิงหรือชาย เดาว่าเป็นหญิง
   คนเราเห็นหน้าแล้วไม่ถูกชะตา ก็เป็นเรื่องปรกติ คติทางพุทธเชื่อว่า "ชาติก่อนคงเป็นศัตรูกันมา"

   ข้อมูลที่บอกมา ไม่มีรายละเอียดว่า มีปัญหาอะไร เรื่องงานหรือส่วนตัว
   ปัญหาต่างๆ ผู้ถามน่าจะทราบดีว่า มีต้นสายปลายเหตุอย่างไร มีทางแก้ไขได้หรือไม่ได้อย่างไร

   ปัญหาเบื้องต้นผมคิดว่า "อาจอยู่ที่ทัศนคติ" การมี"อคติ"ต่อกัน ทำให้ไม่ชอบหน้ากัน
   อคตินั้น ชอบหรือไม่ชอบด้วยธรรมอย่างไร เจ้าของกระทู้ต้องพิจารณาโดยแยบคาย(โยนิโสมนสิการ)
   คุยเป็นเพื่อนเท่านี้ครับ

    :49:
     
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 04, 2012, 12:40:34 pm โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

translate

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังแหวกกระแส
  • *****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 105
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ทำอย่างไร จะชนะคนที่เกลียดเราได้คะ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: เมษายน 03, 2012, 04:35:21 pm »
0
อนุโมทนา ครับ กับคำแนะนำที่มีสาระทางธรรม มาก ๆ ครับ

  ผมเองก็มีเพื่อนบ้านอยู่ใกล้เคียงกันครับ นิสัยเขาจะตรงข้ามกับผมครับ ปัจจุบันก็จะโดนเขาราวีอยู่ทุกวันครับ มีการตะโกนด่าลม แอบส่องแอบมอง หาเรื่องตลอดเวลาครับ จะทำดีก็แล้ว จะพูดดีก็แล้ว จนบัดนี้ก็ไม่เห็นเขาคิดจะดีกับเราเลยครับ

   ดังนั้นผมเห็นว่า บางคนก็สามารถที่จะคุยได้ ครับ แต่บางคนก็ไม่สามารถ จะคุยได้ครับ บางครั้งวาสนาเป็นสิ่งที่พูดกันได้ลำบากครับเรื่องอย่างนี้จึงต้องอาศัยความอดทนร่วมด้วยประกอบด้วย

 :s_hi: :s_hi: :s_hi:

 
บันทึกการเข้า

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ทำอย่างไร จะชนะคนที่เกลียดเราได้คะ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: เมษายน 03, 2012, 08:08:24 pm »
0
ขออนุโมทนาสาธุกับทุกท่านที่ให้แนวคิดดีๆมากมาย ซึ่งผมก็ได้รับประโยชน์จากแนวทางทั้งหลายของท่านด้วย
- แนวทางของผมนะครับ คิดดี พูดดี ทำดี พึงกระทำให้จิตเกิดกุศล คงไว้ซึ่งกุศล รักษากุศลไว้ไม่ให้เสื่อม
- การที่เราจะเข้าเมตตาจิตแก่คนอื่นนั้น หลวงปู่แหวนท่านกล่าวไว้ว่า ให้มองเหมือนความเมตตาของแม่ที่มีต่อลูก คือ แม่นั้นปารถนาให้ลูกเป็นสุข กระทำเพื่อความเอื้อเฟื้อ อนุเคราะห์ แบ่งปันให้ลูกมีความสุขกาย สบายใจโดยไม่หวังสิ่งใดๆตอบแทนกลับมา ยินดีเมื่อลูกประสบความสำเร็จ สุขกาย สบายใจ มีทานให้แก่ลูกเป็นนิจ นั่นคือการให้โดยไม่หวังสิ่งใดๆตอบแทน ให้เพื่อหวังให้ลูกได้ใช้ประโยชน์สุขจากการให้นั้นของแม่ ให้แล้วไม่มาคิดเสียใจ เสียดายในภายหลัง
- สภาพจิตที่เมตตาเกิดขึ้นแล้วนั้นจะสงบ อบอุ่น ปิติ เบิกบาน ผ่องใส ไม่ติดข้องใจ ไม่ขุ่นเคืองใจ ไม่หมองมัวใจ สภาพจริงนี้รู้โดยพิจารณาในจิตานุสติปัฏฐาน โดยสังเกตุสภาพความรู้สึกตนเองโดยตัดความคิดสมมติบัญญัติต่างๆออก สังเกตุสภาพจริงโดยไม่ให้ความหมายมัน นอกจากรู้เพียงว่าสภาพใดเกิดแก่จิตเรา

- หากเมื่อคุณเข้าสภาพจิตนี้ได้แล้วให้เจริญพิจารณาปฏิบัติแนวทางตาม Link นี้ครับเพื่อความเข้าถึงสภาพจิตที่มีใจกลางๆ ไม่ติดข้องใจใดๆทั้งที่พอใจยินดี และ ไม่พอใจยินดี เพื่อความไม่ทุกข์

http://www.watkoh.com/forum/index.php?topic=6516.0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 03, 2012, 09:44:43 pm โดย Admax »
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: ทำอย่างไร จะชนะคนที่เกลียดเราได้คะ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: เมษายน 03, 2012, 08:27:22 pm »
0
มีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง ทำงานที่เดียวกัน บ้านอยู่ใกล้กัน แต่เพื่อนคนนี้ไม่ยอมผูกมิตรด้วยคะ ดิฉันก็พยายามแผ่เมตตา และคุยดีด้วย แต่ก็ไม่ได้ผลเลยคะ 3 - 4 ปีแล้ว จะทำอย่างไรดีคะ

ผมขอคุยเป็นเพื่อนน้อง "โชคดี" สักเล็กน้อยอย่างนี้ ครับ!

ผมนั้นมีโอกาสรู้จักเพื่อนรุ่นน้องที่บังเอิญมาเช่าพักหออยู่ใกล้บ้านแถมทำงานที่เดียวกันจึงขึ้นรถไปทำงานด้วยกันทุกวัน

เธออายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับน้องสาวคนเล็กผม ผมนั้นประทับใจเธอตรงที่เธอกล้าแสดงน้ำใจต่อผมหลายครั้งจนรู้สึก

อยากที่จะแสดงน้ำใจคืนตอบบ้าง ผมนั้นเป็นคนขวนขวายเรื่องบุญทานจึงได้เชิญชวนเธอร่วมบุญด้วยทุกครั้ง แม้จะไป

วิเวกภาวนา ณ แห่งหนไหนอารามใดก็ไม่เคยลืมที่จะระลึกถึงแบ่งบุญให้เธออยู่เสมอๆ แต่แล้วจู่ๆเธอก็มาเปลี่ยนกลับ

กลายเป็นเกลียดผมขนาดว่าไม่มองหน้าแสดงกิริยาไม่รู้จัก และหงุดหงิดใส่ต่อหน้าเมื่อเจอะเจอกันในที่ทำงาน ทุกวันนี้

ยังคงเป็นเช่นนี้อยู่ ผมนั้นก็นึกเสียใจอยู่บ้างเหมือนกันที่ผู้หญิงนั้นเข้าใจเขายากจริงๆ




http://www.maejo53.com/main/index.php?select=webboard&&set=showboard&&pageid=3&&Category=post&&branch_id=mix&&No=500175
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 04, 2012, 08:24:08 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

DANAPOL

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-1
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 332
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ทำอย่างไร จะชนะคนที่เกลียดเราได้คะ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: เมษายน 03, 2012, 10:06:36 pm »
0
มีอยู่อย่างครับ เพื่อนนักปฏิบัติธรรมอาจจะลืมกัน นะครับ
  เราไม่ได้เป็นมิตร กับคนทั้งโลก ดังนั้นก็จะมีคนเกลียดเราบ้าง รักเราบ้างครับ เฉย ๆ กับเราบ้าง
  พระพุทธเจ้า พระองค์เป็นยอดแห่งบุคคล แต่ในสมัยครั้งพุทธกาล ก็มิได้มีคนรักพระองค์ทั้งหมดนะครับ มีเจ้าลัทธิมากมายเป็นปฏิปักษ์กับพระองค์ ขนาดพระองค์ทั้งแสดงฤทธิ์มากมาย ก็ใช่ว่าชนทั้งหลายเหล่านั้นจะยอมรับพระองค์เลยนะครับ ยิ่งการทะเลาะกันของพระภิกษุในสมัยนั้นรุนแรงถึงกับพระพุทธเจ้าพระองค์ต้องเสด็จหนีไปอยู่กับ ลิง และ ช้าง เลยนะครับ

   ที่นำมาเล่า ก็เพื่อให้นักภาวนาธรรมทุก ๆ ท่านเข้าใจนะครับ ว่าระดับสติปัญญา ธรรมของชนนั้น ๆ ต่างกันตามการอบรมมาตั้งแต่เด็ก จึงทำให้บางคนมีสันดานที่ดี แต่บางคนก็มีสันดานที่เลวนะครับ ดังนั้นการชนะคน นั้นสำหรับนักปฏิบัติธรรม นั้นจึงไม่มีความคิดครับ เพราะการชนะจัดเป็น มานานุสัย ครับคือยังคิดว่า เราดีกว่า ด้อยกว่า เสมอเขาครับ

   ชัด ๆอีกครั้งคือ อย่าไปใส่ใจเลยครับ ว่าใครจะรัก ใครจะเกลียดที่สำคัญที่สุดใส่ใจเราดีกว่า ว่า อย่าเป็นทุกข์ กับอากับกิริยาที่เขาแสดงต่อเรา นั่นก็คือต้องรู้จักความจริง เห็นจริงครับว่า ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวตนของเราครับ ดำเนินจิตให้มีสติ รู้ละ แล้ว ควรปล่อยวางครับ


   :s_hi: :25: :25: :25:

   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 03, 2012, 10:08:59 pm โดย DANAPOL »
บันทึกการเข้า
รหัสธรรม ต้องใช้ปัญญาคือความรู้ ผู้ถือกุญแจคือใครหนอ...

winyuchon

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังแหวกกระแส
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 125
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ทำอย่างไร จะชนะคนที่เกลียดเราได้คะ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: เมษายน 04, 2012, 11:24:25 am »
0
มีสาระ ดีจ้า
 :25:
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออนไลน์ ออนไลน์
  • กระทู้: 28442
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ทำอย่างไร จะชนะคนที่เกลียดเราได้คะ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: เมษายน 04, 2012, 01:59:15 pm »
0


ความเป็นมาของเทวดารักษาตัว
จากหนังสือ "วิธีใช้งานเทวดา" โดยชัย วัชระ

    ในดวงจิตชีวิตของคนหนึ่งๆ ต่างเวียนวนไปเกิดตายในภพภูมิ ในสถานที่ต่างๆ ในฐานะ อาชีพ ที่แตกต่างตามบุญกรรมของตน ในห้วงเวลาเหล่านี้ ผู้ที่เคยทำลายเบียดเบียนกันมาก็ได้มาเป็นเจ้ากรรมนายเวรติดตามจองล้างจองผลาญทำความเสียหายให้แก่กัน ซึ่งถ้าไม่ตกลงสันติไมตรีกันแล้ว ต่างฝ่ายต่างก็จะแก้ลำกันคืน ผูกเวรกันไปไม่สิ้นสุด

      พระพุทธองค์จงทรงตรัสว่า เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร พร้อมกับทรงสอนให้ระมัดระวังตัว ไม่ประมาทเลินเล่อไปก่อเวรกับผู้ใดเข้าไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ใดๆก็ตาม ด้วยการให้หมั่นทำทาน รักษาศีล มีจิตเมตตาและเจริญสมาธิภาวนาเพื่อรักษาใจ

      สำหรับผู้ที่ได้เคยช่วยเหลือ เกื้อกูลกันมา ก็จะได้มาเกี่ยวข้องกันส่วนหนึ่งด้วยกรรมผูกพันกัน ก็จะมาคอยติดตามรักษา จึงเป็นเทวดาที่คอยติดตามศึกษาผู้นั้นอยู่ ที่เป็นมนุษย์ก็จะอุปการะช่วยเหลือกัน เป็น พ่อ แม่ ลูก สามี ภรรยา ญาติมิตรกัน หรือผู้อุปถัมภ์ค้ำจุนกัน



      อาจมีหลายคนบ่นว่า ถ้าจริง ! เทวดามัวทำอะไรอยู่ ไม่เห็นมาช่วยเหลืออะไร !
      ที่จริงเทวดาเขาช่วยแต่เราไม่ค่อยรู้สึก เพราะสามัญมนุษย์เราชอบมากๆ (โลภ) เร็วๆ
      ยิ่งได้ยินว่าเทวดาบันดาลด้วยแล้ว ยิ่งไปกันใหญ่ ขอและหวังจนเกินกำลังฤทธิ์ของเทวดา เกินบุญวาสนาบารมีของตนเอง บุญไม่ทำ วัดไม่เข้า พระสงฆ์องค์เจ้าไม่น้อมนบกราบไหว้
      แต่ขอจนเกินวิสัยที่จะเป็นไปได้ เมื่อไม่ได้เลยกล่าวหาผี สาง เทวดา แม้แต่บุญทานการศุลไปต่างๆนาๆ หมดศรัทธาหันหน้าไปทางอบายเลยก็มี...


     
      มีวิธีใช้เทวดาทำงานช่วยเรา ด้วยการจ้างเทวดาให้ช่วยงานเรา

      แต่ต้องอยู่ในวิสัยที่ควรมีควรเป็นเท่านั้น ไม่ใช่ขอจนมากมายหรือเกินวิสัยรรมชาติ
      โดยเราทำบุญให้ทานแล้วอุทิศบุญให้กับเทวดาที่รักษาตัว เมื่อขารับเอาบุญนั้นแล้ว จะเกิดเป็นของทิพย์แก่เทวดานั้นดามปรารถนา บุญนั้นจะไปเพิ่มอำนาจทิพย์ ทำให้สามารถใช้อำนาจนั้นเข้าคุ้มครองช่วยเหลือเราได้



      ท่านจะเชื่อเรื่องนี้หรือไม่ก็ตาม ! แต่ลองทำดูก่อนเถิด จะได้รู้ด้วยตัวท่านเอง     
     ถามว่า เมื่อส่งบุญให้นายเวรของผู้อื่นได้ ! จะอุทิศให้เทวดารักษาตัวของผู้อื่นได้หรือไม่ ?
   
      ขอตอบว่าได้ ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นบิดา มารดา สามีภรรยา บุตร หลาน
      ญาติมิตรหรือกับผู้ที่เราต้องการช่วยเหลือ ผลจะเกิดขึ้นกับเทวดาของผู้นั้นได้เช่นเดียวกัน
      พร้อมกับการส่งบุญเราก็ฝากงานให้เทวดานั้น ช่วยดูแลรักษา
      หรือให้ช่วยส่งพลังทิพย์เข้าสู่กระแสจิตของผู้นั้นให้เกิดสติฉุกคิด
      กลับเนื้อ กลับตัวมาอยู่ในแนวทางของคุณงานความดี

      ทำเช่นนี้บ่อยๆ จะหายสงสัย ! พร้อมทั้งเกิดทักษะในการใช้งานเทวดา





     
      คุณ Lux เจ้าของกระทู้บอกว่า แผ่เมตตาให้เพื่อนคนนั้นมา 3-4 ปี แต่ไม่ได้ผล
      หลักการแผ่เมตตาข้อหนึ่ง คือ ห้ามแผ่ให้คนที่เป็นศัตรู
      จึงขอแนะนำให้เปลี่ยนมาอุทิศบุญให้ "เทวดาประจำตัวเพื่อนคนนั้น"
      และให้อธิษฐานขอให้เทวดาช่วยตามที่ปรารถนา


      การอุทิศบุญที่ได้จาก ทาน ศีล ภาวนา ให้ใครก็ตาม
      ขอให้อาราธนาบารมีของพระพุทธเจ้า มาช่วยในการอุทิศ
      แนะนำได้เท่านี้ครับ

       :25:


ขอบคุณภาพจาก
http://image.dek-d.com/13/1128622/13909789
http://statics.atcloud.com/files/entries/2/22680/images/1_display.jpg
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

Hero

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 557
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ทำอย่างไร จะชนะคนที่เกลียดเราได้คะ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: เมษายน 04, 2012, 05:34:24 pm »
0
มีคำแนะนำที่มี ประโยชน์ โดยเฉพาะเรื่องของการสนับสนุน เทวดา นี้เป็นเรื่องที่เหนือความคาดคิดของผม อันนี้หมายถึงใช้วิธีทั่วไปไม่ได้แล้ว ต้องพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ช่วยเหลือแล้ว

   ก็เห็นด้วยครับ นะครับ เพราะถ้าทางตันแล้วที่จะดำเนินการเรื่องอะไร ?
   ก็ควรจะดำเนินการเรื่องนี้ ด้วยหลักการนี้ครับ


 
บันทึกการเข้า
ทำไมต้องมีอินทรีแดง เพราะสังคมเราบางครั้งก็ตาบอด
ปล่อยให้คนดี เดือดร้อน ดังนั้นจึงต้องมีผู้ปกป้องคนดี
hero ไม่ได้มีแต่ในหนังเท่านั้น นะครับ