ขอนมัสการนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
ขอนมัสการนอบน้อมแด่พระธรรม เป็นธรรมเพื่อออกจากทุกข์ที่พระพุทธเจ้าตรัสสอน ให้ผลได้ไม่จำกัดกาล
ขอนอบน้อมแด่พระสงฆ์ ผู้เป็นคู่แห่งบุรุษ ๔ คู่ ผู้เป็นนาบุญของโลกควรแก่เขานำมาบูชา
กราบนมัสการพระอาจารย์ธัมมวังโสภิกขุ
ผมได้เจริญซึ่ง อานาปานสติ พุทธานุสสติ พรหมวิหาร ๔ เป็นนิจตามสติกำลัง คือ
๑. กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกเพื่อยังให้จิตสงบตั้งมั่น
๒. ระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าด้วย หายใจเข้าระลึก พุทธ หายใจออกระลึก โธ ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง แลระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าว่าด้วย อระหัง ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส น้อมจิตเข้าระลึกถึงความว่างสงบจากกิเลสดั่งคุณนั้นของพระผู้มีพระภาคเจ้า
๓. พรหมวิหาร ๔
๓.๑ เมื่อถึงความสงบลงแล้วจะน้อมรำลึกถึงฉัพพรรณรังสีบารมีของพระตถาคตแผ่เมาสู่ตน แล้วก็ตั้งจิตอธิษฐานตามแสงนั้นเฝ้าแผ่เมตตาให้ตนเองนั้นเป็นสุขปราศจากกิเลสทุกข์ ไม่ผูกเวรใคร ไม่พยาบาทใคร ไม่มีความร้อนรุ่มอันเกิดแต่ ความใคร่ปารถนาที่จะเสพย์ความกำหนัดยินดีอันเกิดแต่ความติดใจเพลิดเพลิน ไม่มีความขุ่นมัวใจ เศร้าหมองใจ ตืดใจข้องแวะ ไม่มีความมัวหมองหม่นหมองใจ ให้ผมมีแต่ความสุขกายใจ แจ่มใสเบิกบานไม่เศร้าหมอง รักษากายวาจาใจให้พ้นจากภัยแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้
๓.๒ เมื่อตัวผมเองนั้นกิเลสบางลงแล้วก็ตั้งจิตมั่นระลึกถึงฉัพพรรณรังสีของพระพุทธเจ้าที่แผ่ขยายไปทั่วหมื่นโลกธาตุ เสริมและนำทางเอาจิตอันปารถนาดีเป็นกุศลเมตตาของผมนั้นแผ่ไปให้สรรพสัตว์ทั้งปวงอันไม่มีประมาณทั้ง ๑๐ ทิศ ให้สัตว์ทั้งหลายได้เป็นสุขพ้นจากกิเลสและกองทุกข์ไม่ผูกเวรพยาบาทซึ่งกันและกัน ไม่มีความร้อนรุ่มใจใดๆ ดั่งสุขที่ผมได้รับเมื่อผมปราศจากกิเลสทุกข์ ไม่ร้อนรุ่มเพราะละความผูกเวรพยาบาทผู้อื่นแล้ว ให้สรรพสัตว์ทั้ง ๑๐ ทิศ นั้นได้เสวยผลบุญที่ผมได้กระทำและสะสมมาดีแล้วนี้แผ่ไปทีละทิศจนครบ
๔. ทาน ทั้งที่ สงเคราะห์ให้ อนุเคราะห์ให้ และ สละให้
- ผมเจริญปฏิบัติธรรมทั้ง ๔ ข้อนี้เป็นประจำควบคู่กับเจริญจิตตานุสติปัฏฐานเพื่ออบรมจิต แม้ยามปกติ ยามที่เป็นทุกข์กาย ยามเกิดกิเลสทุกข์ใจ เช่น เวลาเจ็บป่วย อยากกินเหล้า กำหนัดราคะ เวลาทะยานอยากไรๆ เวลาเกิดปฏิฆะ โทสะใดๆ
- ทำให้ทุกวันนี้ผมไม่หยากกินเหล้าแล้ว แม้ราคะมีมากอยู่แต่ก็มีสตืยั้งใจเกิด สัมมาทิฐิ และ สัมมาสังกัปปะ มากขึ้น
- ศีลผมก็บริสุทธิ์มากขึ้นตามที่ใจตนหวังไว้ แต่ไม่ใช่ว่าทำได้ตลอดเลยนะครับแต่ดีขึ้นมาก ซึ่งเมื่อก่อนนี้ผมเจริญอย่างนี้คิดว่าผมทำผิดทางเพราะเห็นและตรึกตรองด้วยตนเอง หรือ ปฏิบัติแบบผิดๆ ผมจึงเลิกปฏิบัติไป จนเห็นพระอาจารย์โพสท์สอนกรรมฐานไว้ในกระทู้
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=13937.0 ซึ่งผมได้ติดตามอ่านและน้อมนำมาปฏิบัติเป็นประจำทุกกระทุ้ จึงทำให้ผมเกิดศรัทธาและความมั่นใจที่จะทำอย่างล้นพ้น ทำให้ได้ผลดีมากไม่จำกัดกาล แม้ตอนนี้ผมยังไม่ได้สัมมาสมาธิ แต่จิตก็ตั้งมั่นจดจ่อดีมากขึ้นไม่วอกแวกฟุ้งซ่านเหมือนก่อนทำให้ผมได้พบความสุขจากผลที่ได้ปฏิบัติเป็นอันมาก
ผมโพสท์กระทุ้นี้ด้วยเจตนา 2 คือ
1. ให้บรรดาศิษย์ทั้งหลายที่เข้ามาแวะชมได้เห็นว่า กรรมฐานที่พระอาจารย์โพสท์สอนดูเหมือนเป็นพื้นฐานและส่วนน้อยแต่หากน้อมนำมาปฏิบัติจริงจังย่อมให้ผลได้มากกว่าที่คิดเดาเอาอย่างไม่มีประมาณ ดังนั้นขอให้ศิษย์ของพระอาจารย์ทั้งหลายอย่ามองข้ามไป ผมนั้นขนาดยังไม่สามารถไปขึ้นกรรมฐานได้ และ ไม่รู้วิธีปฏิบัติตามจริงในสายมัชฌิมาแบบลำดับยังให้ผลได้ ท่านทั้งหลายที่ได้ขึ้นกรรมฐานแล้ว หรือ เพิ่งเริ่มปฏิบัติควรเร่งฝึกตามที่พระอาจารย์สนธนาสั่งสอนด้วยศรัทธาในพระรัตนตรัยและไม่ลังเลสงสัยในแนวปฏิบัติที่พระอาจารย์สอนสั่งแม้เพัยงน้อยนิดย่อมให้ผลได้อย่างแน่นอน
2. ผมอยากสอบถามพระอาจารย์หากพอจะโพสท์ตอบได้ ผมขอแนวทางเจริญพุทโธแบบมัชฌิมาให้ผมน้อมนำไปปฏิบัติด้วยเถิด พร้อมการเดินที่พิจารณาธาตุที่ถูกต้อง เพื่อให้ผมได้ปฏิบัติตามสติกำลังและเผยแพร่ต่อไปด้วยเทอญ