ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เรียนถาม ครับ พระอรหันต์ ยังสามารถ มีบุตรได้หรือไม่ ?  (อ่าน 3948 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

chatchay

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +4/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 244
  • เกิดเป็นคนต้องมีดี บวชทั้งทีต้องสร้างดีให้กับตน
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 ask1
เรียนถาม ครับ พระอรหันต์ ยังสามารถ มีบุตรได้หรือไม่ ?


 thk56 :49:
   
บันทึกการเข้า
ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
โทษอันใดที่ข้าพเจ้าล่วงเกินแล้วต่อพระรัตนตรัย ด้วย กาย ด้วยวาจา ด้วยใจ
ขอพระรัตนตรัย โปรดจงงดซึ่งโทษล่วงเกินนั้นแก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป ด้วยเทอญ

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0


พระอริยะสงฆ์ผู้ละสังโยชน์ได้ในระดับชั้นอนาคามีราคะนั้นละสิ้นเชื้อเบ็ดเสร็จ อสุจิจะฝ่อไปเอง นี้เป็นข้อชี้เนื่องมาแต่ครูอาจารย์กล่าวไว้ผมมาบอกต่อ แต่ก็มีข้อที่ผมยังสงสัยในการตั้งครรภ์ของพระเถรีอุบลวรรณาที่ถูกนันทะมานพกระทำล่วงเกินทำไมอิตถียังมีสัตว์เจริญในครรภ์นั้นได้อยู่ หรือนี่เป็นข้อปรามในความไม่ยินดีในสาวิกาในอันที่จะสืบพระศาสนาจึงมีพุทธบัญญัติบวชภิกษุณีในสงฆ์สองฝ่าย และหมดสิ้นไม่เหลือกล่าวไว้ครั้งพุทธปรินิพพาน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 29, 2015, 12:05:04 pm โดย ธุลีธวัช (chai173) »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

komol

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +7/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 643
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
พลังจิต พลังปราณ พลังสมาธิ เป็นพลังสมดุลย์ เพื่อปัญญา

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28361
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



เรื่องพระอรหันต์เมืองภัททิยะจำวัดหลับ

    [๖๗] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่ง อยู่ในที่พักกลางวันในป่าชาติยาวัน แขวงเมืองภัททิยะ จำวัดหลับอยู่ อวัยวะใหญ่น้อยของภิกษุนั้นถูกลมรำเพยให้ตึงตัว สตรีผู้หนึ่งพบเข้าแล้วได้นั่งคร่อมองค์กำเนิด กระทำการพอแก่ความประสงค์ แล้วหลีกไป

    ภิกษุเห็นองค์กำเนิดเปรอะเปื้อน จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาค ตรัสว่า
    ดูกรภิกษุทั้งหลายองค์กำเนิดเป็นอวัยวะใช้การได้ด้วยอาการ ๕ อย่าง คือ
         กำหนัด ๑
         ปวดอุจจาระ ๑
         ปวดปัสสาวะ ๑
         ถูกลมรำเพย ๑
         ถูกบุ้งขน ๑
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย องค์กำเนิดเป็นอวัยวะใช้การได้ ด้วยอาการ๕ อย่างนี้แล

    ภิกษุทั้งหลาย องค์กำเนิดของภิกษุนั้น พึงเป็นอวัยวะใช้การได้ ด้วยความกำหนัดใด ข้อนั้นไม่ใช่ฐานะ ไม่ใช่โอกาส เพราะภิกษุนั้นเป็นอรหันต์ ภิกษุนั้นไม่ต้องอาบัติ.



เรื่องภิกษุเปิดประตูนอน

    [๗๐] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งอยู่ในที่พักกลางวัน ณ กูฎาคารศาลาป่ามหาวัน แขวงเมืองเวสาลี เปิดประตูจำวัดหลับอยู่ อวัยวะใหญ่น้อยของเธอ ถูกลมรำเพยให้ตึงตัวครั้งนั้น สตรีหลายคนถือของหอมและดอกไม้ไปสู่อาราม มุ่งตรงไปยังวิหาร พบภิกษุนั้น แล้วได้นั่งคร่อมองค์กำเนิด กระทำการพอแก่ความประสงค์ แล้วกล่าวว่า ภิกษุนี้เป็นบุรุษองอาจนัก แล้วถือของหอมและดอกไม้กลับไป

     ภิกษุเห็นองค์กำเนิดเปรอะเปื้อน จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคๆ ตรัสว่า
     ดูกรภิกษุทั้งหลาย องค์กำเนิดย่อมเป็นอวัยวะใช้การได้ด้วยอาการ ๕ อย่าง คือ
         กำหนัด ๑
         ปวดอุจจาระ ๑
         ปวดปัสสาวะ ๑
         ถูกลมรำเพย ๑
         ถูกบุ้งขน ๑
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย องค์กำเนิดเป็นอวัยวะใช้การได้ด้วยอาการ ๕ อย่างนี้แล

    องค์กำเนิดของภิกษุนั้น พึงใช้การได้ด้วยความกำหนัดใด ข้อนั้นไม่ใช่ฐานะ ไม่ใช่โอกาส เพราะภิกษุนั้นเป็นอรหันต์ ภิกษุนั้นไม่ต้องอาบัติ
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ภิกษุผู้จะพักผ่อนในกลางวัน ปิดประตูก่อนจึงจะพักผ่อนได้.


อ้างอิง :-
พระไตรปิฏก เล่มที่ ๑  พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๑ มหาวิภังค์ ภาค ๑ วินีตวัตถุ อุทานคาถา
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/sutta_item.php?book=1&item=49
ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :-
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=1&i=48




     ans1 ans1 ans1 ans1 ans1

      เรื่องจากพระวินัยดังแสดงแล้วข้างต้น จะเห็นได้ว่า องค์กำเนิดของพระอรหันต์ยังใช้การได้เป็นปรกติ
     ปัญหาต่อมาก็คือ สตรีนางนั้นตั้งครรภ์หรือไม่.?
     เนื้อความในพระวินัยและอรรถกถา ไม่ได้กล่าวถึง หากจะคาดเดากันต่อไป คงต้องเดาว่า มีความเป็นไปได้สูงที่สตรีนางนั้นไม่ได้ตั้งครรภ์ เพราะหากตั้งครรภ์แล้วให้กำเนิดบุตรแล้วไซร์ เรื่องสำคัญแบบนี้คงต้องมีบันทึกหรือกล่าวไว้แน่นอน
     ถึงตรงนี้ คำตอบที่น่าจะเป็นได้ก็คือ "ภิกษุอรหันต์ ไม่สามารถให้กำเนิดบุตรได้" แต่ร่วมเพศได้ ในขณะร่วมเพศนั้น ภิกษุอรหันต์ไม่มีความกำหนัดอยู่เลย (อรหันต์ไม่มีกามฉันท์/กามราคา เรื่องกามนี้เป็นสังโยชน์ข้อที่ ๔ อรหันต์ตัดได้แล้ว)

      :96: :96: :96: :96: :96: :96:

    แต่มีเรื่องเป็นประเด็นอยู่ว่า พระสุทินน์ ภิกษุผู้เสพเมถุนธรรมเป็นรูปแรก ก่อนที่จะทรงบัญญัติห้าม เมื่อเสพแล้วสตรีนางนั้นได้ให้กำเนิดบุตร
    คำถามมีอยู่ว่า พระสุทินน์เป็น ภิกษุอรหันต์หรือไม่.?
    จากการอ่านเรื่องพระสุทินน์ในพระวินัยปิฎก เล่มที่ ๑ มหาวิภังค์ ภาค ๑
    ไม่พบข้อความใดที่บอกว่า พระสุทินน์เป็นอรหันต์  มีแต่ข้อความที่แสดงให้เห็นว่าพระสุทินน์ไม่ใช่อรหันต์ ดังนี้

     [๑๙] ครั้งนั้น ความรำคาญ ความเดือดร้อน ได้เกิดแก่ท่านพระสุทินน์ว่า มิใช่ลาภของเราหนอ ลาภของเราไม่มีหนอ เราได้ชั่วแล้วหนอ เราไม่ได้ดีแล้วหนอ
     เพราะเราบวชในพระธรรมวินัยที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ดีอย่างนี้แล้ว ยังไม่สามารถประพฤติพรหมจรรย์ ให้บริบูรณ์บริสุทธิ์ได้ตลอดชีวิต เพราะความรำคาญนั้นแหละ เพราะความเดือดร้อนนั้นแหละ
     ท่านได้ซูบผอม เศร้าหมอง มีผิวพรรณคล้ำ มีผิวเหลืองขึ้นๆ มีเนื้อตัวสะพรั่งด้วยเอ็น มีเรื่องในใจมีใจหดหู่ มีทุกข์โทมนัส มีวิปฏิสาร ซบเซาแล้ว.


     ข้อความในพระวินัยข้างต้น เห็นได้ชัดว่า พระสุทินน์เป็นทุกข์อย่างยิ่ง ท่านยังมีอุปทานขันธ์ ๕
     ดังนั้น ท่านจึงไม่ได้เป็น ภิกษุอรหันต์

     อนึ่ง ภรรยาและบุตรของพระสุทินน์ ภายหลังทั้งสองได้ออกบวชจนสำเร็จอรหันต์ในที่สุด เรื่องนี้ระบุไว้ในพระวินัยอย่างชัดเจน
     สนใจอ่านเรื่องพระสุทินน์คลิกไปที่
     http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=01&A=316&Z=670



 

    ประเด็นต่อมา อาจมีข้อสงสัยเกี่ยวกับ "กรณีของพระอุบลวรรณาเถรี" ว่า
     ภายหลังนันทมาณพข่มขืนท่านแล้ว ท่านตั้งครรภ์หรือไม่.?
     ผมได้อ่านเรื่องของพระอุบลวรรณาเถรีในพระวินัยและอรรถกถาแล้ว ปรากฏว่า ก่อนที่จะถูกข่มขืนท่านสำเร็จอรหันต์แล้ว และไม่มีข้อความใดที่ระบุว่า ท่านตั้งครรภ์หลังจากถูกข่มขืน
      สนใจอ่านเรื่องพระอุบลวรรณาเถรี คลิกไปที่
      http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/sutta_item.php?book=1&item=49  และ
      http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=15&p=10

      ดังนั้น จึงอาจคาดเดาได้ว่า พระอุบลวรรณาเถรี ผู้เป็น ภิกษุณีอรหันต์ ไม่ได้ให้กำเนิดบุตร


       st12 st12 st12 st12

      เรื่องราวทีนำเสนอมา เป็นเรื่องสมัยพุทธกาล หากถามว่า ปัจจุบันมีเทคโนโลยี่ผสมเทียม ตัดต่อพันธุกรรม ซึ่งอาจทำให้เกิดทารกขึ้นได้ แล้วถ้าเอาอสุจิหรือไข่ของอรหันต์มาผ่านกระบวนการดังกล่าว จะมีผมให้เกิดทารกได้รึเปล่า เรื่องนี้ไอ้กระผม...ก็จนด้วยเกล้าขอรับ ตอบไม่ได้
      อย่างไรก็ตาม ร่างกายของอรหันต์ก็ยังมีสภาพเป็นมนุษย์อยู่ครบ หากยังไม่สิ้นอายุขัย กายของท่านก็ยังต้องรับวิบากกรรมอยู่

      อนึ่งอยากให้รู้ว่า กามฉันท์หรือกามราคะ เป็นสังโยชน์ข้อ ๔ อริยสงฆ์ระดับอานาคามีและอรหันต์ตัดได้
      ดังนั้น จึงสรุปตรงนี้ว่า อนาคามีและอรหันต์ ไม่สามารถมีบุตรได้





      ก่อนจบกระทู้นี้ขอนำข้อความในอรรถกถามาแสดงดังนี้

      พระขีณาสพไม่ยินดีกามสุข               
      โดยสมัยอื่น มหาชนสนทนากันในธรรมสภาว่า "แม้พระขีณาสพทั้งหลาย ชะรอยจะยังยินดีกามสุข ยังเสพกาม, ทำไมจักไม่ซ่องเสพ, เพราะพระขีณาสพเหล่านั้นไม่ใช่ไม้ผุ ไม่ใช่จอมปลวก มีเนื้อและสรีระยังสดเหมือนกัน เพราะฉะนั้น แม้พระขีณาสพเหล่านั้น ยังยินดีกามสุข ยังเสพกาม."

      พระศาสดาเสด็จมา ตรัสถามว่า
      "ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ พวกเธอนั่งสนทนาด้วยเรื่องอะไรกัน?"
      เมื่อพวกภิกษุกราบทูลว่า "ด้วยเรื่องชื่อนี้" จึงตรัสว่า
       "ภิกษุทั้งหลาย พระขีณาสพทั้งหลายไม่ยินดีกามสุข ไม่เสพกาม, เหมือนอย่างว่า หยาดน้ำตกลงบนใบบัว ย่อมไม่ติด ไม่ตั้งอยู่, ย่อมกลิ้งตกไปทีเดียว และเหมือนเมล็ดพันธุ์ผักกาดไม่ติด ไม่ตั้งอยู่ ที่ปลายเหล็กแหลม, ย่อมกลิ้งตกไปแน่แท้ ฉันใด กามแม้ ๒ อย่าง ย่อมไม่ซึมซาบ ไม่ตั้งอยู่ในจิตของพระขีณาสพ ฉันนั้น.

       ดังนี้แล้ว เมื่อจะทรงสืบอนุสนธิแสดงธรรม จึงตรัสพระคาถานี้ในพราหมณวรรคว่า :-
      "เรากล่าวบุคคล ผู้ไม่ติดอยู่ในกามทั้งหลาย เหมือนน้ำไม่ติดอยู่ในใบบัว เหมือนเมล็ดพันธุ์ผักกาดไม่ติดอยู่ที่ปลายเหล็กแหลม ว่าเป็นพราหมณ์".


       ขอคุยเท่านี้ครับ

        :welcome: :49: :25: :s_good:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 31, 2015, 12:53:57 pm โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

ISSARAPAP

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +11/-1
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 129
  • โดดเดี่ยว แต่ไม่เดียวดาย สัจจะธรรมแท้ ไม่มีสูตร
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
ความสันโดษ เป็นบรมสุข

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7249
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
 st11 st12 st12 st12
   ตอบได้ละเอียดดี แต่มีคำตอบในแนวทาง
   กรรมฐาน ที่อ่านแล้ว อาจจะช๊อกได้ นะ

  เดี๋ยวจะโพสต์คำตอบส่วนนั้นไว้ ที่ ห้อง วิชชาศิษย์สายตรง

    ;)
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

nirvanar55

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 305
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า

waterman

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 302
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
สนใจคำตอบ พระอาจารย์ มาก คือ อยากช๊อก ครับ

 :49: :welcome:
บันทึกการเข้า

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ