ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ถูกแม่ บังคับ ซื้อรถให้น้อง เราไม่อยากซื้อ แต่โดนด่าทุกวัน เลยต้องซื้อ  (อ่าน 2937 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

sunee

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 301
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 ask1

   ถูกบังคับแต่งงาน แล้วยังถูกแม่บังคับ ให้ซื้อรถให้น้องชาย อีก แต่เงินแต่งสินสอน พ่อแม่ ก็ยึดไปหมด บอกให้เอาเงินสามีมาซื้อ พอบอกสามีไป ก็โดนด่า ว่ามาแต่งเพื่อหวังสมบัติ สุดท้ายนอนร้องไห้ อยู่หลายคืน ต้องไปถอนเงินเก็บสุดท้ายมาซื้อรถ ให้น้องชาย ตามแม่สั่ง ชีิวิตที่ระกำ เพราะคำว่า กตัญญู อย่างนี้จะเป็นบุญ หรือ เป็นบาป หรือ สร้างกรรม กันมาอย่างไร คะ ทำอย่างไรถึงจะออกจากกงกรรม กงเกวียนนี้ได้คะ

   thk56 :'(
บันทึกการเข้า

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ถูกบังคับแต่งงาน แล้วยังถูกแม่บังคับ ให้ซื้อรถให้น้องชาย อีก แต่เงินสินสอด พ่อแม่ ก็ยึดไปหมด บอกสามีก็โดนด่าว่า สุดท้ายต้องไปถอนเงินเก็บสุดท้ายมาซื้อรถ ให้น้องชาย ตามแม่สั่ง ชีิวิตที่ระกำ เพราะคำว่า กตัญญู บุญ หรือ บาป ทำอย่างไรถึงจะออกจากกงกรรม กงเกวียนนี้ได้คะ

ผมขอคุยเป็นเพื่อน คุณสุณี โดยขอยกอ้างเรื่องราวของผมให้คุณสุณีพิจารณาพอคลายเศร้า กรณีอย่างผมที่เผชิญนั้นก็มิต่างจากคุณ ผมเป็นพี่ชายคนโตที่เลี้ยงน้องสาวมาและถูกสอนให้ต้องเสียต้องสละให้น้องก่อนเสมอ เมื่อมีผู้ชายมาติดพันธ์ุ์น้องสาว ผมต้องพิจารณาบ้าง แต่ดูเหมือนพ่อแม่ท่านจะเห่ออยากได้เขยจึงมักไม่พิจารณาไตร่ตรอง ซึ่งแน่หละผมไม่พอใจ แต่ไม่มีสิทธิ์ให้ปากเสียงใดใดกลับถูกว่ากล่าวว่าไม่ใช่หน้าที่ ทุกวันนี้น้องเขยคนใหญ่กลับสร้างความเจ็บปวดร้าวฉานในใจท่านทั้งสองอย่างมาก เหตุเพราะมีพฤติกรรมสำส่อนไม่เลิกกลับกลอกหลอกหญิงสาวมาเป็นอนุ(กิ๊ก)แล้วสูบเลือดเนื้อเจ้าหล่อนหลากหลายคน ทุกวันนี้ผมต้องเลี้ยงหลานให้กำลังใจน้องสาว ผมต้องเสียสละอะไรบ้าง ความสุขส่วนตัวไม่มี ไม่ได้ ทุกวันนี้ทำตามพ่อแม่สั่งไม่มีสิทธิ์พูด บ้านผมผ่อนหามาด้วยน้ำพักน้ำแรงแม่ก็ขอให้น้อง แถมให้ผมดาวน์รถให้น้องสาวใช้โดยผมผ่อนส่งให้ด้วย ชีวิตผมไม่เคยได้แม้ของเล่น บัญชีเงินฝาก รถจักรยานยนต์ รถยนต์ ที่สุดบ้าน และที่ดิน ผมจึงเป็นคนตัวเปล่าหาได้ให้แต่คนอื่น เรียกว่าคนอื่น(น้องๆ)มีหน้าที่การงานดีเงินเดือนแพงกว่าผม แต่ไฉนกลับมาพึ่งแต่ผมเอากลับผม จนผมกลายเป็นคนที่หญิงไหนๆไม่มองเพราะเป็นชายไร้อนาคตอยู่ด้วยแล้วลำเค็ญ ผมนั้นเจ็บใจในโชคชะตาตัวเอง แค้นในความแร้งน้ำใจของอิตถีแม่หญิงทั้งหลาย ผมอาจโชคดีที่เป็นชายตายไม่เสียดายแต่อายที่หญิงหยามน้ำใจเสมือนโลกนี้คับแคบไม่มีที่ให้สำหรับผมเหยี่ยบยืน ณ วันนี้ใจที่หน่ายล้าก็พิจารณาเอาเพียงธรรมเป็นที่ยึดเหนี่ยวดับทุกข์ดับแค้นในชะตาตนเองให้ได้ ซึ่งก็เท่านี้สำหรับผม



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 06, 2013, 12:05:49 am โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

pinmanee

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 163
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ชีวิตยิ่งกว่า ละคร เรื่องอย่างนี้ ยังมีอยู่อีกหรือ นี่

  เคยได้ยิน คนเมืองเหนือ บังคับให้ลูกสาวไปขายตัว ในกรุง เพื่อซื้อบ้าน ซื้อรถ มีหน้า มีตา แต่ พอลูกสาวกลับมาบ้าน ก็รังเกียจ ว่าเป็นเป็นหญิงโสเภณี อย่างนี้ .....

    ไม่อยากจะเชื่อ ว่าเรื่องเล่าี้นี้ยังมีอยู่ ในสังคมเมืองไทย ยุค อินเตอร์เน็ต

  :'(


   ขอให้ท่านที่เป็นอยู่แบบนี้ ผ่านทุกข์โศรกไปโดยเร็วนะคะ

  :s_hi: :58:
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28450
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
    ans1 ans1 ans1
   
    จูฬกัมมวิภังคสูตร
    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรมาณพ สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม
    มีกรรมเป็นกำเนิด  มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย กรรมย่อมจำแนกสัตว์ให้เลวและประณีตได้
ฯลฯ

   
    เรื่องนี้พูดลำบาก เป็นเรื่องอจินไตย
    ปัญหาก็คือ มันแต่งไปแล้ว ไม่มีใครช่วยได้หร็อก ต้องพึ่งตัวเองแล้วล่ะ
    เรื่องของผัวๆเมียๆ คงไม่มีใครอยากไปยุ่ง
    แม้คนนอกจะมี เมตตา กรุณา หรือมุทิตา แค่ไหนอย่างไร
    ได้แต่เห็นใจครับ เพราะสุดท้ายแล้ว ต้องใช้ อุเบกขา


    ขอยกเอาคำตอบของ ธัมมะวังโส (พระอาจารย์)
    ในกระทู้ "เป็นไปได้หรือ ที่เราทำกรรมแล้ว กรรมไปตกกับลูกหลาน"
    http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=4092.0
    มาแสดงดังนี้


ปัญหาเรื่องกรรม เป็น อจินไตรย พระพุทธเจ้า ตรัสแสดงว่าเป็นเรื่องที่บุคคลธรรมดา ที่ไม่ใช่พระอริยะ คิดไปก็เสียเวลา เพราะนั่งคิด นอนคิด เดินคิด ยืนคิด อย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ในส่วนนี้

ส่วนที่มีประโยชน์ ก็มีอยู่ คือผลของกรรม ( วิบาก ) นั้นเป็นสิ่งที่เรานำมาเป็นอุทาหรณ์ เพื่อที่จะไม่เดินรอยเดิมอยู่ในวังวน ที่เป็นลูป ( วนไป วนมา ) อยู่ที่เดิมที่เก่า เช่น เราฆ่าเขา ในชาตินี้ ชาติต่อไป เขาก็มาฆ่าเรา ต่อ
อย่าไม่มีวันหมด จนกว่าผู้ใดจะมีศีล ( คือ เลิกเบียดเบียน ตนเอง และ ผู้อื่น) จึงจักทำให้ิสิ้นสุด ในเบื้องต้น

แต่กรรมก็ยังไม่อาจที่สิ้นสุด ได้ที่คำว่า เลิกเบียดเบียน ได้เพราะจิต อาจจะไม่ยอมรับกับ การเลิกเบียดเบียน นี้ได้จึงต้องเสริมใจให้เข้มแข็ง ด้วยสมาธิ ( ความตั้งใจมั่น ) เพื่อไม่ให้ง่อนแง่นคลอนแคลนในการสร้างกุศล

แต่ถึงแม้ จะมีการเลิกเบียดเบียนลงไปแล้ว มีความตั้งใจลงไปแล้ว แต่หากขาด สติ (ระลึกได้)และปัญญา ( ทิฏฐิที่มองเห็นความจริงว่า ทุกข์ มีอย่างนี้ ทุกข์เกิดอย่างนี้ ทุกข์ดับอย่างนี้ ทุกข์จะละออกได้ ด้วยวิธีนี้ )ก็จะทำให้ การเลิกเบียดเบียน และ ความตั้งใจมั่น ขาดประสิทธิภาพ เพราะไม่มีเป้าหมายที่แท้จริงได้

ดังนั้นเรื่องกรรม เป็นเรื่องที่เราคิดแบบเหตุผล แบบสูตรเลขนั้นไม่ได้ เพราะบางครั้ง วิบาก ก็ไม่ได้ตามทันที
บางครั้งวิบากที่ตามอยุ่เป็นวิบาก ที่คั่งค้างมาจากชาติอื่น ๆ ซึ่งเกินจากสติปัญญา ที่ปุถุชน จะเข้าใจได้

ธรรมที่ควรเจริญ กับคนที่เชื่อเรื่องกรรมก็คือ มรณัสสติ นะจ๊ะ ที่ควรเจริญให้มาก มีให้มาก


เจริญธรรม


 ;)

     :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28450
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๒
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๔
อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต


    ๙. มรณัสสติสูตรที่ ๑

    [๒๙๐] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ ปราสาทสร้างด้วยอิฐใกล้บ้านนาทิกคาม ณ ที่นั้นแล
     พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระผู้มีพระภาคแล้ว
     พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย มรณัสสติอันภิกษุเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว
     ย่อมมีผลมากมีอานิสงส์มาก หยั่งลงสู่อมตะ มีอมตะเป็นที่สุด
     ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายย่อมเจริญมรณัสสติหรือ

     .......ฯลฯ.......

     ส่วนภิกษุใดย่อมเจริญมรณัสสติอย่างนี้ว่า
     โอหนอ เราพึงเป็นอยู่ได้ชั่วขณะที่เคี้ยวข้าวคำหนึ่งกลืนกิน
     เราพึงมนสิการคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาค เราพึงกระทำกิจให้มากหนอ และ


     ภิกษุใดย่อมเจริญมรณัสสติอย่างนี้ว่า
     โอหนอ เราพึงเป็นอยู่ได้ชั่วขณะที่หายใจเข้าแล้วหายใจออก หรือหายใจออกแล้วหายใจเข้า
     เราพึงมนสิการคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาค เราพึงกระทำกิจให้มากหนอ


     ดูกรภิกษุทั้งหลาย เหล่านี้เรากล่าวว่า เป็นผู้ไม่ประมาท
     ย่อมเจริญมรณัสสติ เพื่อความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลายแรงกล้า


    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแหละ เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่า
    เราทั้งหลายจักเป็นผู้ไม่ประมาท จักเจริญมรณัสสติ เพื่อความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลายอย่างแรงกล้า
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้แล ฯ


ที่มา http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=22&A=7188&Z=7254
ขอบคุณภาพจาก http://www.oknation.net/


ask1

   ถูกบังคับแต่งงาน แล้วยังถูกแม่บังคับ ให้ซื้อรถให้น้องชาย อีก แต่เงินแต่งสินสอน พ่อแม่ ก็ยึดไปหมด บอกให้เอาเงินสามีมาซื้อ พอบอกสามีไป ก็โดนด่า ว่ามาแต่งเพื่อหวังสมบัติ สุดท้ายนอนร้องไห้ อยู่หลายคืน ต้องไปถอนเงินเก็บสุดท้ายมาซื้อรถ ให้น้องชาย ตามแม่สั่ง ชีิวิตที่ระกำ เพราะคำว่า กตัญญู อย่างนี้จะเป็นบุญ หรือ เป็นบาป หรือ สร้างกรรม กันมาอย่างไร คะ ทำอย่างไรถึงจะออกจากกงกรรม กงเกวียนนี้ได้คะ

   thk56 :'(

     ans1 ans1 ans1
     แนะนำให้เจริญมรณัสสติ ขอรับ
        :25: :25: :25:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 09, 2013, 02:42:25 pm โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ