พุทฺโธติ กิตฺตยนฺตสฺส กาเย ภวติ ยา ปีติ
วรเมว หิ สา ปีติ กสิเณนาปิ ชมฺพุทีปสฺส
ความปิติโสมนัสที่เกิดในกาย
ของบุคคลผู้เปล่งวาจาว่า "พุทโธ"
ประเสริฐกว่าสมบัติทั้งปวงในชมพูทวีป
ที่มา : ที. อฏ. ๑/๕๓
หนังสือพระปริตรธรรม (พระคันธสาราภิวงศ์ ธรรมาจริยะ, อภิวังสะ)
ขอบคุณภาพจาก
http://www.1442125mhz.com/
อรรถกถา ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค
พรหมชาลสูตร
ถามว่า ก็เพราะเหตุไรจึงตรัสดังนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสสรรเสริญปีติ และโสมนัสในพระรัตนตรัยนั่นเทียว โดยพระสูตรหลายร้อยสูตร มีอาทิอย่างนี้ว่า
"ผู้ที่ประกาศว่า พุทฺโธ ธมฺโม สงฺโฆ เกิดปีติไปทั่วกาย ก็ปีตินั้นประเสริฐกว่าชมพูทวีปเสียอีก"
และว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ชนเหล่าใดเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า ชนเหล่านั้นชื่อว่าเลื่อมใสในวัตถุอันเลิศดังนี้ มิใช่หรือ?
ตอบว่า ตรัสสรรเสริญไว้จริง แต่ปีติและโสมนัสนั้นเกี่ยวกับเนกขัมมะในที่นี้ทรงประสงค์ปีติและโสมนัสที่เนื่องด้วยการครองเรือนอย่างที่เกิดขึ้นแก่ท่านพระฉันนะ โดยนัยว่า พระพุทธเจ้าของเรา พระธรรมของเรา ดังนี้เป็นต้น.
ด้วยว่า ปีติและโสมนัสที่เนื่องด้วยการครองเรือนนี้ ย่อมกระทำอันตรายแก่การบรรลุฌาน เป็นต้น.
ด้วยเหตุนั้นแหละ แม้ท่านพระฉันนะจึงไม่สามารถที่จะทำคุณวิเศษให้บังเกิดได้ตลอดเวลาที่พระพุทธเจ้ายังไม่เสด็จปรินิพพาน.
แต่ท่านได้ถูกคุกคามด้วยพรหมทัณฑ์ที่ทรงบัญญัติไว้ในปรินิพพานสมัย
ละปีติและโสมนัสนั้นได้แล้ว จึงยังคุณวิเศษให้บังเกิดได้.
เพราะฉะนั้น พึงทราบว่าปีติและโสมนัสที่ตรัสแล้วนี้
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสหมายปีติและโสมนัสที่ทำอันตรายเท่านั้น.
ก็ปีตินี้ที่เกิดพร้อมกับความโลภ และความโลภก็เช่นกับความโกรธนั่นเอง.
อย่างที่ตรัสไว้ว่า (๗-)
คนโลภย่อมไม่รู้อรรถ คนโลภย่อมไม่เห็นธรรม
เมื่อนรชนถูกความโลภครอบงำ ย่อมมืดตื้อทันที
ความโลภก่อให้เกิดความพินาศ ความโลภทำให้จิต
อยากได้ ชนไม่รู้จักความโลภนั้นซึ่งเป็นภัยเกิดในภายใน ดังนี้. ____________________________
(๗-) ขุ. อิติ. เล่ม ๒๕/ข้อ ๒๖๘
อ้างอิง : อ่าน เนื้อความในพระไตรปิฎก
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=09&A=1&Z=1071ที่มา
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=9&i=1&p=3ขอบคุณภาพจาก
http://4.bp.blogspot.com/