ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไมแม่คนนี้..ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ 'ลูกได้บวช'  (อ่าน 4377 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28456
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


    หลังแต่งงานไม่กี่เดือนก็เริ่มมีอาการแพ้ท้อง คือ เวียนหัว หิวผิดปกติ จากอาหารที่เคยชอบ มาก ๆอยู่ ๆ ก็เกิดเหม็นกินไม่ได้ จนอยากอาเจียน พอได้ไปพบแพทย์จึงได้ทราบว่าตัวเอง ตั้งครรภ์ได้ ๒ เดือนแล้ว

    ความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นตอนนั้น ตื่นเต้นมาก ..ตื่นเต้นที่กำลังจะได้เป็นแม่ และครั้งแรกที่ลูกในท้องดิ้นถีบเราจนท้องโย้ไปโย้มา ได้ตอกย้ำถึงความรู้สึกว่า มีอีกชีวิตหนึ่งที่จะมาอยู่กับเราจริง ๆ จนกระทั่งครบกำหนดคลอด ต้องเจ็บท้องเป็นชั่วโมง ทรมานมากจนทำให้เสี้ยววินาทีนั้น

    คิดถึงแม่ของเราเอง คิดถึงแม่จนน้ำตาไหล และเพิ่งเข้าใจอย่างซาบซึ้งว่า แม่ของเราเจ็บแค่ไหน เพิ่งเข้าใจถึงความรักที่แม่มีต่อเราตอนนั้นเองว่ามากขนาดไหน เพราะชีวิตน้อย ๆ ที่กำลังจะคลอดอยู่นี้ ทำให้เรารักเขาขึ้นมาอย่างท่วมท้นทันที อย่างที่ไม่เคยเป็นกับใครมาก่อน ทั้ง ๆ ที่ก็ไม่รู้เลยว่า โตขึ้นเขาจะเป็นคนดีหรือไม่ดี เขาจะดีได้สมกับความรักที่เราให้เขาหมดใจอย่างนี้ไหม

    ครั้งแรกที่พยาบาลอุ้มลูกมาให้ เราได้ฝึกเป็นคุณแม่มือใหม่ในการให้นมลูก ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกเลย เห็นลูกตัวแดง ๆ และอ่อนนุ่มนิ่มมาก จะประคองอุ้มลูกก็ยังไม่ชินมือ กลัวลูกเจ็บ กลัวลูกตกลงมา

    ช่วงที่เราให้นมลูก ๓ เดือนนี้ เป็นช่วงเวลาแห่งภาระแต่มีความสุขที่สุด เป็นช่วงแห่งความผูกพันกับชีวิตในอ้อมแขนอย่างแนบแน่น จนเผลอคิดไปไกลว่า ชั่วชีวิตนี้คงไม่มีความรักไหนเป็นรักแท้ ที่ทำให้เราผูกพันอย่างสามารถเอาชีวิตเข้าแลกได้เหมือนชีวิตน้อย ๆ ที่อยู่ในอ้อมอกนี้อีกแล้ว



วินาทีแห่งความพลัดพราก

     ความรักที่เรามีต่อลูกได้เพิ่มขึ้นทุกวัน ถึงขนาดคิดไปว่า แม้ความตายจะมาหยุดชีวิตเรา ณ ตอนนี้ ก็ไม่อาจหยุดความรักที่เรามีต่อลูกได้ แต่เพราะความจน และเราก็ไม่อยากอดตาย อีกทั้งเรามีภาระ คือ ลูก ทำให้ต้องจำใจกลับไปรับจ้างทำงานโรงงานที่กรุงเทพ

     เพื่อแลกกับค่าแรงงานขั้นต่ำ เราจึงต้องยกลูกให้ยายเขาเลี้ยงไปก่อน ตอนพรากจากลูกนั้น ทำใจแทบไม่ได้ นอนร้องไห้น้ำตาไหลอยู่เป็นเดือน ๆ เพราะคิดถึงลูกมาก พอเงินเดือนออก ก็รีบส่งธนาณัติไปให้ยายของเขาเพื่อเป็นค่านมลูก อีกทั้งยังเขียนจดหมายไปถามเรื่องลูกไม่เคยขาด

     นับจากนั้น... เราต้องเร่ร่อนทำงานโดยไม่ได้อยู่กับลูก จึงมีความรู้สึกว่า ลูกจะเข้าใจแม่อย่างเราไหม ลูกจะคิดกับเราอย่างไร ลูกรักเราเหมือนกับที่เรารักเขาไหม ตลอดเวลาที่ผ่านมานานถึง ๒๑ ปี สิ่งหนึ่งที่อยู่ในใจเรานับตั้งแต่คลอดเขา คือ เราไม่เคยได้ยินคำว่า รักแม่ ออกจากปากเขาเลย

     แต่สำหรับเราแล้ว เราก็ไม่เคยรักลูกลดลงเลย แถมยังทรมานใจที่ครอบครัวเราไม่ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาอย่างมีความสุขเหมือนกับครอบครัวอื่น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เราเป็นห่วงลูกมากกว่าแม่ปกติทั่วไป เพราะกลัวลูกจะกลายเป็นเด็กมีปัญหา

    พอเขาโตเป็นวัยรุ่น เป็นช่วงที่ลูกเกเรที่สุด จนเรารู้สึกทุกข์มาก วัน ๆ ต้องมานั่งกังวลว่า ลูกจะไปตั้งวงเหล้าที่ไหน จะไปก่อเรื่องกับใคร จะไปนอนค้างบ้านเพื่อนคนไหน ห่วงจนอดโทร.หาลูกไม่ได้ เพราะเราเห็นมานักต่อนักแล้วว่า คนกินเหล้าสุดท้ายก็ขาดสติ ทำเรื่องที่ไม่คาดคิด บางครั้งก็ต้องมาเสียชีวิต  

     และถ้าลูกเราต้องเป็นอย่างนั้นไปจริง ๆ แม่อย่างเราจะทำอย่างไร และพอเราโทร.ไปหาลูก เราบอกลูกว่า อย่ากินเหล้านะลูก เขาก็ตอบเราว่า ครับแม่ แต่ไอ้ครับ ๆ นี่แหละ กำลังเมาแป้คาขวดอยู่ และพอเราบอกลูกว่าอย่าดื้ออย่าเกเร เขาก็ว่าแม่ไม่เข้าใจวัยรุ่น



    ช่วงนั้น..ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนเป็นแม่อย่างเราจะแก้ปัญหานี้อย่างไร จนกระทั่งเราได้มารู้จัก วัดพระธรรมกาย ทำให้เราซาบซึ้งในธรรมะ เห็น ข้อวัตรปฏิบัติของหลวงพ่อ เห็นพระที่มีศีลาจารวัตรงดงาม ทำงานให้พระพุทธศาสนาอย่างทุ่มชีวิต อย่างนี้ เราจึงเกิดความคิดขึ้นมาว่า อยากให้ลูกชายเรา ได้บวชเป็นพระวัดนี้กับเขาบ้าง จะได้ฝึกตน แก้ไขในสิ่งไม่ดี

     และนับจากนั้นไม่ว่าจะทำบุญอะไร ก็อธิษฐานขอให้ลูกชายเราได้บวช จนกระทั่งหลวงพ่อจัดให้มีโครงการบวช ๑๐๐,๐๐๐ รูป เราจึงคิดว่า คราวนี้เป็นอย่างไรเป็นกัน ต้องเกลี้ยกล่อมให้ลูกชายบวชในโครงการนี้ให้ได้ เพราะเราอยากให้เขาเป็นคนดี เราไม่อยากเป็นห่วงลูกไปจนวันสุดท้ายของชีวิตความเป็นแม่

    จากนั้นเราก็โทร.ไปหาลูก บอกให้เขามาหาแม่หน่อย พอเขามาเราก็พาเขาไปวัด พาลูกเข้าไปกราบรูปหล่อหลวงปู่วัดปากน้ำ อธิษฐานบอกท่านว่า นี่คือ ลูกชายของลูก วันนี้ลูกจะมายกลูกคนนี้ถวายให้เป็นลูกหลวงปู่ กราบขอบารมีหลวงปู่ดูแลให้เขาอยู่ในเส้นทางบุญ ขอให้เขาได้บวชด้วย

     และช่วงที่เราพาลูกมากราบรูปคุณยายอาจารย์ฯ เราก็ได้บอกให้เขาสัญญากับเราว่า นับจากนี้เขาจะไม่ทำตัวเกเรอีก เกิดมาชาตินี้แม่ไม่ขออะไรมาก ขอให้ลูกบวชให้แม่ที่วัดนี้สักครั้งได้ไหม ลูกก็ตอบเราออกมาว่า บวชก็ได้...



ลูกหนีบวช

    หลังจากที่ลูกรับปากเราว่าจะบวชก็จริง แต่สิ่งที่เขาทำกลับตรงกันข้ามทุกอย่าง จนตอนหลังเรามารู้ว่า ลูกตอบเราไปอย่างนั้นเอง แต่หากเขามาแอบรู้ความรู้สึกของผู้เป็นแม่ที่มีความปรารถนาอย่างแรงกล้า ที่จะให้ลูกชายได้บวชอยู่กับหลวงพ่อแล้ว เขาจะรู้ว่า คำพูดของเขาในวันนั้น ทำให้เราดีใจมากที่สุดในชีวิตเหมือนไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว

     แต่พอเหตุการณ์กลายเป็นแบบนี้ ใจมันเจ็บแปลบ รู้สึกสะเทือนใจ เสียใจ แต่ก็บอกใครไม่ได้ เพราะรู้ว่า ถ้าพูดไป เขาจะหาว่าเราเป็นแม่ที่เวอร์ หรือบังคับลูกจนเกินไป แต่หากทุกคนได้มายืนในสถานะเดียวกับเรา คือ เป็นแม่จน ๆ ที่ไม่มีสมบัติอะไรจะให้ลูก แต่สิ่งเดียวที่จะให้เขาได้ คือ ทำให้เขาเป็นคนดี ซึ่งหากสิ่งนี้แม่อย่างเรายังให้เขาไม่ได้อีก เราคงตายตาไม่หลับ

     ตอนนั้นเรากังวลมากจนต้องลางานไปลพบุรี ยอมขาดรายได้ไปช่วงหนึ่ง เพื่อไปพูดให้ลูกยอมบวชให้ได้ พอไปถึงลูกชายก็ถามเราว่า แม่มาทำไม แต่เขามองตาเรา เขาก็รู้ว่าเราจะมาเอาเขาไปบวช ลูกชายก็เลยรีบโทร.หาเพื่อน ให้ขับรถมารับพาเขาหนีไปนครสวรรค์ทันที

     การกระทำของลูกในครั้งนั้น ได้ทำให้แม่สะเทือนใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า การที่ลูกรับปากแม่แล้วไม่ยอมบวชให้และหนีไปอย่างนี้ ทำให้ทุกอย่างคลาดเคลื่อนเลือนรางไปหมด แม้เราโทรศัพท์ไปหาลูก เขาก็ไม่ยอมรับสาย หายหน้าหายตาไปเลย

     และขณะเดียวกัน ยายเขาก็โทร.มาว่า ลูกชายเราไปอยู่กับเพื่อนไม่ยอมกลับบ้านกลับช่องอีกแล้ว ไปตั้งวงเหล้า เป็นไอ้ขี้เมาอีก เราจึงคิดในใจว่า หากเราเอาลูกบวชได้ จะไม่ให้เขาบวชที่ลพบุรี เพราะเพื่อนต้องไปชวนให้สึกออกมากินเหล้ากันต่อ กลัวลูกอยู่ไม่จบโครงการ



     ช่วงนั้นจึงนั่งสมาธิ อธิษฐานขอหลวงปู่ และทำทุกวิถีทาง เดินสายหาคนไปช่วยพูดกับลูกชาย เพื่อให้เขายอมบวช และสุดท้ายก็ไปปรึกษาพระอาจารย์หัวหน้าศูนย์อบรมที่ จ.ขอนแก่น บอกท่านว่า อยากให้เขาบวชไกล ๆ บ้าน ให้บวชที่ขอนแก่น จะได้หนีกลับบ้านไม่ได้ ท่านก็รับปากว่าจะช่วย

     จากนั้นเราจึงโทร.ไปนัดแนะกับยายว่า ทำอย่างไรก็ได้ให้หลานอยู่บ้านคืนนี้ให้ได้ จากนั้น.. เราผู้เป็นแม่ก็แอบเตรียมชุดนาค เตรียมเครื่องใช้ ในการอบรมทุกอย่างให้ครบ และคืนนั้นเอง.. พระอาจารย์ก็ให้คนขับรถตีรถจาก จ.ขอนแก่นไป จ.ลพบุรี ไปถึงบ้านเราเที่ยงคืน ปรากฏว่าลูกหลับไปแล้ว แต่ก็ไปปลุกเขาขึ้นมา และให้พระอาจารย์พูดชวนไปขอนแก่นในคืนวันนั้นทันที ซึ่งทันเข้าโครงการอบรมธรรมทายาทเพราะเป็นวันเปิดการอบรมพอดี

     นับจากนั้นเราก็นั่งภาวนาทุกลมหายใจว่าให้ลูกเราบวชให้ได้ ให้เขาอยู่จนครบโครงการให้ได้ นับวันรอจนถึงวันที่ต้องไปทำพิธีขอขมาด้วยใจที่ตุ๋ม ๆ ต่อม ๆ ตลอดเวลาว่า ลูกจะหนีไปหรือยัง แต่พอเราเห็นลูกอยู่ในขบวนแถว ก็รู้สึกดีใจ เต็มตื้นน้ำตาซึม อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

    และกราบแรกที่ลูกก้มกราบเรา เรานึกขอบพระคุณหลวงปู่ที่ช่วยให้เรามีวันนี้ เป็นวันที่แม่อย่างเรารอคอยมาชั่วชีวิตก็ว่าได้ ซึ่งก็เหลือเชื่อค่ะ ที่สุดท้ายลูกชายยอมบวชจนจบโครงการ และก็ตัดสินใจบวชเป็นพระพี่เลี้ยงช่วยงานบวชอุบาสิกาแก้วต่อทั้ง ๒ รุ่น

     ตอนลูกบวชอยู่ เรารู้สึกหมดห่วงในทุกสิ่ง หากเป็นไปได้เราอยากให้เขาบวชอย่างนี้ตลอดไป สิ่งนี้เราไม่ได้ปรารถนาเพื่อตัวเอง แต่เราอยากให้ลูกบวชเพื่อให้เขามีชีวิตที่ปลอดภัยในวัฎสงสาร เพราะความรักจากแม่แม้มากขนาดไหน หรือจะเอาหัวใจของความเป็นแม่มาเดิมพัน ก็ช่วยให้ลูกไม่ให้ตกนรกจากความผิดพลาดที่เขาเคยทำมาไม่ได้ แต่หากเราทำให้ลูกได้บวช บุญบวชนี่แหละจะอุ้มไม่ให้ลูกเราตกนรก

    เพราะไม่มีแม่คนไหนอยากให้ลูกตัวเองตกนรก และถ้าลูกเป็นพระเราก็ไม่ต้องห่วงอะไรมากว่า วัน ๆ เขาจะไปกับใคร ไปไหน เพื่อนที่เขาคบดีไหม ขับรถดึก ๆ จะไปชนไหม วันที่ลูกกินเหล้า เขาจะไปมีเรื่องไหม เพราะขณะบวชในโครงการของหลวงพ่อนี้ เขาต้องเอากำลังกาย กำลังใจมาช่วยงานพระศาสนา ช่วยงานหลวงพ่อ ซึ่งตัวเขาเองก็ได้บุญ พระศาสนาก็เจริญ



คำว่ารักจากลูก ที่แม่รอคอยมาถึง ๒๑ ปี

      มีวันหนึ่งที่พระลูกชายโทร.มาหาเรา ได้บอกเราว่า ท่านได้อะไรดี ๆ จากการบวชมากมาย ได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ ท่านภูมิใจที่ได้เป็นพระอาจารย์เทศน์สอนด้วย และท่านได้มาสารภาพกับเราว่า

      ตลอดเวลาก็รู้ว่าโยมแม่รักและเป็นห่วง แต่ที่ผ่านมาขอดื้อบ้าง เพราะเป็นช่วงวัยรุ่น และท่านก็บอกโยมแม่ว่า รักโยมแม่นะ พอเราฟังตรงนี้ เราเต็มตื้นมาจุกอยู่ที่คอ เพราะตลอดเวลา ๒๑ ปีเท่าอายุลูก เราไม่เคยรู้เลยว่า ลูกคิดอย่างไรกับเรา แต่วันนี้เรารู้แล้วว่า เขารักแม่



ที่มา  วารสารอยู่ในบุญ
เรื่อง : ร.ลิ่วเฉลิมวงศ์ e-mail : r.luck072@gmail.com ภาพถ่าย : ศูนย์ภาพนิ่ง
http://www.kalyanamitra.org/u-ni-boon/main/index.php?option=com_content&task=view&id=715&Itemid=1
ขอบคุณภาพจาก http://www.kalyanamitra.org/,http://www.dmc.tv/,http://www.dhammathai.org/,http://www.lannatalkkhongdee.com/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 09, 2012, 10:25:39 am โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28456
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
อยากกลับบ้านจัง เก็บตังค์จะไปฝากแม่
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: สิงหาคม 09, 2012, 10:49:04 am »
0


อัปโหลดโดย 2530180987 เมื่อ 28 เม.ย. 2009

เพลง : จองตักล่วงหน้า
ศิลปิน : แพรวา พัชรี
อยากกลับบ้านจัง เก็บตังค์จะไปฝากแม่
ยื่นใบลากับเถ้าแก่ วันแม่ลูกจะกลับบ้าน
แรงใจร่อยร้อ คำว่าท้อเริ่มมารุกราน
เกือบปีห่างมาสู้งาน คิดถึงบ้านคิดถึงแม่


หมาน้อยโด่โด๊ ป่านนี้คงโตแล้วใช่ไหม
ข่าวว่าแม่ยังร้อยมาลัย รับจ้างเขาโถคงเหนื่อยแย่
ลูกห่วงแม่นะ อยากอยู่พร้อมหน้าอยากมาดูแล
เตรียมซื้อของมาฝากแม่ รับรองแน่ว่าแม่ชอบ

* ตลาดนัดตรงหน้าปากซอย หนูไปเดินบ่อยเดือนละหลายรอบ
เสื้อสวยใส่แล้วดูสาว อีกทั้งรองเท้าแบบที่แม่ชอบ
กระเป๋าถือรุ่นที่อินเทรนอยู่ ไม่บอกก็รู้แบบนี้แม่ชอบ
จริงๆ ก็อยากซื้อหลายอย่าง แต่ว่ากะตังถามแล้วไม่ตอบ
จึงห่อรักไว้เป็นหอบ ไว้แทนคำตอบเมื่อตอนพบกัน


** อยากกลับบ้านจัง กำลังเก็บตังค์อยู่นะแม่
ถึงไม่รวยก็ไม่แคร์ วันแม่ลูกต้องกลับบ้าน
จองตักล่วงหน้า จองแววตาอิ่มรักคู่นั้น
อ้อมแขนลูกเหงามานาน วันนั้นจะไปกอดแม่
(ซ้ำ * , **)

บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28456
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ลูกทำงานหนัก เพราะอยากเห็นแม่พักผ่อน
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: สิงหาคม 09, 2012, 11:28:22 am »
0


อัปโหลดโดย phnu665 เมื่อ 24 มิ.ย. 2009


เพลง : หยาดเหงื่อเพื่อแม่
ศิลปิน : ตั๊กแตน ชลดา, เสถียร ทำมือ

ลูกทำงานหนัก เพราะอยากเห็นแม่พักผ่อน
จิตใจอาวรณ์ ถึงตอนแม่นั้นลำเค็ญ
ซิ่นสวยสักผืน เสื้อตัวงามบ่เคยได้เห็น
เลี้ยงลูกบนทางลำเค็ญ ลูกเห็นแม่เหนื่อยมาพอ


อยู่ กทม. สานก่อเพื่อแม่ทุกอย่าง
ทำงานรับจ้าง หาทางสร้างฝันวันรอ
ได้เงินบาทใด๋ อย่ารอให้แม่ต้องเอ่ยขอ
ส่งรายเดือนมารอ คงพอให้แม่สบาย


ผ้าซิ่นผืนใหม่ ถูกใจซื้อมาใช้หน่อย
อาหารอร่อย ถูกปากแม่อย่าห้ามใจ
งานหนักงานเบา จ้างใครเขาทำแทนก็ได้
เก็บแรงไว้กอดลูกชาย ในวันที่กลับคืนนา


ลูกทำงานหนัก เพราะอยากเห็นแม่พักผ่อน
สิ่งใดบั่นทอน ปล่อยวางเสียบ้างเถิดหนา
ลูกเสียเหงื่อไป บ่เสียดายดอกนะแม่จ๋า
ขอเพียงวันลูกคืนนา ได้เห็นแม่มีสุขใจ

ลูกทำงานหนัก เพราะอยากเห็นแม่พักผ่อน
สิ่งใดบั่นทอน ปล่อยวางเสียบ้างเถิดหนา
ลูกเสียเหงื่อไป บ่เสียดายดอกนะแม่จ๋า
ขอเพียงวันลูกคืนนา ได้เห็นแม่มีสุขใจ

บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28456
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
เขียนคำแม่สอน เป็นกลอนติดไว้ข้างฝา
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: สิงหาคม 09, 2012, 11:32:22 am »
0


อัปโหลดโดย Camvidz เมื่อ 12 ส.ค. 2009

เนื้อเพลง เพื่อแม่แพ้บ่ได้
ศิลปิน ตัีกแตน ชลดา

เขียนคำแม่สอน เป็นกลอนติดไว้ข้างฝา
เลิกงานกลับมา อ่านทวนให้จำคำวอน
เรียนรู้สู้งาน อย่าลืมบ้านเกิดเมืองนอน
ครอบครัวเรายังเดือดร้อน แม่พร่ำสอนก่อนไกลบ้านมา


สายตาแม่เหงา เป็นเงาติดใจไม่หาย
ลูกมาอยู่ไกล ห่วงใยแม่ทุกเวลา
สู้งานเหนื่อยกาย อ่อนใจเมื่อเจอปัญหา
หลายคราวอยากถอดใจลา แต่แววตาแม่คอยเตือนใจ

แพ้บ่ได้ บอกใจอย่าให้อ่อนแอ
ทุกข์ใดรังแก กี่แผลก็แพ้บ่ได้
คนรักจากลา น้ำตาก็รินท่วมใจ
ตกงานกี่ครั้ง ผิดหวังกี่คราวร้องไห้
หากแม่ยังมีทุกข์ใจ เจ็บแค่ไหนบอกใจห้ามถอย


เขียนคำแม่สอน เป็นกลอนติดไว้ข้างฝา
ย้ำเตือนผ่านตา ให้จำแม่ยังรอคอย
อดทนสู้งาน เจ็บกำเพิ่มสิบเป็นร้อย
เมื่อถึงวันที่รอคอย จะนำรอยยิ้มไปกราบแม่

เขียนคำแม่สอน เป็นกลอนติดไว้ข้างฝา
ย้ำเตือนผ่านตา ให้จำแม่ยังรอคอย
อดทนสู้งาน เจ็บกำเพิ่มสิบเป็นร้อย
เมื่อถึงวันที่รอคอย จะนำรอยยิ้มไปกราบแม่

บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0


เพรียกรำพัน..กราบสู่ดิน

     แม่อุ้มครรภ์เติบเฝ้า           เคลื่อนคลอด
แม่หนักแนบโอบปลอด         แม่ป้อง
แม่อกแหวกป้อนกอด          ร้องแรก
แม่เอ่อท้นถ้อยจ้อง            จูบเท้าเจิมสวัสดิ์.

                                                       ธรรมธวัช.!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 10, 2012, 04:40:09 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา