ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: นิสิตสาวม.เกษตรฯโดดตึกสถาปัตย์ดับ  (อ่าน 4570 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

รักหนอ

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +22/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 369
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
นิสิตสาวม.เกษตรฯโดดตึกสถาปัตย์ดับ
« เมื่อ: ธันวาคม 09, 2010, 08:50:15 am »
0
เหตุนิสิตสาวโดดตึกรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 8 ธันวาคม ร.ต.อ.สมพร สะตะ พนักงานสอบสวน (สบ1) สน.บางเขน รับแจ้งเหตุ นิสิตหญิงกระโดดตึกภาย ในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ถ.งามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมฝ่ายสืบสวน หน่วยกู้ชีพ

 ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณอาคารคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ บนพื้นสนามหญ้าด้านข้างอาคารติดลานจอดรถ พบร่างหญิงสาวไม่ทราบชื่อ นอนหายใจรวยรินจมกองเลือดอยู่ในชุดนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เจ้าหน้าที่จึงรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนจะนำตัวส่งโรงพยาบาลวิภาวดี แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา

 ขณะเดียวกัน ตำรวจได้ขึ้นไปตรวจสอบบนชั้น 4 ของอาคารคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ พบรองเท้าคัตชูสีดำ วางอยู่บนพื้น 1 คู่ ที่ขอบหน้าต่างมีรอยเท้าในลักษณะปีนขึ้นไป เบื้องต้นสันนิษฐานว่า ผู้ตายน่าจะกระโดดลงมาจากชั้น 4 โดยขณะเกิดเหตุ มีเพียงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของมหาวิทยาลัยได้ยินเสียงคล้ายวัตถุ หนักตกลงมาบนพื้น เมื่อวิ่งไปดูก็พบร่างผู้ตายนอนจมกองเลือดในที่เกิดเหตุ

 อย่างไรก็ตาม ช่วงก่อนเกิดเหตุมีผู้พบเห็นผู้ตายนั่งร้องไห้อยู่บริเวณตึก สาเหตุน่าจะมาจากทะเลาะกับแฟนหนุ่ม ซึ่งคาดว่าเรียนอยู่คณะสถาปัตย์ ทั้งนี้ มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงข่าวลือที่ว่า เหตุที่เกิดขึ้นนี้มาจากความอาถรรพณ์ เนื่องจากในช่วงเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ก็เกิดเหตุนิสิตคณะสถาปัตย์ พลัดตกจากอาคารนี้เช่นกัน

 ต่อมาเมื่อเวลา 18.30 น. ญาติผู้เสียชีวิต ซึ่งระบุว่า เป็นลูกพี่ลูกน้องกับผู้ตาย เดินทางไปดูศพที่โรงพยาบาล เปิดเผยเพียงสั้นๆ ด้วยอาการเศร้าโศกว่า ผู้ตายชื่อ น.ส.พัชญา แซ่เกา อายุ 20 ปี เป็นนิสิตชั้นปีที่ 2 คณะสังคมศาสตร์ สาขาวิชารัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ (บริหารรัฐกิจ) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทราบสาเหตุของการกระโดดตึกครั้งนี้มาจากอะไร

ที่มา
http://www.komchadluek.net/detail/20101209/82216/%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%A1.%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%AF%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A.html


ตึกสถาปัตย์ เหมือนตึกอาถรรพ์ เลยนะนี่

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 09, 2010, 08:52:43 am โดย รักหนอ »
บันทึกการเข้า

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: นิสิตสาวม.เกษตรฯโดดตึกสถาปัตย์ดับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2010, 09:44:07 pm »
0
เอ้าเรื่องนี้ ถามเมล มาว่่ามีอาถรรพ์อะไรที่ตึกนี้หรือป่าว มีนักศึกษา ไปตายกันบ่อยด้วยการโดดตึก

อืม .... พระอาจารย์ ไม่ทราบรายละเอียดนะ

แต่เอาเป็นว่า การฆ่าตัวตาย นั้นเป็นการทำบาปประการหนึ่ง เป็นปาณาติบาต ด้วยนะจ๊ะ แหมจะเป็นการฆ่า
ตัวเองตาย ก็ตามกรรมที่จะได้รับเบื้องต้นนั้น ก็จะไม่ได้เกิดเป็นมนุษย์ ต้องไปเกิดใน นิริยะ ใช้กรรมในส่วน
ของการฆ่าตัวตายก่อน

ดังนั้น ผู้ที่กำลังจะคิดฆ่าตัวตายนั้น แหมจะลำบากสักเพียงใดก็ตาม ก็พึงอดทน ชีวิตเรามาก็มาแต่ตัว ไม่มีอะไรมาด้วย ไม่มีอะไรเป็นของเราจริงในโลกนี้ นอกเสียจากบุญและบาป ปัญหาทุกอย่างมีทางออก อย่า
ตัดสินใจกันอย่างนี้ ตราบใดที่มีลมหายใจ ตราบนั้นก็ยังมีโอกาสในธรรม ยกเว้นพวกที่อนันตริยกรรม ไม่มี
ความหวัง

ในมหาสติปัฏฐานนั้น เริ่มการ ภาวนาที่ อานาปานบรรพะ เพราะอะไร เพราะเพื่อให้ผู้ปฏิบัติธรรมเห็นความสำคัญของปานะ ชีวิต มีเพราะัมี ปานะ คือ ลมหายใจเข้า และ ลมหายใจออก ถ้าไม่มีก็จบชีวิตดังนั้น การ
ภาวนาธรรม จึงตั้งอยู่ด้วยความไม่ประมาทในธรรม เพราะเหตุนี้

เจริญธรรม

 ;)
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ลูกเกด

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 50
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: นิสิตสาวม.เกษตรฯโดดตึกสถาปัตย์ดับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ธันวาคม 10, 2010, 10:33:55 pm »
0
สำหรับ เรื่องที่คนเรา ตัดสินใจ อยากจะกระทำการฆ่าตัวตาย หลัก ๆ อย่างลูกเกด ก็เคยคิดมาเหมือนกัน

ก็คือ เรื่องความรัก ๆ  มันช่างยิ่งใหญ่ เสียเหลือเกิน รักของผู้หญิงบางคน ก็เด็ดเดี่ยวไม่ได้เป็นรักที่ใจง่าย

เปลี่ยนคู่ อย่างหลายคนที่ทำก็ยังมีอยู่

  แต่ถ้าความฉลาด ในหลักธรรม มีไม่มากพอ ก็จะตัดสินใจไปในทางที่ผิด เรียกว่าการประชดได้

  ลูกเกด อาศัยเว็บธรรมะ เป็นที่ระบายความในใจ และได้กัลยาณมิตร ตอบกันให้กำลังใจอยู่ จึงไม่ได้ตัดสินใจ

แบบนั้น เพราะว่าอาศัยหลักธรรม เป็นเครื่องประคับประคองจิตใจไว้

   จึงอยากให้ทุกคน ที่มีความทุกข์ใจ มาก  ๆ  จริง ๆ แล้ว ก่อนจะตัดสินใจอะไรไป ให้มาระบายในเว็บธรรมะ

ก่อนจะได้เห็นแสงสว่างในใจเรา ถ้าไประบายตามเว็บที่ไม่ใช่เว็บธรรมะแล้ว อาจจะทำให้เป็นเรื่องผิดพลาดได้

เพราะว่าเว็บธรรมะ มีมาก และ มีกัลยาณมิตรมากมายคอยให้คำแนะนำกับเรา

   แต่อย่างไรเสีย ควรนึกถึง พระอรหันต์ ที่บ้านก่อน ควรปรึกษา พระอรหันต์ 2 ท่านนี้ก่อน จะได้ไม่ตัดสินใจ

ผิดเพราะชีวิตได้รับการเกิดมาเป็นมนุษย์เป็นเรื่องยาก ควรใช้ชีวิตที่มีอยู่้เหลืออยู่เพียงนิดหน่อยนี้ให้คุ้มค่า

   ขอแสดงความเสียใจ กับผู้ที่จากไป ขอให้เธอจงไปสู่สุคติ ด้วยเถิด

   :'( :'( :'(
บันทึกการเข้า

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: นิสิตสาวม.เกษตรฯโดดตึกสถาปัตย์ดับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2010, 07:19:01 am »
0
ความรักเป็นบ่อเกิดแห่งทุกข์
ทุกข์เป็นบ่อเกิดแห่งกรรม
กรรมเป็นบ่อเกิดแห่งเวรภัยในวัฏฏสงสาร!




           หากแม้เรายังยึดติดอยู่กับอารมณ์รักจนฝังแน่นในสันดาน ความรักจะยังเกาะเกี่ยวติดภพติดชาติไปเบื้องหน้า

ให้ทุกข์ไม่สิ้นสุด วันนี้จงหันมาชำระจิตสันดานนี้ให้เบาบางลงด้วยภาวนาเถิดจะได้ไม่ต้องทุกข์


         ผมเองได้ลองหยั่งอารมณ์หน่วงใจในเรื่องรักดูพบว่าใจนั้นมันคิดก่อเวร ผมค่อนข้างหนักไปในโทสะจริตอยู่

มาก ผมพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่ไหวแน่ เมื่อจิตมันหักหาญคิดก่อเวรภัยเยื้องนี้ ผมใช้วิธีเอาจิตหน่วงกุศลอย่างหนัก

ด้วย ทาน เป็นอย่างแรกก่อน แล้วค่อยขยายความดีนี้ไปสู่เพื่อนในที่ทำงาน และพี่น้องญาติๆ ปรารถนาไม่คิดผูก

เวรจองกรรมใดใดกับใคร ชีวิตที่ยังมีปราณหายใจเข้าออกอยู่นี้สติตั้งมั่นสิ่งแรกที่ต้องเยียวยารักษาคือ ใจเรา

โอสถนั้นน้อมนำได้ด้วย ธรรม.......ธรรม คือ การภาวนา (สัมมาสมาธิ) ชีวิตเราต้องแกร่งสู้ สู้อยู่ที่ใจ ใจอยู่ที่

ภาวนา พุธ-โธ ตั้งมั่นฐานจิต แล้วเราจะรู้ว่าชีวิตนี้มีค่า ค่าที่มีคือ มรรคมีองค์ ๘ (อัฏฐังคิกมรรค)


         คำว่ามรรค แปลว่าทาง ในที่นี้หมายถึงทางเดินของใจ เป็นการเดินจากความทุกข์ไปสู่ความเป็นอิสระหลุด

พ้นจากทุกข์ซึ่งมนุษย์หลงยึดถือและประกอบขึ้นใส่ตนด้วยอำนาจของอวิชชา ....มรรคมีองค์แปด คือต้องพร้อม

เป็นอันเดียวกันทั้งแปดอย่างดุจเชือกฟั่นแปดเกลียว

องค์แปดคือ :-

..........1. สัมมาทิฏฐิิ คือความเข้าใจถูกต้อง

..........2. สัมมาสังกัปปะ คือความใฝ่ใจถูกต้อง

..........3. สัมมาวาจา คือการพูดจาถูกต้อง

..........4. สัมมากัมมันตะ คือการกระทำถูกต้อง

..........5. สัมมาอาชีวะ คือการดำรงชีพถูกต้อง

..........6. สัมมาวายามะ คือความพากเพียรถูกต้อง

..........7. สัมมาสติ คือการระลึกประจำใจถูกต้อง

..........8. สัมมาสมาธิ คือการตั้งใจมั่นถูกต้อง

การปฏิบัติธรรมทุกขั้นตอน รวมลงในมรรคอันประกอบด้วยองค์แปดนี้ เมื่อย่นรวมกันแล้วเหลือเพียง 3 คือ ศีล -

สมาธิ - ปัญญา สรุปสั้น ๆ ก็คือการปฏิบัติธรรม (ศีล-สมาธิ-ปัญญา) ก็คือการเดินตามมรรค



ครับก็เท่านี้สำหรับเช้านี้...............ว่างๆค่อยว่ากันใหม่ สวัสดี

(วันนี้พระอาจารย์ลงโปรดศิษย์เหล่าบรรดาศิษย์จึงมาชุมนุมกันที่ศาลากรรมฐานชั้น ๒ วัดแก่งขนุน สระบุรี ใครว่าง

ขอเชิญ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 11, 2010, 07:37:13 am โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

หมวยจ้า

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +40/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1336
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: นิสิตสาวม.เกษตรฯโดดตึกสถาปัตย์ดับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2010, 08:06:52 am »
0
ว่ากันว่าช่วงเริ่มต้นของ ความสัมพันธ์ คือช่วงโปรโมชั่นที่ต่างฝ่ายต่างก็จะแสดงแต่สิ่งดีๆออกมาให้เห็น แต่แล้วเมื่อได้ตกลงปลงใจมา เป็นแฟนกัน หรือเริ่มต้น ความสัมพันธ์ ระยะ ยาวแล้วล่ะก็ ตัวตนจริงๆของแต่ละคนก็จะสำแดงออกมาให้อีกฝ่ายได้ตกตะลึงกัน จากความรัก กลายเป็นความเคยชิน จากความเคยชิน กลายเป็นความมักง่าย แล้วความมักง่ายเรื่องใดบ้างที่เกิดขึ้นใน ความสัมพันธ์ ลองมาดูกันสิว่าคุณมีพฤติกรรมเหล่านี้บ้างรึเปล่า

          เอาใจใส่ และให้ความสำคัญน้อยลง ก่อน คบกันความสำคัญมาเป็นที่หนึ่งแต่พอคบไปคบมากลายเป็นว่าเรื่องอื่นมาก่อน ความสำคัญของอีกฝ่ายลดลง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพื่อนหรือว่าเรื่องงานต้องมาก่อนเรื่องแฟนเสมอ

              อยากไปเที่ยวหลายๆคนไม่อยากไปแค่สองคน จากที่เคยตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋ แต่เดี๋ยวนี้ไปไหนเป็นทีมฟุตบอล เรียกว่าไม่ยอมไปกันแค่สองคนต้องหาทางชวนเพื่อนฝูงไปกันให้หมด ประหนึ่งว่าไปกันสองคนจะไม่สนุก กรณีนี้ยกเว้นบางคู่ที่ชอบให้มีเพื่อนฝูงไปกันเยอะๆนะ

             ทำตัวซังกะตาย อยู่ไปวันๆ การ ทำร้ายที่เจ็บปวดที่สุดก็คือความเฉยชา เพราะจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าและไม่เป็นที่ต้องการอีกต่อไป เหมือนอยู่กันไปเพราะภาระหน้าที่ ติดตรงสถานะของคำว่าแฟนหรือสามีภรรยา ความโหยหาใน กันและกัน ลดลง ถ้าใครโดนแบบนี้ก็คงรู้สึกแย่มากๆเลยแหล่ะ

          การกลับไปเป็นตัวของตัวเองเต็มที่ (พฤติกรรมส่วนตัวที่ทำเวลาอยู่คนเดียวเช่น ผายลม เรอ) “ช่วงแรกรักน้ำต้มผักก็ว่าหวาน” การคบกันแรกๆพฤติกรรมอะไรที่ไม่ดีของตัวเองก็จะเก็บไว้ซ่อนไว้ แต่พอนานๆเข้าสุดท้ายคนเราก็ต้องกลับไปเป็นตัวของตัวเอง จากที่เคยเป็นระเบียบเรียบร้อยช่วงแรก ตอนนี้ถุงเท้า รองเท้า หนังสือ เสื้อชั้นใน กางเกงใน เรี่ยราดไปหมด แต่การคบกันคือการปรับการจูนเข้าหากัน ถ้าตัวคุณกลับไปเป็นตัวเองซะ 100 % ทั้งสองฝ่าย ก็อาจจะมีเรื่องให้ต้องมานั่งบ่นนั่งว่ากัน ดังนั้น ก็เอาให้พอดีๆทั้งสองฝ่ายแล้วกัน
   
          มองข้ามสิ่งเล็กๆน้อยๆที่เคยใส่ใจ (รู้ แต่ก็ไม่ใส่ใจ) จากที่เคยรู้ว่าอีกฝ่ายชอบทานหรือไม่ชอบทานอะไรก็จะไม่สั่ง นานๆเข้าอยากกินอะไรก็กิน ทั้งๆที่ในตอนแรกก็จะไม่ทานสิ่งที่อีกฝ่ายไม่ชอบ แต่ตอนนี้กลับไม่สนใจ นอกจากเรื่องของกินอาจจะร่วมถึงเรื่องของการดูหนัง อีกคนอาจจะกลัวผีไม่ชอบหนังสยองขวัญ แต่อีกฝ่ายก็ไม่สนใจเอามาเปิดดู เป็นเรื่องของการละเลยสิ่งที่เคยใส่ใจในอดีต

          ดูแลตัวเองน้อยลง ไก่งามเพราะขนคนงามเพราะแต่งยังคงใช้ได้อยู่เสมอ บางคนอาจคิดว่าหลังจากได้คบกันแล้วหรือ แต่งงาน หรือมีลูกกันไปแล้ว ไม่ต้องดูแลอะไรมากก็ได้ ถ้าคิดอย่างนี้จะบอกว่าคิดผิดนะ เพราะยัง ไงคนที่คุณรักก็อยากให้คนที่เค้ารักดูดีอยู่เสมอนะ ไม่ได้หมายความว่าเค้าไม่รักในสิ่งที่คุณเป็นหรือสิ่งที่คุณเปลี่ยนไป แต่หมายความว่าการดูแลตัวเราเองเพื่อคนที่เรารักก็เป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อเวลาไปไหนด้วยกันอีกฝ่ายจะได้รู้สึกภูมิใจ

              คำพูดคำจาที่ไม่เหมือนเดิม คำ กล่าวว่านี่ทำคนใกล้นี่แหล่ะเจ็บปวดที่สุด เพราะการที่ใช้เวลาอยู่ด้วยกันเยอะหรืออยู่ด้วยกันจนชินอาจจะทำให้ละเลยหรือ หลงลืมไปว่าเรื่องของคำพูดคำจาที่เคยใช้หรือไม่เคยใช้กับอีกฝ่าย อาจจะทำให้เค้ารู้สึกเจ็บกว่าคำพูดของคนนอกซะอีก นอกจากจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกเจ็บแล้วถ้าสะสมมากๆจะกลายเป็นปมในใจของอีกฝ่าย ไปเลยก็ได้

              นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการไม่รักษาของ ที่มีอยู่, ไม่เสมอต้นเสมอปลาย, โทรหาน้อยลง, เห็นเพื่อนดีกว่า, การผิดนัดด้วยการมาสายหรือลืมวันสำคัญต่างๆ คุณผู้อ่านเผลอทำพฤติกรรมเหล่านี้กับคนที่คุณรักบ้างรึเปล่า บางทีอาจจะเป็นการกระทำที่ไม่รู้ตัวไง ถึงได้ใช้หัวข้อว่า “ความมักง่าย” เรื่องง่ายๆที่คุณอาจจะลืมไปแล้ว แต่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกแย่ได้ ถ้าคุณผู้อ่านพลาดทำไปแล้วล่ะก็รีบๆปรับปรุงตัวนะ ความรักจะได้กลับมา สดใส ซาบซ่าเหมือนเดิม
บันทึกการเข้า
ถึงเป็นผู้หญิง ตัวเล็ก แต่ก็ยังสู้ได้อยู่ด้วยตัวคนเดียว
พุทโธ พุทโธ พุทโธ ขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ที่ระลึกถึง

Namo

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 206
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: นิสิตสาวม.เกษตรฯโดดตึกสถาปัตย์ดับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ธันวาคม 11, 2010, 08:36:41 pm »
0
จริง ตามคุณลูกเกด แนะนำคะ พวกเราชาวสมาชิก ธรรมถ้าเห็นข้อความที่แสดงความทุกข์ แล้วควรจะช่วย

กันแนะนำ หลักธรรม ลงไปนะคะ อย่าไปซ้ำเิติมคนมีทุกข์ ต้องช่วยกันชี้แจง


   ไม่อยากให้ใครตัดสินใจ ผิดพลาด เช่นหัวกระทู้ คะ

  :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า