ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: มีหลักการอย่างไร จึงจะรู้ได้ว่า สิ้น วิจิกิจฉา ในกรรมฐาน คะ  (อ่าน 4680 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

SAWWALUK

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 246
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
มีหลักการอย่างไร จึงจะรู้ได้ว่า สิ้น วิจิกิจฉา ในกรรมฐาน คะ

ตามหัวข้อเลยนะคะ

  เรียนถามว่า รู้ได้อย่างไรว่า เราสิ้นวิจิกิจฉา ในการฝึกกรรมฐาน คะ

  :s_hi: :25: :c017:
บันทึกการเข้า

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
มีหลักการอย่างไร จึงจะรู้ได้ว่า สิ้น วิจิกิจฉา ในกรรมฐาน คะ



กระทู้ถามอย่างนี้ตอบให้ยากครับ เอาเป็นว่าผมเล่าประสพการณ์ส่วนตัวพอที่จะคลายสงสัยได้บ้าง แต่เดิมนั้นผม

ศึกษาภาวนาด้วยตนเองมาตลอด ปัญหามาหยุดลงตรงที่ไม่เข้าใจอารมณ์แห่งจิตที่มันเกิด จึงแสวงหาคำตอบจาก

สื่อ สิ่งพิมพ์ และผู้มีประสพการณ์ ก็ล้วนต่างหลากหลายเหตุผลจนกับความคิดไม่แจ้งในข้อสังสัยนั้น แม้จะถาม

ไถ่พระสงฆ์นั้นก็ยากเพราะท่านเป็นภิกษุปริยัติไม่ปฏิบัติ ข้อสงสัยในองค์ภาวนาคับข้องใจผมมา 30 ปี จนกระทั่ง

พบพระอาจารย์ซึ่งเป็นสหายเก่าได้พาผมไปพิสูจน์ถึงสิ่งที่ผมข้องสงสัย ณถ้ำพระอรหันต์ วัดเขาสมโภชน์ ลพบุรี

ทำให้ผมคลายข้อสงสัย และกลับมามุ่งมั่นภาวนาอีกครั้งกับแนวทางพระกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ เนื่อง

เพราะกรรมฐาน มัชฌิมา นั้นมีแบบแผนภาวนาเป็นลำดับขั้นตอนละเอียดชัดเจนและให้ผลเร็วกว่ากรรมฐานสาย

อื่น ความสิ้นสงสัยในองค์กรรมฐานนั้นต้องภาวนาเองปฏิบัติเอง อย่าหาคำตอบจากตำรา ครูอาจารย์คือผู้ให้แนว

ทาง ครับ หากคุณน้องเสาวลักษณ์ยังคาใจ ผมตอบให้สั้นๆครับว่า "จงภาวนาอย่าใส่ความคิด บริกรรมใช้จิตนี้ทำ

งาน แล้วจิตจะเป็นตัวให้คำตอบ"




http://dhammaworld.exteen.com/page/2
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 21, 2011, 04:57:15 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28456
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
ก่อนอื่นขอแนะนำให้ไปอ่านลิงค์นี้ครับ

พิจารณา ที่ตัวเอง อย่างไร ว่า กิเลสดับได้ หรือ กิเลส ยังเหลือ อยู่
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=4760.msg17369#msg17369



สังโยชน์ กิเลสที่ผูกมัดใจสัตว์, ธรรมที่มัดสัตว์ไว้กับทุกข์ มี ๑๐ อย่าง คือ

       ก. โอรัมภาคิยสังโยชน์ สังโยชน์เบื้องต่ำ ๕ ได้แก่
           ๑. สักกายทิฏฐิ ความเห็นว่าเป็นตัวของตน
           ๒. วิจิกิจฉา ความลังเลสงสัย
           ๓. สีลัพพตปรามาส ความถือมั่นศีลพรต
           ๔. กามราคะ ความติดใจในกามคุณ
           ๕. ปฏิฆะ ความกระทบกระทั่งในใจ


       ข. อุทธัมภาคิยสังโยชน์ สังโยชน์เบื้องสูง ๕ ได้แก่
           ๖. รูปราคะ ความติดใจในรูปธรรมอันประณีต
           ๗. อรูปราคะ ความติดใจในอรูปธรรม
           ๘. มานะ ความถือว่าตนเป็นนั่นเป็นนี่
           ๙. อุทธัจจะ ความฟุ้งซ่าน
           ๑๐. อวิชชา ความไม่รู้จริง;


      พระโสดาบัน ละสังโยชน์ ๓ ข้อต้นได้,
       พระสกิทาคามี ทำสังโยชน์ข้อ ๔ และ ๕ ให้เบาบางลงด้วย,
       พระอนาคามี ละสังโยชน์ ๕ ข้อต้นได้หมด,
       พระอรหันต์ ละสังโยชน์ทั้ง ๑๐ ข้อ;

อ้างอิง พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)



  วิจิกิจฉา เป็นสังโยชน์ข้อ ๒ ต้องบรรลุโสดาบันก่อน จึงละได้

ขอแนะนำให้อ่านลิงค์นี้ครับ
 ทรงสอนวิธี "พยากรณ์โสดาบัน"
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=3225.msg11469#msg11469


การที่จะรู้ได้ว่า วิจิกิจฉา ไม่มีแล้ว ต้องใช้ วิปัสสนาญาณ ในขั้นของ "ปัจจเวกขณญาณ"

๑๖. ปัจจเวกขณญาณ (ญาณหยั่งรู้ด้วยการพิจารณาทบทวน คือ สำรวจรู้มรรค ผล กิเลสที่ละแล้ว กิเลสที่เหลืออยู่ และนิพพาน เว้นแต่ว่าพระอรหันต์ไม่มีการพิจารณากิเลสที่ยังเหลืออยู่)

ขอแนะนำให้อ่านลิงค์นี้ครับ
 "การปรากฏ วิปัสสนา คือ หยั่งพระไตรลักษณ์ มีในตอนไหน ของการฝึกกรรมฐาน"
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=4736.msg17285#msg17285



  ขอให้สนุกกับการอ่านนะครับ :08: :49: ;)
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

มหายันต์

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 154
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เคยได้ฟัง พระอาจารย์ สอนที่ ศาลา ครั้งหนึ่งว่า

  ความสิ้นสงสัย เป็นทั้ง สมถะ และ วิปัสสนา มี 8 อย่างครับ

   ถ้าผมจำไม่ผิด อยากให้เพื่อน สมาชิก ที่จำได้ ช่วยต่อครับ

 :13:
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28456
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
เคยได้ฟัง พระอาจารย์ สอนที่ ศาลา ครั้งหนึ่งว่า

  ความสิ้นสงสัย เป็นทั้ง สมถะ และ วิปัสสนา มี 8 อย่างครับ

   ถ้าผมจำไม่ผิด อยากให้เพื่อน สมาชิก ที่จำได้ ช่วยต่อครับ

 :13:

  อยู่ลิงค์นี้ครับ

  "วิจิกิจฉา คือความลังเลสงสัย"
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=713.msg3051#msg3051




วิจิกิจฉา ความลังเลไม่ตกลงได้, ความไม่แน่ใจ, ความสงสัย, ความเคลือบแคลงในกุศลธรรมทั้งหลาย, ความลังเลเป็นเหตุไม่แน่ใจในปฏิปทาเครื่องดำเนินของตน

       (ข้อ ๕ ในนิวรณ์ ๕, ข้อ ๕ ในสังโยชน์ ๑๐ ตามนัยพระอภิธรรม, ข้อ ๔ ในอนุสัย ๗)


อ้างอิง พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 24, 2011, 09:50:31 am โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

หมิว

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 398
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อ้างถึง
วิจิกิจฉา ในสังโยชน์ 10 นั้นแตกต่างจาก วิจิกิจฉา ในนิวรณ์ เพราะนับเนื่องด้วยแห่ง ศีล สมาธิ และ ปัญญา
ในการรู้แจ้งแทงตลอด สิ้นความสงสัย 8 ประการ ดังนี้
ความสงสัยในธรรม ๘ ประการ
 ๑. สงสัยในพระพุทธเจ้า (ว่าพระพุทธเจ้ามีตัวตนจริงหรือ  พระพุทธเจ้ามีพระพุทธคุณจริงหรือ)
 ๒.  สงสัยในพระธรรม (ว่ามัคค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑ มีจริงหรือ  พระธรรมนี้จะนำให้ออกจากทุกข์ได้จริงหรือ)
 ๓.  สงสัยในพระอริยะสงฆ์ (ว่ามีจริงหรือ ผลแห่งทานที่ถวายแก่สงฆ์มีจริงหรือ)
  ๔. สงสัยในสิกขาบท คือ สีล สมาธิ ปัญญา ว่ามีจริงหรือ  ผลานิสงส์แห่งการศึกษาปฏิบัติในสิกขา ๓ มีจริงหรือ
 ๕. สงสัยชาติที่แล้วมีจริงหรือ
 ๖.  สงสัยว่าชาติหน้ามีจริงหรือ
 ๗.  สงสัยว่าชาติที่แล้วและชาติหน้ามีจริงหรือ
 ๘.  สงสัยในปฏิจจสมุปปาทธรรม  คือธรรมที่เป็นเหตุเป็นผลอาศัยกันเกิดขึ้นต่อเนื่องกันไปโดยไม่ขาดสายเลย นั้นมีจริง

ดังนั้น ผู้สิ้นความสงสัยทั้ง 8 จึงได้ดวงตาเห็นธรรม บรรลุเป็น พระโสดาบัน ได้
วิจิกิจฉา นี้ถ้าไม่สงสัยแล้ว ก็สงสัยอีก เพราะความสงสัยนี้สนับสนุนการสิ้นกิเลส เ้บื้องต้น

วินิจฉัย ให้ทราบเพียงเท่านี้

http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=713.msg3051#msg3051

นำมาจากลิงก์ ด้านบนคะ

ถ้า 8 ประการ น่าจะเป็นอันนี้ นะคะ ซึ่งเป็น วิสัยของพระโสดาบัน คะ

 :67: :25: :25: :25:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 23, 2011, 08:47:42 pm โดย หมิว »
บันทึกการเข้า
ใจดี น่ารัก และ ไม่ชอบคนที่กวน...ใจ
แสงพระธรรม นำทาง นำสู่ใจ ได้รับแสงสว่าง
แสงสว่างใดเสมอด้วยปัญญาไม่มี

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
เมื่อจิตมีความศรัทธา ในพระรัตนตรัย อย่างจริงใจ นั่นแหละ คือเวลา ที่วิิจิกิจฉา สิ้น

 วิจิกิจฉา สิ้นได้อย่างไร

  เมื่อจิตรู้เห็นแจ้งตามความเป็นจริง ว่า นามและรูป นี้ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ประการหนึ่ง
  เมื่อจิตรู้เห็นตามความเป็นจริงว่า ผัสสะทั้งปวง เป็นสิ่งที่ว่างเปล่าจากความหมายแห่งความมีเป็นตัวตน ประการสอง
  เมื่อจิตรู้แจ้งเห็นจริง ในมรรค ว่าควรดำเนินอย่างนี้ เป็นประการที่สาม
  เมื่อจิตเบื่อหน่าย ต่อ การปรุงแต่ง และ ต้องการออก จากการปรุงแต่ง  เป็นประการที่สี่
  เมื่อจิตถ่ายถอน ซึ่งความเห็นว่านี้เป็นเรา เป็นของเรา เป็นตัวเป็นตนของเ เป็นประการที่ห้า
  เมื่อนั้นจิตย่อมพูกพูน ความไม่สงสัย 8 ประการ ( ดูประกอบด้านบน) เป็นประการที่หก
     ๑. สงสัยในพระพุทธเจ้า (ว่าพระพุทธเจ้ามีตัวตนจริงหรือ  พระพุทธเจ้ามีพระพุทธคุณจริงหรือ)
     ๒.  สงสัยในพระธรรม (ว่ามัคค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑ มีจริงหรือ  พระธรรมนี้จะนำให้ออกจากทุกข์ได้จริงหรือ)
     ๓.  สงสัยในพระอริยะสงฆ์ (ว่ามีจริงหรือ ผลแห่งทานที่ถวายแก่สงฆ์มีจริงหรือ)
     ๔. สงสัยในสิกขาบท คือ สีล สมาธิ ปัญญา ว่ามีจริงหรือ  ผลานิสงส์แห่งการศึกษาปฏิบัติในสิกขา ๓ มีจริงหรือ
     ๕. สงสัยชาติที่แล้วมีจริงหรือ
     ๖.  สงสัยว่าชาติหน้ามีจริงหรือ
     ๗.  สงสัยว่าชาติที่แล้วและชาติหน้ามีจริงหรือ
     ๘.  สงสัยในปฏิจจสมุปปาทธรรม  คือธรรมที่เป็นเหตุเป็นผลอาศัยกันเกิดขึ้นต่อเนื่องกันไปโดยไม่ขาดสายเลย นั้นมีจริง

 เจริญธรรม

  ;)
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 09, 2011, 08:28:29 pm โดย patra »
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

meditation

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 127
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อนุโมทนา เจ้าคะ
หลายวันมานี้ เห็นพระอาจารย์ มาตอบทุกวันเลยคะ ดีใจจัง

  :s_hi: :25: :c017:
บันทึกการเข้า
ข้าพเจ้าปรียบเหมือนนกที่กำลังหัดเดิน มีสิ่งใดที่ล่วงเกินใคร ก็ขอกราบอภัยไว้ล่วงหน้านะคะ
ภาวนากรรมฐาน เพื่อใคร เพื่ออะไร ทำไม ? หาคำตอบจากใจเราก่อนนะคะ