ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไมถึงบอกว่า ที่ใด มีรัก ที่นั่นมีทุกข์ คะ  (อ่าน 8724 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

inlove

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 51
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ทำไมถึงบอกว่า ที่ใด มีรัก ที่นั่นมีทุกข์ คะ

  คือสนทนากับเพื่อนที่อยู่ ศาสนาคริสต์ และเพื่อน พยายามอธิบายว่า ความรัก ก็ คือความเมตตากรุณา

 มนุษย์ ที่มีความรัก จะมีความหวัง เมื่อมีความหวัง ก็จะมี สันติภาพ คะ

  เลยสวนทาง กับ คำด้านบนว่า ที่ใดมีรัก ที่นั่นเป็นทุกข์ คะ

  จึงอยากทราบ นิยามความหมายของคำว่า ความรัก ในพระพุทธศาสนา หมายถึง เรื่องใดกันจ๊ะ


 :58: :88: :c017:

 
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28456
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ทำไมถึงบอกว่า ที่ใด มีรัก ที่นั่นมีทุกข์ คะ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2011, 07:10:55 pm »
0

ที่ใดมีรักที่นั้นมีทุกข์ ภาษิตของพระพุทธเจ้า
 
ถ้าหากใครไม่เคยประสบกับตนเองย่อมไม่มีวันเท่าใจได้อย่างแน่นนอน เมื่อเรามีรัก1อย่างย่อมมีทุกข์1อย่าง มีรักในสิ่งใด100อย่างย่อมมีทุกข์100ตามไปด้วยเพราะจิตที่ผูกพันกับสิ่งใดเรามักจะยึดมั่นในสิ่งต่างๆเหล่านั้น และสิ่งที่เรารักและยึดมั่นไว้มักจะมาทำร้ายจิตใจของเราเสมอ

ที่เป็นเช่นนี้ เพราะสิ่งต่างๆๆทั้งหมดในโลกที่เรายึดมั่นไว้มันไม่มีความมั่นคงสักวันย่อมเปลี่ยนแปลงไปย่อมกฏแห่งความไม่เที่ยงแท้เราไม่สามารถบังคับบัญชาให้เป็นไปตามที่เราต้องการได้เลย

พระพุทธศาสนาจึงมีจุดมุ่งหมายสูงสุด ในสิ่งที่เที่ยงแท้นั้นคือพระนิพพานสภาวะที่ไม่เป็นแปรไป มั่นคงพ้นไปซึ่งการเวียนว่ายตายและเกิดการเกิดบ่อยๆเป็นทุกข์คำนี้เป็นจริงแท้ หากเราพิจารณาตั้งแต่เกิดจนมาปัจจุปันนี้เราผ่าน ความทุกข์ต่างๆๆมากมาย ทั้งทางร่างกายและจิตใจ

หากมองย้อนไปในอดีตที่แสนยาวนานเราที่ยังเป็นปุถุชนผ่านทุกข์ต่างๆๆมาเเล้วนับไม่ได้เลยทุกข์ประจำโลก  เกิด  เเก่  ตายจาก กฏที่ไม่มีใครทำลายได้ ทุกข์จร  ความผิดหวัง พลัดพราก ท้อเเท้ โรคภัยไข้เจ็บ ความน้อยใจ ความเบื่อหน่าย  และความห่วงใยชีวิตที่เเสนสั้นของมนุษย์ เรากลับประสบกับสิ่งต่างๆๆข้างต้นอย่างมากมาย และมีการเเสวงหาที่ไม่สิ้นสุดลงเลย

พระพุทธศาสนาจึงไม่ใช่ศาสนาแห่งรัก แต่พระองค์สั่งสอนให้มนุษย์มีจิตและการปฏิบัติต่อกันอย่างนี้

เมตตา หมายความว่า การปรารถนาดีรักใคร่ต่อสัตว์ทั้งหลาย
เมตตาคือความไม่โกรธ (อโทสะ)

กรุณา หมายความว่า เมื่อเห็นสัตว์ทั้งหลายได้รับ
ความลำบาก  ย่อมช่วยผู้ที่ได้รับความลำบากนั้นให้ได้รับความสุข
 
มุทิตา หมายความว่า ความรื่นเริงบันเทิงใจ
ในความสุขความสมบูรณ์ของผู้อื่น
 
อุเบกขา มีลักษณะ คือ มีอาการเป็นไปอย่างกลาง
ในสัตว์ทั้งหลาย  มีการมองดูในสัตว์ทั้งหลายด้วยความเสมอกัน

 
ธรรมทั้งปวง หากมีประจำในใจของผู้ใด เขาย่อมเป็นสุขและยังความสุขนั้นไปสู่คนรอบๆๆข้างแต่เราจะมีโอกาสทุกครั้งในการวนเวียนเกิดเวียนตายอย่างนี้ไหม 

การได้พบพุทธเจ้าเป็นของยาก
การได้ฟังพระสัทธรรมเป็นของยาก
การเข้าใจพระธรรมเป็นของยาก
การพบกัลยณมิตรเป็นของยาก


ถ้าเราเกิดในยุคที่ไม่มีสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมด ทั้งชึวิตนั้นคงก่อเเต่อกุศลตลอดชาติด้วยความเขลาบาปที่ทำย่อมนำไปอบาย4 ที่ๆมีแต่ทุกข์เป็นอาหาร

แล้วทำไมนะ คนเราจึงไม่เเสวงหาปัญญาเครื่องนำออกจากทุกข์นี้นั้น อาจเป็นเพราะกิเลสที่หมักดองในจิตตสันดานเราจะพ้นไปเสียจากอำนาจของมันได้อย่าไร
 
เราควรตั้งคำถามนี้กับใจตัวเองหรือไม่


ที่มา http://www.daowadung.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&WBntype=1&Category=daowadungcom&thispage=1&No=1254885


   ลิงก์แนะนำ

   ความรักกับการอกหัก
   http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=4986.0

   อุทาหรณ์ สอนใจผู้หญิงในเรื่องความรัก ที่ยึดมั่น ถือมั่น ผิดทาง ขาดหลักธรรม
   http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=2256.msg8323#msg8323

   ความรัก เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะแก้อย่างไร
   http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=348.0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 21, 2011, 07:14:34 pm โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28456
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ทำไมถึงบอกว่า ที่ใด มีรัก ที่นั่นมีทุกข์ คะ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2011, 07:59:14 pm »
0


ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์

    ความโศกก็ดี ความร่ำไรก็ดี ความทุกข์ก็ดี มากมายหลาย อย่างนี้มีอยู่ในโลก เพราะอาศัยสัตว์หรือสังขารอันเป็นที่รัก เมื่อไม่มีสัตว์หรือสังขารอันเป็นที่รัก ความโศก ความร่ำไร และความทุกข์เหล่านี้ย่อมไม่มี
     เพราะเหตุนั้นแล ผู้ใดไม่มี สัตว์หรือสังขารอันเป็นที่รักในโลกไหนๆ ผู้นั้นเป็นผู้มีความสุข ปราศจากความโศก เพราะเหตุนั้น ผู้ปรารถนาความไม่โศก อันปราศจากกิเลสดุจธุลี ไม่พึงทำสัตว์หรือสังขารให้เป็นที่รัก ในโลกไหนๆ ฯ


ที่มาของคำว่า "ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์" อยู่ใน "วิสาขาสูตร"
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗
ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ บรรทัดที่ ๔๓๐๗ - ๔๓๕๒. หน้าที่ ๑๘๘ - ๑๙๐. 
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=25&A=4307&Z=4352&pagebreak=0             
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=176
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: ทำไมถึงบอกว่า ที่ใด มีรัก ที่นั่นมีทุกข์ คะ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2011, 08:05:26 pm »
0
ทำไมถึงบอกว่า ที่ใด มีรัก ที่นั่นมีทุกข์ คะ

ความรัก มิได้มีอยู่โดยสภาวะของมันจริง มนุษย์มีเพียงใจที่สมมติไปในอารมณ์เพียงชั่วพลันแล่นขณะหนึ่ง ความรัก

จึงเป็นสิ่งเย้ายวนไม่ยืนยาวเรียกว่า รัก, ร้าว, รา, ร้าง มีเป็นสัตย์เที่ยงแท้ เพื่อนๆชาวคริสต์มองความรัก ความหวัง

เป็นแก่นเป็นกระพี้นั้น เนื้อแท้แล้วความรักเป็นเพียงตุ๊กตาปั้น หากแต่ความหวังให้ตุ๊กตามีชีวิตนี่ซิ มันเป็นไปได้หรือ

ตรองดูเอาหละกันเพื่อนๆชาวธรรม
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28456
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ทำไมถึงบอกว่า ที่ใด มีรัก ที่นั่นมีทุกข์ คะ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2011, 08:07:11 pm »
0



ยอดของความรัก

ปัญหา (เทวดากล่าวเป็นเชิงแสดงทรรศนะของตน) ความรักเสมอด้วยความรักบุตรไม่มี ทรัพย์เสมอด้วยโคไม่มี แสงสว่างเสมอด้วยดวงอาทิตย์ย่อมไม่มี สระทั้งหลายมีทะเลเป็นยอด?

พุทธดำรัสตอบ “ความรักเสมอด้วยความรักตนไม่มี ทรัพย์เสมอด้วยข้าวเปลือกย่อมไม่มี แสงสว่างเสมอด้วยปัญญาย่อมไม่มี ฝนต่างหากเป็นสระยอดเยี่ยม”


นันถิปุตตสมสูตร ส.สํ. (๒๘-๒๙)
ตบ. ๑๕ : ๙ ตท. ๑๕ : ๙
ตอ. K.S. I : ๑๐
http://www.84000.org/true/094.html


ความรักทำให้คนตาบอด

ปัญหา มีคำพังเพยกล่าวไว้ว่า คามรักทำให้คนตาบอด ดังนี้ทางพระพุทธศาสนายอมรับคำกล่าวนี้ว่า เป็นความจริงหรือไม่เพียงใด ?

พุทธดำรัสตอบ “.....บุคคลผู้กำหนัด อันความกำหนัดครอบงำรึงรัดจิตใจไว้ ย่อมรู้แม้ซึ่งประโยชน์ตน ตามความเป็นจริง ย่อมรู้แม้ซึ่งประโยชน์ผู้อื่น ตามความเป็นจริงย่อมไม่รู้แม้ซึ่งประโยชน์ตน และประโยชน์ผู้อื่น ทั้ง ๒ ฝ่ายตามความเป็นจริง.... ความกำหนัดแล ทำให้เป็นคนมืด ทำให้เป็นคนไร้จักษุ ทำให้ไม่รู้อะไร ทำให้ปัญญาดับ เป็นไปในฝ่ายความคับแค้นไม่เป็นไปเพื่อนิพพาน.....ฯ”


ฉันนสูตร ติ. อํ. (๕๑๑)
ตบ. ๒๐ : ๒๗๗-๒๗๘ ตท. ๒๐ : ๒๔๓-๒๔๔
ตอ. G.S. I : ๑๙๖
http://www.84000.org/true/178.html
ขอบคุณภาพจาก http://www.oknation.net/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28456
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

วิสาขาสูตร

     พ. ดูกรนางวิสาขา
     ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๑๐๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๑๐๐ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๙๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๙๐
     ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๘๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๘๐ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๗๐ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๗๐
     ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๖๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๖๐ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๕๐ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๕๐


     ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๔๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๔๐ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๓๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๓๐
     ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๒๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๒๐ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๑๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๑๐


     ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๙ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๙ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๘ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๘
     ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๗ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๗ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๖ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๖
     ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๕ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๕ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๔ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๔
     ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๓ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๓ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๒ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๒


     ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๑ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๑ ผู้ใดไม่มีสิ่งที่รัก ผู้นั้นก็ไม่มีทุกข์
     เรากล่าวว่า ผู้นั้นไม่มีความโศก ปราศจากกิเลสดุจธุลี ไม่มีอุปายาส ฯ


ที่มา http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=25&A=4307&Z=4352&pagebreak=0




     ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ โดย คุณดังตฤณ

     คำพูดนี้เป็นคำที่พระพุทธเจ้าสอนนางวิสาขา
     ความจริงแล้วไม่ใช่เรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ นะ


    คือ นางวิสาขาเสียหลานไปคนหนึ่ง นางรักหลานคนนี้มาก
     พระพุทธเจ้าก็ถามว่า ที่ร้องไห้เพราะอะไร
     นางวิสาขาบอก เพราะหลานคนนี้ตาย
     พระพุทธเจ้าถามอีกว่า หลานคนอื่นตาย ทำไมไม่เห็นร้องขนาดนี้
     นางบอกว่า หลานคนนี้รักมาก เป็นแก้วตาดวงใจ
     ท่านถามอีกว่า ถ้าสมมุติมีหลานที่นางวิสาขารักแบบนี้
     แบบเดียวกันนี้ อีก ๑๐๐ คน จะไม่อกแตกตายเหรอ
     นางวิสาขาก็คิดได้ว่า เออ... ใช่ มันเป็นไปได้ที่เราจะรักใครได้มากขนาดนี้


     บางคนรักหมายิ่งกว่าผัว คือตัวความรักมันแสดงให้เห็นว่า
     ไม่ว่าจะรักใคร จะรักอะไร มันคือความทุกข์
     มันไปยึด รักแบบไปยึด ไม่ใช่รักแบบเมตตา


     รักแบบเมตตาคือปรารถนาดี
     รักแบบกรุณาคือมีความคิดอยากจะช่วย
     รักแบบพลอยยินดีไปกับเขา อนุโมทนาไปกับเขาด้วย


     รักแบบมีความเข้าใจ มีเหตุผล
     คือทุกอย่างที่มาที่ไป เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เป็นธรรมดา
     ถ้ารักแบบนี้ จะหลุดพ้นจากความรักแบบยึด
     จะเป็นรักแบบที่มีคนอื่นเป็นที่ตั้งของความรัก
     ไม่ใช่ตัวเราเป็นที่ตั้งของความรัก


     รักแล้วต้องร้องไห้ คือมีเราเป็นที่ตั้งของความรักนะ
     มีตัวเราได้ประโยชน์จากความรัก
     มีตัวเราเป็นผู้รับผลประโยชน์จากความรัก

    แต่รักแบบมีคนอื่นเป็นที่ตั้งของความรักนี้ ผลประโยชน์ไปตกกับเขา
     เราปรารถนาดีกับเขา อยากช่วยเขา พลอยยินดีไปกับเขา
     เราเข้าใจเหตุ เข้าใจผล ที่เขาต้องเป็นไปอย่างหนึ่ง ๆ
     เขาตายไปก็เข้าใจว่าถึงเวลาที่เขาต้องไป
     ความรักแบบนั้นไม่ทำให้เราเป็นทุกข์ เพราะว่ารักแบบไม่ยึด


     เป็นข้อสรุปที่พระพุทธเจ้าบอกนางวิสาขา
     วิสาขา... มีรักหนึ่งก็ทุกข์หนึ่งนะ
     มีรักสิบก็ทุกข์สิบ มีรักร้อยก็คือทุกข์ร้อย
     แล้วถ้าหากว่าไม่มีรักเลย ก็ไม่มีทุกข์เลย


     รักแบบโลก ๆ
     แต่ถ้ารักด้วยเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
     แบบนี้มีได้ไม่มีประมาณ
     และก็เป็นสุขได้ไม่มีประมาณ


ที่มา  http://becandlelight.exteen.com/20110117/entry
ขอบคุณภาพจาก http://www.dhammajak.net/,http://img.kapook.com/



   
  ปิยโต ชายเต โสโก ปิยโต ชายเต ภยํ
     ปิยโต วิปฺปมุตฺตสฺส นตฺถิ โสโก กุโต ภยํ ฯ

     ที่ใดมีของรัก ที่นั่นมีโศก ที่ใดมีของรัก ที่นั่นมีภัย
     เมื่อไม่มีของรักเสียแล้ว โศกภัย ก็ไม่มี.

                                               พุทธวจนะ
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

นิรตา ป้อมนาวิน

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +20/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1212
  • อย่างน้อยชาตินี้ขอปิดอบายภูมิ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: ทำไมถึงบอกว่า ที่ใด มีรัก ที่นั่นมีทุกข์ คะ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ธันวาคม 23, 2011, 10:49:42 am »
0
กระทู้ไหนที่เกี่ยวกับความรัก ต้องเจอคุณ ธวัชชัย และ ลุงปุ้ม หนูเป็นอีกคนที่เจอเรื่องแบบนี้ ไม่เจอกับตัวคงไม่รู้ และชอบคำแนะนำของพี่ทั้งสอง ตรงทุกประเด็น โดนใจทุกกระทู้ ขอบคุณมากค่ะ :c017: :c017: :c017:
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28456
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ความรักทำให้คนตาบอด
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2012, 10:25:09 am »
0

บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28456
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ทำไมถึงบอกว่า ที่ใด มีรัก ที่นั่นมีทุกข์ คะ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2013, 08:17:05 am »
0


อัปโหลดเมื่อ 10 ธ.ค. 2009 โดย VeeNuwan
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ