ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พระพุทธองค์ก็..ทำนา ใครทราบบ้าง??  (อ่าน 9395 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28456
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
พระพุทธองค์ก็..ทำนา ใครทราบบ้าง??
« เมื่อ: เมษายน 08, 2012, 12:58:11 pm »
0


ภาพที่ 106 โปรดชายไถนา

    พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมกับคนไถนา คนไถนาเขาต่อว่าพระสมณโคดมว่า ไม่เห็นทำมาหากิน ทำไร่ไถนาอะไร เที่ยวบิณฑบาตขอเขาอยู่เรื่อยไป พระองค์เมื่อได้ยินชายไถนากล่าวต่อว่าดังนั้น จึงทรงแสดงธรรมโปรดชายไถนาว่า

     เราก็ทำนาเหมือนกัน มีอมตะเป็นผล คือ มีความไม่ตายนี้เป็นข้าวเปลือกเป็นผล
     เรามีขันติเป็นงอนไถ มีสติเป็นเหมือนเชือก มีผาลเป็นปัญญาที่ จะไถพลิกความโง่ออกจากจิตใจ พระองค์ทรงแสดงธรรมโปรดสั้น ๆ


     ครั้นปรากฏว่าพอแสดงธรรมไปแล้ว พราหมณ์ผู้ทำนานี้เกิดเลื่อมใสศรัทธา
     เพราะว่าไอ้คันไถอย่างนั้น เชือกอย่างนั้น มันหายากเหมือนกันนะ ผาลไถนี่เราก็ทำกันได้
     เดี๋ยวนี้ใช้เครื่องผาลไถพลิกกลับดินให้งอกงาม ทำให้ต้นไม้ขึ้นดี
     แต่ว่าพระองค์นั้นทรงใช้ปัญญา


     พระผู้มีพระภาคทรงไปโปรดพราหมณ์ผู้ทำนา ปรากฏว่าพราหมณ์ก็ได้พูดกับพระพุทธเจ้าว่า
     ท่านจะทำนาบ้างไม่ได้หรือไง ผู้ที่ทำนาก็ย่อมได้ข้าวกิน เมื่อไม่ได้ทำนาก็ไม่ควรจะกิน
     พูดตามภาษาบ้านเราก็ว่าอย่างนั้นเถอะ


     ปรากฏว่า พระองค์ก็บอกว่าเราก็ทำนาเหมือนกัน
     ชาวนาผู้เป็นพราหมณ์ก็ถามว่า
     เอ้า ไหนล่ะเครื่องมือในการทำนาไม่เห็นมีอะไร มีแต่บาตรลูกเดียวจะทำได้อย่างไร
     พระองค์ก็ทรงตอบว่า
     เรามีศรัทธาเป็นเสมือนพืชเป็นเหมือนเมล็ดที่จะเพาะปลูกงอกงามเป็นผล
     เรามีปัญญาเป็นเหมือนแอกและไถ
     มีหิริเป็นงอนไถ ใจเป็นเชือกชัก สติของเราเป็นผาลและปฏัก


     เรามีกายคุ้มครอง ดีแล้ว มีทวารมีวาจาอันคุ้มครองดีแล้ว เป็นผู้สำรวมแล้วในการบริโภคอาหาร
     เราทำการ ดายหญ้าด้วยคำสัตย์ โสรัจจะของเราเป็นเครื่องให้เสร็จงาน
     ความเพียรของเราเป็นเครื่องนำธุระไปให้สมหวัง นำไปถึงความเกษมจากโยคะ คือ ปราศจากเครื่องผูกพันนั้น ไปไม่ถอยหลังยังที่ซึ่งบุคคลไปแล้วไม่ต้องโศก มีอมตะเป็นผล


    นี้คือ การทำนาของเรา บุคคลทำนาอย่างนี้แล้ว ย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้เหมือนท่านต้องการข้าวไปแก้หิว เรานั้นก็มีคุณธรรมดังที่ได้กล่าวนี้เป็นเครื่องให้พ้นทุกข์ด้วยเช่นกัน



ที่มา http://www.watkoh.com/kratoo/printer_friendly_posts.asp?TID=375
ขอบคุณภาพจาก http://www.rmutphysics.com/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28456
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: พระพุทธองค์ก็..ทำนา ใครทราบบ้าง??
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: เมษายน 08, 2012, 01:17:02 pm »
0


พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย
ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต

กสิภารทวาชสูตรที่ ๔

      [๒๙๗] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พราหมณคามชื่อเอกนาฬา
ในทักขิณาคิรีชนบท แคว้นมคธ ก็สมัยนั้นแล กสิภารทวาชพราหมณ์ประกอบไถประมาณ ๕๐๐ ในเวลาเป็นที่หว่านพืช
      ครั้งนั้นแล เป็นเวลาเช้า พระผู้มีพระภาคทรงนุ่งแล้ว ทรงถือบาตรและจีวร เสด็จเข้าไปยังที่การงานของกสิภารทวาชพราหมณ์ ก็สมัยนั้นแล การเลี้ยงดูของกสิภารทวาชพราหมณ์กำลังเป็นไป


      ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคเสด็จเข้าไปถึงที่เลี้ยงดู ครั้นแล้วได้ประทับยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
      กสิภารทวาชพราหมณ์ได้เห็นพระผู้มีพระภาคประทับยืนอยู่ เพื่อบิณฑบาต
      ครั้นแล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า
      ข้าแต่พระสมณะ ข้าพระองค์แล ย่อมไถและหว่าน ครั้นไถและหว่านแล้วย่อมบริโภค
      แม้พระองค์ก็จงไถและหว่าน ครั้นไถและหว่านแล้วจงบริโภคเถิด
      พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
      ดูกรพราหมณ์ แม้เราก็ไถและหว่าน ครั้นไถและหว่านแล้วย่อมบริโภค ฯ


      กสิ. ข้าแต่พระสมณะ ก็ข้าพระองค์ย่อมไม่เห็นแอก ไถ ผาล ปฏักหรือโค ของท่านพระโคดมเลย ก็แลเมื่อเป็นเช่นนี้
      ท่านพระโคดมตรัสอย่างนี้ว่า ดูกรพราหมณ์ แม้เราก็ไถและหว่าน ครั้นไถและหว่านแล้วย่อมบริโภค



     ลำดับนั้น กสิภารทวาชพราหมณ์ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคด้วยคาถาว่า
     [๒๙๘]    พระองค์ย่อมปฏิญาณว่าเป็นชาวนา แต่ข้าพระองค์ไม่เห็นไถของพระองค์ พระองค์อันข้าพระองค์ทูลถามแล้ว ขอได้โปรดตรัสบอกไถแก่ข้าพระองค์ โดยวิธีที่ข้าพระองค์จะพึงรู้จักไถของพระองค์ ฯ

     พระผู้มีพระภาคตรัสตอบด้วยพระคาถาว่า
           ศรัทธาของเราเป็นพืช
           ความเพียรของเราเป็นฝน
           ปัญญาของเราเป็นแอกและไถ
           หิริของเราเป็นงอนไถ
           ใจของเราเป็นเชือก
           สติของเราเป็นผาลและปฏัก


     เราคุ้มครองกายคุ้มครองวาจา สำรวมในอาหารในท้อง ย่อมกระทำการถอนหญ้า คือ
     การกล่าวให้พลาดด้วยสัจจะ ความสงบเสงี่ยมของเราเป็นเครื่องปลดเปลื้องกิเลส
     ความเพียรของเรานำธุระไปเพื่อธุระนำไปถึงแดนเกษมจากโยคะ
     ไม่หวนกลับมาย่อมถึงสถานที่ๆ บุคคลไปแล้วไม่เศร้าโศก
     การไถนานั้นเราไถแล้วอย่างนี้ การไถนานั้น ย่อมมีผลเป็นอมตะ
     บุคคลไถนานั่นแล้ว ย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวง ฯ


อ้างอิง
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕  บรรทัดที่ ๗๑๐๒ - ๗๑๗๖.  หน้าที่  ๓๑๑ - ๓๑๔.
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=25&A=7102&Z=7176&pagebreak=0
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=297
ขอบคุณถาพจาก http://www.rmutphysics.com/,http://www.tatgreenheart.com/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28456
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: พระพุทธองค์ก็..ทำนา ใครทราบบ้าง??
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: เมษายน 08, 2012, 01:31:53 pm »
0



แอก
    น. ไม้วางขวางบนคอวัวหรือควายใช้ไถนา คราดนา หรือเทียมเกวียน เป็นต้น; โดยปริยายหมายถึงการถูกกดขี่ ในคำว่า ปลดแอก.


ไถ
    น. เครื่องมือทําไร่ทํานาชนิดหนึ่ง ประกอบด้วยคันชัก หางยาม ผาล หัวหมู ใช้ควายหรือวัวเป็นต้นลากไปเพื่อกลับดิน, คันไถ ก็ว่า.ก. เอาไถเทียมควายหรือวัวเป็นต้นลากไปเพื่อกลับดิน; เคลื่อนไปไถลไป เช่น นั่งไม้ลื่นไถลงมา; (ปาก) ขอร้องแกมบังคับ, รีดไถ.


งอน
    น. ส่วนปลายแห่งของบางอย่างที่เป็นรูปยาวเรียวและช้อยขึ้น เช่น งอนไถ.


ผาล
    น. เหล็กสําหรับสวมหัวหมูเครื่องไถ. (ป., ส.).



ภาพปฏักหรือประตัก

ปฏัก
    (แบบ) น. ประตัก.

ประตัก
    น. ไม้ที่ฝังเหล็กแหลมข้างปลายใช้แทงสัตว์พาหนะเช่นวัว



ที่มา พจนานุกรมอิเล็กทรอนิกส์ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒
ขอบคุณภาพจาก http://noknoi.com/,http://pic90.picturetrail.com/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28456
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: พระพุทธองค์ก็..ทำนา ใครทราบบ้าง??
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มิถุนายน 01, 2012, 12:04:30 pm »
0

       
         ลิงค์แนะนำ
         ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ..'เนื้อนาบุญของโลก'
         http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=7797.msg28710#msg28710

          :25:
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: พระพุทธองค์ก็..ทำนา ใครทราบบ้าง??
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มิถุนายน 06, 2012, 10:54:39 pm »
0
สาธุ ขอบพระคุณมากครับ คุณnathaponson กับธรรมะดีๆที่ท่านโพสท์เราได้อ่านได้ศึกษากันครับ
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ