ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พระแก้วมรกตจำลอง อภิโปรเจกท์ 'หลวงปู่เณรคำ'  (อ่าน 2151 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออนไลน์ ออนไลน์
  • กระทู้: 28449
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

พระแก้วมรกตจำลองอภิโปรเจกท์'หลวงปู่เณรคำ'
ศูนย์ข่าวเนชั่นภาคอีสานรายงาน

ชื่อของ หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก แห่งวัดป่าขันติธรรม หรือที่พักสงฆ์บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ที่กำลังเป็นกระแสในโลกอินเทอร์เน็ต อาจสร้างความประหลาดใจให้แก่ผู้คนบางส่วน ตั้งปุจฉาเหตุใดหนอภิกษุวัยเพียง 34 ปี จึงมีผู้คนเรียกว่า "หลวงปู่" และเหตุใดผู้คนจึงมีจิตศรัทธาบริจาคเงินร่วมสร้างถาวรวัตถุกันจำนวนมาก รวมทั้งมีการนิมนต์ไปแสดงธรรมที่ประเทศต่างๆ โดยใช้เครื่องบินเจ็ตในการเดินทางจนเป็นข่าวฮือฮาอยู่ในขณะนี้

ย้อนไปสมัยที่ ด.ช.วีรพล สุขผล เด็กน้อยจากบ้านทรายมูล ต.ทรายมูล อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี บวชเณรเฉกเช่นเดียวกับเด็กทั่วไป กระทั่งผ่านไป 5 ปี ได้บวชเป็นพระภิกษุที่วัดดอนธาตุ บ้านทรายมูล ได้ฉายา "ฉัตติโก" จาริกแสวงบุญไปเรื่อย จนมาพบว่าที่บ้านยางแห่งนี้มีที่พักสงฆ์ที่กำลังจะร้าง จึงได้ปักกลด และตั้งใจที่จะสร้างวัดขึ้นให้จงได้ โดยการอธิษฐานจิตด้วยตนเอง

จากนั้นได้เชิญชวนญาติโยมให้เข้ามาที่วัดป่าขันติธรรม ศรัทธาเริ่มหลั่งไหลเมื่อมีข่าวว่า มีญาติโยมถ่ายภาพ "พระฉัตติโก" ได้ในรูปลักษณ์ที่แปลกไปจากพระทั่วๆ ไป คือ มีมวยผมเกิดยกสูงขึ้นที่กลางศีรษะ คล้ายผมบนศีรษะของพระพุทธเจ้า เมื่อครั้งปลงผมเพื่อออกผนวกใหม่ๆ ญาติโยมต่างพูดต่อๆ กันว่า อาจจะเป็นพระที่พระพุทธเจ้าทรงบวชให้ หรือลือต่อไปอีกว่ามีบุญเช่นพระพุทธเจ้า จึงได้บังเกิดภาพลักษณะนี้ขึ้น


 :sign0144: :sign0144: :sign0144:

เมื่อภาพถูกแจกจ่ายต่อไปทั่ว จ.ศรีสะเกษ กระทั่งกระจายในประเทศ และต่างประเทศ ผู้คนยิ่งพูดถึงกันมากขึ้น ผู้คนก็หลั่งไหลเข้ามาที่สำนักสงฆ์แห่งนี้เป็นเงาตามตัว ต่างต้องการเดินทางมาขอดูให้เป็นบุญตา แม้ว่าภาพเบื้องหน้าที่ทุกคนได้เห็นจะเป็นเพียงพระหนุ่มเท่านั้น แต่ความศรัทธาของผู้คนหาได้ลดทอนลง

ทว่าศรัทธากลับเพิ่มมากขึ้นเมื่อ หลวงปู่เณรคำ ได้พิมพ์หนังสือธรรมะออกเผยแผ่ไปตามแผงหนังสือทั่วๆ ไป ในการถ่ายทอดคำสั่งสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ในการให้ผู้คนปฏิบัติธรรมเพื่อการหลุดพ้นจากเวรกรรม พร้อมทั้งสอนให้คนรู้จักการให้ การให้ทาน การสร้างสมบุญ การสร้างศาสนสถานไว้ให้พระพุทธศาสนาได้จรรโลงคงอยู่ในโลกตราบชั่วลูกหลาน สร้างกุฏิปฏิบัติธรรมให้พระสงฆ์ สร้างพระให้คนกราบไหว้ สร้างศาลาให้คนมาปฏิบัติธรรม ซื้อที่ดินถวายวัดเพื่อสร้างเป็นวัดให้พระสงฆ์ได้มาปฏิบัติธรรม


 :58: :58: :58:

ที่ฮือฮาที่สุดดูเหมือนจะเป็นโครงการสร้าง "พระแก้วมรกต" องค์จำลองใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีกระแสว่าในคืนวันอาทิตย์ที่ 4 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 เวลาตีสอง ท้าวสักกะเทวราช มหาราชองค์อินทร์ มหาราช จอมเทวดา ผู้ยิ่งใหญ่กว่าเทวดาทั้งหลาย ได้มาอาราธนานิมนต์ให้หลวงปู่เณรคำ นำพาสาธุชนร่วมกันสร้างองค์พระแก้วมรกตจำลอง หน้าตักกว้าง 15 เมตร สูง 18 เมตร ส่วนฐานความสูง 7 เมตร โดยมหาราชองค์อินทร์ จะเป็นผู้ช่วยอำนวยการสร้างให้ราบรื่น ให้แล้วเสร็จด้วยพลังใจ พลังจิตอันยิ่งใหญ่ ทั้งเทวดา มนุษย์มิตรทั้งหลาย

นายช่างใหญ่ที่รับหน้าที่ก่อสร้างพระแก้วมรกตจำลอง เล่าให้ฟังว่า การสร้างพระแก้วมรกตขนาดใหญ่ ถือเป็นเรื่องยาก ต้องใช้ช่างฝีมือพื้นบ้านจาก จ.สกลนคร และนครพนม กว่า 30 คน ที่มีความชำนาญงานก่อสร้างและงานปูน
    อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เริ่มก่อสร้างยังไม่ประสบปัญหาจนงานต้องหยุดชะงัก
    โดยพระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลกมีขนาดหน้าตักกว้าง 15 เมตร สูง 18.5 เมตร
    ฐานสูงจากพื้นดิน 7 เมตร ครอบมหาวิหารความสูงประมาณตึก 6 ชั้น มีลิฟต์โดยสารขึ้นลง
    ชั้นล่างสุดใช้เป็นสถานปฏิบัติธรรมของญาติโยมที่ตั้งใจมาทำบุญ
    ทางวัดต้องการให้เป็นพุทธสถานที่สำคัญ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางพุทธศาสนาที่สำคัญในอนาคต


 :88: :88: :88:

พระแก้วมรกต ที่ว่านี้เน้นสถาปัตยกรรมร่วมยุคร่วมสมัย โดยจะรวมสถาปัตยกรรมของทุกๆ ภาคของประเทศไทยไว้ ให้มีความสวยงามมีชีวิตชีวา โดยให้สื่อความหมายถึงพุทธศาสนิกชนที่มีความศรัทธามั่นคง เด็ดเดี่ยว ต่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งงบประมาณการก่อสร้างเฉพาะองค์พระแก้วมรกตกว่า 150 ล้านบาท จะสำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่กับกำลังศรัทธาของญาติโยม

    สิ่งพิเศษสำหรับองค์พระแก้วมรกต นอกจากความใหญ่โตขององค์พระแล้ว
    วัสดุที่ใช้หยกเขียวแท้หุ้มองค์พระแก้วมรกตเป็นหยกอิตาลี
    สั่งซื้อนำเข้าจากประเทศอินเดียดินแดนต้นกำเนิดของพระพุทธศาสนา
    หยกถือเป็นรัตนชาติอีก 1 ชิ้น ที่มีความงดงาม


 :49: :49: :49:

ขณะเดียวกัน ทุกครั้งที่วัดป่าขันติธรรมมีงานมักที่จะกล่าวอ้างถึงพระแก้วมรกต องค์จำลองที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในการเชิญญาติโยมเข้าวัด เพื่อประกอบศาสนกิจที่เกี่ยวกับองค์พระแก้วฯ และทุกครั้งญาติโยมก็จะเดินทางมาร่วมบุญกันเป็นจำนวนมาก จนมีกระแสข่าวออกไปว่า วัดแห่งนี้สามารถดึงญาติโยมเข้าวัดได้มาก มีเงินเข้าวัดมากที่สุด

และทุกครั้งหลวงปู่เณรคำ จะออกมาเปิดเผยว่า ครั้งมีญาติโยมมาร่วมทำบุญด้วยเงิน ด้วยทองคำจำนวนเท่าใด และทุกครั้งญาติโยมที่รับฟังก็จะตาโต เพราะนับหลายร้อยล้านบาทที่มีญาติโยมมาร่วมทำบุญ เพื่อสร้างศาสนสถาน ประกอบกับทางวัดได้มีประชาสัมพันธ์ที่ดี มีก่อนงาน ระหว่างงาน และหลังงานเสร็จตลอด

กระแสศรัทธาหลวงปู่เณรคำในระยะหลังมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีญาติโยมนิมนต์ไปเทศน์ในที่ต่างๆ กันในหลายพื้นที่ที่ห่างไกลกัน ในเวลาไล่เลี่ยกัน การเดินทางจึงจำเป็นที่จะต้องใช้รถตำรวจทางหลวงนำขบวน และมีญาติโยมคอยติดตามจำนวนหนึ่งด้วย

ในระยะหลังญาติโยมที่นิมนต์ได้ถวายเครื่องบินให้นั่งไปมาจะได้ไม่ลำบาก ไม่เหนื่อย จนมีกระแสข่าวก่อนหน้านี้หลายต่อหลายครั้ง แต่ญาติโยมที่ศรัทธาเชื่อว่าเกิดจาก "คน" ยังมีกิเลสออกมาโจมตี ซึ่งที่สุดเรื่องก็เงียบหายไป





บทนี้ว่าด้วย...ระเบียบการนิมนต์


กล่าวสำหรับเหล่าญาติโยมผู้มีจิตศรัทธา หรือมีความประสงค์จะนิมนต์ "หลวงปู่เณรคำ" ไปประกอบพิธีทางศาสนา ต้องศึกษารายละเอียดและปฏิบัติตาม "ระเบียบและข้อปฏิบัติในการนิมนต์" อย่างเคร่งครัด ซึ่งประกาศผ่าน www.luangpunenkham.com ดังนี้

     1. เจ้าภาพต้องมานิมนต์ด้วยตัวเอง
     2. ถ้าเป็นวัด เจ้าอาวาสพร้อมกรรมการวัดให้ทำฎีกานิมนต์ มายื่นถวาย และลงนามเจ้าอาวาสพร้อมด้วยคณะกรรมการวัดทุกท่าน
     3. ถ้าเป็นองค์กร หรือสมาคมให้ทำฎีกานิมนต์มายื่นถวายและลงนามประธานองค์กร พร้อมด้วยคณะกรรมการทุกท่าน
     4. แจ้งกำหนดการให้ชัดเจน เช่น วัน เวลา สถานที่ เบอร์โทรศัพท์
     5. จัดทำแผนที่การเดินทางไปสู่บริเวณงานให้ชัดเจน
     6. ถ้ามีการเลื่อนการจัดงาน หรือขัดข้องให้แจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน
     7. เจ้าภาพหรือผู้ร่วมงานในพิธีต้องแต่งกายสุภาพเรียบร้อย
     8. เตรียมที่รับรองหลวงปู่ และคณะสงฆ์ให้สะอาดเรียบร้อย
     9. เจ้าภาพต้องอำนวยความสะดวกแก่คณะที่ติดตามหลวงปู่
   10. นิมนต์แล้วต้องติดตามประสานงานก่อนถึงวันงานอย่างต่อเนื่อง
   11. ต้องทำฎีกานิมนต์มายื่นถวายก่อนล่วงหน้า
   12. ห้ามนิมนต์ต่อจากงานหนึ่งไปอีกงานหนึ่งในวันนั้น
   13. เจ้าภาพต้องเตรียมสถานที่จอดขบวนรถหลวงปู่ให้พอเพียง
   14. ขณะขบวนรถหลวงปู่ เข้าสู่บริเวณงานต้องไม่มีพิธีกรรมใดๆ ทั้งสิ้น
   15. เจ้าภาพต้องออกมายืนต้อนรับหลวงปู่ และคณะสงฆ์
   16. ห้ามเจ้าภาพหรือผู้ร่วมงานเปิดปิดประตูรถของหลวงปู่โดยเด็ดขาด
   17. การปูผ้าให้หลวงปู่เหยียบนั้นให้เป็นไปตามความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนอย่างแท้จริง ทั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับหลวงปู่ และคณะสงฆ์โดยเด็ดขาด
   18. ให้เจ้าภาพประกาศห้ามผู้มาร่วมงานนำเงิน, ทองคำ, หนังสือเครื่องมงคล มาวางไว้ระหว่างทางเพื่อให้หลวงปู่ และคณะสงฆ์เหยียบโดยเด็ดขาด
   19. กรณีแสดงพระธรรมเทศนาต้องจัดที่นั่งให้คณะสงฆ์ติดตามหลวงปู่นั่งข้างธรรมาสน์
   20. ก่อนเริ่มพิธีเจ้าภาพต้องแจ้งกำหนดการจัดงานให้หลวงปู่ทราบทุกขั้นตอน
   21. ขณะที่หลวงปู่ประกอบพิธีอยู่ให้ปิดเครื่องมือสื่อสารและสัญญาณรบกวนทุกชนิด
   22. พิธีเจิมและประพรมน้ำพระพุทธมนต์เป็นขั้นตอนสุดท้าย หลวงปู่เดินทางกลับวัด


 :happybirthday3: :happybirthday3: :happybirthday3:


หนึ่งปณิธาน"ชาติหน้าไม่ขอกลับมาเกิดอีก"

ครั้งหนึ่ง "หลวงปู่เณรคำ" เทศนาว่า ถาวรวัตถุที่เราสร้างขึ้น เป็นการยืนยันว่า พระพุทธศาสนาในยุคนั้นๆ มีความเจริญรุ่งเรืองอยู่ ยกตัวอย่างสังเวชนียสถาน 4 ที่ ทำให้เราได้รู้ว่า พระพุทธเจ้าเกิดที่ไหน ตรัสรู้ที่ไหน ปรินิพพานที่ไหน ก็ด้วยมีวัตถุถาวรที่ยังหลงเหลืออยู่ ทำให้เราได้ทราบ เราพุทธศาสนิกชนยุคนี้จึงไม่ต่างจากยุคก่อนว่า เราทำไว้ คนรุ่นต่อไปอีก 2,500 กว่าปี ก็จะได้รู้ว่า ยุคนั้น สมัยนั้น พระพุทธศาสนายังมีความเจริญรุ่งเรืองอยู่ เราจะไม่ทิ้งทั้งการสร้างคน และถาวรวัตถุ มันเป็นเครื่องยืนยันได้ทั้ง 2 อย่าง คือ คนยืนยันได้ในปัจจุบันชาติ และวัตถุยืนยันถึงอนาคตชาติได้

    นี่คือเหตุผลในการก่อสร้างพระแก้วมรกตจำลองขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

สำหรับการสร้าง "คน" สร้างง่าย ถ้าเรามีเทคนิค มีวิธีในการสร้าง หลวงปู่จึงทำทั้งสองด้าน คือ เราสร้างวัตถุให้เจริญด้วย สร้างคนให้เจริญพร้อมกันด้วย หลวงปู่ทำให้เจริญทั้ง 2 อย่าง ทั้งสร้างคน และสร้างวัตถุถาวรอันยิ่งใหญ่ จิตใจเรามันยิ่งใหญ่ ศรัทธาเรามันเต็มร้อย เราไม่ลังเลสงสัยว่า รอให้แก่แล้วจึงทำ มีกำลังแล้วเราทำตอนนี้ เพื่อให้โลกรู้ว่า แม้อายุเรายังไม่มาก แต่จิตใจเราหนักแน่น ประดุจแผ่นดิน เราจะทำสิ่งใดเพื่อพระพุทธเจ้า เราทำทั้งนั้น

 :25: :25: :25:

นอกจากนี้ หนังสือ “ชาติหน้าไม่ขอกลับมาเกิดอีก” ซึ่งบันทึกประวัติชีวิตของหลวงปู่เณรคำในแง่มุมต่างๆ ทั้งการเผยแผ่ธรรม วิธีการปฏิบัติ ปาฏิหาริย์ รวมทั้งประวัติส่วนตัวอย่างละเอียด

ในตอนหนึ่งยังสอนให้ฝึกสติให้ยิ่งเจริญปัญญา กำหนดรู้สึกในกระดูก เมื่อรู้เห็นเข้าไปในกระดูกเด่นชัดมากแล้ว ร่างกายทั้งหมด จะเห็นหมดเลย จะมั่นคงในจิต สติปัญญามั่นคงอยู่ในกระดูก สภาพสติในจิตใจล้วนๆ สามารถชำระล้างถอดถอนกิเลสตัณหา อุปาทานอยู่ในจิต จากนั้นจะดับไป จิตดับเหลือแต่ปัญญาล้วนๆ และต้องทบทวนสิ่งที่ตนบรรลุนั้นอยู่ตลอด จนกว่าลมหายใจจะขาดจากโลกใบนี้

      "แม้เราจะอาศัยบ้านหลังนี้เป็นหลังสุดท้าย แต่เราก็ขอทำคุณงามความดีให้แก่บ้านเกิดหลังสุดท้ายอย่างเต็มภาคภูมิ ถ้าเราทำความดี ความดีก็มีในใจเรา ไม่ต้องไปโอ้อวดใครทั้งสิ้น”
 :49: :49: :49:

ส่วนธรรมะจากหนังสือ “คนเห็นโลก” ช่วงหนึ่งบอกว่า "ความศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่อยู่ในโลกเกิดจากมนุษย์ผู้ที่สร้างบารมีแล้ว ก็ไม่ได้เอาบารมีไปด้วย จิตนิพพานไปแล้ว แต่บารมีที่ท่านสร้างไว้ในโลกยังคงอยู่ เปรียบเหมือนนักจิตรกรวาดภาพเอาไว้ เมื่อตายไปก็ไม่ได้เอาภาพไปด้วย ในหมู่มนุษย์ทั่วไปจึงมีคำพูดว่า ตายแต่ตัว ความดีชั่วยังคงอยู่"

     "พระนิพพานไม่ได้อยู่ที่ว่าโลกจะแตกหรือไม่แตก แต่พระนิพพานคือ การหลุดจากโลกไปแล้ว"

ในธรรมทั้งปวง ความเป็นตัวเป็นตน ความแบกหาม เอาสมมุติทั้งหลายทิ้งไปให้หมด สละไปให้หมด จึงได้ชื่อว่าเป็นผู้หลุดพ้นจากการเวียนว่าย ตายเกิด...


ขอบคุณภาพและบทความจาก
www.komchadluek.net/detail/20130620/161454/พระแก้วมรกตจำลองอภิโปรเจกท์หลวงปู่เณรคำ.html#.UcOypdj0YXF
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 21, 2013, 09:11:08 am โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: พระแก้วมรกตจำลอง อภิโปรเจกท์ 'หลวงปู่เณรคำ'
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มิถุนายน 21, 2013, 09:52:22 am »
0
หนึ่งปณิธาน"ชาติหน้าไม่ขอกลับมาเกิดอีก"

ครั้งหนึ่ง "หลวงปู่เณรคำ" เทศนาว่า ถาวรวัตถุที่เราสร้างขึ้น เป็นการยืนยันว่า พระพุทธศาสนาในยุคนั้นๆ มีความเจริญรุ่งเรืองอยู่ ยกตัวอย่างสังเวชนียสถาน 4 ที่ ทำให้เราได้รู้ว่า พระพุทธเจ้าเกิดที่ไหน ตรัสรู้ที่ไหน ปรินิพพานที่ไหน ก็ด้วยมีวัตถุถาวรที่ยังหลงเหลืออยู่ ทำให้เราได้ทราบ เราพุทธศาสนิกชนยุคนี้จึงไม่ต่างจากยุคก่อนว่า เราทำไว้ คนรุ่นต่อไปอีก 2,500 กว่าปี ก็จะได้รู้ว่า ยุคนั้น สมัยนั้น พระพุทธศาสนายังมีความเจริญรุ่งเรืองอยู่ เราจะไม่ทิ้งทั้งการสร้างคน และถาวรวัตถุ มันเป็นเครื่องยืนยันได้ทั้ง 2 อย่าง คือ คนยืนยันได้ในปัจจุบันชาติ และวัตถุยืนยันถึงอนาคตชาติได้

    นี่คือเหตุผลในการก่อสร้างพระแก้วมรกตจำลองขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

สำหรับการสร้าง "คน" สร้างง่าย ถ้าเรามีเทคนิค มีวิธีในการสร้าง หลวงปู่จึงทำทั้งสองด้าน คือ เราสร้างวัตถุให้เจริญด้วย สร้างคนให้เจริญพร้อมกันด้วย หลวงปู่ทำให้เจริญทั้ง 2 อย่าง ทั้งสร้างคน และสร้างวัตถุถาวรอันยิ่งใหญ่ จิตใจเรามันยิ่งใหญ่ ศรัทธาเรามันเต็มร้อย เราไม่ลังเลสงสัยว่า รอให้แก่แล้วจึงทำ มีกำลังแล้วเราทำตอนนี้ เพื่อให้โลกรู้ว่า แม้อายุเรายังไม่มาก แต่จิตใจเราหนักแน่น ประดุจแผ่นดิน เราจะทำสิ่งใดเพื่อพระพุทธเจ้า เราทำทั้งนั้น

 st11      st11      st11      st11      st11      st11
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

Akira

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 653
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: พระแก้วมรกตจำลอง อภิโปรเจกท์ 'หลวงปู่เณรคำ'
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มิถุนายน 21, 2013, 10:28:51 am »
0
 :s_hi: :s_hi: :s_hi: :s_good:
บันทึกการเข้า
เครดิต ยายกบ มาศึกษาธรรมะจ้า แก๊งค์ อ๊บ อ๊บ

samapol

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 304
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: พระแก้วมรกตจำลอง อภิโปรเจกท์ 'หลวงปู่เณรคำ'
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มิถุนายน 21, 2013, 03:23:51 pm »
0
ยิ่งมีชื่อเสียง ก็ต้อง ยิ่งระวัง ด้วย ( หากปฏบิติได้จริง ก็ไม่ต้องระวังอะไร )

ของดี หรือ ของเทียม เดี๋ยวก็ต้องปรากฏ

 :coffee2: :coffee2: :coffee2:
บันทึกการเข้า