ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: คนทำบุญ จนจริง หรือไม่ ?  (อ่าน 6169 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

SRIYA

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 199
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
คนทำบุญ จนจริง หรือไม่ ?
« เมื่อ: กันยายน 11, 2011, 07:55:36 pm »
0
คนทำบุญ จนจริง หรือไม่ ?

  เปิดประเด็นกระทู้ เพราะเหตุที่มีผู้คนหลายท่าน มักพูดกันว่า ทำบุญแล้วยากจน แท้ที่จริงแล้วทำบุญแล้วได้อะไร
กันแน่ ในการทำบุญ ยิ่งตอนนี้ ซองกฐิน และ ซองผ้าป่า มาจ่อเตรียมกันแล้วในที่ทำงาน หลายวัดทีเดียว ทำให้หลายคนเริ่มบ่นว่า จะจนก็เพราะทำบุญนี่แหละ เพราะเป็นกรรมการบ้าง ซองบังคับบ้าง แล้วอย่างนี้ได้บุญอย่างไร ถ้าไม่เต็มใจทำ หรือให้ อย่างเสียไปที

  เพื่อเป็นการปรับทิฏฐิ ( ความเห็น ) ของทุกท่านที่มักจะพูดว่า ฉันกลัวจะจน ฉันเอือมซองบุญเหล่านี้จริง ๆ





บันทึกการเข้า
อยากให้ทุกชีวิต มีความอบอุ่น

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: คนทำบุญ จนจริง หรือไม่ ?
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 12, 2011, 11:56:39 am »
0


คิดคร้าน ผลาญบุญ

     เรื่องทานบุญหน่ายคร้าน         กลัวจน
เหตุคิดจิตหลงวน                       ทรัพย์ยื้อ
สุขล้วนเสพเพียงตน                  ใจเหือด แล้งนา
อย่าใคร่หมายสุขซื้อ                 ถากล้างถางธรรม.

                                                             ธรรมธวัช.!


"คุณค่าไม่ได้อยู่ที่ตัวเรามี(เงิน) แต่มีอยู่ที่ตัวเราทำ"

http://www.watmoli.org/v3/print.php?url=news_view&id=34&cat=A
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 12, 2011, 01:25:42 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

indy

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 101
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: คนทำบุญ จนจริง หรือไม่ ?
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กันยายน 12, 2011, 12:32:03 pm »
0
เรื่องทำบุญแล้วจนเห็นมาเยอะเหมือนกัน ตัวเองก็เป็นด้วย แต่ก็ยังอยากทำอีก(บ้าบุญ)

บันทึกการเข้า

Mahajaroon

  • 1.บรรพชิต
  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 63
  • ข้างนอกต้องแก้ไข ข้างในต้องปล่อยวาง
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: คนทำบุญ จนจริง หรือไม่ ?
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กันยายน 12, 2011, 02:50:19 pm »
0
เรื่องทำบุญแล้วจนเห็นมาเยอะเหมือนกัน ตัวเองก็เป็นด้วย แต่ก็ยังอยากทำอีก(บ้าบุญ)



เรื่องทำบุญ เป็นกรรมที่ดี  เพราะบุญเป็นตัวนำสุขมาให้ สมกับคำบาลีที่ว่า
สุโข  ปุญฺญสฺส   อุจฺจโย    แปลว่า  การสั่งสมบุญย่อมมีความสุข
คนมีบุญไปไหนใครๆก็รัก พวกบัณฑิตผู้รู้ย่อมคบหา
คนใจบุญย่อมเป็นที่รัก ที่ชอบใจของมนุษย์และเทวดา

บริจาคทาน  ต้องได้บุญ
รักษาศีล     ต้องได้บุญ
เจริญจิตภาวนา  ต้องได้บญ
ช่องทางทั้ง ๓ นี้ เป็นปัจจัยให้ผู้กระทำได้รับอริยทรัพย์ ซึ่งเป็นทรัพย์ภายใน
อริยทรัพย์เป็นเหตุเป็นปัจจัยให้เกิดโภคสมบัติ ซึ่งเป็นทรัพย์ภายนอก

ทายกผู้ฉลาดในทานไม่พูดว่า ผมจนเพราะทำบุญ และไม่สงสัยว่าหากเราทำบุญจะได้บุญหรือเปล่า
เพราะการทำบุญต้องมีใจศรัทธาที่ประกอบด้วยปัญญาเสมอ หากยังลังเลถึงทำไปก็ไม่เป็นบุญ

คนทำบุญ จนจริง หรือไม่ ?
ตอบว่ามีจริง  สมัยพุทธกาลแต่ก่อนก็ยังมี ให้ไปศึกษาชีวิตของอนาถปิณฑิกเศรษฐี
เศรษฐีท่านนี้ทำบุญจนตนเอง ไม่มีอะไรจะกิน แต่เขาก็ไม่กลัวความจน ยังทำบุญทุกวัน

ขอตอบนะครับว่า คนทำบุญจนไม่จริง เจริญพร ครับ    :13:

การทำบุญรู้ได้ไงว่าทำแล้วจะได้บุญ ? 
ขอตอบนะครับ

๑ ทำแล้วสบายใจ 
๒ ไม่คิดอาลัยกับของที่ทำไป
๓ คิดถึงการกระทำของเราเมื่อไรปลื้มใจเมื่อนั้น

คนมีเงินก็ใช่ว่ามีความสุขเสมอไป
คนรำรวยเงินทอง แต่จนความสุข
คนจนมีคุณธรรม หาความสุขได้ในครอบครัว
แต่หากทุกคนอยู่อย่างมีความสุขรวยหรือจนไม่สำคัญปล่อยวางเสียบ้าง

ปล่อยวาง (ท่องจำ)

หน้าที่   เป็นเรื่องภายนอก
การปล่อยวาง   เป็นเรื่องภายใน
มีปัญหา    ต้องแก้ไข
แก้ได้หรือไม่ได้   ใจก็ต้องปล่อยวาง


บันทึกการเข้า
พุทธะนับหมื่นอยู่ที่ใจ

saichol

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 247
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: คนทำบุญ จนจริง หรือไม่ ?
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กันยายน 12, 2011, 04:45:20 pm »
0

คนมีเงินก็ใช่ว่ามีความสุขเสมอไป
คนรำรวยเงินทอง แต่จนความสุข
คนจนมีคุณธรรม หาความสุขได้ในครอบครัว
แต่หากทุกคนอยู่อย่างมีความสุขรวยหรือจนไม่สำคัญปล่อยวางเสียบ้าง



 อันนี้ ถ้าจะจริง คะ เพราะว่า ทุกข์ ของคนรวย มีเงิน ก็มีหลายอย่างนะคะ

 อย่างวันนี้ เพื่อนคนหนึ่ง มาหาดิฉัน .....

    เขามาตามลูกของเขา เพราะทราบว่า ลูกของเขา แต่งตัวไปโรงเรียน แล้ว ไม่ไปเรียน เป็นเวลา 2 วันแล้ว

ทุกข์ ที่แสดงออกทางสีหน้า ของคนมีเงิน ไม่ใช่เรื่องธรรมดา มีความหงุดหงิด กลุ้มใจ อย่างเห็นได้ชัด เลยนะคะ

ซึ่งเขาก็ต้องผิดหวัง กลับไปด้วยความรู้สึกที่เศร้าสร้อย เพราิะคิดว่า ลูกสาวคนจนอย่างเรา จะชักนำ ลูกสาวเขาไป

ทางผิด ซึ่งลูกสาวเราก็อยู่ที่บ้านในขณะนั้น


   เห็นหรือไม่ คะ ว่า

    มีิเงิน ก็ใช่ จะมีความสุข

   ไม่มีเงิน ก็ใช่ จะมีความทุกข์

   ถ้า บุญ คือ ความสุข เราก็มีความสุขในฐานะคนที่ทำบุญแล้วคะ

   ถ้า บุญ คือ ความเต็ม เราก็เิติมเต็มส่วนที่ขาดด้วยน้ำใจ ที่เปี่ยมกุศลคะ

   ถ้า บุญ มิใช่ วัตถุแล้ว เราก็ควรจะถึง บุญ ตรงนั้นทั้งในปัจจุบัน และ อนาคต คะ


  บุญ เป็นเสบียง ของผู้เดินทาง

  บุญ เป็นเครื่อง สนับสนุน ใจที่หยาบ ให้ ละเอียด

  บุญ ไม่ใช่เป็นเรื่องลำบาก ที่เราจะทำ คะ


 ขอเสริมเรื่องบุญกิริยาวัตถุ 10 ประการ คือ
1.ทานมัย บุญเกิดจากการให้ทาน
2.ศีลมัย บุญเกิดจากการรักษาศีล
3.ภาวนามัย บุญเกิดจากการเจริญภาวนา
4.อปจายนมัย บุญเกิดจากการอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่
5.ไวยยาวัจจมัย บุญเกิดจากการขวนขวายในกิจที่ชอบ
6.ปัตติทานมัย บุญเกิดจากการให้ส่วนบุญ
7.ปัตตานุโมทนามัย บุญเกิดจากการอนุโมทนาส่วนบุญ
8.ธัมมัสสวนมัย บุญเกิดจากการฟังธรรม
9.ธัมมเทสนามัย บุญเกิดจากการแสดงธรรม
10.ทิฏฐุชุกัมม์ การทำความเห็นให้ตรง การปรับปรุงความคิดเห็นให้ถูก



บันทึกการเข้า

SRIYA

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 199
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: คนทำบุญ จนจริง หรือไม่ ?
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กันยายน 12, 2011, 05:24:03 pm »
0
อยากฟังความคิดเห็นเพิ่ม เติม อีกนะคะ

แจกจ่าย ธรรมะ กัน เพื่อน เป็น ทิฏฐิชุกัมม์ นะคะ ได้บุญ มากคะ


  จากที่อ่านมาแสดงว่า บุญ ไม่ได้อยู่ทีวัตถุ ใช่หรือไม่คะ

 ดังนั้น เรารับซองมาไม่ต้องใส่ ก็ได้ ใช่หรือไม่คะ ?

 หรือ ปฏิเสธ รับซองเพิ่ม อีก เพราะตอนนี้ที่โต๊ะ มีเกือบอยู่ 20 ซอง 20 วัดแล้วคะ ลูกน้องเอามาให้

ส่วนใหญ่ เป็นซองกฐิน คะ คิดดูสิคะ ลูกน้องมาพูดขอร้องให้เป็นกรรมการ แล้ววงเล็บ มุมซองว่า ( 500 )

 ตอนนี้ ถ้าดิฉัน ใส่ซอง 500 คูณ 20 ซอง ก็ 10000 บาท เลยคะ อ่านวันที่แล้ว มีโอกาส 2 เดือนที่จะใส่

เงินเดือนดิฉัน 16000 บาท ไม่มีโอที แถมยัง ผ่อนค่าบ้านอีก 8000 บาท ต่อเดือน ( กลุ้มกับบุญครั้งนี้ จริง ๆ )

  ถ้าไม่ใส่กลับไป หรือ ปฏิเสธ ก็คงโดนลูกน้องนินทา หรือ รังเกียจ ได้ เฮ้อ

  ทุกข์ ของคนเป็น ลูกพี่ นี่ก็แย่ เนอะ

  แถม ตอนนี้ ทางบ้านส่งข่าวมาให้ช่วย เป็นเจ้าภาพสายกฐิน อีก


  รู้สึก กลุ้ม เหมือนกันนะคะ เพราะว่า วัดทั่วประเทศ ทอดกฐิน กัน ใกล้เคียงกันหลังออกพรรษา

 ใครก็ได้ ช่วยแนะนำทางออก ให้หน่อย เถอะคะ

   :03: :c017:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 12, 2011, 05:25:52 pm โดย SRIYA »
บันทึกการเข้า
อยากให้ทุกชีวิต มีความอบอุ่น

Mahajaroon

  • 1.บรรพชิต
  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 63
  • ข้างนอกต้องแก้ไข ข้างในต้องปล่อยวาง
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: คนทำบุญ จนจริง หรือไม่ ?
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กันยายน 13, 2011, 03:27:18 pm »
0
อยากฟังความคิดเห็นเพิ่ม เติม อีกนะคะ

แจกจ่าย ธรรมะ กัน เพื่อน เป็น ทิฏฐิชุกัมม์ นะคะ ได้บุญ มากคะ


  ส่วนใหญ่ เป็นซองกฐิน คะ คิดดูสิคะ ลูกน้องมาพูดขอร้องให้เป็นกรรมการ แล้ววงเล็บ มุมซองว่า ( 500 )

 ตอนนี้ ถ้าดิฉัน ใส่ซอง 500 คูณ 20 ซอง ก็ 10000 บาท เลยคะ อ่านวันที่แล้ว มีโอกาส 2 เดือนที่จะใส่

เงินเดือนดิฉัน 16000 บาท ไม่มีโอที แถมยัง ผ่อนค่าบ้านอีก 8000 บาท ต่อเดือน ( กลุ้มกับบุญครั้งนี้ จริง ๆ )

   :03: :c017:

ขอตอบนะเจริญพร
การทำบุญเพื่อหวังสิ่งอื่นที่ไม่ใช่บุญโดยตรงต้องลงทุนมากหน่อยน่าเห็นใจ
ตัวอย่าง เช่น ๑ ทำบุญเอาหน้า คือ ประสงค์จะให้ผู้อื่นรู้ว่าเราก็มีความสามารถพอตัว
             ๒ ทำบุญด้วยอคติ ๔ คือทำไปเพราะรัก ทำไปเพราะโกรธ ทำไปเพราะกลัว และหลง
กรณีของคุณหากทำไปแล้วเข้าทางหนักไปข้อที่ทำไปเพราะกลัว
( ถ้าไม่ใส่กลับไป หรือ ปฏิเสธ ก็คงโดนลูกน้องนินทา หรือ รังเกียจ ได้ เฮ้อ ) ประโยคนี้ใช่เลยกลัวเจริญพร

แนวทางแก้ไข
๑ เจอกันคนละครึ่งทาง คือเฉลี่ยรายได้ต่อเดือนให้ลงตัว แล้วอธิษฐานทำไป
๒ ตัดสินใจเด็ดขาดจะขอเอาบุญเต็มร้อยก็ต้องทำตามกำลังศรัทธา/มีน้อยทำน้อย/มีมากทำตามสมควร
๓ บอกเพื่อนสนิทมิตรสหายมาร่วมบุญเช่น ได้มา ๑๐ ซอง แบ่งให้เพื่อน ๘ คนเหลืออีก ๒ พอมีกำลังทำเอง
สังคมทุกวันนี้ไม่รู้จักแยกแยะว่าอะไรควรไม่ควร เพราะยุคนี้เป็นยุควัตถุนิยมทุกคนมุ่งแต่เรื่องวัตถุเพื่อสนองกิเลส
บุญก็เป็นกิเลสฝ่ายดี บาปเป็นกิเลสฝ่ายไม่ดี  อันที่จริงตัวบุญเป็นของดี แต่ที่บอกว่าเป็นกิเลสก็เพราะคนทำบุญเอง
เข้าไปยึดว่าเราทำบุญ ว่าเราได้บุญ  ว่าเรามีบุญ  บุญเป็นของเรา  ดังนั้นสรุปว่าการยึดมันเป็นตัวทุกข์ ปล่อยเถอะ


ปล่อยวางเรื่องบุญ
 
การทำบุญ     เป็นเรื่องภายนอก
การปล่อยวาง เป็นเรื่องภายใน
มีการแจกซองมา  ก็ต้องทำบุญไป
จะใส่ซองละเท่าไร   จิตใจก็ต้องปล่อยวาง   

สาธุ  สาธุ  สาธุ    :25:
บันทึกการเข้า
พุทธะนับหมื่นอยู่ที่ใจ

SRIYA

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 199
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: คนทำบุญ จนจริง หรือไม่ ?
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กันยายน 13, 2011, 03:47:19 pm »
0
ขอบคุณที่ให้ คำแนะนำ คะ

  กำลังหาวิธี การที่ ตนเองจะทำบุญโดยไม่เสียความรู้สึก จากลูกน้องและตัวเอง ในส่วนบุญ ก็ยังเชือมั่นในผลบุญคะ อยากทำตามกำลังศรัทธา และ ก็อยากลองดูด้วยคะว่า ทำด้วยศรัทธา แบบถึงไหนถึงกัน สักปี ด้วยคะจึงไม่ได้ปฏิเสธ ซองต่าง ๆ ที่มาคะ รู้สึกจะมีแรงดลใจมาจากกระทู้ เรื่อง ทำบุญหมดตัวบ้าหรือ บ๊องส์ นี่แหละคะ

  เพื่อเป็นการปรับทิฏฐิตนเอง ว่าไม่ได้ทำบุญเพราะ..... หรืออยาก แต่ต้องการทำเป็น พุทธบูชา คะตอนนี้ถือโอกาสว่าทองขึ้นราคา คะ ซื้อไว้เมื่อปี 45 =7800 บาท  ได้นำสร้อยทองไปขายแล้ว ได้มา 22000  คะ เป็นสร้องยของคุณสาีมีที่เสียชีวิต ไปแล้ว ให้ไว้ในวันแต่งงานคะ ต้องการทำบุญให้เขาด้วยคะ  ใส่ซองแล้ว ยังพอมีค่ารถไปร่วมงานกับเขาได้บ้างคะ

ก็พอมีกำลังได้ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาอีกหน่อยคะ

 ขอบคุณทุกท่าน ที่แสดงความเห็นนะคะ ทำให้ดิฉันได้ปัญญามีกำลังใจ ในการทำบุญ

แต่ก็ยังฟังความเห็นเพิ่มเติม อยู่อีกคะ เพราะมิใช่ ดิฉัน คนเดียวที่เจอกรณีอย่างนี้ ( ปีนี้รอดตัวแล้ว )
แต่เพื่อน ๆ ที่ทำงานกันอยู่ในระดับเดียวกัน ก็ไม่ต่างกันคะ

   มีบ้าง บางคน นำซองไปทิ้งถังขยะก็มีคะ

   ดิฉัน จะบอกเพื่อน ๆ ว่า ใส่ตามกำลังศรัทธา ก็ได้คะ ลูกน้อง คงจะเข้าใจ ถึงแม้จะผิดหวังไปบ้างแต่เราก็ยังได้ทำบุญ อยู่นะคะ  ดีกว่านำไปทิ้ง

    :s_hi: :88: :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า
อยากให้ทุกชีวิต มีความอบอุ่น

indy

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 101
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: คนทำบุญ จนจริง หรือไม่ ?
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กันยายน 13, 2011, 05:22:36 pm »
0
ตอนที่เริ่มเข้ามาในวงการใหม่ๆ เราทำบุญมากทุกอย่างที่มีโอกาส เป็นแบบนี้มาสองปี
ทีนี้เริ่มน้อยใจว่าทำไม เราไม่รวยสักที ทั้งที่ทำเยอะมาก  เทวดาท่านคงทนไม่ได้ ก็เลยมาบอกว่า
คุณนะมีบุญเยอะมากเลย แต่กรรมเก่ามันเยอะ มันเหมือนเราเป็นหนี้เขา ยังไงก็ต้องใช้ให้เขา
ก็เลยซึ้งใจ บุญกับกรรมแยกคนละส่วนกันชัดเจน ดังนั้นอย่าไปเร่งผลของบุญ มันจะมาเอง

อีกอย่างที่สังเกตุได้ในตอนนี้ เราไม่อดอยากเลย เมื่อมีเหตุที่ต้องใช้ เขาจะจัดการมาให้เอง

เคยมีปาฏิหาริย์ เรื่องเงินนี่แหละ พบว่าหลังจากที่ภาวนาคาถาเงินล้านเป็นอารมณ์ มีเงินมาเพิ่มจริงๆ(เมื่อจำเป้นต้องใช้นะ) ภรรยาผมก็ เจอเหมือนกัน

ดังนั้น เมื่อมีปาฏิหาริย์มาให้เรามั่นใจ ว่าเราไม่อดแน่ ก็ยังบ้าบุญต่อไป อิอิ
แต่ปีนี้ค่อนข้างผ่อนหน่อย เอาภาวนามากขึ้น ก็ดีนะ

เพื่อนที่ทำบุญ(ทาน) ควรจะมี ศรัทธาเสมอด้วยปัญญา แล้วจะไม่ทุกข์ครับ
บันทึกการเข้า