พิมพ์

[ธัมมะวังโส]

1.ใน ต้น ฤดูฝน หลังจากที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ แล้ว ทรงอยู่ด้วย มหาวิหารโพธิญาณ จำนวน 49 วันตรวจการตรัสรู้ และ ละกิเลสได้แล้วเป็น สมุจเฉทปหาน จึงทรงตรวจด้วยญาณ ตามระลึกถึงบุคคล ที่ควรได้รับคุณธรรม เพื่อ การรู้ละ ดับกิเลสตาม ในขณะนั้น ก็ระลึกได้ ถึง 2 ท่านคือ
   1. อุทกดาบส ( เป็นฤาษี ) 2. อาฬารดาบส ( ก็เป็นฤาษี )  แต่ทั้งสองก็ได้ิิสิ้นอายุขัยไปแล้ว

พระองค์ก็ทรงท้อในพระหทัย ว่า ธรรมที่พระองค์ทรงตรัสรู้แล้วนั้น เป็นธรรมที่อันบุคคลทั่วไปรู้ได้ยาก ครั้งนั้นท้าวสหัมบดีพรหมก็มาให้ความเห็นว่า ยังพอจะมีบุคคลที่พอจะรู้ธรรมอยู่ จึงอาราธนาพระพุทธเจ้าโปรดบุคคลที่สมควรแก่การรู้ธรรม พระพุทธเจ้าจึงทรงดำรินึกถึงพยานธรรมที่สมควรแก่ธรรม ก็คือ เหล่าปัญจวัคคีย์

ซึ่งมี อัญญาโกณฑัญญะพราหมณ์ วัปปะพราหมณ์ ภัททิยะพราหมณ์ มหานามะพราหมณ์ และ อัสสชิพราหมณ์
พระองค์จึงทรงเสด็จไปโปรด พราหมณ์ทั้ง 5 จนสำเร็จเป็นพระโสดาบันในวัน เพ็ญ เดือน 8

ซึ่งอันนี้เป็นสาระ ประการที่ 1
คือเป็นวันที่มี พระรัตนตรัย ครบ ทั้ง 3 ประการ
คือ มีพระพุทธเจ้า ที่ทำหน้าที่ประกาศธรรม
     มีพระธรรม ที่ทรงได้ประกาศเป็นครั้งแรก ชื่อว่า อริยสัจจะ 4 ประการ
          มีทุกขสัจจะ  สมุทัยสัจจะ  นิโรธสัจจะ และ มรรคสัจจะ
     มีพระสงฆ์ เป็นพระอริยะ ( พระโสดาบัน ) รูปแรก คือ พระอัญญาโกณฑัญญะ
     ด้วยการอุปสมบถ แบบ เอหิภิกขุอุปสัมปทา คือ พระพุทธเจ้าเป็นผู้บวชให้ด้วยการกล่าวประทานวาจา

อันนี้เป็นสาระ ที่ 1 นะจ๊ะ

เจริญธรรม

 

[arlogo]

สาระที่ 2 ของวันอาสาฬหบูชา ก็คือ การน้อมนำเนื้อหาพระธรรม ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงครั้งแรกไว้ มาใส่ใจ

เนื้อหาของพระธรรม มีส่วน ๆ ดังนี้

 1. ทรงกล่าวถึง ที่สุดของมนุษย์ ที่ติดกันในสังสารวัฏฏ์ นี้สองประการ
    1.1 กามสุขัลลิกานุโยค การใช้ชีวิตที่เพลิดเพลิน ด้วย รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส อารมณ์ อันเป็นที่ชอบใจ

    1.2 อัตตกิลมถานุโยค การใช้ชีวิตมุ่งแต่เรื่องจิต ด้วยละหลง ลืม หรือ ปฏิเสธ การเป็นอยู่ของกาย

 2.ทรงประกาศธรรม ที่เรียกว่า ทางสายกลาง อันประกอบด้วย องค์ 8 ประการ เรียกว่า อริยะมรรค

   2.1 สัมมาทิฏฐิ ความเห็นถูก
   2.2 สัมมาสังกัปปะ ความดำริถูก
   2.3 สัมมาวาจา ความพูดจาถูก
   2.4 สัมมากัมมันตะ การทำสิ่งที่ถูก
   2.5 สัมมาอาชีวะ การดำรงชีวิตที่ถูก
   2.6 สัมมาสติ การระลึกถูก
   2.7 สัมมาวายามะ การพากเพียรทีุ่ถูก
   2.8 สัมมาสมาธิ การตั้งใจมั่นถูก

3. ทรงตรัสแสดง อริยสัจจะ 4 ประการ
   3.1 ทุกขสัจจะ  ความจริงของทุกข์
   3.2 สมุทัยสัจจะ ความจริงของเหตุที่เกิดทุกข์
   3.3 นิโีรธะสัจจะ ความจริงเมื่อสิ้นสุดแห่งทุกข์
   3.4 มัคคะสัจจะ ความจริงของหนทางภาวนาเพื่อความพ้นทุกข์

4. ทรงตรัสกล่าวถึง การสดุดี ของเหล่าเทวดา และ พรหม รวม 16 ชั้น

5. ทรงตรัสแสดงความยินดี อันเป็นความยินดี ที่เทวดา 16 ชั้นอนุโมทนา ก็คือ
การที่มีผู้ได้ดวงตาเห็นธรรมเรียกว่า ธรรมจักษุ
และผู้ที่ได้เป็นผู้แรกใน หมู่มนุษย์ ก็คือ โกณฑัญญะพราหมณ์


อันนี้กล่าวว่าเป็นสาระุที่ 2

เจริญธรรม

 

[ธัมมะวังโส]

ขึ้นชื่อว่าการ ทำบุญ ทำทาน ทำกุศล มีอยู่ในสายเลือดของคนไทย
จะเห็นว่า ศิลปะวัฒนธรรม ของคนไทยได้ถ่ายทอดออกสู่สายตาชาวโลก และ ชาวธรรม
ด้วยศิลปะ ไม่ว่า วัตถุ หรือ วัฒนะ จริยะ ประเพณี ของคนไทย ก็ล้วนสื่อธรรม พุทธศาสนาไว้อย่างชัดเจน

ดังนั้น สาระที่ 3 ก็คือ การปฏิบัติบูชา พระัรัตนตรัย

การปฏิบัติบูชา ก็นับการ ทำบุญ ทำทาน ภาวนา รักษา ศีล ไว้ด้วยมิได้แยกออกจากกัน

ดังนั้นประเพณี นิยมกันในวันนี้ ก็มีการเวียนเทียน ( การทำประทักษิณ ) แสดงความเคารพ ต่อ พระรัตนตรัย

[PISSAMAI]

อนุโมทนา คะ ได้อ่านแล้วตามระลึกถึง พระรัตนตรัย และ พระธรรมในวันนี้ รู้สึกดีจังคะ
อากาศเย็น ๆ พร้อมกับสายฝนที่ ลงมาให้กำลังใจ ในการภาวนาในวันหยุดด้วยคะ

 

[ธุลีธวัช (chai173)]

แรม ๘ ค่ำ

     เดือนแปดแรมค่ำนี้              ผลัดทรง
แก้วพระปฏิมาองค์                 รักษ์แพร้ว
หมู่สงฆ์ศากยะวงศ์               บ่ดุ่ม ด้าวนา
ไตรมาสสามเดือนแคล้ว       แต่นี้จึงจร.

                                                     ธรรมธวัช.!

[นิรมิต]

ในวันนี้ น่าจะเป็นวันอธิษฐาน นะคะ คุณธรรมธวัช วันปวารณา น่าจะเป็นวันออกพรรษา

 

[ธัมมะวังโส]

อ่านเพิ่มได้จาก ลิงก์ นี้ นะจ๊ะ

http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=726.msg3132#msg3132

กระทู้เก่า ก็มีสาระครอบคลุมอยู่

 

[สมภพ]

อนุโมทนา กับพระอาจารย์ฺ ด้วยครับ กระทู้มีมากจนอ่านไม่ถูกครับ ตอนนี้
ก็ตามอ่านของเก่า กันอยู่ ครับอ่านไม่ทันครับ กระทู้มาใหม่เร็ว มากครับ
ถ้ากระทู้สั้น ๆ ก็อ่านทันครับ แต่บางกระทู้อ่านแล้ว ยาว มาก ๆ ครับ  แถมอ่านแล้วต้อง
ต้อง นิสัมมะกะรณังเสยโย ด้วย จึงทำให้ต้องอ่านหลายรอบครับ

ก็จะตามอ่านต่อไปครับ