ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อยู่อย่างไร ตายอย่างนั้น  (อ่าน 3513 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

นัยนา

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 191
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
อยู่อย่างไร ตายอย่างนั้น
« เมื่อ: สิงหาคม 12, 2011, 10:29:55 am »
0
ครูเบญจาเป็นครูที่ดุและเข้มงวดมาก ใช่แต่เท่านั้นยังมักอารมณ์เสียใส่นักเรียนบ่อย ๆ มีเรื่องตำหนินักเรียนไม่เว้นแต่ละวัน การลงโทษด้วยไม้เรียวเป็นกิจวัตรที่ขาดไม่ได้ จนนักเรียนทั้งชั้นกลัวเกรงมาก เวลาอยู่นอกห้องเรียน หากเห็นครูเบญจาเดินมาแต่ไกล นักเรียนจะเลี่ยงไปอีกทางทันที

ปีแล้ว ปีเล่าที่ครูเบญจาสอนหนังสือโดยใช้พระเดชเป็นที่ตั้ง จนเกษียณอายุแล้วครูเบญจาก็ยังคิดว่าตนเป็นครูอยู่ จึงชอบเคี่ยวเข็ญสั่งการหรือต่อว่าคนรอบข้างเป็นอาจิณ จนกลายเป็นเผด็จการในสายตาของลูกหลาน ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้หรืออยากพูดคุยด้วย

แล้ววันหนึ่งครูเบญจาก็พบ ว่าตนเป็นมะเร็งเต้านม เมื่ออาการลุกลามเข้าสู่ระยะสุดท้าย ครูเบญจาถูกส่งมารักษาที่โรงพยาบาล แม้ป่วยหนักครูเบญจายังไม่ทิ้งนิสัยเดิม ใครที่อยู่ใกล้เป็นต้องถูกตำหนิติเตียนหรือถูกสั่งให้ทำโน่นทำนี่ ไม่เว้นกระทั่งแพทย์และพยาบาล ซ้ำยังถูกต่อว่านินทาลับหลัง จนเป็นที่เอือมระอาของผู้คน ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่มีใครอยากไปข้องแวะกับครูเบญจา

เป็นที่สังเกตว่า ตลอดเวลาที่อยู่โรงพยาบาลมีคนมาเยี่ยมครูเบญจาน้อยมาก ลูกหลานนาน ๆ จะมาสักครั้ง ครูเบญจาจึงนอนซมอยู่บนเตียงผู้เดียวเป็นส่วนใหญ่ ดูเหงาหงอย ไม่มีความสุข ขณะเดียวกันจิตใจก็ว้าวุ่นเพราะไม่เคยรู้สึกพอใจกับอะไรเลยสักอย่าง

เมื่อ อาการทรุดหนัก ครูเบญจาก็มีสติฟั่นเฟือน ถึงกับเพ้อ เวลาแพทย์และพยาบาลมาข้างเตียง ครูเบญจาจะจ้องตาชี้นิ้วพร้อมกับสั่งแกมตะคอกว่า "เริ่ม....เริ่ม" ซึ่งเป็นคำพูดติดปากเวลาสั่งให้นักเรียนเริ่มต้นท่องหรืออ่านหนังสือหน้า ชั้น

คืนที่ครูเบญจาเสียชีวิตนั้น ไม่มีลูกหลานหรือญาติมิตรอยู่ดูใจสักคน แม้แต่คนที่แพทย์จะขอคำปรึกษาเพื่อตัดสินใจช่วยชีวิตหากหัวใจหยุดเต้น ก็ใช้เวลานานกว่าจะติดต่อได้ ในที่สุดครูเบญจาก็สิ้นใจคามือบุรุษพยาบาลที่พยายามปั๊มหัวใจอย่างเต็มที่ ทั้ง ๆ ที่ครูเบญจาเคยแสดงเจตจำนงว่าขอปฏิเสธวิธีดังกล่าวก็ตาม


จากคุณ    : โชติช่วงชัชวาล
บันทึกการเข้า

นัยนา

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 191
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: อยู่อย่างไร ตายอย่างนั้น
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: สิงหาคม 12, 2011, 10:30:59 am »
0
เช้าวันรุ่งขึ้นลูกหลานครูเบญจามารับศพอย่างพร้อม หน้า แต่ทุกคนยืนอออยู่หน้าห้องดับจิต ไม่มีใครยอมเข้าไปดูหน้าครูเบญจายามสิ้นลม เมื่อศพเคลื่อนออกจากห้อง ลูกหลานก็ถอยห่าง และใช้ลิฟต์คนละตัวกับครูเบญจา ต่อเมื่อบรรจุศพในโลงเรียบร้อยแล้ว ลูกหลานจึงมาขอขมาข้างโลง

แม้ครู เบญจามีลูกหลานญาติมิตรมากมาย แต่วาระสุดท้ายของครูเบญจาไม่ต่างจากคนไร้ญาติขาดมิตร ครูเบญจาสิ้นลมโดยไม่มีใครสักคนมาดูใจ กระทั่งเป็นศพแล้วก็ยังไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ ชีวิตบั้นปลายของครูเบญจาจึงอยู่อย่างหงอยเหงาและตายอย่างโดดเดี่ยว

ใช่ หรือไม่ว่า เราอยู่อย่างไร ก็ตายอย่างนั้น หากอยู่อย่างกราดเกรี้ยว ก็จะตายอย่างกราดเกรี้ยว หากอยู่อย่างว้าวุ่นใจ จ้องจับผิดคนอื่นตลอดเวลา ความรู้สึกลบก็จะตามไปรบกวนจิตใจจนสิ้นลม ในยามที่มีชีวิตอยู่ หากใช้อำนาจหรือทำตามอำเภอใจจนใคร ๆ ไม่อยากอยู่ใกล้ เมื่อถึงคราวจะตายก็ยากที่จะมีคนมาห้อมล้อมให้กำลังใจได้

ในทำนอง เดียวกันคนที่อยู่อย่างตระหนี่ เห็นแก่เงินทองมาก เมื่อจวนสิ้นลมก็จะทุรนทุรายเพราะเงินทอง จนตายไม่สงบ ป้าหยิบมีอาชีพปล่อยเงินกู้และเรียกดอกเบี้ยแพง ต่อมาล้มป่วยจนต้องเข้าห้องไอซียู สัญญาณชีพต่ำลงเรื่อย ๆ สุดจะช่วยให้ดีขึ้นได้ เมื่อเห็นว่าป้าหยิบใกล้จะเสียชีวิต แพทย์จึงพูดแนะนำให้แกเตรียมใจและพร้อมปล่อยวาง แต่พอพูดถึงการปล่อยวางทรัพย์สินเงินทอง ป้าหยิบทำหน้านิ่วคิ้วขมวดทันที ราวกับจะต่อต้าน ผ่านไปหนึ่งวันแกก็ยังไม่เสียชีวิต วันรุ่งขึ้นเพื่อนบ้านคนหนึ่งมาหาแกด้วยอาการลุกลี้ลุกลน เขาเล่าว่าได้ยืมเงินป้าหยิบนานแล้วแต่ยังไม่มีโอกาสคืนสักที เมื่อเช้าเห็นแกมาทวงเงินที่บ้าน เลยตกใจ รีบมาหาป้าหยิบ และรับปากว่าจะคืนเงินให้ ป้าหยิบสิ้นลมวันนั้นหลังจากกระสับกระส่ายอยู่พักใหญ่

ยึดติดอะไรในยามที่มีชีวิตอยู่ สิ่งนั้นก็จะตามมารบกวนจิตใจจนสิ้นลม ในทางตรงข้าม หากอยู่อย่างปล่อยวาง เมื่อจะตายก็พร้อมปล่อยวางและจากไปอย่างสงบ

หากมีชีวิตอย่างเอื้อ เฟื้อเกื้อกูลผู้อื่น เมื่อล้มป่วยก็จะมีผู้คนมาช่วยเหลือดูแลอย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย จนวาระสุดท้าย สุภาพร เป็นคนหนึ่งที่มีน้ำใจต่อมิตรสหายมาก ไม่เคยปฏิเสธเมื่อเพื่อนขอความช่วยเหลือ และพร้อมยื่นมือเมื่อเห็นเพื่อนเดือดร้อน เมื่อเธอล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งเต้านมระยะสุดท้าย เธอเลือกที่จะใช้ชีวิตช่วงสุดท้ายที่บ้าน โดยปฏิเสธการรักษาทุกชนิด

ตลอด สองเดือนที่เธอนอนแบบบนเตียง เพื่อน ๆ ผลัดกันมาดูแลเธอ ๒๔ ชั่วโมง บ้างก็ช่วยเช็ดตัว บ้างก็นวดคลายปวด บ้างก็ตีขิมเป่าขลุ่ยให้เธอฟัง หาไม่ก็ชวนเธอสวดมนต์นั่งสมาธิ ตอนที่เธอสิ้นลมนั้นเพื่อน ๆ มาดูใจอยู่รอบเตียง และส่งเธอสู่สุคติอย่างสงบ

เราอยากตายอย่างไรก็ ควรเตรียมตัวเสียแต่บัดนี้ ด้วยการใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับสิ่งที่อยากประสบพบเห็นในวาระสุดท้าย ถ้าอยากตายดี ก็ต้องใช้ชีวิตให้ดีมีคุณภาพนับแต่วันนี้ไป


จากคุณ    : โชติช่วงชัชวาล
บันทึกการเข้า

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: อยู่อย่างไร ตายอย่างนั้น
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: สิงหาคม 13, 2011, 05:41:51 am »
0
อนุโมทนา สาธุ! อย่างนั้นแล้ว เราทั้งหลายจงประพฤติพรหมจรรย์ สลัดออกเสียซึ่งนิสสัยชั่วมัวเมาในเครื่องหน่วง

คือ ตัณหา ทั้งอย่างเบา อย่างกลาง อย่างที่สุด ให้ถึงพร้อมในภาวนา เพื่อหนทางนี้จักสว่างไป ณ เบื้องปลายเถิด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 13, 2011, 09:40:19 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

สาวิตรี

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +6/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 148
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: อยู่อย่างไร ตายอย่างนั้น
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: สิงหาคม 13, 2011, 09:13:06 am »
0
อนุโมทนา สาธุ! อย่างนั้นแล้ว เราทั้งหลายจงประพฤติพรหมจรรย์ สลัดออกเสียซึ่งนิสสัยชั่วมัวเมาในเครื่องหน่วง

คือ ตัณหา ทั้งอย่างเบา อย่างกลาง อย่างที่สุด ให้ถึงพร้อมในภาวนา เพื่อหนทางนี้จักสว่างไป ณ เบื้องปลายเถิด


ช่วงนี้เป็น โอกาสวันหยุด วันแม่แห่งชาติ เพื่อน ๆ ต่างก็ไปร่วมปฏิบัติธรรม กันหลายคนเลยคะ

อนุโมทนา สาธุ ในห้องนี้ 2 - 3 วันนี้ ถึงได้หายไปหลายคน คะ

เดี๋ยวก็จะไปเหมือนกันคะ ช่วงบ่าย ๆ คะถึงวันพรุ่งนี้

 อนุโมทนา สาธุ กับทุกท่าน คะ

  :25: :25: :25:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 13, 2011, 09:40:30 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า