อนุึโมทนา คะ เดี๋ยวเพื่อน ๆ จะลืมงานนี้ นะคะ

สาธุ สาธุ สาธุ

 

อนุโมทนา คะ
 

อนุโมทนา ด้วยคะ คุณธรรมธวัช จัดได้ว่าเป็นนักบุญเลยนะคะ มีงานบุญและภาพงานบุญมาฝาก ให้ชมด้วยคะ

 ยินดีด้วยคะ

 

อ่านรายละเอียดชมภาพ เพิ่มเติมได้ที่ลิงก์นี้ คะ
http://www.thaniyo.com/index.php/2009-05-13-14-51-39/304-vesak2555

อ่านรายละเอียดชมภาพ เพิ่มเติมได้ที่ลิงก์นี้ คะ
http://www.thaniyo.com/index.php/2009-05-13-14-51-39/304-vesak2555

[จังหวัดจันทบุรีเชิญชวนประชาชนร่วมงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาเนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก ประจำปี 2555 ร่วมฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้านายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า และสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เทศกาลวันวิสาขบูชา ประจำปี 2555จังหวัดจันทบุรีได้กำหนดจัดกิจกรรม เพื่อฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า และสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เทศกาลวันวิสาขบูชา ประจำปี 2555 ขึ้น ในระหว่างวันที่ 29 พฤษภาคม ถึง 4 มิถุนายน 2555 ณ วัดป่าคลองกุ้ง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี มีกิจกรรมสำคัญๆประกอบด้วย การประกวดการจัดโต๊ะหมู่บูชา การประกวดคำขวัญ การแข่งขันตอบปัญหาธรรมะ การตักบาตรพระสงฆ์ การบรรยายธรรมเพื่อถวายเป็นราชกุศลและเป็นพุทธบูชา ทอดผ้าป่ามหากุศลพุทธยันตี 2,600 ปี บวชเฉลิมพระเกียรติสำหรับวันวิสาขบูชา เป็นวันที่มีความสำคัญต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าศาสดาแห่งศาสนาพุทธ คือเป็นวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน 2555 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 ปีอธิกมาส และองค์การสหประชาชาติได้ประกาศให้เป็นวันสำคัญของโลก และพุทธบริษัทได้ยึดถือว่าเป็นวาระสำคัญที่จะใช้เวลาในช่วงวันดังกล่าวนี้ น้อมรำลึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ได้เมตตา พระกรุณาต่อเวไนยสัตว์ อย่างหาที่สุดมิได้โอกาสนี้จังหวัดจันทบุรีขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนและประชาชนชาวจังหวัดจันทบุรี ร่วมนุ่งขาวห่มขาวและถือศีลปฏิบัติธรรมเป็นพุทธบูชาในช่วงเทศกาลสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา วันวิสาขบูชา ระหว่างวันที่ 29 พฤษภาคม ถึง 4 มิถุนายน 2555โดยพร้อมเพรียงกัน]

จังหวัดจันทบุรีเชิญชวนประชาชนร่วมงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาเนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก ประจำปี 2555 ร่วมฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า

นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า และสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เทศกาลวันวิสาขบูชา ประจำปี 2555จังหวัดจันทบุรีได้กำหนดจัดกิจกรรม เพื่อฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า และสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เทศกาลวันวิสาขบูชา ประจำปี 2555 ขึ้น

 ในระหว่างวันที่ 29 พฤษภาคม ถึง 4 มิถุนายน 2555
 ณ วัดป่าคลองกุ้ง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี

 มีกิจกรรมสำคัญๆประกอบด้วย การประกวดการจัดโต๊ะหมู่บูชา การประกวดคำขวัญ การแข่งขันตอบปัญหาธรรมะ การตักบาตรพระสงฆ์ การบรรยายธรรมเพื่อถวายเป็นราชกุศลและเป็นพุทธบูชา ทอดผ้าป่ามหากุศลพุทธยันตี 2,600 ปี บวชเฉลิมพระเกียรติสำหรับวันวิสาขบูชา เป็นวันที่มีความสำคัญต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าศาสดาแห่งศาสนาพุทธ คือเป็นวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน 2555 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 ปีอธิกมาส และองค์การสหประชาชาติได้ประกาศให้เป็นวันสำคัญของโลก และพุทธบริษัทได้ยึดถือว่าเป็นวาระสำคัญที่จะใช้เวลาในช่วงวันดังกล่าวนี้ น้อมรำลึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ได้เมตตา พระกรุณาต่อเวไนยสัตว์ อย่างหาที่สุดมิได้

โอกาสนี้จังหวัดจันทบุรีขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนและประชาชนชาวจังหวัดจันทบุรี ร่วมนุ่งขาวห่มขาวและถือศีลปฏิบัติธรรมเป็นพุทธบูชาในช่วงเทศกาลสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา วันวิสาขบูชา ระหว่างวันที่ 29 พฤษภาคม ถึง 4 มิถุนายน 2555โดยพร้อมเพรียงกัน

คิดว่า สิ่งที่จะทำให้เราไม่สับสนในการนับถือพระพุทธศาสนา ได้

  มีเหตุดังนี้ คะ

  1. ศรัทธา เพราะว่าเป็นที่พึ่ง โดยเฉพาะทางจิต

  2. ศรัทธา เพราะธรรมะ ที่พระพุทธเจ้าได้แสดงไว้นั้น ชอบแล้ว

  3. ศรัทธา ในพระพุทธเจ้า ผู้เป็นแบบอย่างในการดำเนินศาสนกิจ และ การบำเพ็ญเป็นพระโพธิสัตว์

  4. ศรัทธา เพราะเมื่อทุกข์ เกิดขึ้น ก็ย่อมอาศัย หลักธรรม นั้นมา เียียวยาใจ

  5. ศรัทธา เพราว่ามีหลักการปฏิบัติ โดยการปฏิบัติ ด้วยตัวเรา มิใช่เป็นคำสวดอ้อนวอน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือ พระเจ้าใด ๆ เข้ามาช่วย ทุกอย่างต้องเป็นเพราะเราเป็นผู้ปฏิบัติ เท่านั้น

  และอีก ๆ หลาย ๆ ศรัทธา ที่เรานับถือ พระพุทธศาสนา ได้อย่างไม่สับสน

   ปาพจน์ 2 เป็น ศาสดา ของเธอทั้งหลาย ในเมื่อครั้งกาล พุทธปรินิพพาน ที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสแสดงไว้


 

อ่านแล้วจึงทำให้เห็นความสำคัญของจิต ที่จะทำการปรามาส พระรัตนตรัย ด้วยวิธีการต่าง ๆ เลยคะ
ต้องระวัง มาก ๆ คะ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นนะคะ

 กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ จึงให้มีการขอขมาทุกครั้งก่อนทำกรรมฐาน

 

 

[การดูคนมีอยู่ 7 วิธี คือ---~~~๏๏๏~~~---1. ยุแหย่ด้วยเรื่อง .. “ร้าย” .. “ดี” ..แล้วสังเกตูซึ่ง .. “ปณิธาน” (ความตั้งมั่นในร้าย/ดี)2. ติเตียน/กล่าวโทษให้อับจน ..แล้วสังเกตดูซึ่ง .. “ปณิภาณ” (ไหวพริบ .. การเอาตัวรอด)3. สอบถามซึ่งกลยุทธ์ ..แล้วสังเกตดูซึ่ง .. “ปัญญา”4. บอกกล่าวซึ่งเคราะห์ภัย ..แล้วสังเกตดูซึ่ง .. “ความกล้า”5. มอมเมาด้วยสุราแล้ว ..สังเกตซึ่ง .. “อุปนิสัย”6. ผูกมัดด้วยอามิสสินจ้างแล้ว ..สังเกตซึ่ง .. “ความสุจริต”7. มอบหมายภาระกิจให้จัดการในเวลาอันจำกัด ..แล้วสังเกตซึ่ง .. “สัจจะ”---~~~๏๏๏~~~---“จิตมนุษย์”.. ใช่ว่า .. สุดจะหยั่งคาด .. สรรพสิ่ง .. สามารถค้นศึกษาได้เพราะ .. มนุษย์ .. มีอุตตะมะปัญญา .. ต่างจาก .. สัตว์สารา .. โดยทั่วไปอยากรู้ว่า ... “บ้ายึดในอำนาจ” ... “ลองให้อำนาจ” ... ก็สิ้น ... ซึ่งสงสัยอยากรู้ ... “จิตคิดโลภประการใด” ... พอให้ ... “ต้องเงินตรา” ... ก็รู้กลอยากรู้ว่า .. “มั่นคงในศักดิ์ศรี” .. ให้ใกล้ชิด .. “สตรี” .. ก็ .. “เห็นผล”ใคร่รู้ว่า .. “จิตใจใช่หรือคน” .. กล่อมสุรา .. และจะดล .. “ให้เห็นจริง”ใคร่รู้ .. “น้ำใจซื่อ” .. หรือว่า .. “คด” .. ให้ลองบทพนันเล่นเห็นทุกสิ่ง5 ประการ .. กลหยั่งใจได้ตามจริง .. รู้ให้ยิ่งกระจ่างไว้เพื่อใช้คน”---~~~๏๏๏~~~---วิธีดูคน อ่านคน จากสามก๊ก]

การดูคนมีอยู่ 7 วิธี คือ
---~~~๏๏๏~~~---
1. ยุแหย่ด้วยเรื่อง .. “ร้าย” .. “ดี” ..
แล้วสังเกตูซึ่ง .. “ปณิธาน” (ความตั้งมั่นในร้าย/ดี)
2. ติเตียน/กล่าวโทษให้อับจน ..
แล้วสังเกตดูซึ่ง .. “ปณิภาณ” (ไหวพริบ .. การเอาตัวรอด)
3. สอบถามซึ่งกลยุทธ์ ..
แล้วสังเกตดูซึ่ง .. “ปัญญา”
4. บอกกล่าวซึ่งเคราะห์ภัย ..
แล้วสังเกตดูซึ่ง .. “ความกล้า”
5. มอมเมาด้วยสุราแล้ว ..
สังเกตซึ่ง .. “อุปนิสัย”
6. ผูกมัดด้วยอามิสสินจ้างแล้ว ..
สังเกตซึ่ง .. “ความสุจริต”
7. มอบหมายภาระกิจให้จัดการในเวลาอันจำกัด ..
แล้วสังเกตซึ่ง .. “สัจจะ”
---~~~๏๏๏~~~---
“จิตมนุษย์”.. ใช่ว่า .. สุดจะหยั่งคาด .. สรรพสิ่ง .. สามารถค้นศึกษาได้
เพราะ .. มนุษย์ .. มีอุตตะมะปัญญา .. ต่างจาก .. สัตว์สารา .. โดยทั่วไป
อยากรู้ว่า ... “บ้ายึดในอำนาจ” ... “ลองให้อำนาจ” ... ก็สิ้น ... ซึ่งสงสัย
อยากรู้ ... “จิตคิดโลภประการใด” ... พอให้ ... “ต้องเงินตรา” ... ก็รู้กล
อยากรู้ว่า .. “มั่นคงในศักดิ์ศรี” .. ให้ใกล้ชิด .. “สตรี” .. ก็ .. “เห็นผล”
ใคร่รู้ว่า .. “จิตใจใช่หรือคน” .. กล่อมสุรา .. และจะดล .. “ให้เห็นจริง”
ใคร่รู้ .. “น้ำใจซื่อ” .. หรือว่า .. “คด” .. ให้ลองบทพนันเล่นเห็นทุกสิ่ง
5 ประการ .. กลหยั่งใจได้ตามจริง .. รู้ให้ยิ่งกระจ่างไว้เพื่อใช้คน”
---~~~๏๏๏~~~---
วิธีดูคน อ่านคน จากสามก๊ก

"ทำไม กรรมฐาน มัชฌิมา ต้องเริ่มที่ พุทธานุสสติ"
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=6161.0



พุทธานุสสติ มีกำลังถึงสมาบัติ ๘ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=509.0




อานาปานสติ ตอนไหนเป็นการภาวนา สมถะ ตอนไหน เป็น วิปัสสนา ครับ
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=6130.0



รวมปัญหา อานาปานสติ
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=7036.msg26102#msg26102




ลิงก์ทีแสดงไว้ พอช่วยหาคำตอบได้มากขึ้นนะคะ

 

เวลาที่จิตไม่เป็นสมาธิ ( ฟุ้งซ่าน ) ในระหว่างที่นั่งภาวนาอยู่ ควรทำอย่างไรดี คะ
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=6327.0

การเดินจงกรม สามารถเดินเป็น ฌาน ได้ นะจ๊ะ

แต่ต้องฝึกภาวนาในการเดินมาด้วย ผู้สำเร็จฌาน ส่วนใหญ่ แล้ว ไม่ขึ้นอยู่กับท่าทาง

จะนั่ง จะยืน จะนอน จะเดิน ก็เป็นฌานได้ทั้งหมด

เรื่องของการเดินจงกรมอ่านเพิ่มตรงนี้ นะจ๊ะ

อานิสงค์การเดินจงกรม อ่านที่นี่นะจ๊ะ
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=866.0

การเดินจงกรมธาตุ
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=1185.0

รูปภาพ และวิธีการเดินจงกรมธาตุ
http://www.madchima.org/madchima/index2.php?name=knowledge&file=readknowledge&id=69




น่าจะมีคำตอบให้พอสมควรแล้วนะคะ
 

วันนี้ฟังแล้ว เสียงดีมากคะ

 

[กรรมวิธีที่จะทำให้สมองแข็งแรงไปอย่างยืนยาวนั้น สถาบันดีสปายน์ไคโรแพรคติก เทคนิคมาแนะนำ 1. ดื่มน้ำให้พอ เพราะสมองของคนเราประกอบด้วยน้ำถึง 85% ดังนั้นเมื่อร่างกายขาดน้ำ สมอง ก็จะทำงานช้าลง ทำให้กลายเป็นคนคิดช้าหรือคิดอะไรไม่ค่อยออกแต่การดื่มน้ำนั้นแต่ละคนจะมีความต้องการน้ำไม่เท่ากันขึ้นอยู่กันน้ำหนัก และพฤติกรรมต่างๆ ทั้งการเคลื่อนไหว และการบริโภค แต่โดยเฉลี่ยแล้ว ผู้ใหญ่ควรดื่มน้ำวันละ 3-5 ลิตร ส่วนเด็ก 2-3 ลิตร 2. หายใจลึกๆ ช่วยส่งพลังงานไปถึงสมอง ถ้านั่งหายใจ หลังก็ควรจะตั้งตรง จะช่วยให้ออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น และถ้านั่งนานเนไปควรเปลี่ยนอิริยาบถ ยืดเส้น ยืดสาย เพื่อให้ปอดขยาย3. เลือกรับประทานอาหาร ที่มีไขมันดีทดแทนไขมันในสมองที่สึกหรอ อาทิ น้ำมันปลา สารสกัดจากใบแปะก๊วย ปลาแซลมอน อีฟนิ่งพริมโรส วิตามินซี 4. ตั้งโปรแกรมให้สมอง โดยใช้ความตั้งมั่นตั้งใจอย่างจริงจัง สมองจะค่อยๆ ปรับพฤติกรรมให้ไปสู่เป้าหมายได้ 5. หัวเราะและยิ้มบ่อยๆ ช่วยให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน ไปกระตุ้นพลังออร่าให้สว่างสดใสจะช่วยดึงดูดสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต 6. ฝึกสมาธิพัฒนาอารมณ์ ให้สมองผ่อนคลาย จะช่วยทำให้มีจินตนาการมีความคิดสร้างสรรค์ สามารถทำได้ทั้งตื่นเช้าหรือก่อนนอนทุกวัน 7. ออกกำลังกาย กระตุ้นการทำงานของสมองพร้อมกับดื่มน้ำบ่อยๆ 8. หาอะไรใหม่ๆ ให้ชีวิต เช่น รู้จักคนใหม่ๆ อ่านหนังสือเล่มใหม่ ขับรถเส้นทางใหม่ หรือแลกเปลี่ยนทัศนคติใหม่ๆ กับเพื่อน สมองจะหลั่งสารแห่งความสุข (เอ็นดอร์ฟิน) และสารแห่งการเรียนรู้ โดปามีน ทำให้เกิดการอยากเรียนรู้อย่างมีความสุข9. รู้จักให้อภัยและลดความโกรธ จะทำให้สูญเสียพลังงานน้อยลง และยังเป็นการช่วยลดภาระให้กับสมอง 10. พูดเรื่องดีๆ กับตัวเองซ้ำๆ ให้เกินวันละ 100 ครั้ง 11. บันทึกสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันลงในสมุดบันทึก ช่วยทำให้สมองคิดในเชิงบวก ทำให้หลับฝันดี มีสมาธิ 12. พักผ่อนให้เพียงพอ โดยช่วงเวลา 21.00 น. จะเป็นช่วงเวลานอนที่ดีที่สุดเรื่องนี้ไม่ใช่เหมาะสำหรับเด็ก แต่เป็นเรื่องที่ทุกเพศ ทุกวัยสามารถปฏิบัติได้เป็นการยืดอายุสมอง ให้อยู่กับเราไปได้นานเท่านาน!!]

กรรมวิธีที่จะทำให้สมองแข็งแรงไปอย่างยืนยาวนั้น สถาบันดีสปายน์ไคโรแพรคติก เทคนิคมาแนะนำ 

1. ดื่มน้ำให้พอ  เพราะสมองของคนเราประกอบด้วยน้ำถึง 85% ดังนั้นเมื่อร่างกายขาดน้ำ สมอง ก็จะทำงานช้าลง ทำให้กลายเป็นคนคิดช้าหรือคิดอะไรไม่ค่อยออก
แต่การดื่มน้ำนั้นแต่ละคนจะมีความต้องการน้ำไม่เท่ากันขึ้นอยู่กันน้ำหนัก และพฤติกรรมต่างๆ ทั้งการเคลื่อนไหว และการบริโภค แต่โดยเฉลี่ยแล้ว ผู้ใหญ่ควรดื่มน้ำวันละ 3-5 ลิตร ส่วนเด็ก 2-3 ลิตร

2. หายใจลึกๆ  ช่วยส่งพลังงานไปถึงสมอง ถ้านั่งหายใจ หลังก็ควรจะตั้งตรง จะช่วยให้ออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น และถ้านั่งนานเนไปควรเปลี่ยนอิริยาบถ ยืดเส้น ยืดสาย เพื่อให้ปอดขยาย

3. เลือกรับประทานอาหาร  ที่มีไขมันดีทดแทนไขมันในสมองที่สึกหรอ อาทิ น้ำมันปลา สารสกัดจากใบแปะก๊วย ปลาแซลมอน อีฟนิ่งพริมโรส วิตามินซี

4. ตั้งโปรแกรมให้สมอง  โดยใช้ความตั้งมั่นตั้งใจอย่างจริงจัง สมองจะค่อยๆ ปรับพฤติกรรมให้ไปสู่เป้าหมายได้

5. หัวเราะและยิ้มบ่อยๆ  ช่วยให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน ไปกระตุ้นพลังออร่าให้สว่างสดใสจะช่วยดึงดูดสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต

6. ฝึกสมาธิพัฒนาอารมณ์ ให้สมองผ่อนคลาย จะช่วยทำให้มีจินตนาการมีความคิดสร้างสรรค์ สามารถทำได้ทั้งตื่นเช้าหรือก่อนนอนทุกวัน

7. ออกกำลังกาย  กระตุ้นการทำงานของสมองพร้อมกับดื่มน้ำบ่อยๆ

8. หาอะไรใหม่ๆ ให้ชีวิต  เช่น รู้จักคนใหม่ๆ อ่านหนังสือเล่มใหม่ ขับรถเส้นทางใหม่ หรือแลกเปลี่ยนทัศนคติใหม่ๆ กับเพื่อน สมองจะหลั่งสารแห่งความสุข (เอ็นดอร์ฟิน) และสารแห่งการเรียนรู้ โดปามีน ทำให้เกิดการอยากเรียนรู้อย่างมีความสุข

9. รู้จักให้อภัยและลดความโกรธ  จะทำให้สูญเสียพลังงานน้อยลง และยังเป็นการช่วยลดภาระให้กับสมอง

10. พูดเรื่องดีๆ  กับตัวเองซ้ำๆ ให้เกินวันละ 100 ครั้ง

11. บันทึกสิ่งดีๆ  ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันลงในสมุดบันทึก ช่วยทำให้สมองคิดในเชิงบวก ทำให้หลับฝันดี มีสมาธิ

12. พักผ่อนให้เพียงพอ  โดยช่วงเวลา 21.00 น. จะเป็นช่วงเวลานอนที่ดีที่สุด
เรื่องนี้ไม่ใช่เหมาะสำหรับเด็ก แต่เป็นเรื่องที่ทุกเพศ ทุกวัยสามารถปฏิบัติได้เป็นการยืดอายุสมอง ให้อยู่กับเราไปได้นานเท่านาน!!

[เรา สร้างตึกที่สูงขึ้น แต่วัดที่เตี้ยลงเรามีทางด่วนที่กว้างมากขึ้น แต่มีทัศนคติที่แคบลง]

เรา สร้างตึกที่สูงขึ้น แต่วัดที่เตี้ยลง
เรามีทางด่วนที่กว้างมากขึ้น แต่มีทัศนคติที่แคบลง






ชอบนะ แต่ไม่รู้จะสื่อภาพตรงกับ คำอย่างไรดี นะจ๊ะ

 

อนุโมทนา คะ เคยไปครั้งหนึ่ง คะ คนเยอะมากขนาดเดินเบียดกันเลยนะคะ

 

ผมเรียนถามท่านผู้รู้หน่อยครับ
ผมได้ยินข้อห้ามต่างๆในการแขวนพระมาบ้าง
แต่ผมไม่มีที่เก็บพระนอกจากห้องนอน
บางทีก็อาจหลุดคำว่าพ่อแม่ ในโทรสับ แต่ไม่ได้คิดอะไร
หรือทำอะไรไม่เหมาะสม 


พระผมจะเสื่อมไหม?
ผมต้องทำอย่างไร?
ถ้าโยโทโสจะได้ไหมครับ?

ขอบพระคุณครับ
 

    คิดว่าพระไม่เสือมหรอกคะ กิจกรรมใด ๆ ที่เกิดขึ้นในห้องนอนนั้น พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไม่เกี่ยวข้องด้วยคะการตั้งหิ้งบูชา ในห้องนอน หรือ เก็บรักษาไว้ในห้องนอน ก็เพราะมีความเคารพ ถ้าเรามีความสำรวมเคารพก็ควรกั้นเขตส่วนตัวไว้ด้วยคะ เช่นมีม่านกั้น ไว้เป็นต้น

    ถ้า โย โทโส โมหะะ จิตเตนะ แล้วลำบาก กล่าวคำขอขมา โดยตรงเลยก็ได้คะ

    ที่สำคัญอานุภาพของวัตถุมงคลอยู่ที่ผู้ใช้ด้วย ถ้าผู้ใช้มีศีล มีสมาธิ มีปัญญา อานุภาพก็สูงขึ้นคะ

   

[อันนี้ ถ้าหมายถึงการฝึกสิณ ที่ต้องมีบุญญาธิการมาก่อน ก็ไม่ต้องฝึกพระพุทธานุสสติ ใช่หรือไม่คะ]

ผมเข้าไปเยี่ยมชมเว็บ http://www.somdechsuk.org
เห็นพระอาจารย์ นำคำถามไป ถาม ที่เว็บ ( ก็ดีนะครับ )
ลูกศิษย์ จะได้มั่นใจในคำำตอบ และ ที่เว็บบอร์ดที่นั่นจะได้มีคำถาม แต่ถ้าไปถามโดยตรงกันเลยดีไหมครับ


ฝึกกสิณ ในกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ฝึกโดยไม่ต้องผ่าน พระพุทธานุสติ ได้หรือไม่ ?

ตอบว่าไม่ได้ ต้องเรียนไปเป็นลำดับของจิตก่อน เมื่อจิตตั้งสมาธิ ได้ตามขั้นตอนของ พระพุทธานุสติ แล้ว จิตก็จะเป็นอุปจารสมาธิเต็มขั้น ถ้าจะให้จิตได้ถึงอัปปนาสมาธิ ให้เปลี่ยนกรรมฐาน เป็นอานาปานสติ เมื่อจบอานาปานสติแล้ว กรรมฐานที่ต่อเนื่องจากอานาปานสติ คือ อาการสามสิบสอง แล้วจึงจะถึงห้องกสิณ เพราะห้องกสิณต่อเนื่องมาจาก อาการสามสิบสอง เพราะห้องกสิณนี้ จิตสมาธิ ต้องได้อุปจารสมาธิเต็มขั้นมาแล้ว จึงจะฝึกห้องกสิณได้ ยกเว้นผู้มีบุญญาธิการมาแต่เก่าก่อน เพียงเห็นผืนน้ำ หรือกองไฟ จิตก็จะยกขึ้นมาเป็นดวงอาโปกสิณ หรือ ดวงเตโชกสิณเลยทีเดียว ที่ทำอย่างนี้ได้จะมี ๑.๐๐๐ ต่อ ๑ คนเท่านั้น ที่ไม่ต้องผ่านห้องพระพุทธานุสสติมาก่อน

ตอบโดย weera2548 ( ไม่แน่ใจว่าใช่ user หลวงพ่อพระครู หรือป่าว )

ที่มา

http://www.somdechsuk.org/node/127

อันนี้ ถ้าหมายถึงการฝึกสิณ ที่ต้องมีบุญญาธิการมาก่อน ก็ไม่ต้องฝึกพระพุทธานุสสติ ใช่หรือไม่คะ

 

รู้สึกว่า พระอาจารย์ แนะนำไว้ว่า  อ ด ท น คะ

 

ส่วนพระรอดหลวง แกะสลักมาจากหินทราย ศิลปะอยู่ในช่วงสมัยหิริภุญชัย ลำพูน และสมัยลพบุรีเจริญรุ่งเรือง โดยในโลกนี้มีเพียง 2 องค์เท่านั้นคืออยู่ที่วัดมหาวัน อ.เมือง จ.ลำพูน พบเมื่อตอนกรุวัดมหาวันแตก กับที่วัดพระธาตุดอยคำ อายุกว่า 1,325 ปี ประมาณค่าไม่ได้ เก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์มาก

เป็นเรื่องที่พึ่งทราบ วัดพระธาตุดอยคำไปมา 2 ครั้งแล้วยังไม่เคยได้ไปกราบพระรอดองค์นี้ เลย คราวนี้ไปแล้วไม่พลาดแน่ ขอบคุณ จขกท. ด้วยคะ

สาธุ คนเหนือก็คิดถึง ท่านคะ ไปวัดดอยแม่ปั๋ง มาก็เงียบเชียบไม่เหมือนตอนที่ท่านยังมีชีิวิตอยู่เลยคะ

 

เป็นคำถามที่น่าสนใจ คะ เพราะนำไปสู่เหตุที่มีการทำบุญอุทิศให้แก่ผู้ท่ตายไปแล้ว ด้วยรูปแบบต่าง ๆ กันไปแต่เนื้อเรื่องในทางพระพุทธศาสนา นึกออกเพียงเรื่องเดียวคือ เปตรพระญาติของพระเจ้าพิมพิสาร แต่เปตรเหล่านั้นก็ไม่ได้ให้โทษแก่ พระเจ้าพิมพิสาร นะคะ

   

[มิคารเศรษฐีทำเครื่องประดับให้นางวิสาขา ลำดับนั้น เศรษฐีคิดว่า "สะใภ้ของเรา มีอุปการะมาก, เราจักทำบรรณาการให้แก่นาง, เพราะเครื่องประดับของสะใภ้นั้นหนัก, ไม่อาจเพื่อประดับตลอดกาลเป็นนิตย์ได้, เราจักให้ช่างทำเครื่องประดับอย่างเบาๆ แก่นาง ควรแก่การประดับในทุกอิริยาบถ ทั้งในกลางวันและกลางคืน" ดังนี้แล้ว จึงให้ช่างทำเครื่องประดับ ชื่อฆนมัฏฐกะ อันมีราคาแสนหนึ่ง, เมื่อเครื่องประดับนั้นเสร็จแล้ว, นิมนต์พระภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุขให้ฉัน โดยความเคารพแล้ว ให้นางวิสาขาอาบน้ำด้วยหม้อน้ำหอม ๑๖ หม้อ ให้ยืนถวายบังคมพระศาสดา ในที่เฉพาะพระพักตร์ของพระศาสดาแล้ว. พระศาสดาทรงทำอนุโมทนาแล้ว เสด็จไปสู่วิหารตามเดิม.]

มิคารเศรษฐีทำเครื่องประดับให้นางวิสาขา               
               ลำดับนั้น เศรษฐีคิดว่า "สะใภ้ของเรา มีอุปการะมาก, เราจักทำบรรณาการให้แก่นาง, เพราะเครื่องประดับของสะใภ้นั้นหนัก, ไม่อาจเพื่อประดับตลอดกาลเป็นนิตย์ได้, เราจักให้ช่างทำเครื่องประดับอย่างเบาๆ แก่นาง ควรแก่การประดับในทุกอิริยาบถ ทั้งในกลางวันและกลางคืน" ดังนี้แล้ว จึงให้ช่างทำเครื่องประดับ ชื่อฆนมัฏฐกะ อันมีราคาแสนหนึ่ง, เมื่อเครื่องประดับนั้นเสร็จแล้ว, นิมนต์พระภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุขให้ฉัน โดยความเคารพแล้ว ให้นางวิสาขาอาบน้ำด้วยหม้อน้ำหอม ๑๖ หม้อ ให้ยืนถวายบังคมพระศาสดา ในที่เฉพาะพระพักตร์ของพระศาสดาแล้ว. พระศาสดาทรงทำอนุโมทนาแล้ว เสด็จไปสู่วิหารตามเดิม.

http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=14&p=8

[- ชาวพุทธ คิดว่า อโหสิกรรม กับ อภัยทานเป็นเรื่องเดียวกันหรือไม่ (สำหรับผมยังคลุมเคลือ)- การอโหสิกรรม เกี่ยวกับพุทธศาสนาหรือไม่ในความคิดของคนทั่วไป- ท่านเคยอโหสิกรรมกับใครหรือไม่ กี่ครั้ง- ทำไมจึงอโหสิกรรม (กลัวบาป, ไม่อยากจองเวร, ปฏิบัติตามหลักพุทธศาสนา, เพราะเขาขออโหสิกรรม etc)- ทำไมจึงไม่อโหสิกรรม]

เป็นหัวข้อที่กำลังนั่งพินิจ อยู่ จริง ๆ แล้วเหมือนกันหรือไม่

  คือไปอ่านเปิดประเด็นไว้ อย่างนี้
 - ชาวพุทธ คิดว่า อโหสิกรรม กับ อภัยทานเป็นเรื่องเดียวกันหรือไม่ (สำหรับผมยังคลุมเคลือ)
- การอโหสิกรรม เกี่ยวกับพุทธศาสนาหรือไม่ในความคิดของคนทั่วไป
- ท่านเคยอโหสิกรรมกับใครหรือไม่ กี่ครั้ง
- ทำไมจึงอโหสิกรรม (กลัวบาป, ไม่อยากจองเวร, ปฏิบัติตามหลักพุทธศาสนา, เพราะเขาขออโหสิกรรม etc)
- ทำไมจึงไม่อโหสิกรรม

  แท้ที่จริง อโหสิกรรม มีไว้เพื่ออะไร ?

 รบกวนท่านผู้รู้ ทุึกท่าน ให้วินิจฉัย ด้วยนะคะ

 ขอบคุณมาก ๆ คะ



ขอบคุณภาพประกอบจาก http://1.bp.blogspot.com

   อโหสิกรรม กับ การให้อภัย น่าจะเป็นคนละความหมาย

    อโหสิกรรม คือ ไม่ถือโทษที่กระทำมาแล้ว อันนี้น่าจะเป็นตั้แต่กรรมที่เบา จนถึง หนัก

    การให้อภัย น่าจะหมายถึง โทษที่มาแล้วยกโทษให้ น่าจะเป็นกรรมที่เบาๆ นะอันนี้


 ไม่รู้สินะอาจจะยังไม่ค่อยจะเข้าใจส่วนนี้ ก็ให้อภัยกันด้วยนะคะ

   

เราทุกคนมีเทวดาประจำตัว กันทุกท่านทุกคน

สาธุ

 

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการ เรื่องเล่าเช้านี้

          ชาวบ้าน จ.ชุมพร แห่งมเหรียญ ร.5 ที่แม่น้ำชุมพร เผยเด็กฝันว่ามีหญิงชราให้มางม ด้านเซียนพระยัน เป็นเหรียญสมัย ร.5 จริง

          ช่วงเย็นของวันที่ 25 มีนาคม 2555 ที่่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มี ชาวบ้านจำนวนมากเดินทางไปงมหาเหรียญ ร.5 ที่บริเวณแม่น้ำชุมพร หมู่ที่ 6 ต.ขุนกระทิง อ.เมืองชุมพร โดยในที่ดังกล่าว มีเด็ก และผู้ใหญ่จำนวนมาก กำลังดำลงไปหาเหรียญ และพอพบเหรียญต่างก็ดีใจ และยกมือไว้ท่วมหัว เมื่อสอบถามชาวบ้านบางคนบอกว่า งมได้ถึง 100 เหรียญแล้ว

          ทั้งนี้ นายสายัณห์ โกฏเพขร อายุ 45 ปี ชาวบ้านละแวกดังกล่าว กล่าวว่า ลูกชายของตนได้เล่นน้ำในแม่น้ำแห่งนี้เป็นประจำ แต่เมื่อคืนวันที่ 23 มีนาคม ลูก ชายของตนก็ฝันว่า มีหญิงชราเข้ามาบอกว่า ในท่าน้ำแห่งนี้มีเหรียญของ ร.5 ฝังดินอยู่กว่า 200 เหรียญ จึงลองมางมดูก็พบเหรียญดังกล่าวเหมือนในฝันจริง ๆ

          ส่วนทางด้าน นายพิชัย เล็กมล อายุ 25 ปี ชาวบ้านอีกคน กล่าวว่า พอตนทราบข่าวก็รีบมางมดูบ้าง พบเหรียญ ร.5 ชนิดต่าง ๆ กว่า 30 เหรียญ ซึ่งมีคนที่ชอบสะสมของโบราณได้มาติดต่อขอซื้อ แต่ตนไม่ขาย เพราะจะเก็บไว้บูชา และให้ลูกหลานดูในอนาคต

          ขณะที่ นายปิยพงศ์ โชติกวนิช อายุ 40 ปี เซียนพระชื่อดังใน จ.ชุมพร กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า เหรียญดังกล่าวเป็นเหรียญเก่าแก่ที่ออกในสมัยรัชกาลที่ 5 จริง มีทั้งเหรียญเงิน และเหรียญทองแดงผสมนาก ขนาด 1 เซียว 1 อัฐ 1 ไพ และ 1 เฟื้อง ซึ่งปัจจุบันหาดูได้ยากมาก และควรค่าแก่การเก็บสะสม เนื่องจากเป็นของที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และเท่าที่ตนทราบมา พื้นที่แห่งนี้ ในอดีตเคยเป็นแม่น้ำสายหลักที่ราษฎรชาวไทยและพ่อค้าชาวจีนใช้เป็นเส้นทางค้า ขายและสัญจรไปมา

เคยเสนอ รวมลิงก์ สำคัญเกี่ยวกับ คำถามที่พระอาจารย์เคยได้ตอบและได้ประโยชน์ ในกรรมฐาน คะ ทำเป็นหมวดออกมาเลย จะดีนะคะ และ ทำลิงก์แบบสารบัญ index เข้าไป หา ติดหมุดไว้ในหัวใด หัวข้อหนึ่ง เพื่อประโยชน์แก่ผู้อ่าน จะได้อ่านง่าย ขึ้นคะ

  อาจจะเสนอมากไป ..... แต่ ก็อยากให้ทีมมัชฌิมา ช่วยพิจารณาไว้ด้วยคะ

 

ถ้าต้องการทราบ ความเป็นไป เป็นมาของพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ก็ต้องดูที่นี่ คะ ศิษย์วัดท่าซุง นะคะ
ทีมตามรอยพระพุทธบาท



ชมภาพและเรื่องราวได้ที่ลิงก์นี้ คะ


 http://tamroiphrabuddhabat.com/xmb/viewthread.php?fid=23&tid=904&action=printable

ยังมีคนอีกมากมาย ที่ร่วมปิดทองหลังพระ อยากเชิญท่านทั้งหลายมาร่วมปิดทองหลังพระกัน

  การปิดทอง หลัง พระ เป็นอุดมคติ ที่ตอนนี้อาตมา วางไว้กับการเผยแผ่พระกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ
ดังนั้นท่านทั้งหลายจึงจะเห็นได้ว่า ในเว็บไม่ใคร่มีรูปอาตมา หรือ แสดงประวัติอาตมา เพื่อมาโปรโมทแต่ประการใด แต่ที่ต้องการอยากให้ท่านทั้งหลาย รู้จัก พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พระกรรมฐาน ผู้บอกกรรมฐาน เช่น พระอริยะราหุลมหาเถรเจ้า เป็นต้น จนถึง ยุคนี้มี สมเด็จพระสังฆราช พระญาณสังวร ( หลวงปู่ ไก่เถื่อน ) ตลอดถึงครูอาจารย์อย่าง พระครูสิทธิสังวร (หลวงพ่อวีระ) ผู้สืบทอดกรรมฐาน ปัจจุบันที่วัดราชสิทธาราม เป็นที่สุดกันตอนนี้


   ดังนั้นอยากให้ท่านทั้งหลายมาร่วมปิดทองหลังพระ เชิดชู พระกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับกันให้มากขึ้น

  เจริญพร / เจริญธรรม

   

  อนุโมทนา สาธุ คะ ได้รับประโยชน์จากเนื้อหาธรรมะ ที่นี่มาตลอดคะ และทราบปณิธาน ของครูอาจารย์เป็นอย่างดีคะว่า มีความตั้งใจในการเผยแผ่ พระกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ คะ

 
  สาธุ เป็นกำลังใจให้พระอาจารย์ สู้ต่อไปนะคะ


 

ชื่นชมกับทุกท่านคะ ได้สวดตามแล้วคะ แต่สวดไปเรื่อย ๆ คะ ตอนนี้สวดวันละ 9 จบเห็นผลมากเลยคะ
เมื่อวาน รวย ๆ คะ สวดแค่ 7 วันเอง รวยเลยคะ ซื้อหวยไม่เคยถูกเลย เมื่อวานถูก 3 ใบคะ

 อิ อิ อย่าอิจฉานะคะ รู้สึกว่า มนต์ศักดิ์สิทธิ์มากคะ ก็เลยตั้งใจจะสวด วันละ 9 จบทุก ๆ วัน คะ

 


อนุโมทนา กับทุกท่าน คะ

 

สุดยอดคะ มีเรื่อง ของคนชมพูทวีป แต่งงาน กับ งานคนอุตตรกุรุทวีป แล้ว สมกับเป็นผู้รอบรู้จริง ๆ คะ

 

อยากเรียน ถาม พระอาจารย์ และ  เพื่อนสมาชิก บางครั้งเราวิตกกังวล เหมือนคนคิดมาก กินไม่ได้ นอนไม่หลับ พะวักพะวงกับ เรื่องต่าง ๆอันนี้จะัแก้ไขในกรรมฐาน อย่างไรดี คะ ?

  คือ มีเรื่องกังวลมากในการใช้ชีวิตประจำวัน เวลาภาวนา มันก็ไม่อยากทำ ซะดื้อ  ๆ คะ

   

น่าจะตัดเรื่องปฏิบัติธรรม มาอีกส่วนนะคะ หัวข้อจะไ้ด้ไม่ตกลงไปเพราะเข้าใจผิดว่า เลยวันที่ 7 มี.ค 55 แล้ว

 

ใครมีความรู้สึก ว่าทำความดีกับเขาไม่ขึ้นบ้างคะ ( ทุกข์ใจมากคะ )

   คือ พยายามทำความดี ไม่เคยพูดร้ายให้ใคร ช่วยเหลือทุกคน แต่คนที่เราต้องกระทบอยู่ตลอดนั้นกับเอาเปรียบเรามากขึ้น และเบียดเบียนเรามากขึ้น เพราะเหตุใดคะ

   รู้สึกท้อแท้ ในการทำความดี.... เหมือนกันคะ .....

    :'(

อนุโมทนา สาธุ คะ




 

อนุโมทนา สาธ คะ

อ่านแล้ว รู้สึกหดหู่ เพิ่มอีกนะคะ แล้วเราจะไปพึ่ง พระสงฆ์ ที่ไหนกันได้นี่ นอกเสียจากพระธรรม เอาเข้าจริง ๆ เวลาทุกข์จริง ดิฉันบอกตามตรงเลยนะคะ

    มีอยู่วันหนึ่ง ดิฉัน ทุกข์มาก ทุกข์กับขนาดจะฆ่าตัวตายเลยคะ ตอนนั้นได้ฟังธรรม ศึกษาธรรมภาวนามาก็บ้างแล้ว แต่ความทุกข์อันนี้กับชนะธรรมะที่อยุ่ในใจ วันนั้นดิฉันก็ตัดสินใจคะว่า จะฆ่าตัวตาย หรือหนีหายไปจากโลกนี้ แต่ก่อนจะทำแบบนั้น ก็นึกขึ้นว่าจะได้ทำบุญก่อนจึงได้ไปที่วัด  สุเทพ ได้นั่งสงบมอง พระธาตุที่เด่นสง่า และได้พักหย่อนใจที่พระะธาตุอยู่อย่างนั้นตั้งแต่ 4 โมงเช้า จนถึง เย็นตอนนั้นก็ได้สติ อิ่มใจที่ได้เห็นพระธาตุ และมองเห็นผู้คนมากมายที่ได้เดินทางมาทำบุญกันที่พระธาตุ  ทุกคนรักบุญสร้างบุญ และ เห็นความสำคัญของบุญที่แน่นอนทุกคนอิ่มใจ ที่ได้เห็นองค์พระธาตุ ความสงบและทุกข์ทั้งมวลที่มีอยู่กํพลันสงบตาม

    เย็นนั้นพอกลับมาถึง ก็มานั่งทบทวนความอิ่มใจ นี้ สลับ กับความทุกข์ และเข้ามาศึกษาธรรมในบอร์ดนี้ จนได้พบพระธรรมคำแนะนำการปฏิบัติ ก็ติดตามเป็นสมาชิกมาถึงปัจจุบัน

    สิ่งสำคัญที่จะบอก็คือ เมื่อความทุกข์เข้ามามาก ๆ สิ่งที่จะช่วยได้แท้ ๆ ก่อนเบื้องต้นก็คือ การได้เห็น พระพุทธเจ้า พระธรรม และ พระสงฆ์ และ สติ จะเกิดขึ้นแต่ต้องใช้เวลากันพอสมควร

    ก็ขอให้ทีมงานมัชฌิมา ทุกท่านมีกำลังใจเผยแผ่พระธรรม ช่วยคนที่มีความทุกข์กันต่อไปนะคะ

   

เจ๋ง อะ มีอีกหรือ ไม่คะ ลุงปุ้ม

   จัดอีก จัดอีก จัดอีก

   

อนุโมทนา สาธุ คะ อยากไปเวียนเทียนที่วัดราชสิทธารามสักครั้ง คะ
แต่ขอไปใกล้ ๆ ก่อนนะคะ

   

น่าจะผิดศีล นะคะ แต่ ส่วนตัวก็ชอบเพลงสวดมนต์ คะ เช่น เพลง ชินบัญชร คะ
 

แสดงว่า ช่วงนี้ใครได้รับ จดหมายตอบจากพระอาจารย์ นับว่าโชคดีมาก ๆ เลยคะ
ดูจากจำนวนจดหมาย  ค้าง อย่างนี้ น่าเห็นใจพระอาจารย์ นะคะ