ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ระหว่างทำบุญตักบาตร พระสงฆ์ กับ ถวาย ข้าวพระพุทธ  (อ่าน 5175 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

วรรณา

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 158
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ระหว่างทำบุญตักบาตร พระสงฆ์ กับ ถวาย ข้าวพระพุทธ

 คือ อยากทราบว่าระหว่าง คนหนึ่งทำบุญตักบาตร ที่หน้าบ้าน

  กับ อีกคนหนึ่งถวายข้าวพระพุทธ บนหิ้ง

 บุญต่างกันอย่างไร คะ ?

  :smiley_confused1: :c017:
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28446
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ระหว่างทำบุญตักบาตร พระสงฆ์ กับ ถวาย ข้าวพระพุทธ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 14, 2011, 07:06:01 pm »
0
ความเป็นมาของการถวายข้าวพระพุทธ


การถวายข้าวพระพุทธ
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)

:: ขอกราบเท้าถามหลวงพ่อว่า ทำไมจึงมีการถวายข้าวพระพุทธ โดยมีผู้อธิบายแตกต่างไปหลายนัย

อันการถวายข้าวพระนั้น แต่เดิมครั้งสมัยพุทธกาล ขณะที่องค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังทรงพระชนม์ชีพอยู่ พระอานนท์พุทธอุปฐากแห่งองค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น เป็นผู้ที่มีความซื่อสัตย์กตัญญู มีความเคารพนับถือองค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างยิ่ง ไม่มีอย่างอื่นใดจะเปรียบได้

เมื่อครั้งที่องค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า จักเสด็จไปในที่ใดพระอานนท์พุทธอุปฐากนั้นไซร์ก็ได้ติดตามไปใกล้ชิดพระ ยุคลบาทมิได้ห่างเหินเลย ครั้นทรงอาพาธด้วยโรคอย่างใด พระอานนท์พุทธอุปฐากก็ได้พยายามปรนนิบัติรักษาอย่างเต็มความสามารถเสมอ


การถวายภัตตาหารก็ดี น้ำฉันก็ดี ปูอาสนะนั่งนอนก็ดีนั้น เป็นหน้าที่ของพระอานนท์พุทธอุปฐาก และได้กระทำสม่ำเสมอมา ไม่ว่าพระพุทธองค์จะทรงเสด็จไปในที่แห่งใด เมื่อเป็นเช่นนี้พระอานนท์จึงเป็นผู้ที่มีความใกล้ชิดต่อองค์สมเด็จพระบรม ศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างยิ่ง

และยิ่งกว่านั้นยังเป็นผู้ที่กระทำตนให้เหมือนตู้แห่งพระธรรม ที่องค์สมเด็จพระบรมศาสดาฯ ตรัสออกจากพระโอษฐ์เพื่อเทศนาสั่งสอนปุถุชนเวไนยสัตว์ทั้งหลายก็ตาม พระอานนท์ย่อมจะต้องเป็นผู้รับรู้ซึ่งธรรมอันนั้นด้วย

ในการที่จะแก้ปัญหาธรรมและตอบแก่ผู้มาถามทุกฝ่าย การปฏิบัติต่อองค์สมเด็จพระบรมศาสดาฯ ขององค์พระอานนท์พุทธอุปฐากนี้ ย่อมกระทำเป็นกิจวัตรตลอดมา โดยมิได้มีการเปลี่ยนแปลงและกระทำโดยสม่ำเสมอ


เมื่อครั้งองค์สมเด็จพระบรมศาสดาฯ เสด็จดับขันธ์เข้าสู่พระปรินิพพานแล้ว พระอานนท์พุทธอุปฐากก็ยังระลึกถึงองค์สมเด็จพระบรมศาสดาอยู่มิรูวาย พระอานนท์คิดเสมอเหมือนหนึ่งว่า องค์สมเด็จพระบรมศาสดาฯ ยังทรงพระชนม์ชีพอยู่

แม้ว่าพระพุทธองค์จะเป็นผู้ขันธปรินิพพานไปแล้วก็ตาม แต่การปฏิบัติของพระอานนท์พุทธอุปฐากก็หาได้ยุติลงไม่ เหตุทั้งนี้ก็เพื่อเป็นเครื่องแสดงซึงกตัญญูกตเวทิตาคุณ ต่อองค์สมเด็จพระบรมศาสดาฯ


เมื่อภายหลังประชาชนทั้งหลายได้ทราบเรื่องจึงพากันซุบซิบนินทาว่า พระอานนท์ได้ปฏิบัติการไปนั้นไม่เป็นการถูกต้องสมควร

แต่ได้มีพระมหากัสสปเถระผู้เป็นใหญ่ แก้ปัญหาข้อนี้ว่า

การที่พระอานนท์กระทำไปหมายถึงว่า พระอานนท์ได้ระลึกถึงพระคุณขององค์สมเด็จพระบรมศาสดาฯ อยู่ตลอดเวลา การปฏิบัติถวายข้าวพระ น้ำดื่ม ปูอาสนะนั่งนอน แม้เมื่อองค์สมเด็จพระบรมศาสดาฯ ได้เสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้ว ก็ยังแสดงซึ่งกตัญญูกตเวทิตาคุณแก่ผู้มีพระคุณดังนี้


การปูอาสนะที่นั่งนอนและภัตตาหารทั้งหลาย น้ำผลไม้หรืออัฏฐบาล น้ำดื่ม น้ำใช้ทั้งปวง เมื่อพระอานนท์เคยจัดอย่างไร เมื่อสมัยที่พระบรมศาสดาฯ ยังทรงพระชนม์ชีพอยู่ พระอานนท์ก็ได้จัดไว้เช่นนั้น จนตราบเท่าที่พระอานนท์ดับขันธปรินิพพานไปเช่นเดียวกัน

การกระทำเช่นนี้เป็นการแสดงกตเวทิตาธรรม อันวิญญูชนทั้งหลายพึงทราบความเป็นจริง ตามที่กล่าวมานี้ เข้าใจหรือยัง


: คำสั่งสอนอบรม
: โดย สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)
ที่มา  http://board.palungjit.com/f14/ความเป็นมาของการถวายข้าวพระพุทธ-67152.html

ขอบคุณภาพจาก www.dhammajak.net
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28446
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ระหว่างทำบุญตักบาตร พระสงฆ์ กับ ถวาย ข้าวพระพุทธ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กันยายน 14, 2011, 07:25:38 pm »
0

อานิสงส์ถวายข้าวพระพุทธรูป


ผู้ถาม  “กระผมไม่กล้าถวายข้าวพระข้าวเจ้า ถวายผลไม้แทนได้ไหมครับ...”

หลวงพ่อ  “ถ้าบังเอิญชาตินี้ไปนิพพานไม่ได้  ชาติหน้ามีแต่ลูกไม้กิน”

ผู้ถาม  “อย่างนั้นถวายข้าวด้วยดีกว่าครับ  แต่บางทียังถวายไม่เสร็จเลย  แมว กินเสียก่อนแล้ว  อย่างนี้จะว่ายังไงครับหลวงพ่อ”

หลวงพ่อ  “อ๋อ...นี่เป็นลูกศิษย์พระ  ลูกศิษย์พระมีทั้งแมว  มีทั้งหนู  มีทั้งมด  มีทั้งจิ้งจก  นั่นลูกศิษย์ของท่านนะ”

ผู้ถาม  “อ้อ...ต้องให้โอกาสเขาบ้างนะ”

หลวงพ่อ “ใช่  เรานี่ไปแย่ง เขากินนะ  แต่ความจริงการถวายข้าวพระ  จะเป็นอาหารหรือว่าเป็นลูกไม้ก็ตาม  พระพุทธ รูปท่านไม่ได้ฉัน  แต่เป็นการบูชาความดีของพระ พุทธเจ้า  ถ้าเป็นกรรมฐานเขาเรียก “พุทธานุสสติกรรมฐาน”  สูงมาก  ไม่ใช่ต่ำ  ถ้า เวลาเราถวายบางทีเราควบทั้งสามอย่างเลย  ทั้งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์  ที่เขาว่า

          “อิมัง  สูปะ พยัญชนะ  สัมปันนัง” แล้วก็ลงท้ายด้วย  “พุ ทธัสสะ  ธัมมัสสะ  สังฆัสสะ” ใช่ไหม  ที่ลงตอนท้ายนี่เป็นพุทธานุสสติ  ธัม มานุสสติ  สังฆานุสสติ  ถือ ว่าเป็นกรรมฐาน และถือว่าเป็นฌานด้วย  เพราะจิตเรา ห่วงอยู่เสมอว่า  วันพรุ่งนี้เราจะเอาอะไรถวาย  ตัวคิดตัวนี้เป็นฌานก็ทรงตัว  อัน นี้เป็นการปฏิบัติกรรมฐานในพุทธานุสสติกรรมฐานโดยไม่รู้สึกตัว

          ฉะนั้น ทุกคนทุก ๆ วัน ควรจะถวายข้าวพระ  และก็กับข้าวมาก ๆ อย่าใช้ถ้วยเล็ก ๆ นะ  ถ้วยโต ๆ มีกับประเภทไหนที่เราชอบใจมากก็บอก นี่เอาถวายพระพุทธ กันคนอื่นไว้”

ผู้ถาม  “ทีนี้ญาติโยมเอาถ้วยตะไลเล็ก ๆ ถวายล่ะครับ”


หลวงพ่อ  “อันนี้ไม่เป็นไร  อยู่ ที่จิตใจ  จิตตั้งใจจะถวาย  ตัว ที่นึกถึงพระพุทธเจ้า  พระธรรมเจ้า และพระสงฆ์  ตัวนี้สำคัญเป็นฌาน”

ผู้ถาม  “คือคงคิดว่า  องค์ หล่อท่านเล็ก ๆ ก็เลยถวายถ้วยเล็ก ๆ  ถ้าถ้วยใหญ่ กลัวจะตกใจ ดีไม่ดีหล่นไปในขันน้ำว่ายไม่ได้ตาย เดี๋ยวพระพุทธรูปตาย เลยต้องเอาถ้วยเล็ก ๆ”

หลวงพ่อ  “เล็กหรือใหญ่ไม่สำคัญ  สำคัญ ที่นึกอยู่เสมอว่า  ตอนเช้าเราจะถวายข้าวพระพุทธรูป  ตัวนี้สำคัญมาก  การนึกถึงพระ พุทธรูปเป็นพุทธานุสสติกรรมฐาน  เมื่อถึงเวลา จิตมันคิดก็เป็นฌาน “ฌานัง” แปลว่า  การเพ่ง  ตัวเพ่งตัวนี้ตั้งใจ

          ถ้านึกถึงพระธรรมด้วย พระสงฆ์ด้วย เป็นธัมมานุสสติด้วย สังฆานุสสติด้วย  ถ้าทำอย่างนี้ เสมอ ๆ ตายแล้วตกนรกไม่เป็น”

ผู้ถาม  “ถวายข้าวพระพุทธรูป กับถวายข้าวพระสงฆ์  อย่างไหนอานิสงส์มากกว่ากันคะ”


หลวงพ่อ  “การถวายข้าวพระพุทธรูป  ถ้า เป็นเจตนาเพื่อเป็นพุทธบูชาจริง ก็เป็นพุทธานุสสติกรรมฐาน ตั้งใจถวายพระสงฆ์และตั้งใจถวายจริง ๆ  เป็นวัตถุทาน ด้วย เป็นสังฆานุสสติกรรมฐานด้วย

          แต่อย่าลืมว่าถวายแก่พระพุทธเจ้ามีอานิสงส์ มากกว่าถวายพระสงฆ์เยอะ  แต่ว่าเวลานี้ถ้าไม่ถวายพระ สงฆ์  เกิดไปชาติหน้าอดข้าว  เดี๋ยว หนูเกิดไปชาติหน้า  ถ้าพูดเขาไม่ให้กินต้องนั่งเฉย ๆ เดี๋ยวเขาก็ให้กิน



ผู้ถาม  (หัวเราะ)

หลวงพ่อ  “ถวายพระพุทธเจ้าเป็นพุทธบูชาเฉย ๆ  ยังไม่ถือเป็นทาน  เราจะมี ทรัพย์สิน  มีเสื้อสวม มีผ้านุ่ง มีบ้านอยู่ นั่นเป็นอานิสงส์ของทานการให้  ถ้าเราบูชาพระ พุทธเจ้าจัดเป็นพุทธบูชาเฉย ๆ  นึกถึงความดีของท่าน  ไม่ถือว่าเป็นทาน  อานิสงส์ได้คน ละอย่าง

          “พุทธบูชา มหาเตชะวันโต”  การบูชาพระพุทธเจ้ามีเดชมีอำนาจมาก  นั่นหมายความว่า  ถ้าเกิดเป็น เทวดาหรือพรหมมีรัศมีกายสว่างไสวมาก  เทวดาหรือพรหม นี่เขาไม่ดูเครื่องแต่งตัว  เขาดูแสงสว่างออกจากกาย

          “ธัมมบูชา   มหา ปัญโญ”  การบูชาพระธรรม  มีปัญญามาก  คือ ใคร่ครวญในพระธรรมจนเกิดปัญญา  จ ิตเป็นสมาธิ

          “สังฆบูชา  มหา โภคะวโห”  สงเคราะห์พระสงฆ์ เกิดไปรวยมาก  เพราะเราใช้วัตถุเป็น เครื่องหมาย  อานิสงส์ต่างกัน  แต่ ต้องทำ  3  อย่าง  ไม่งั้นหลวงพ่ออด”


ผู้ถาม  (หัวเราะ)  “หลัง เพลก็ถวายได้ใช่ไหมคะ”

หลวงพ่อ  “ได้ถือเป็นการบูชานะ  ไม่ ใช่ถวายทาน  ไม่จำกัดเวลานะ”

ผู้ถาม “จัดอาหารไปเลี้ยงพระที่วัด  และได้จัดอาหารถวายพระพุทธรูป  ลาแล้วก็เอา ให้ลูกกิน  รวมทั้งครอบครัวด้วย  เอา มากินที่บ้าน  จะมีบาปหรือไม่คะ..”

หลวงพ่อ “ชักสงสัยนะ  ความ จริงถวายพระพุทธรูปแล้ว  อย่าเอามาดีกว่า  เวลาที่วางไปแล้วเรากล่าวเป็นสังฆทานนี่ ใช่ไหม...ทีหลังถวายพระพุทธรูปที่บ้านดีกว่าไม่มีเรื่องดี  หรือ ว่าถ้าถวายพระพุทธรูปแล้ว  ก็เก็บถวายพระในตอนเพลจะ ได้อานิสงส์อีก”

ผู้ถาม  “ที่บ้านหนูทำบุญบ้าน นิมนต์พระ 9 องค์  แล้วถวายข้าวพระพุทธด้วย  เสร็จ แล้วก็เอามาทาน  จะได้ไหมคะ”

หลวงพ่อ “สาธุ...ทีหลังอย่าทำก็แล้วกันนะ”


ผู้ถาม  “ต้องชำระหนี้สงฆ์ใช่ไหมคะ.....”

หลวงพ่อ  “พระยายมท่านตอบว่า  “หมิ่นไป”  ท่านบอก ว่า  “ควรจะถวายพระเอาไปวัด”

ผู้ถาม “แล้วในเวลาเพลแล้วเล่าคะ”

หลวงพ่อ  “เพลแล้วก็เป็นเรื่องของพระไป  ถ้าถวายพระแล้วท่านไม่เอา  ก็ใช้ ได้เลย”

ผู้ถาม  “เอาหญ้าที่วัดไปทำยาที่บ้านเป็นไรไหมคะ”

หลวงพ่อ  “ไม่เป็นไร  เจ้า ของพระศาสนาบอกเองนะ  พระก็สงเคราะห์คนได้เหมือนกัน”

ผู้ถาม  “ถ้าชำระหนี้สงฆ์แทนคนอื่นได้ไหมคะ  คือพี่ชายหนูบวชแล้วพอสึกก็เอาของวัดมาบ้าน”

หลวงพ่อ  “ตอนที่ชำระให้เขารู้ไหม”


ผู้ถาม  “ก็ไม่ทราบค่ะ  คือ หนูจ่ายแทนแล้วไปบอกเขาได้ไหมคะ”

หลวงพ่อ  “ได้เลย...ต้องให้เขารู้ด้วยนะ”

ผู้ถาม  “กราบเรียนหลวงพ่อที่เคารพ  ลูกมีความไม่สบายใจเกี่ยวกับของใส่บาตรหลายประการ  วัน หนึ่งแม่ทำกับข้าวเสร็จก็ใส่บาตร  แต่ไม่บอกลูก  ลูกก็เลยกินก่อนพระ  วันที่สอง แม่แบ่งไว้ถวายพระ  ลูกไม่รู้นึกว่าแบ่งให้หนู  หนูก็เลยกินไปอีก  แม่เจี๊ยวจ๊าว เป็นการใหญ่หาว่ากินก่อนพระ  ก็เกิดความไม่สบายใจ ขึ้นมา  อยากจะขอโทษ  แม่จะ ให้อภัยหรือเปล่าเจ้าคะ  เพราะไม่รู้และไม่เจตนา”

หลวงพ่อ  “ไม่เจตนามันกินยังไงนะ  ต้อง หลับกิน ไม่เจตนา เราก็หาของมาแทนซิ  ไม่มีอะไร  พระท่านไม่ได้ว่า  แม่จะได้ไม่ สะดุดใจ  กินอะไรเข้าไปบ้างจำได้ไหม  ไปซื้อของอย่างนั้นมาให้แม่เพื่อถวายพระ  หมด เรื่องกัน  แม่จะได้ถวายพระต่อไป”



ทีมาhttp://kaskaew.com/index.asp?contentID=10000004&title=%CD%D2%B9%D4%CA%A7%CA%EC%B6%C7%D2%C2%A2%E9%D2%C7%BE%C3%D0%BE%D8%B7%B8%C3%D9%BB&getarticle=65&keyword=&catid=10
ขอบคุณภาพจาก http://gallery.palungjit.com,www.oknation.net,http://news.dmc.tv
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: ระหว่างทำบุญตักบาตร พระสงฆ์ กับ ถวาย ข้าวพระพุทธ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กันยายน 15, 2011, 02:04:38 am »
0
ระหว่างทำบุญตักบาตร พระสงฆ์ กับ ถวายข้าวพระพุทธบนหิ้ง บุญต่างกันอย่างไร คะ ?
                  
การถวายข้าวบูชาพระพุทธนั้น กล่าวได้ว่าน้อมนำเป็นพุทธานุสสติ (น้อมระลึกถึงองค์แห่งพระกรุณาคุณ/พระวิสุทธิคุณ/

พระปัญญาคุณ) อันเป็นองค์คุณแห่งพระกรรมฐาน ถวายได้ทุกวัน น้อมรำลึกนึกถึงได้ทุกขณะเวลา อุทานเป็นพระพุทธ

ไปเลยดี ทุกอย่างเป็นการเจริญอารมณ์ (รักษาใจไม่ให้อารมณ์จรไปในอายตนะผัสสะ (ไม่ปรุงแต่งจิตให้คิดกระทำ))

อานิสงส์นั้นมากมากด้วยใจหยั่ง "พุทโธ" เสสังเศษส่วนที่เหลือก็ใส่บาตรไปเลย ได้พุทธานุสสติ ธัมมานุสสติ สังฆา

นุสสติ ครบ จบด้วยทานมัยกุศล ชีวิต รู้ตื่น เบิกบาน ทานไม่พร่อง สาธุ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ น่าอิจฉามากมากหากทำได้เยื่องนี้




http://teetwo.blogspot.com/2009/11/blog-post_28.html
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 15, 2011, 10:34:45 am โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

สถาพร

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 220
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ระหว่างทำบุญตักบาตร พระสงฆ์ กับ ถวาย ข้าวพระพุทธ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กันยายน 15, 2011, 07:48:17 am »
0
การให้ทาน มีส่วนสำคัญ 4  อย่างคือ

   1.ผู้ให้
 
   2.ผู้รับ

   3.วัตถุทาน

   4.บริสุทธิ ทั้งทาน บุคคล และ ใจ

ถ้า 4 ประการนี้ มีครบ ก็เรียกว่า สมบูรณ์ ด้วยทานนั้น

  ส่วนการถวายพระพุทธ นั้น เป็น อนุสสติ จัดว่าเป็นทาน คือ ธรรมทาน

  เป็น บุญอันปราศจาก ผู้รับ เป็นการแสดงออกซึ่งความศรัทธา

 ถ้าพิจารณาให้ดี การที่บุคคล นำดอกไม้ เครื่องหอม ไปถวาย บูชา สักการะ พระบรมสารีริกธาตุ เจดีย์ ได้บุญเช่นไร การถวายข้าวพระพุทธ ก็น่าจะได้บุญเช่นนั้น เหมือนกันครับ


  :25:

 
บันทึกการเข้า
ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน