พิมพ์

[prachabeodee]

การที่เราตกอยู่ใต้การครอบงำหรือใต้การควบคุมโดยพลังจิต(ด้วยวิชาไสยศาตร์,เดรัชฉานวิชา)โดยบุคคลอื่น...มีลักษณะแตกต่างกับการที่เราตกอยู่ภายใต้แรงอธิษฐานของบุคคลอื่นที่มีต่อเรา...อย่างไร?,และต่างกันอย่างไร?ระหว่างเมตตามหานิยมกับการถูกทำเสน่ห์ยาแฝด(ในมุมที่ผู้ถูทำ)
 

[Akira]

 

[raponsan]

การที่เราตกอยู่ใต้การครอบงำหรือใต้การควบคุมโดยพลังจิต(ด้วยวิชาไสยศาตร์,เดรัชฉานวิชา)โดยบุคคลอื่น...มีลักษณะแตกต่างกับการที่เราตกอยู่ภายใต้แรงอธิษฐานของบุคคลอื่นที่มีต่อเรา...อย่างไร?,และต่างกันอย่างไร?ระหว่างเมตตามหานิยมกับการถูกทำเสน่ห์ยาแฝด(ในมุมที่ผู้ถูทำ)
 

 

เรื่องเกินปัญญาครับ ขอให้คุณ prachabeodee ไปสอบถามที่บ้านสวนพีระมิด
เฟสบุ้คของบ้านสวนพีระมิค คือ https://www.facebook.com/Baansuanpyramid
ขอนำข้อความในเฟสบุ้คของบ้านสวนพีระมิดมาแสดงดังนี้

 

เชิญร่วมกิจกรรมล้างมนต์ดำคุณไสย ปลดล๊อคกรรมที่บ้านสวนพีระมิด ในวันเสาร์-อา ที่ 11-12 พ.ค. 56

ผู้ที่จะเข้าร่วมกิจกรรมนี้จะต้องร่วมกิจกรรมต่างๆ ครบทั้ง 2 วัน เพราะปัญหามนต์ดำ คุณไสย ต้องใช้กำลังบุญที่สูงมากๆ กิจกรรมในสัปดาห์นี้จึงมีทั้งการติดกระจก ประดับองค์พระ สูงขนาด 9.9 เมตร ซึ่งเป็นท่านพ่อดตาจินินผู้ที่มีบารมีสูงที่สุดในอนันตจักรวาล บุญวิหารทาน เกษตรธรรมะ และอื่นๆ ซึ่งมีกำลังบุญที่สูงมาก

แต่ละท่านอาจดูเหมือนปกติแต่หารู้ไม่ว่าเท่าที่ผ่านมาจากการที่ท่านอ.อุบล ออกไปช่วยผู้คนนอกสถานที่ ในช่วงที่ผ่านมานี้มีผู้คนที่ถูกคุณไสย มนต์ไสยจำนวนมาก ที่โดนโดยไม่รู้ตัว และมีปัญหาชีวิตทั้งสุขภาพ การเงิน การเงิน โดยแก้อย่างไรก็ไม่ดีขึ้น จึงทำให้รู้ว่าปัญหามนต์ดำ คุณไสย กระจายทุกหย่อมหญ้าของประเทศไทย และเป็นพลังที่ดำ พลังมืด ปกคุมประเทศไทย และทั่วโลกอีกด้วย

ลักษณะของผู้ที่เข้าข่ายถูกมนต์ดำ คุณไสย
1. โกรธง่าย หงุดหงิดง่าย ไร้เหตุผล
2. ควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้ ไม่ค่อยมีสติอยู่กับตัว เบลอ
3. มีอาการผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกายและจิตใจ เช่น ร้อน หรือปวดตามร่างกายก่อนวันพระ
4. มีอาการเจ็บป่วยที่รักษาอย่างไรก็ไม่ดีขึ้น เช่น ปวดในกระดูก เจ็บขา จุกเสียด เป็นเวลาหลายๆปี
5. อาการเจ็บป่วยเกิดเป็นช่วงเวลาที่ชัดเจน เช่น เจ็บปวดคล้ายโดนเข็มแทง ร้อนคล้ายโดนไฟเผา ตอนตี 2-3 ทุกวันหรือช่วงเวลาที่ชัดเจน
6. มีปัญหาชีวิตครอบครัว ปัญหาการงาน การเงิน ทำบุญหรือแก้อย่างไรก็ไม่ดีขึ้นเลย
7. นี่คืออาการคร่าวๆของผู้โดนมนต์ดำคุณไสย ทั้งรู้ตัวและไม่รู้ตัว และในจักรวาลนี้ไม่มีผู้ใด ที่สามารถไถ่ถอนมนต์ดำ คุณไสย ออกจากธาตุทั้ง 6 ของเราได้อย่างสิ้นเชิง หากทำได้ก็เพียงแค่ไถ่ถอนเบื้องตนเท่านั้น มีเพียงแค่บารมีและกำลังบุญที่สูงมากของพระนางเนเฟอร์ตารีและท่านรามเสสที่2 เท่านั้นที่จะสามารถถอดถอนมนต์ดำ คุณไสยออกจากธาตุทั้ง 6 ของเราได้100% ซึ่งได้พิสูจน์ต่อหน้าผู้คนมากมายมาแล้วในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ท่านอ.อุบล ได้เมตตาไปเปิดสาขา

สิ่งที่ทุกท่านต้องเตรียม
- น้ำขวดเล็ก 3 ขวด ห้ามเกิน
- ลูกอม 1 ถุง ห้ามเกิน

ท่านใดที่สงสัยหรือรู้ตัวว่าโดนคุณไสย ให้รีบลงทะเบียนเข้าบ้านสวนพีระมิดที่กระทู้ ตามลิงค์นี้
https://www.facebook.com/Baansuanpyramid/posts/474122112653266?comment_id=4284324&offset=0&total_comments=67
หรือ
http://www.baansuanpyramid.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&WBntype=2&Category=baansuanpyramidcom&thispage=1&No=1389495

ที่มา https://www.facebook.com/Baansuanpyramid/posts/518780111512507

[prachabeodee]

เรื่องของเรื่อมีอยู่ว่า ดิฉัน....ได้พบพระธุดงค์รูปหนึ่ง...ซึ่งแกสามารถทำให้บุคคล๓คนอยู่ด้วยกันได้(ทั้งๆที่ทั้งสามคนมีลักษณะนิสัยและพื้นฐานที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง)....ซึ่งแปลกมากเวลาไม่ได้ไปพบแกก็จะหงุดหงิดงุ่นง่านอยู่ไม่เป็นสุข..พอไปอยู่ต่อหน้าแกก็ไม่เป็นตัวของตัวเอง..ซึ่งแกก็มักจะขอบริจาคปัจจัยเพื่อสร้างถาวรวัตถุเช่นศาลาหรืออื่นๆ....ซึ่งดิฉันก็นึกว่ามีอาการอย่างที่เล่ามาคนเดียว....คนอื่นๆก็มีลักษณะอาการเหมือนๆกัน...ดิฉันจึงสงสัยว่า นี่เป็นแรงอธิฐาน(เพราะแกชอบอ้างว่า-แกอธิฐานต่อพระพุทธรูปเพื่อให้กิจกรรมนั้นเป็นไปเพื่อดำรงหรือสืบต่อศาสนา)หรือเป็นการผูกจิต,ครอบงำจิตหรือว่าเป็นเมมตามหานิยมกันแน่....แต่ก็ไม่ไช่เป็นแบบงมงายจนไม่รู้สึกตัวหรอกเจ้าค่ะ.....พระคุณเจ้าที่ว่านี้อายุมากแล้วเจ้าค่ะ ๗๐กว่าๆแล้วค่ะ คงตัดเรื่องสิเน่ห์หาเรื่องชู้สาวไปได้เลยเจ้าค่ะ....ซึ่งดิฉันสัมผัสได้ถึงแรงนี้แต่ดิฉันก็ไม่สามารถหลุดไปจากแรงเหล่านี้ได้พระคุณเจ้าว่าดิฉันเป็นอุปทาน ฤเปล่าเจ้าค่ะ??? ขอความกระจ่างด้วยเถิดเจ้าค่ะ จักเป็นพระคุณอย่างยิ่งเจ้าค่ะ....และยังมีอีกหลายเรื่องซึ่งเกิดกับลูกศิษย์คนอื่นๆเช่นกันแต่ไมขอเล่าเพราะไม่ไช่เกิดกับตนเองเจ้าค่ะ?

[raponsan]

การที่เราตกอยู่ใต้การครอบงำหรือใต้การควบคุมโดยพลังจิต(ด้วยวิชาไสยศาตร์,เดรัชฉานวิชา)โดยบุคคลอื่น...มีลักษณะแตกต่างกับการที่เราตกอยู่ภายใต้แรงอธิษฐานของบุคคลอื่นที่มีต่อเรา...อย่างไร?,และต่างกันอย่างไร?ระหว่างเมตตามหานิยมกับการถูกทำเสน่ห์ยาแฝด(ในมุมที่ผู้ถูทำ)
 

เรื่องของเรื่อมีอยู่ว่า ดิฉัน....ได้พบพระธุดงค์รูปหนึ่ง...ซึ่งแกสามารถทำให้บุคคล๓คนอยู่ด้วยกันได้(ทั้งๆที่ทั้งสามคนมีลักษณะนิสัยและพื้นฐานที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง)....ซึ่งแปลกมากเวลาไม่ได้ไปพบแกก็จะหงุดหงิดงุ่นง่านอยู่ไม่เป็นสุข..พอไปอยู่ต่อหน้าแกก็ไม่เป็นตัวของตัวเอง..ซึ่งแกก็มักจะขอบริจาคปัจจัยเพื่อสร้างถาวรวัตถุเช่นศาลาหรืออื่นๆ....ซึ่งดิฉันก็นึกว่ามีอาการอย่างที่เล่ามาคนเดียว....คนอื่นๆก็มีลักษณะอาการเหมือนๆกัน...ดิฉันจึงสงสัยว่า นี่เป็นแรงอธิฐาน(เพราะแกชอบอ้างว่า-แกอธิฐานต่อพระพุทธรูปเพื่อให้กิจกรรมนั้นเป็นไปเพื่อดำรงหรือสืบต่อศาสนา)หรือเป็นการผูกจิต,ครอบงำจิตหรือว่าเป็นเมมตามหานิยมกันแน่....แต่ก็ไม่ไช่เป็นแบบงมงายจนไม่รู้สึกตัวหรอกเจ้าค่ะ.....พระคุณเจ้าที่ว่านี้อายุมากแล้วเจ้าค่ะ ๗๐กว่าๆแล้วค่ะ คงตัดเรื่องสิเน่ห์หาเรื่องชู้สาวไปได้เลยเจ้าค่ะ....ซึ่งดิฉันสัมผัสได้ถึงแรงนี้แต่ดิฉันก็ไม่สามารถหลุดไปจากแรงเหล่านี้ได้พระคุณเจ้าว่าดิฉันเป็นอุปทาน ฤเปล่าเจ้าค่ะ??? ขอความกระจ่างด้วยเถิดเจ้าค่ะ จักเป็นพระคุณอย่างยิ่งเจ้าค่ะ....และยังมีอีกหลายเรื่องซึ่งเกิดกับลูกศิษย์คนอื่นๆเช่นกันแต่ไมขอเล่าเพราะไม่ไช่เกิดกับตนเองเจ้าค่ะ?

ผมพยายามจะหลีกเลี่ยงไม่ตอบคำถามนี้ ทั้งๆที่ผมมีประสบการณ์ทั้งที่โดนคุณไสย และโดนบังคับให้ทำตามคำสั่งด้วยเจโตปริยญาณ และถูกบังคับด้วยอำนาจจิตของเทวดา เรื่องนี้เป็นปัจจัตตัง ผมรู้สึกด้วยตนเอง ไม่ต้องมาถามผมในแง่ของวิทยาศาสตร์ ด้วยความที่ผมไม่อาจอธิบายจึงพยายามหลีกเลี่ยง แต่ดูเหมือนเทวดาไม่ยอม จึงพยายามบังคับผมให้มาตอบกระทู้นี้

   ข้อแตกต่างของการโดนคุณไสย กับโดนบังคับด้วยอำนาจจิตในฝ่ายกุศล คือ
   ๑. สติ โดนคุณไสยจะขาดสติ ทำอะไรลงไปก็จะเบลอๆ ไม่มีเหตุผล ส่วนโดนบังคับด้วยอำนาจจิตฝ่ายกุศล มีสติอยู่ แต่จะรู้สึกกระวนกระวายใจ หากไม่ทำตาม
   ๒. อาการหลังปฏิบัติตามคำสั่ง การโดนคุณไสยเมื่อทำตามแล้ว จะขาดสติต่อไปไม่มีความยินดี ส่วนโดนบังคับด้วยอำนาจจิตฝ่ายกุศล หลังทำตามจะรู้สึกโล่งๆ

   เรื่องพระธุดงด์นั้น ท่านอาจมี "อธิษฐานฤทธิ์" ฤทธิ์นี้มีในบาลี อยู่ในเรื่องฤทธิ์ ๑๐ สนใจให้ไปที่กระทู้นี้
   "เรื่อง อิทธิฤทธิ์ ในพระพุทธศาสนา ได้สอนไว้หรือป่าวคร้า..."
   http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=1607.0

   

    อธิษฐานฤทธิ์ เป็นฤทธิ์ที่ต้องอธิษฐานให้สำเร็จ เป็นข้อมุ่งหมายของอิทธิวิธีโดยเฉพาะ เป็นฤทธิ์ที่มีความหมายครอบคลุมกว้างขวาง เป็นกุญแจของผู้ทรงฤทธิ์ทั้งปวงที่ต้องใช้ ต่อให้ผู้ได้สมาบัติขั้นใด ผู้มีบุญญาฤทธิ์เหล่าใด แม้นจะใช้ฤทธิ์ก็ต้องอธิษฐานทุกครั้ง เรียกว่า เป็นการอธิษฐานให้เป็นไปถึงเจตนาของตน (๑)
________________________________________________________
(๑) http://www.dhamma5minutes.com/webboard.php?id=8&wpid=0017

   
    อีกอย่างเรื่องของ คุณprachabeodee เป็นไปได้ว่า คนทั้งสามคนอาจถูกเทวดาบังคับให้ทำตามคำสั่ง
    ขอคุยเป็นเพื่อนเท่านี้ครับ
     
   

[MICRONE]

 

[ธุลีธวัช (chai173)]

คุณปชาบดีหายไปนานมาคราวนี้ถามเรื่องไสย กับแรงอธิษฐาน ในส่วนเรื่องไสยเป็นอะไรที่ผมไม่ชอบและไม่เคยใส่ใจเรียกว่าปฏิเสธมาโดยตลอด แต่หากแรงอธิษฐานนี่สิแปลกไหว้พระสวดมนต์เจริญภาวนาแผ่เมตตาเพียงแค่คิดให้เป็นไปก็ทันทีมีทั้งให้สมปรารถนาและทัณฑ์ทุกข์...กลัวไม่กล้าเล่าเอาเป็นว่าผมทิ้งทุกเรื่องบุญทานความดีมีปรารถนาฝากไว้กับพระศากยโคดมเจ้าอย่างไรไม่ขอใช้ไปเรื่อยๆดีกว่ากับชีวิตกับธรรมตวงเติมบารมีให้ถึงมรรคถึงผลเร็วๆ กิเลส,ไสย โสโครก ไม่ไหวครับกับคน

[Admax]

 

[prachabeodee]

ดิฉันต้องขอขอบคุณคุณ " รภณสร" เป็นอย่างยิ่งที่กรุณาให้ความกระจ่างและมุมมองที่หลากหลายแก่ข้าพเจ้า...ทั้งๆที่เรื่องนี้เป็นเรื่องปัจจัตตังไม่ควรนำมาเปิดเผย...ซึ่งจริงๆแล้ว มนุษย์เมื่อเกิดปัญหาขึ้นกับตนเองแล้วตนเองก็มักมีคำตอบอยู่ในใจอยู่บ้างแล้วตามประสพการณ์และตามกำลังสติปัญญาที่ตนเองมีอยู่...ข้าพเจ้าก็เช่นกัน...ซึ่งดิฉันก็คิดว่าเป็นผลของแรงอธิฐานของพระองค์นี้ซึ่งจะถือเป็นกุศลก็ไม่ไช่จะเป็นอกุศลก็ไม่เชิง เป็นแบบไม่ขาวไม่ดำแต่เป็นเทาๆ...อะไรประมาณนั้น 
ส่วนคุณ "ธวัชชัย๑๗๓" ดิฉันต้องขอโมทนาสาธุการกับปฎิปทา(ปนิธาน)หรือทิฐืในภูมิธรรมภูมิจิตแห่งท่าน....ซึ่งเป็นทางที่เดินออกจากกิเลสโดยแท้จริง ที่ดิฉันไม่ได้เข้ามาโพสต์ก็เพราะบางครั้งการอ่านโพสต์ที่ท่านอื่นๆโพสต์ไว้จะมีประโยชน์มากกว่า...ซึ่งจริงๆแล้วดิฉันยังคงติดตามเว็บบอร์ดนี้อยู่เป็นประจำเจ้าค่ะ....ส่วนเรื่อที่ดิฉันโพสต์เรื่องนื้ออกมาก็แค่ต้องการฟังมุมมองที่แตกต่างออกไปตามแต่ล่ะท่านแต่ละภูมิธรรมของผู้ตอบคำถาม....ส่วนที่ว่าทำไมดิฉันถึงต้องมายุ่งเรื่องอะไรต่อมิอะไรที่ไม่เป็นแก่นสารไม่ไช่ทางสู่ความหลุดพ้น...เหตุก็เพราะดิฉันอยู่ทางเหนือเป็นที่ๆพระธุดงค์จาริกมาเยี่ยมเยียนบ่อยมากเป็นปกติ...ซึ่ก็มีหลายๆลักษณะทั้งพระที่มาท่องเที่ยว,พระที่ต้องการประสพการณ์แปลกๆ,พระที่ต้องการที่สงบ,และอื่นๆอีกมากมาย...ทำให้ดิฉันได้พบพระมากมายหลายลักษณะทำให้ได้ประสพการณแปลกมากมาย เรื่องนี้ก็เป็นลักษณะหนึ่งที่ดิฉันได้พบ...
คงแค่นี้ก่อนน๊ะเจ้าค่ะ

[komol]