ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ควรวางจิตอย่างไร ถ้าจิตตก เพราะครูอาจารย์ที่นับถือเป็นอย่างนี้  (อ่าน 3018 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ฺBenten

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 53
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 ask1

 ควรวางจิตอย่างไร ถ้าจิตตก เพราะครูอาจารย์ที่นับถือเป็นอย่างนี้

   หลงนับถือทำบุญไปมากมาย แต่สุดท้าย องค์หนึ่งก็แต่งไปมีเมีย อีกองค์ก็เท่ห์สุด ๆ

  อยากทราบว่า จิตตกอย่างนี้ทำอย่างไรดี ครับ

  :49: :c017: :smiley_confused1:
บันทึกการเข้า
ร่วมขบวนการกับ อ๊บ อ๊บ เพื่อศึกษาธรรม

ส้ม

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังแหวกกระแส
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 184
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ปัญหาฮิต นะนี่

 :88: :33:
บันทึกการเข้า
เส้นทางแสนเปรี้ยว จะมีสุขจริงบ้างหรือไม่ ?

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28450
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
ask1

 ควรวางจิตอย่างไร ถ้าจิตตก เพราะครูอาจารย์ที่นับถือเป็นอย่างนี้

   หลงนับถือทำบุญไปมากมาย แต่สุดท้าย องค์หนึ่งก็แต่งไปมีเมีย อีกองค์ก็เท่ห์สุด ๆ

  อยากทราบว่า จิตตกอย่างนี้ทำอย่างไรดี ครับ

  :49: :c017: :smiley_confused1:

    ans1 ans1 ans1
    ปุถุชนมักเป็นเช่นนี้ ชอบยึดเอาตัวบุคคลเป็นที่พึ่ง
    ถึงแม้พระพุทธเจ้าจะสอนให้เอาพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง(เป็นสรณะ) 
    แต่คนส่วนใหญ่ จะละเลยพระธรรม ไม่ปฏิบัติธรรม ไม่เจริญสติไม่เจริญสมาธิ
    เอาแต่กราบไหว้พระพุทธรูป และเข้าหากราบไหว้พระสงฆ์ ซึ่งก็ไม่ผิดอะไรสำหรับปุถุชน
    ปัญหามีอยู่ว่า พระสงฆ์ที่เรากราบไหว้ เราไม่รู้ว่าท่านเป็นอริยสงฆ์หรือไม่อย่างไร
    เราอาจชอบคำสอนของท่าน ชอบปฏิปทาของท่าน เห็นท่านมีคนแวดล้อมเยอะ
    เลยเข้าใจเอาเองว่า ท่านต้องมีดีแน่นอน (เห็นคนศรัทธาเยอะ)

    สุดท้ายก็มีเรื่องไม่ดีของท่านปรากฏขึ้นมา ทำให้จิตตก
    อาการนี้เหมือนคนอกหัก มันเจ็บลึกๆ เพราะตั้งศรัทธาไว้สูง
    วิธีแก้ง่ายๆแบบโลกๆ ก็คือ ตั้งศรัทธาไว้แค่ครึ่งเดียวก็พอ เผือไว้เวลาอกหัก ก็จะเจ็บครึ่งเดียว
    เรื่องนี้คุยเล่นๆนะครับ อย่าถือสา แค่คุยเป็นเพื่อน

    หนทางที่ถูกต้องก็คือ เราต้องปฏิบัติให้เห็นธรรมครับ อย่างน้อยก็ต้องมีสติหรือสมาธิระดับหนึ่ง
    ขอให้อ่านจุนทสูตร พระพุทธองค์ตรัสสอนว่า "เธอทั้งหลายจงมีตนเป็นเกาะ มีตนเป็นที่พึ่ง อย่ามีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง คือ มีธรรมเป็นเกาะ มีธรรมเป็นที่พึ่ง อย่ามีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่งอยู่เถิด"



ภาพจาก http://www.onab.go.th/


จุนทสูตร
ว่าด้วยการปรินิพพานของพระสารีบุตร


[๗๓๕] ครั้งนั้น ท่านพระอานนท์กับสามเณรจุนทะ เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ท่านพระอานนท์ได้กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ สามเณรจุนทะรูปนี้ ได้บอกอย่างนี้ว่า ท่านพระสารีบุตรปรินิพพานแล้ว นี้บาตรและจีวรของท่าน
          ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ กายของข้าพระองค์ประหนึ่งจะงอมระงมไป
          แม้ทิศทั้งหลายก็ไม่ปรากฏแก่ข้าพระองค์ แม้ธรรมก็ไม่แจ่มแจ้งแก่ข้าพระองค์
          เพราะได้ฟังว่า ท่านพระสารีบุตรปรินิพพานแล้ว.


[๗๓๖] พระผู้มีพระภาคตรัสถามว่า
          ดูกรอานนท์ สารีบุตรพาเอาศีลขันธ์ สมาธิขันธ์ ปัญญาขันธ์ วิมุตติขันธ์
          หรือวิมุตติญาณทัสสนขันธ์ ปรินิพพานไปด้วยหรือ?

          ท่านพระอานนท์กราบทูลว่า
          หามิได้ พระเจ้าข้า ท่านพระสารีบุตรมิได้พาศีลขันธ์ ปรินิพพานไปด้วย ฯลฯ
          มิได้พาวิมุตติญาณทัสสนขันธ์ปรินิพพานไปด้วย

          ก็แต่ว่าท่านพระสารีบุตรเป็นผู้กล่าวแสดงให้เห็นแจ้ง ให้สมาทาน ให้อาจหาญ ให้รื่นเริง ไม่เกียจคร้านในการแสดงธรรม อนุเคราะห์เพื่อนพรหมจารีทั้งหลาย ข้าพระองค์ทั้งหลายมาตามระลึกถึง โอชะแห่งธรรมธรรมสมบัติ และการอนุเคราะห์ด้วยธรรมนั้น ของท่านพระสารีบุตร.


 :sign0144: :sign0144: :sign0144:

[๗๓๗] พ. ดูกรอานนท์ ข้อนั้น เราได้บอกเธอทั้งหลายไว้ก่อนแล้วไม่ใช่หรือว่า จักต้องมีความจาก ความพลัดพราก ความเป็นอย่างอื่น จากของรักของชอบใจทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น จะพึงได้ในของรักของชอบใจนี้แต่ที่ไหน? สิ่งใดเกิดแล้ว มีแล้ว ปัจจัยปรุงแต่งแล้ว มีความทำลายเป็นธรรมดา การปรารถนาว่า ขอสิ่งนั้นอย่าทำลายไปเลย ดังนี้ มิใช่ฐานะที่จะมีได้

[๗๓๘] ดูกรอานนท์ เปรียบเหมือนเมื่อต้นไม้ใหญ่ มีแก่น ตั้งอยู่ ลำต้นใดซึ่งใหญ่กว่าลำต้นนั้นพึงทำลายลง ฉันใด เมื่อภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ ซึ่งมีแก่น ดำรงอยู่ สารีบุตรปรินิพพานแล้ว ฉันนั้นเหมือนกัน เพราะฉะนั้น จะพึงได้ในข้อนี้แต่ที่ไหน? สิ่งใดเกิดแล้ว มีแล้วปัจจัยปรุงแต่งแล้ว มีความทำลายเป็นธรรมดา การปรารถนาว่า ขอสิ่งนั้นอย่าทำลายไปเลยดังนี้ มิใช่ฐานะที่จะมีได้
           เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลายจงมีตนเป็นเกาะ มีตนเป็นที่พึ่ง อย่ามีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง คือ มีธรรมเป็นเกาะ มีธรรมเป็นที่พึ่ง อย่ามีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่งอยู่เถิด.


 ans1 ans1 ans1

[๗๓๙] ดูกรอานนท์ ภิกษุมีตนเป็นเกาะ มีตนเป็นที่พึ่ง ไม่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง คือมีธรรมเป็นเกาะ มีธรรมเป็นที่พึ่ง ไม่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่งอยู่อย่างไร?
          ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสีย
          ย่อมพิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาอยู่ ...
          ย่อมพิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ ...
          ย่อมพิจารณาเห็นธรรมในธรรมอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสีย

          ดูกรอานนท์ ภิกษุมีตนเป็นเกาะ มีตนเป็นที่พึ่ง ไม่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง คือ มีธรรมเป็นเกาะ มีธรรม
เป็นที่พึ่ง ไม่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง อยู่อย่างนี้แล.

[๗๔๐] ดูกรอานนท์ ก็ภิกษุพวกใดพวกหนึ่ง ในบัดนี้ก็ดี ในกาลที่เราล่วงไปก็ดี
          จักเป็นผู้มีตนเป็นเกาะ มีตนเป็นที่พึ่ง ไม่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง
          คือ มีธรรมเป็นเกาะ มีธรรมเป็นที่พึ่ง ไม่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่งอยู่
          พวกภิกษุเหล่านี้นั้นที่เป็นผู้ใคร่ต่อการศึกษา จักเป็นผู้เลิศ.

_____________________________________________________
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๙  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๑ สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=19&A=4280&Z=4326
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 17, 2013, 01:44:33 pm โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

DANAPOL

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-1
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 332
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ก็จริงนะครับ ว่าเราไม่ควรยึดติดบุคคล แต่การมีครูอาจารย์ ก็ย่อมดีนะครับ

  :49:
บันทึกการเข้า
รหัสธรรม ต้องใช้ปัญญาคือความรู้ ผู้ถือกุญแจคือใครหนอ...

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0


ผมศึกษาตามอ่านทุกเรื่องราวของหลวงปู่มั่นและศิษยานุศิษย์ในสายธรรมยุติมาตั้งแต่ 9 ขวบ อื่นจากนี้ก็แค่คุ้นหูไม่รู้ลึก กระทั่งมาเจอะเจอกับพระอาจารย์สนธยาซึ่งเดิมท่านเป็นกลุ่มสายสวนโมกข์มาก่อนได้กล่าวอ้างถึงครูอาจารย์รูปสำคัญในสายวัดราชสิทธาราม ทำให้ผมนี้อึ้งต้องกลับมารื้อฟื้นสืบค้นเรียนธรรมกรรมฐานที่เรียกว่าไม่รู้จักเอาเลยแต่มีอยู่จริง แม้ทุกวันนี้จะตะลอนเที่ยวหากราบขมาครูอาจารย์ไปทั่วก็เพียงศึกษาหาพระแท้ที่มีให้น่าเชื่อมากล่าวเล่าสู่กระทู้เขียนกัน อย่างกรณีเณรคำผมก็ไป ไปเพียงรู้ว่ามีการสร้างพระแก้วใหญ่จึงไปให้เห็นกับตาตนเองว่างามสักเพียงใดขนาดกล่าวอ้างว่าเทพท้าวองค์อินทร์อาราธนาให้สร้าง ผมได้ไปเห็นแล้วพิจารณากับภูมิใจกึ่งพอใจจึงสละปัจจัยร่วมอธิษฐานสร้างไปด้วยทุกครั้งที่ผมมีโอกาสไปขันติธรรมหรือตามเณรคำไปเทศน์ระดมปัจจัยทุนสร้างพระแก้วใหญ่ ผมพิจารณาถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่าใครผิดบาปบ้าง แม้เณรคำจะถูกสังคมตัดสินไปแล้วแต่พระแก้วใหญ่ทำไมสร้างได้สร้างได้ดีบารมีเณรคำแก่คงมีหากแต่นี้แก่จะเลือนไปจากหัวใจคนไทย ใครใครอื่น(ศิษย์ดอกเตอร์)ยี่ห้อหายขายขี่หน้าอนาคตคนเชื่อยากลำบากตามตามกันทั่วมีแต่ไม่อยากเอ่ยชื่อ หรือนี่คือคำตอบบอกอะไรรางๆว่าเห็นแท้แท้ไม่จริง สัทธรรมบิ่น ปรามาสศาสดา ธรรมจึงอนาถา เวลาคือคำตอบที่บอกเราท่านทั้งหลายว่า หลักแหล่งแท้อยู่ที่ไหน และใครจะมา ศิษย์ใกล้ที่ได้ฟังมีไม่กี่คน ครับ.!



http://www.buriramtime.com/17291/%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%9A/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%99/%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3.html
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=talestar&group=7&month=02-2010&date=22
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 17, 2013, 01:05:16 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

nongyao

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 380
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ทุกสิ่งมีความลงตัวอยู่ในตัวของมันเอง เรามิอาจกำหนดได้

สิ่งที่เราต้องรวมไว้ให้ได้คือดวงจิตของเราที่ยังสัดส่ายอยู่
บันทึกการเข้า
กราบนอบน้อมพระพุทธเจ้าอันเป็นอดีต อนาคต แลปัจจุบัน ด้วยเศียรเกล้า
                 พุทธัง  ธัมมัง  สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
                       
                         ข้าพเจ้าจักขอทำเหตุที่ดี