ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เวลาเราทำบุญอะไรก็ตาม ไม่มีความศรัทธา จะได้บุญบ้างหรือไม่  (อ่าน 6895 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

SRIYA

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 199
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
คือบางครั้ง ไม่เต็มใจทำบุญ โดนบังคับ เวลาเพื่อนมาบอกบุญยื่นซองผ้าป่า บ้าง กฐิน บ้าง

บางครั้งก็ทำเพราะความเกรงใจ ซึ่งกันและกัน หาใช่ศรัทธา ทำบุญจริง ๆ ไม่

การทำบุญอย่งนี้ อยากถามว่าจะได้บุญบ้างหรือไม่คะ

แต่ความคิดนี้จะเป็นก่อนที่จะทำ แต่ในที่สุดก็ยกมืออธิษฐานทำบุญด้วยศรัทธา

ที่จะถาม การที่เราคิดไม่ศรัทธาอยากทำ ในตอนต้น แล้วก็ทำ แต่มีความศรัทธาในตอนหลังทำ

บุญกุศลจะเกิดขึ้น หรือ ส่งผลอย่างไร คะ

 :014: :035: :17:
บันทึกการเข้า
อยากให้ทุกชีวิต มีความอบอุ่น

sakol

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 242
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
น่าจะได้บุญบ้างนะครับ แต่ส่วนที่มีความศรัทธา นั้นผมไม่ทราบจริง ๆ

ก็จะกล่าวแล้วตอนแรกไม่ศรัทธา ในส่วนบุญ แต่มาศรัทธา ภายหลังการทำ

ถ้าวิเคราะห์ตามนัยแล้วก็จะเห็นว่า ครั้งแรกได้บุญน้อยขณะที่ทำ

  แต่ครั้นได้ทำไปแล้ว มีความศรัทธา อันนี้ไม่รู้ว่าจะวัดอย่างไร

  เพราะการทำบุญมีถึง สิบประการด้วยกัน เป็นเรื่องส่วนของใจถึง เก้าประการ

 เอาเป็นว่าผมวิเคราะห์ว่าได้บุญน้อยในตอนที่ทำครับ

  ส่วนบุญใหญ่ ไม่ทราบว่าจะได้หรือไม่ครับ

  แต่โอกาสส่วนบุญไม่ได้สูญหายไปไหนนี่ครับ

 :25:
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28446
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
การอยู่กับโลก ยากที่จะปฏิเสธกระแสสังคม

ทำบุญโดยไม่มีความยินดีใน ๓ กาล คือ ก่อนทำ ขณะทำ หลังทำ

บุญจะได้รึไม่ ตอบไม่ได้ครับ เรื่องบุญบาปเป็นเรื่องอจินไตย

ขอแนะนำให้หากุศโลบาย ทำให้จิตยินดีในบุญทุกครั้ง เช่น คิดว่าทำเพื่อพุทธศาสนา เป็นพุทธบูชา

และควรหาวิหารธรรม(เครื่องอยู่) ให้จิตเกาะเกี่ยวกับพระรัตนตรัยเข้าไว้

อาจจะสวดอิติปิโสฯในใจ ให้ติดเป็นนิสัย ก็ได้

ขอคุยเป็นเพื่อนเท่านี้ครับ

 ;) :25: ;)
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

Husapol

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 17
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
การทำบุญแบบที่ว่าตอนแรกยังไม่ได้คิดหรือตั้งใจที่จะทำแต่ก็ไม่ได้ปฎิเสธในการทำบุญ เพียงแต่ในตอนนั้นเราอาจจะยังไม่มีความพร้อมในการทำบุญ แต่ที่สุดก็ทำและก็มีจิตที่เป็นกุศล แบบนี้การทำบุญไม่ครบองค์ 3 ประการครับ
คือ 1.ก่อนให้ 2.ในขณะที่ให้ 3.หลังจากที่ให้แล้ว ของคุณได้แค่ ข้อ 3. เท่านั้นครับ การที่ผลบุญแบบนี้เมื่อถึงเวลาที่จะให้ผลก็จะเป็นแบบว่า เราจะได้รับการช่วยเหลือแบบไม่มีใครเจาะจงมาช่วยเราโดยเฉพาะเราอาจจะเป็นผู้ที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์นั้นก็เลยได้รับความช่วยเหลือไปด้วยเลยหรือไม่ก็การช่วยเหลือกว่าจะมาถึงเราก็ช้ากว่าคนอื่น และผลอีกอย่างก็คือไม่ว่าเราจะทำดี พูดดี คิดดีแค่ไหนก็จะไม่มีใครเห็นประโยชน์ของเราเลยนอกเสียจากว่าหังจากที่เราทำแล้วตอนหลังก็จะเริ่มมีคนเห็นความดีที่เราทำเองแต่ต้องทำบ่อยๆนะครับคือต้องทำแล้วไม่หวังผลอะไรทั้งสิ้นนอกจากแค่หวังของเราเองว่าเราจะตั้งใจทำความดีให้เต็มที่ เต็มความสามารถของเราก็พอเท่านั้นครับ
วิธีที่จะให้เกิดบุญก็เวลาใครที่ยื่นซองมาจะเป็นซองอะไรก็ตามเราต้องระลึกถึงอยู่เสมอว่า เราจะดำรงสืบทอดให้พระพุทธศาสนาต่อไปให้ยาวนานที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ และก็อ่านกำหนดการว่าทอดไปทำอะไรเพื่อที่เราจะได้รู้ถึงประโยชน์ของการทำบุญครับจะทำให้จิตเราเกิดศรัทธาขึ้นมาและอย่าลืมนะครับว่าการทำบุญไม่ใช่ทำเพื่อเอาหน้า เอาศักดิ์ศรี แต่เพื่อทะนุบำรุงพุทธศาสนาครับจะทำมากทำน้อยก็แล้วแต่กำลังของเราเอง เพราะบุญไม่ได้อยู่ที่กำลังเงิน แต่อยู่ที่กำลังศรัทธาครับ ทำแล้วต้องไม่รู้สึกเสียดายในตอนหลังซึ่งนั่นเป็นทุกข์แก่ใจเราและเป็นบาปด้วยครับ
บันทึกการเข้า

nongyao

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 380
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เราลองมองดูผู้ใหญ่ที่พาเด็กทำบุญเวลาไปวัด หรือที่มีงานบุญต่าง ๆ คำถามนี้เราจะพบว่ามันช่างตรงกับภาพเหตุการณ์เหล่านี้มาก เด็กจะรู้ไหมว่าผลของบุญจะเกิดกับตัวเองอย่างไร หรือตอนไหน และเด็กจะรู้ไหมว่าการทำบุญจะต้องประกอบด้วยองค์สาม และบางครั้งเด็กก็อยากทำตามผู้ใหญ่ให้ทำและก็มีเด็กบางคนที่ไม่เต็มใจทำตามที่ผู้ใหญ่ให้ทำ แต่นั้นเพราะความบริสุทธิ์ของเด็กบวกกับความปรารถนาดีของผู้ใหญ่จะพาเด็กให้ได้ผลแห่งบุญร่วมกัน แต่เราโต ๆ กันแล้ว รู้แล้วว้าการทำอย่างไรและควรวางใจอย่างไรกุศลผลแห่งบุญจึงจะเกิดอาจจะรู้มากหรือรู้น้อยแตกต่างกัน
ในส่วนตัวดิฉันเองก็ไม่ได้มีวิธีอะไรมากมายในการทำบุญหรืออธิษฐานจิตในขณะทำบุญ แต่นับจากวันที่เริ่มเรียนกรรมฐานกับพระอาจารย์และสหายธรรมหลาย ๆ ท่าน ก็ทำให้มีความรู้ขึ้นมาและเข้าใจดีขึ้น ทุกครั้งที่มีโอกาสได้รับการบอกบุญ ณ วันนี้ไม่เคยคิดถึงผลแห่งบุญว่าจะเกิดมีขึ้นแก่ตนเองหรือเปล่า หรือจะต้องเลือกทำแต่บุญที่ส่งผลมาก ๆ ดิฉันคิดเพียงว่าทำอะไรก็ได้ หรือจะเป็นบุญอะไรก็ได้ ขอให้เราได้มีส่วนร่วมในการสืบทอดอายุุของพระพุทธศาสนา[คุณจะลองเอาไปวางจิตของคุณในขณะทำบุญก็ได้นะค่ะไม่สงวนลิขสิทธิ์ 
บันทึกการเข้า
กราบนอบน้อมพระพุทธเจ้าอันเป็นอดีต อนาคต แลปัจจุบัน ด้วยเศียรเกล้า
                 พุทธัง  ธัมมัง  สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
                       
                         ข้าพเจ้าจักขอทำเหตุที่ดี

TC9

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังแหวกกระแส
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 137
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
คุณ nongyao น่าจะเป็นคนที่ชอบทำบุญ และพาลูกทำบุญบ่อยนะครับ

เพราะอ่านแล้วรู้สึกได้ว่า คุณเป็นคนมีเหตุผลมาก ๆ ไม่ละความพยายามในการทำบุญ และสร้างกุศล

ขอให้สำเร็จธรรมกันโดยไวนะครับ

 :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0


ผม “ธรรมธวัช” เป็นคนชอบขวนขวายเรื่องบุญทานการกุศลอยู่เนืองๆมิได้ขาด ทุกครั้งที่ประกอบกุศลได้ประเคน

ถวายจตุปัจจัยใดใดแล้ว พอชักมือกลับก็จบเรียกว่าลืมทิ้ง ณ ตรงนั้นไปเลย ไม่อยากได้อะไร ไม่ว่า วัตถุเครื่อง

ราง หวยเบอร์ หรือข้าวน้ำ มีเพียงสนทนาธรรม เสร็จสรรพลุกกลับเดินออกจากสถานที่นั้นแล้วก็ลืมทิ้งทั้งหมด

เหลือไว้เพียงข้อธรรมที่นำกลับไป ไม่ต้องไปคิดกะเกณฑ์ว่าบุญจะส่งให้ผลสุขทุกข์โชคลาภร่ำรวยหล่อสวยชาตินี้

ชาติหน้าใดใดทั้งสิ้น เพราะทั้งหลายทั้งปวงเหล่านั้นล้วนจอมปลอม ผมไม่เคยเป็นคนโชคดี ดังนั้นขอเพียงแค่ได้มี

โอกาสได้ให้ได้ทำเพียงเท่านั้นก็พอใจแล้ว ขออยู่อย่างสันโดษ พอเพียง ไม่สำคัญให้ใครอื่นมาชื่นชม ด้วยความ

ที่เป็นคนมีนิสัยชอบให้ การได้มีนิสัยชอบสละเช่นนี้และทำอยู่อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งก็เป็นเพียงรักษาใจประคับ

ประคองใจให้รู้เพียงว่าไม่มีสิ่งใดเป็นของเรา อยู่กับผู้คน สังคม ชุมชน อย่าเป็นคนเห็นแก่ตัว ให้มีความละอาย รู้

ถนอมน้ำใจคน แล้วเราจะสบายใจ ไม่ต้องคิดว่าเราดี มีค่า หมายให้ใครใครมาชื่นมาชม เลี่ยงหนีซะ เพราะสังคม

คนเราอยู่กันอย่างเห็นแก่ตัว ใครอื่นไหนเลยสำคัญเท่าตัวเองสำคัญนั้นเป็นไม่มี นี่แหละสังคมคนเรา วันนี้หาก

ท่านๆทุกคนคิดทำความดีก็คิดเพียงแค่เราทำแล้วสบายใจทำไป อย่าหมายว่าสิ่งนี้สำคัญเพียงให้คนอื่นเห็นว่าเรา

ดี ไม่มีหรอก เขาหลอกเอาผลประโยชน์เราไปแต่งเติมความสุขของเขาเท่านั้น สุขกุศลความดีเป็นของเฉพาะตน

จงเรียนรู้อยู่อย่างคนฉลาด อย่าเขลาขลาดเที่ยวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของกับสิ่งใด อย่างไร กับใครเลย ทุกข์เพราะมี

ไม่มีก็ไม่ทุกข์...........สวัสดี
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 03, 2011, 06:33:38 am โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

tcarisa

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +9/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 524
  • ก้าวน้อย แต่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เคยได้ิยิน ครูนภาเล่าให้ฟังว่า พระอาจารย์เคยกล่าวเรื่องการทำทานขั้นสูงคือ ทานูปฏินิสสัคคา 8

ขั้นสูง คือ ทำบุญเพื่อความไม่มี ไม่ยึดมั่น ถือมั่น

 อนุโมทนาด้วยคะ คุณธรรมธวัช สมเป็นศิษย์กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ จริง ๆ คะ

  :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า
เราเป็นหน่ออ่อน ที่รอการเติบโต
จึงขอสั่งสมบารมีธรรม เพื่อพระนิพพาน