ก็หาข้อมูลเพิ่มขึ้น นะครับ
ส่วนใหญ่ ที่รับฟัง มาก็จากที่ทำงาน ใน รพ.สระบุรี ครับ แต่คงให้ระบุตัวกันคงไม่ได้นะครับ เพราะพอถามไล่ไป ไล่มา ก็ฟังมาอีกต่อ อีกต่อ อีกต่อ และก็อีกต่อ เพื่อให้หมดความสงสัย ก็เลยไปที่วัดสนทนากับพระสองสามรูป และ เรียนถามเจ้าอาวาส ตลอดลองถามชาวบ้านร้านค้า หน้าวัด ดูก็พอประเมินได้ นิดหน่อยครับ
เรื่องเจ้าอาวาส ไล่ออกนั้น เพราะยาเสพติดนั้น เรื่องนี้ไม่เป็นความจริงครับ เพราะสนทนากับท่าน พระครูสุธี เจ้าอาวาสวัดแก่งขนุน นั้นท่านบอกว่า ท่านขออนุญาตไปภาวนา เป็นการส่วนตัว ซึ่งท่านก็ให้อิสสระ เหมือนพระอีกรูปที่ไปอยู่ที่อินเดีย ครับ ( รู้สึกว่าท่านจะเรียกว่า พระปลัด )
ส่วนศาลากรรมฐาน นั้น ผมได้ขึ้นไปดูแล้ว ทุกอย่าง ยังจัดวางเหมือนเดิม ได้กราบรูปหล่อหลวงปู่บนศาลา ต้องเดินผ่านด้านหลังขึ้นไปนะครับ เพราะว่า ศาลาหน้านั้นล๊อกประตูแล้ว
จากที่ถามคุยกับพระมา พอสรุปได้ดังนี้นะครับ
1.พระสนธยา ท่านอุปสมบถที่วัดแก่งขนุน มีพระอุปัชฌาย์ คือ รองเจ้าคณะจังหวัด พระราชเมธากร เป็นอุปัชฌาย์ พระกรรมวาจาจารย์ คือ พระอาจารย์คำร้อย ( เจ้าคณะตำบล ) พระอนุสาวนาจารย์ คือ พระมหาสมหมาย ( เจ้าคณะอำเภอ ) ท่านขึ้นกรรมฐาน ที่วัด พลับ ( วัดราชสิทธาราม ) ปี พ.ศ.2546 และท่านก็มักจะพาญาติโยมที่นี่ไปขึ้นกรรมฐาน ที่วัดพลับเป็นประจำ ทั้งพระและฆราวาส
2.การออกวิเวก เป็นเพราะท่านต้องการภาวนาให้มากขึ้น จึงขออนุญาตเจ้าอาวาส อย่างเป็นทางการ และเข้าไปอยู่ในที่ ท่านชอบเป็นการส่วนตัว สถานที่ ๆ ท่านไปปฏิบัติธรรมในช่วงปี 2552 - 2554 นั้นคือ ไร่องุ่น ที่ซับสนุ่น มีพระท่านไปเยี่ยมท่านที่นั่น และถ่ายรูป สถานที่พักของท่านออกมา ตามภาพที่ปรากฏ และ ปี 2553 - 2554 ท่านก็ย้ายไป ย้ายมาระหว่าง ถ้ำไตรธรรม กับ ไร่องุ่น จากนั้น 2554 - 2556 อันนี้คาดการณ์ กันไปหลายที่ แต่ก็ไม่มีใครรู้จริง ในสถานที่ เพราะมีหลายที่ ๆ ทาง ผมออกมาสืบหา ก็ไม่เจอ ๆ แต่สถานที่ แต่ไม่เจอ พระสนธยา เคยที่ สำนักงาน 2 - 3 ครั้งแต่ก็ไม่เจอเห็นปิดเงียบ เลย ไปที่บ้านมารดา ก็ไม่เจอเช่นกัน
ดังนั้นส่วนนี้ จึงจัดได้ว่า ลึกลับ ๆ จริง ๆ หาพบได้ยาก
โดยหลักการพระที่ต้องการมีชื่อเสียง แต่ หนี คน ไม่รับ ลูกศิษย์ เพิ่ม นี่ มันสวนทางกันนะครับ ทำให้แน่ใจว่าพระสนธยา ท่านเป็นพระ สมถะ ทางด้านการภาวนาจริง ๆ ครับ ส่วนตัวยอมรับตรงนี้
ดังนั้นจึงเดินทางไปที่ วัดท่าพง สอบถามพระลูกศิษย์ ท่านก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอยู่ที่ไหน จึงเดินทางไปสอบถามที่วัดบ้านอ้อย พระนิพนธ์ ท่านก็ไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน ?
สรุป อย่าไปยุ่งเรื่องตามท่านเลยครับ ถึงเวลาที่ท่านเปิดรับศิษย์ ก็คงจะออกมาเองละครับ ตอนนี้ศึกษาธรรมจากเว็บกันไปก่อน จะดีกว่า
3. ปิดทองหลังพระ ชัดเจน มากครับ เพราะ ยิ่งอ่าน ก็ยิ่งสนใจธรรมเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันก็สบายใจ เพราะไม่มีเรื่องเรี่ยไร ไม่มีการบอกบุญก่อสร้าง ซึ่งเวลาผมไปปฏิบัติธรรมภาวนาตามวัด มักเจอเรื่องพวกนี้ประจำ ที่สำคัญ เว็บนี้เป็น อภิสิทธิ์ของพระสนธยา แต่ตัวเว็บ กลับไม่มีประวัติ หรือการโปรโมท ตัวท่าน ขึ้นมา อันนี้เข้าใจอย่างปัญญาชนจริง ๆ ว่า พระสนธยา และทีมงาน ทำงานเผยแผ่พระกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ด้วยความอดทน ถึงแม้จะมีอุปสรรค มาก แต่ทุกท่าน ทุกคนก็ยัง ทำงานแบบปิดทองหลังพระ กันอย่างไม่ท้อถอย