ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ตอบคำถาม จาก เมล :การข้ามสมมุติ เป็น เรื่องภายใน ไม่ใช่ ปล่อยให้เป็นเรื่องภายนอก  (อ่าน 4531 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
 ask1

    ขอเรียนถาม พระอาจารย์ว่า ถ้าทุกสิ่งเป็นเพียงสมมุติ แล้ว เราควรเพิกสมมุติ ใช่หรือไม่ ? แล้วสมมุติ กับ ปรมัตถ์ จะแยกกันอย่างไร ? ถ้าเราพ้นจากสมมุติ หมายความว่า เราพ้นจากบาปหรือไม่ ?

   ผู้ถาม ลุงกิตติศักดิ์


   ans1
   
    สมมุติ คือ คำบัญญัติ และ สภาวะ บัญญัติ ที่ใช้สื่อสาร กันให้เป็นที่เข้าใจ เช่น สมมุติสิ่งแข็ง ชิ้นหนึ่งว่าเป็น จาน เอาไว้ใส่ทานข้าว หรือ ช้อน เอาไว้ตักอาหารทาน พระ คือ นักบวชอุทิศตนเพื่อการภาวนา เป็นต้น อันนี้เรียกว่า สมมุติบัญญัติ ส่วน สภาวะบัญญัติ หมายถึง คำจำกัดความของ การแสดงอารมณ์ เช่น สุข ทุกข์ เฉยๆ เหล่านี้ เรียกว่า สภาวะสมมุติ

    ที่นี้สมมุติ ที่ มันมีปัญหา ก็คือ สมมุติ ที่เป็น สภาวะ สมมุติ เพราะว่า สภาวะสมมุติ มันประกอบ ด้วยความยินดี และ ไม่ยินดี หรือ เฉย ๆ อยู่  ยกตัวอย่าง

    สมมุติ ให้ เป็น นายก  เมื่อ สมมุติ แล้ว ก็ทำหน้า ที่ ของ ความเป็นนายก ที่นี้เมื่อทำหน้าที่ ลงไปแล้ว มันมีผลกระทบจากการกระทำลงไปตามมาก็คือ ดีใจ ก็เป็นสุข ไม่ถูกใจ ก็เป็นทุกข์ เฉย ๆ ก็เป็นกลาง ๆ แต่ปัญหาคือ สภาวะอารมณ์ ของมนุษย์ เมื่อถูกสภาวะ สมมุติ เข้าไปอยู่แล้ว จึงทำให้ อุปาทาน ความยึดมั่นถือมั่น ทั้ง 4 ทำงาน เต็มรอบ ขึ้น หากมีอวิชชาเป็นตัวนำ ก็วนเวียน ตาย เกิด เป็น ภพ ชาติ ในสภาวะปัจจุบัน และ เมื่อสั่งสมไปมากขึ้นก็กลาย เป็น ภพ ชาติ ที่เป็น อดีต อนาคต ต่อไป เรียกว่า การเวียนตายเกิด แห่ง นามรูป

   อะไรเป็นเหตุให้สมมุติ ทำงาน และ อุปาทาน สูงขึ้น

   อวิชชา คือ ความไม่รู้ 8 ประการ เป็นเครื่อง นำสัตว์ ให้เวียนว่ายตายเกิด เป็นเครื่องสร้างอุปาทาน ทั้ง 4 อย่างสมบูรณ์ ตราบใดที่ มนุษย์ยังไม่ละอุปาทาน ทั้ง 4 ประการนี้ สภาวะบัญญัติ ก็จะมีอยู่ต่อไป

 
   การข้ามสมมุติ ก็คือ การละอุปาทานทั้ง 4 โดยเข้าไปทำวิชชา ให้เกิดเต็ม เมื่อ อวิชชา มี 8 ประการ วิชชา ก็มี 8 ประการเช่นกัน ตามคำพระสุคต ที่ทรงตรัสแสดงไว้ในพระสูตร ว่า อวิชชา เป็นเหตุ ให้ ปัจจยการแห่ง ภพ ชาติ เวียนว่าย ตายเกิด ไม่รู้จบ ไม่รู้สิ้น นั่นเอง

   การพ้นจากสมมุติ ไม่สามารถพ้นจาก สมมุติบัญญัติ ได้ เพราะ สมมุติบัญญัติ เป็นเรื่องข้างนอก เป็นเพียงแค่การสื่อสารในสังคม ดังนั้น การพ้นจากสมมุติ จึงหมายถึง การพ้นจากสภาวะสมมุติ เท่านั้น

    เช่น เป็น พ่อ เป็น แม่ เป็น ลูก อันนี้เป็น สมมุติบัญญัติ แต่การเป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นลูก สิ้นสุด โดยการละ สภาวะบัญญัติ คือ คลายจากอุปาทานที่ทำให้ มีความรู้สึก นั่นเป็นเรา เป็นของเรา เป็นตัว เป็นตน ของเราเป็นตน


    การละสมมุติบัญญัติ ไม่ควร อาจจะเป็นบาปได้
    การละสภาวะสมมุต เป็นสิ่งที่ควร เพราะจะทำให้พ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด

    ยกตัวอย่าง ให้เห็นง่าย ๆ แต่เอาหนัก ๆ เลย จะได้เข้าใจง่าย ๆ

       เช่นเราได้ พระบรมสารีริกธาตุ ของพระพุทธเจ้า มา ( ส่วนนี้จัดเป็น สมมุติบัญญัติ ) พอได้มา ท่านที่พ้นจาก สภาวะบัญญัติ ควรทำอย่างไร ? มองว่าเป็น ธาตุชิ้นหนึ่ง แล้ว เฉย ๆ ใช่หรือไม่ ? หรือ จะนำใส่ ผอบ เก็บไว้ ในที่ควร เพื่อไว้สักการะบูชา ?

       จาก การยกตัวอย่าง นั้นจะทำให้เห็นได้เลยว่า สมมุติบัญญัติ นั้นเป็นสิ่งจำเป็น ในการสื่อแสดง คุณสมบัติของธาตุ เพื่อใช้ธาตุ ให้ถูกต้อง

      ที่นี้ ถ้าท่านบอกว่า ก้าวล่วงพ้นสมมุติ ไปได้แล้ว เห็นเป็นเพียงธาตุ โยน ทิ้ง หรือ เหยียบย่ำ พระบรมสารีริกธาตุ เช่นดั่งก้อนดิน ก้อนกรวด เพราะเห็นว่า เป็นธาตุ เป็นสิ่งสมมุติ จะพ้นจากบาปหรือไม่ ?

      มันก็เหมือน เอา มือไปลูบคมมีด หรือ เอามือไปจับไฟ นั่นแหละ

      ดังนั้นคนที่ข้ามสภาวะสมมุต สำเร็จพระอริยะบุคคลคือ พระอรหันต์ ได้แล้ว ก็ไม่ได้ ละทิ้ง สมมุติบัญญัติ เพียง แต่ท่าน ปล่อยวาง สภาวะบัญญัติ เท่านั้น

     อธิบายมาก ก็พิมพ์มาก เป็นที่ลำบาก เดี๋ยวจะอัดเสียงตอบเรื่องนี้ ลงไว้ใน youtube นะ ถ้ายังไม่มีก็ทวงด้วยก็แล้วกัน เผื่อ ฉัน จะลืม นะ

      หวังว่า คงจะเข้าใจ นะจ๊ะ

     เจริญธรรม / เจริญพร

           


   

 
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 06, 2015, 12:26:29 pm โดย ธัมมะวังโส »
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

kittisak

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +42/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 653
  • พุทธัง อะระหัง พุทโธ นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
0
 st11 st12 st12 st12

  ขอบคุณพระอาจารย์ ครับ เรื่องนี้ผมถามไปนานแล้ว ผมเองผู้ถามก็ลืมไปแล้ว เช่นกัน อ่านแล้ว เข้าใจทันทีเลยครับ

   :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า
ความสุขอันเกิดจากการแบ่งปัน ดีกว่าความทุกข์ที่มีแต่จะเอา

นักเดินทาง

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 695
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า

DANAPOL

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-1
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 332
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 st12 st12

 อ่านแล้ว อึ้ง ครับ เพราะหัวข้อธรรม ที่พระอาจารย์ ตอบ เข้าใจได้ง่าย ไม่ซับซ้อน ผมเคยลองคิดจะตอบมาครั้งหนึ่ง ในกระทู้ ที่มีคำถาม ลักษณะนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่า จะจับต้นชนปลาย ตอบอย่างไร ให้ผู้ถามเข้าใจได้ง่าย


  :25:
บันทึกการเข้า
รหัสธรรม ต้องใช้ปัญญาคือความรู้ ผู้ถือกุญแจคือใครหนอ...

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
 st11          st12          :25:

 อนุโมทนา...สาธุ สาธุติ          :13:         :98:     
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 07, 2015, 08:48:52 am โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

kobyamkala

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 2236
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
แล้วลองแอบมาแย้มกะลา
เพื่อดูโลก เห็นแล้วตกใจโลกนี้กว้างใหญ่จริง ๆ

chatchay

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +4/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 244
  • เกิดเป็นคนต้องมีดี บวชทั้งทีต้องสร้างดีให้กับตน
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
โทษอันใดที่ข้าพเจ้าล่วงเกินแล้วต่อพระรัตนตรัย ด้วย กาย ด้วยวาจา ด้วยใจ
ขอพระรัตนตรัย โปรดจงงดซึ่งโทษล่วงเกินนั้นแก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป ด้วยเทอญ

Hero

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 557
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 st12 st12 st12

 เรื่องนี้มีไฟล์ เสียงหรือไม่ครับ

บันทึกการเข้า
ทำไมต้องมีอินทรีแดง เพราะสังคมเราบางครั้งก็ตาบอด
ปล่อยให้คนดี เดือดร้อน ดังนั้นจึงต้องมีผู้ปกป้องคนดี
hero ไม่ได้มีแต่ในหนังเท่านั้น นะครับ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ไฟล์เสียง มีแล้ว แต่ไม่มีเวลา อัพโหลด ลำดับงานยังไม่ถึง แม้ฉันจะขยัน อยู่นอนน้อย หรือ ไม่ได้นอนเลยในบางครั้ง การเพิ่มข้อความ ต่าง ๆ ใน ฐานะ ผู้ดูแล ผู้เผยแผ่ นั้นก็ยังไม่ได้ทำกันได้ ง่าย ๆ

  เมื่อถึงเวลา จะอัพเดทให้ นะจ๊ะ

  เจริญธรรม / เจริญพร

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 09, 2015, 02:18:23 pm โดย ธัมมะวังโส »
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา