ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ตามหาผู้รู้ : ธรรมะยู-เทิร์น  (อ่าน 1540 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28446
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ตามหาผู้รู้ : ธรรมะยู-เทิร์น
« เมื่อ: เมษายน 11, 2015, 09:59:02 pm »
0
 

ตามหาผู้รู้ : ธรรมะยู-เทิร์น
โดย อิทธิโชโต

ผู้รู้ คือความรู้ที่เกิดขึ้นในจิตใจเรา เปรียบเทียบได้กับเพชรที่มีค่ามาก
การรู้สิ่งต่างๆ ภายนอก ยังไม่เรียกว่าความรู้ที่แท้จริง แต่ความรู้ที่แท้จริง คือ การมีสติเข้มแข็งที่หลอมรวมกับจิตเป็นหนึ่งเดียว ความรู้เช่นนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยาก เพราะมีสิ่งมาปิดบังมาก สิ่งที่ปิดบังความรู้คืออะไร ความโลภ ความโกรธ ความหลง ความขี้เกียจ ความเฉื่อยชา กิเลส ตัณหา ทุกอย่างเลย

การตื่นขึ้นมาทำความสงบแต่เช้าทุกวัน วันละนิดวันละหน่อย จะทำให้เราพบความรู้ หรือผู้รู้ในตัวเราเอง
ผู้รู้ คืออะไร ?
ผู้รู้คือ พุทธะ ผู้ใดเห็นผู้รู้ ผู้นั้นเห็นพระพุทธเจ้า
ผู้รู้ คือบรรทัดฐานของพระโสดาบัน
ผู้รู้ไม่ได้เกิดจากความคิด ความคิดเป็นเพียงสังขาร ไม่ใช่ธรรมะที่เกิดขึ้นจริงๆ ในใจเรา
ผู้รู้ อยู่กับเราทุกคน เป็นหลักธรรมชาติ ไม่ใช่ว่า คนนั้นมี คนนี้ไม่มี คนที่บอกว่า ตัวเองไม่มีเพราะยังไม่ได้ฝึกสติอย่างต่อเนื่อง ส่วนคนที่ตั้งใจฝึกสติอย่างต่อเนื่อง มีความมุมานะ เขาก็จะพบผู้รู้เองอย่างไม่ต้องสงสัย


 :25: :25: :25: :25:

พระพุทธเจ้า และครูบาอาจารย์พระสาวกทั้งพระภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ท่านหมั่นภาวนา ท่านจึงพบ ถ้าคิดเอาเฉยๆ ไม่ได้ การคิด ไม่เหมือนการกระทำ ดังที่หลวงปู่ดุลย์ อตุโลกล่าวว่า ความคิดไม่สามารถทำให้เรารู้ได้ แต่เมื่อหยุดคิดจึงจะรู้ การจะหยุดคิดได้ ต้องมีสติอยู่กับปัจจุบัน เพื่อกรองอารมณ์ไม่ให้ความคิดฟุ้งซ่านมารบกวน เหมือนเราเปิดน้ำใส่ถัง ถ้าเราเปิดๆ หยุดๆ มันก็ไม่เต็ม แต่ถ้าเราปล่อยให้น้ำไหลต่อเนื่องก็จะเต็ม

การภาวนาโดยอาศัยการบริกรรมพุทโธก็เช่นกัน ต้องต่อเนื่องไม่ให้ขาดสาย บริกรรมอย่างถี่ยิบ จึงจะเท่าทันความคิด ไม่เช่นนั้น ความคิดมันจะรบกวนเราเสมอ เพราะความคิดมันไม่มีตัวไม่มีตน สิ่งที่จะจับความคิดได้ ก็คือสติ เท่านั้น


 ans1 ans1 ans1 ans1

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน มีธรรมะบทหนึ่งที่ท่านกล่าวไว้น่าประทับใจมากว่า ถ้าโคหาย เราต้องตามรอยโค เพราะโคไปไหนก็มีรอย คำบริกรรมเหมือนรอยโค เราก็ตามไปเรื่อย คือบริกรรมไปเรื่อย ยังไม่เจอตัวโคก็ไม่เป็นไร เราก็ตามอยู่นั่นแหละ มันต้องถึงสักวันหนึ่ง พอเจอตัวโค เราก็ไม่ต้องเอารอยมันแล้ว แต่เราต้องอาศัยรอยโค เพื่อไปหาตัวโค

การที่เราจะพบผู้รู้ก็เหมือนกัน  เราอาศัยคำบริกรรม อานาปานสติ พุทโธ ธัมโม สังโฆ หรืออะไรก็ได้ที่ญาติโยมเรียนมา เพื่ออาศัยติดตามหาตัวผู้รู้ เมื่อไปถึงแล้วจะรู้เอง

ระหว่างการปฏิบัติตามหาตัวผู้รู้ เราจำเป็นต้องมีศรัทธา ความเพียร วิริยะอย่างหนักเพื่อการนี้ ขอให้เราระลึกว่า เราใช้ชีวิตทำอะไรต่ออะไรทางโลกมามากแล้ว กี่ปี มีทุกข์ก็เยอะแล้ว ลองมาภาวนากันดูว่าจะเป็นอย่างไร ใช้เวลาสักปีสองปีสามปีอยู่กับคำบริกรรมดู โดยที่เรายังไม่ต้องไปบวช ทำงานไปด้วย ภาวนาไปด้วย ถ้าไม่ถอย ไม่เกิน ๗ ปีต้องพบแน่ พระพุทธเจ้าตรัสไว้อย่างนั้น


ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20150411/204519.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: ตามหาผู้รู้ : ธรรมะยู-เทิร์น
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: เมษายน 12, 2015, 05:28:11 am »
0
 st11           :34:           thk56           :86:           st12
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ตามหาผู้รู้ : ธรรมะยู-เทิร์น
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: เมษายน 12, 2015, 07:59:03 pm »
0

      สาธุ สาธุ  ครับ

             
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา