ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: "ก้อนหินภาวนา" ลมหายใจ..ไหลตามธรรมชาติ  (อ่าน 2635 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28468
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


ที่นี่หมู่บ้านพลัมไม่สนใจของขลัง(จบ)ก้อนหินภาวนา
วิปัสสนาบนหน้าข่าว โดยพระชาย วรธัมโม เรื่อง พระสมบูรณ์ สุมังคโล ภาพ

     ทำงานกับลมหายใจ
    นักบวชหมู่บ้านพลัมนอกจากจะมาจากหลายชาติหลายภาษาแล้ว ยังมาจากหลายสาขาอาชีพ บางท่านเป็นสถาปนิก บางท่านเป็นนักจิตวิทยา บางท่านเป็นบุรุษพยาบาล บางท่านเป็นเจ้าของกิจการ หลายท่านมีเงินเดือนสูงไม่ใช่บุคคลว่างงานหรือบุคคลไร้อาชีพ แต่ทุกท่านสมัครใจเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตมาเป็นนักบวชแล้วหันมา 'ทำงานกับลมหายใจ' แทนที่จะทำงานเพื่อเงิน

     การทำงานกับลมหายใจของนักบวชหมู่บ้านพลัมเป็นการทำงานที่ไม่มีเงินเดือนให้ (มีเพียงเงินติดกระเป๋าจากสังฆะให้ใช้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น) สิ่งที่นักบวชหมู่บ้านพลัมต้องทำงานให้กับสังฆะคือการใช้ชีวิตทั้งชีวิตอยู่กับลมหายใจเข้าออก ไม่ว่าอดีตท่านจะเคยประกอบอาชีพอะไรมา แต่อาชีพใหม่ของท่านเวลานี้คือการอยู่กับลมหายใจ ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง หรือนอน ไม่ว่าจะทำสิ่งใดในชีวิตประจำวัน ทั้งหมดคือการใช้ชีวิตอยู่กับลมหายใจตลอดเวลา ยิ่งอยู่กับลมหายใจได้นานเท่าไร สติก็ยิ่งมีการต่อเนื่องมากขึ้นเท่านั้น นี่คือการทำงานกับลมหายใจ

      ทุกครั้งที่เสียงระฆังดังขึ้นนั่นคือสัญญาณให้นักบวชและผู้ปฏิบัติธรรมทุกท่านอยู่นิ่งๆ แล้วตามความรู้ตัวทั่วพร้อม อยู่กับลมหายใจเข้าออก ๓ ครั้งก่อนจะเคลื่อนไหวกายทำสิ่งอื่นต่อไปตามปกติ นี่เป็นสิ่งที่อยู่ในการปฏิบัติภาวนาทุกครั้งของหมู่บ้านพลัมจนเรียกได้ว่านี่คือเอกลักษณ์ของสำนักปฏิบัติธรรมสำนักนี้ ไม่ว่าเสียงระฆังจะดังขึ้นเมื่อไรก็ตามทุกคนต้องหยุดดูลมหายใจตัวเองทุกครั้ง


     :welcome: :welcome: :welcome:

     ภาวนากับก้อนกรวด
    ค่ำวันที่สี่ของการภาวนามีการแบ่งกลุ่มการเรียนรู้ออกเป็น ๑๑ กลุ่มย่อยให้เลือกตั้งแต่
     ๑) การมีสติในชีวิตประจำวัน
     ๒) การสร้างกลุ่มเพื่อการปฏิบัติธรรม
     ๓) การแปรเปลี่ยนความตึงเครียดและความกดดันในที่ทำงาน
     ๔) การฟังอย่างลึกซึ้งและการสื่อสารด้วยความกรุณา
     ๕) การบ่มเพาะความเบิกบานและความสุขในชีวิตประจำวัน
     ๖) การเอาชนะความกลัวในการพลัดพรากและการสูญเสีย
     ๗) เทคนิคการฝึกสมาธิสำหรับเด็กๆ
     ๘) วิธีนำการผ่อนคลายอย่างสมบูรณ์
     ๙) การภาวนาด้วยเพลงและเกมสำหรับเด็กทุกวัย
   ๑๐) การช่วยเหลือเด็กให้สามารถดูแลอารมณ์ที่รุนแรง และ
   ๑๑) การเริ่มต้นใหม่


      แต่ละกลุ่มมีพระภิกษุภิกษุณีเข้าไปเป็นผู้นำกระบวนการกลุ่ม
      โดยใช้วิธีแบ่งปันการเล่าประสบการณ์ว่าใครมีประสบการณ์ในเรื่องนั้นอย่างไรบ้าง
      ผู้เขียนเลือกหัวข้อ ‘เทคนิคการฝึกสมาธิสำหรับเด็กๆ’ มีผู้นำกลุ่มเป็นภิกษุณี ท่านได้เล่าถึงเทคนิควิธีการ ‘ภาวนากับก้อนกรวด’ ที่เคยทำกับเด็กเล็กๆ ให้ฟังว่า
      ก่อนอื่นให้เราพาเด็กไปเดินเล่นนอกบ้านแล้วบอกกับเด็กว่าเรามีเกมสนุกๆ
      จะให้เล่นโดยให้เด็กเก็บก้อนกรวดมา ๔ ก้อน
      ถ้าไม่มีก้อนกรวดอาจจะเป็นอะไรก็ได้เช่น ใบไม้ ลูกไม้ ให้ได้จำนวน ๔ ชิ้น
      จากนั้นก็หาที่นั่งที่สะดวกทำกิจกรรมกัน

      :s_good: :s_good: :s_good:

    เราให้เด็กนั่งลงกับพื้นหรือนั่งบนเก้าอี้ ให้เด็กแบมือขวาออก
     นำก้อนกรวดวางที่มือเด็กเป็นเม็ดที่ ๑ แล้วบอกกับเด็กให้หลับตาพร้อมพูดนำเด็กให้ระลึกว่า
     ‘ลมหายใจต่อไปนี้เปรียบเหมือนดอกไม้ที่มีความสดชื่น’
     แล้วให้เด็กนับลมหายใจเข้าออก ๓ ครั้ง
     จากนั้นให้เด็กลืมตาแล้วหยิบก้อนกรวดออกวางไว้บนพื้น


     เราวางก้อนกรวดเม็ดที่ ๒ ลงบนฝ่ามือของเด็ก ให้เด็กหลับตาพร้อมพูดนำเด็กให้ระลึกว่า
     ‘ลมหายใจต่อไปนี้เปรียบเหมือนภูเขาที่มั่นคงแข็งแรง’
     แล้วให้เด็กนับลมหายใจเข้าออก ๓ ครั้ง
     จากนั้นให้เด็กลืมตาแล้วหยิบก้อนกรวดออกวางไว้บนพื้น

    เราวางก้อนกรวดเม็ดที่ ๓ ลงบนฝ่ามือของเด็ก ให้เด็กหลับตาพร้อมพูดนำเด็กให้ระลึกว่า
     ‘ลมหายใจต่อไปนี้เปรียบเหมือนสายน้ำที่ฉ่ำเย็น’    
      แล้วให้เด็กนับลมหายใจเข้าออก ๓ ครั้ง
     จากนั้นให้เด็กลืมตาแล้วหยิบก้อนกรวดออกวางไว้บนพื้น


     เราวางก้อนกรวดเม็ดที่ ๔ ลงบนฝ่ามือของเด็ก ให้เด็กหลับตาพร้อมพูดนำเด็กให้ระลึกว่า
      ‘ลมหายใจต่อไปนี้เปรียบเหมือนท้องฟ้าที่ว่างเปล่า’
      แล้วให้เด็กนับลมหายใจเข้าออก ๓ ครั้ง
      จากนั้นให้เด็กลืมตาแล้วหยิบก้อนกรวดออกวางไว้บนพื้น การภาวนาจบลง   
      จากนั้นให้ถามเด็กว่ารู้สึกอย่างไรบ้าง
      หรือได้ประสบการณ์อะไรที่น่าสนใจระหว่างที่หลับตานับลมหายใจ

      :25: :25: :25:
     
     คำตอบของเด็กไม่จำเป็นต้องมีความหมายสูงส่ง
     เพราะคำถามเหล่านี้เป็นคำถามที่จะทำให้เด็กได้เปิดเผยจินตนาการของตนเอง และคำถามได้ทำหน้าที่เป็นตัวสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเรากับเด็กที่ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน มีการพูดคุยถามความรู้สึกกัน
     การภาวนากับก้อนกรวดเป็นกุศโลบายให้เด็กๆ ได้รู้จักลมหายใจของตัวเองตั้งแต่ยังเป็นเด็ก
     เป็นกิจกรรมที่เหมาะสำหรับเด็กก่อนวัยเรียนไปจนถึงเด็กชั้นประถม
     เด็กวัยนี้ยังไม่สามารถเข้าใจได้ว่าการทำสมาธิคืออะไร เพราะเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะทำสมาธิ
     อย่างน้อยการให้เขาได้หลับตาสูดลมหายใจเข้าออก แล้วระลึกถึงธรรมชาติรอบตัว เช่น ดอกไม้ ภูเขา สายน้ำ ท้องฟ้า ย่อมบ่มเพาะให้เขาเข้าใจธรรมชาติในลมหายใจของเขามากขึ้น ว่ามีลักษณะผ่อนคลายอย่างไร


     แต่ทั้งหมดนั้นก็เป็นเพียงเทคนิควิธี ยังไม่สำคัญเท่ากับความเมตตา กรุณาและการไม่ใช้อำนาจที่เราควรมีให้แก่เด็ก พ่อแม่ผู้ปกครองมักตั้งความคาดหวังกับเด็กไว้สูงและใช้อำนาจจนเด็กไม่มีความสุข การเลี้ยงดูเด็กที่ดีคือการมีความเมตตา กรุณา ฝึกฝนที่จะไม่ใช้อำนาจกับเด็กๆ เปิดโอกาสให้เด็กเติบโตผ่านความคิดและจินตนาการของเขาเอง เมื่อนั้นเด็กก็จะมีความสุข ผู้ใหญ่ก็ได้ปฏิบัติธรรมดูแลจิตใจตนเองไปด้วย พระภิกษุณีสรุปในตอนท้าย


     :49: :49: :49:

    รับศีลวันสุดท้ายของการภาวนา
    เป็นธรรมเนียมของการภาวนาของหมู่บ้านพลัมที่สนับสนุนให้ผู้ปฏิบัติได้เกิดความต่อเนื่องไปกับการปฏิบัติ จึงสนับสนุนให้ผู้ปฏิบัติมีการสมาทานรับข้อฝึกอบรมสติ ๕ ประการ หรือศีล ๕ ไปปฏิบัติต่ออย่างเป็นกิจจะลักษณะ
      สังเกตว่าเป็นการสมาทานศีลในวันสุดท้ายของการปฏิบัติแทนที่จะเป็นวันแรก
      และยังเป็นการเปิดโอกาสให้สมาทานตามความสมัครใจไม่ใช่การบังคับ
      มีการมอบบัตรแสดงตนยืนยันการปฏิบัติมั่นคงในข้อฝึกอบรมสติ ๕ ประการให้แก่ผู้สมาทานไว้เป็นหลักฐานด้วย


      หมู่บ้านพลัมใช้หลักการนี้เพราะถือว่าการปฏิบัติธรรมไม่มีใครบังคับใครได้
      คนคนนั้นต้องพร้อมจะปฏิบัติด้วยตนเอง การสมาทานศีล ๕ จึงไม่ใช่สิ่งที่จะมาสมาทานกันบ่อยๆ พร่ำเพรื่อ จะทำบุญหรือถวายสังฆทานก็สมาทานศีลกันทีหนึ่ง รับศีลไปแล้วก็ไม่ได้นำไปปฏิบัติแต่วางกองไว้ตรงนั้น นั่นไม่ใช่ลักษณะของหมู่บ้านพลัม เพราะการปฏิบัติศีล ๕ ต้องมีความจริงใจ อย่างน้อยการมาร่วมภาวนากับหมู่บ้านพลัมก็ทำให้หลายคนหันมาตระหนักรู้และปฏิบัติศีล ๕ กันมากขึ้น

     ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นแนวทางและรูปแบบการปฏิบัติภาวนาของหมู่บ้านพลัม
     ซึ่งได้ประยุกต์คำสอนในพุทธศาสนาไปสู่ความเรียบง่ายในชีวิตประจำวัน
     ไม่มอมเมาด้วยเครื่องรางของขลังแต่ลัดตรงสู่การปฏิบัติจริงๆ
     ยังมีอีกหลายเรื่องที่ผู้เขียนอาจจะไม่ได้พูดถึง
     หากคุณผู้อ่านอยากรู้มากกว่านี้มีทางเดียวคือ ต้องไปปฏิบัติกับหมู่บ้านพลัมด้วยตนเอง
     แล้วจะรู้ว่าหมู่บ้านพลัมไม่สนใจของขลังจริงๆ


ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.komchadluek.net/detail/20130509/158000/ที่นี่หมู่บ้านพลัมไม่สนใจของขลัง(จบ)ก้อนหินภาวนา.html#.UYwyhErSi85
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

Jiraiya

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 115
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: "ก้อนหินภาวนา" ลมหายใจ..ไหลตามธรรมชาติ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 10, 2013, 09:27:56 am »
0
 st12 st12 st12
บันทึกการเข้า
ซาบซึ้ง ถึงใจ ภาวนาเข้มข้น ไม่หวลคืนกลับ ดับแล้ว ดับจริง

sakol

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 242
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: "ก้อนหินภาวนา" ลมหายใจ..ไหลตามธรรมชาติ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 10, 2013, 04:42:47 pm »
0
เป็นคำสอนที่ทางเถรวาท ก็ยอมรับ เข้าระดับ มหาลัยสงฆ์ในประเทศไทย นะครับ

ดังนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ควรพิจารณา เพราะอาจจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม ของสงฆ์ ในเมืองไทย นะครับ


   :smiley_confused1: :86:
บันทึกการเข้า

KIDSADA

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 439
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: "ก้อนหินภาวนา" ลมหายใจ..ไหลตามธรรมชาติ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 10, 2013, 04:44:43 pm »
0
เป็นรูปแบบที่คนรุ่นใหม่ สนใจอยู่แล้วครับ เพราะคนที่เรียกว่า ปัญญาชน มักจะชอบอยู่กันแบบนี้ ครับ


  :67: :67: :67:
บันทึกการเข้า
เราชอบ ป่วนแก็งค์ อ๊บ อ๊บ

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: "ก้อนหินภาวนา" ลมหายใจ..ไหลตามธรรมชาติ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 10, 2013, 06:00:03 pm »
0


ลมหายใจกับก้อนกรวด อย่างไรกัน ?

เมื่อก้อนกรวดกระทบผิวน้ำแล้วกระจายเป็นวงกว้างไปไม่มีที่สุด ใช่หรือไม่

เมื่อก้อนกรวดดิ่งลงสู่พื้นน้ำแล้วนิ่งจมอยู่อย่างนั้น ใช่หรือไม่

เมื่อก้อนกรวดจมพ้นผิวน้ำ และ ก่อนนิ่งดิ่งจมที่พื้น ระยะที่น้ำพยุงก้อนกรวดไว้นี้ คือ สมาธิ ใครสามารถรู้คล้ายเยื่อง

นี้ได้นั่นคุณกำลังดิ่งด่ำสู่ สมาธิ ปิติเกิด แล้วแหละ




http://fang-fang55.blogspot.com/2011/02/blog-post_24.html
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 10, 2013, 06:07:57 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา