ตา เป็นอนัตตา รูป เป็นอนัตตา วิญญาณที่รู้แจ้งรูปมากระทบตา เป็นอนัตตา
หู เป็นอนัตตา เสียง เป็นอนัตตา วิญญาณที่รู้แจ้งเสียงมากระทบหู เป็นอนัตตา
จมูก เป็นอนัตตา กลิ่น เป็นอนัตตา วิญญาณที่รู้แจ้งกลิ่นมากระทบจมูก เป็นอนัตตา
ลิ้น เป็นอนัตตา รส เป็นอนัตตา วิญญาณที่รู้แจ้งรสมากระทบลิ้น เป็นอนัตตา
กาย เป็นอนัตตา สัมผัส เป็นอนัตตา วิญญาณที่รู้แจ้งสัมผัสต่างๆมากระทบกาย เป็นอนัตตา
ใจ เป็นอนัตตา อารมณ์ เป็นอนัตตา วิญญาณที่รู้แจ้งอารมณ์มากระทบใจ เป็นอนัตตา
"ดูก่อน โมฆราช เธอจงมองโลกนี้ โดยความเป็นของว่างเถิด" ( พุทธภาษิต )
เพราะทุกสรรพสิ่งในโลกนี้ ล้วนแล้วอยู่ภายใต้ กฏแห่งพระไตรลักษณ์ หาได้มีสิ่งใด เป็นสิ่งที่ยึดมั่น ถือมั่นได้ เพราะว่างเปล่าแล้ว จากความหมายแห่งคำว่า เรา ว่าของเรา ว่า ตัว ว่า ตน ของเรา เป็นเพียงความว่างเปล่า
กาย ก็เป็นของว่างเปล่า จิต ก็เป็นของว่างเปล่า
งาน ก็เป็นของว่างเปล่า แม้ธรรม ก็เป็นของว่างเปล่า
ธรรมทั้งหลาย ทั้งปวง เป็น อนัตตา
รูปที่หยาบ กลาง หรือ ประณีต ก็เป็นเพียงสักว่า รูป ว่างเปล่า จากความหมาย แห่งความเป็นตัว เป็นตน
ตาที่มองเห็น ใจที่รับทราบ ก็เป็นเพียงสิ่งที่เกิดมากระทบ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ชั่วขณะแล้ว ก็ดับไป หาใช่ตัว หาใช่ตน หาใช่ ว่าเป็นเรา เป็นของเรา เป็นตัว เป็นตนของเรา
รูปนี้ มีชราเป็นผู้นำไป มีอาพาธเป็นรางวัล มีความตายเป็นที่สุด แม้นี้ก็ประจักษ์ ว่างจากเรา ว่างของเรา ว่างจากตัว ว่างจากตนของเรา
เสียงธรรม และสื่อนี้ ก็เป็นเพียงความว่าง แม้ใครใคร่อ่านเข้าใจ ก็อนุโมทนา ไม่เข้าใจก็อนุโมทนา ขอให้ท่านทั้งหลายจงเจริญ สุญญตา นี้เป็นที่พึ่งเถิด เพราะท่านจักละ อัสมิมานะ ว่าเป็นเราเป็นของเรา เป็นตัวเป็นตนของเรา ไม่ตกเป็นทาสแห่งตัณหา ประจักษ์แจ้ง ในลักษณะ ของ อนัตตา อย่างแท้จริง
เจริญธรรม / เจริญพร