ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ทหารไปปกป้องประเทศ ถ้าใช้วิธีฆ่าศัตรู.... นี้บาปหรือไม่  (อ่าน 3814 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0




การรบการสงคราม ต้องปกป้อง ประเทศแต่ ต้องมีการฆ่าศัตรูด้วย สำหรับทหารนั้น เป็นบาป หรือ บุญ ครับ
ถ้่าเป็นบาป มีทางออกหรือไม่ ที่จะไม่ต้องฆ่ากัน


มองอย่างโลก
   ใช้เหตุ ผล ของโลก ก่อน

     เหตุ เพราะถูกรุกราน และ ถูกทำร้าย และถูกเข่นฆ่า
     ผล ผู้ถูกรุกราน ก็ูถูกย่ำยี ถูกทำ้ร้าย ถูกฆ่า
     การปกป้อง ชีวิตของตนเอง และ ครอบครัว เป็นสิ่งจำเป็น
     ถามว่า คุณทนเห็น พ่อ แม่ พี่ น้อง ลูก ผัว เมีย ญาติ มิตร ถูกฆ่าต่อหน้า ต่อตา ได้หรือไม่ ยิ้มออกทุกครั้งที่ เขายิง เขาฟัน เขาทุบ เขาฆ่า  ซึ่งความเป็นจริงเรื่องอย่างนี้เป็นเรื่องที่สะเทือนใจมาก ๆ นะจ๊ะ เราไม่เบียดเบียน แต่เขาก็เบียดเบียนเรา ดังนั้น กฏหมายจึงมีไว้ป้องกันสิทธิ์ ส่วนนี้ให้พวกเราอยู่อย่างสงบ การปกป้องประเทศ เป็นกฏหมายของชนที่มีประเทศ ต้องมีการป้องกันประเทศ เพื่อความสงบสุขของทุกครอบครัวที่อยู่ในประเทศ ดังนั้น ในกรณีโลก ทหาร จัดเป็นวีรกรรม เป็น วีรบุรุษที่ต้องเสียสละชีวิตของตนเอง เพื่อปกป้องประเทศชาติบ้านเมือง เพื่อทุกนที่อยู่ในประเทศ จะได้ไม่ถุฏย่ำยี ข่มเหง ทำร้าย ต้องเป็นทุกข์เพราะโจรต่าง ๆ  ที่หมายมั่นครอบครองดินแดน


มองอย่างธรรม
     
    ใช้เหตุ ผล ของธรรม

     เหตุ เพราะการเบียดเบียน ประหัตประหาร ชีวิต
     ผล ก็คือจิตเศร้าหมอง ก็คือ บาป ( แปลว่า ความเศร้าหมอง )
     ถ้าว่าโดยธรรม ก็ผิด เพราะการฆ่า จัดเป็นบาป

     การฆ่า ย่อมเป็น เหตุ ผูกเวร ผูกกรรม กันต่อไปในสังสารวัฏ เธอฆ่าฉัน ฉันก็กับมาฆ่า แก เหมือนหนังจีน
ตามล้างแค้น จากรุ่น สู่ รุ่น ไม่มีสิ้นสุด จนกว่าจะถึงคำว่า อภัย ขอให้เธอเป็นสุข เป็นสุขเถิด


โลก กับ ธรรม ไปด้วยกันไม่ได้ทุกเรื่อง ทุกอย่างหาเหตุผลเป็น อจิณไตรย สำหรับ ทหาร ก็ควรจะต้องปกป้องประเทศ ตามหน้าที่ อย่าใส่จิต ที่คิดอยากจะฆ่า ในระหว่างที่จะทำหน้าที จงคิดเสียว่าเราทำตามหน้าที่คือปกป้อง ดินแดน ประเทศ ส่วนธรรม เป็นเรื่องภายในเอาเหตุ ผล ของชาวโลกมาใส่ไม่ได้ นะจ๊ะ

  พระอริยะเจ้า มองเห็น ภัยจากวัฏฏะสงสารแล้ว ท่านกระทำกิจจบภัย ในวัฏฏะสงสาร ได้จึงไม่ใช่เรื่องที่ชาวโลกจะใส่เหตุผล กับพระอริยะเจ้าได้ เพราะพระอริยะเจ้าเลือกความตาย แทนที่จะไปทำให้เขาตาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ชาวโลกเข้าใจไม่ได้

  เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียด ทางจิต และ อ่อนไหวต่อความคิด พึงระมัดระวังจิตในการวิจารณ์ตามความเหมาะสม
ไม่ควรใช้เหตุ ผล ใด เหตุ ผล หนึ่งไปตัดสินว่าอาชีพนั้นผิด อาชีพนั้นถูก เพราะถูก ผิด อยู่ที่ไหน ?

  เพราะระหว่างที่เรากำลัง พูด ถูก หรือ ผิด นั้น ก็กำลังมีทหาร ที่เสียสละชีวิตปกป้องความเป็นสุขของคนที่แสดงความคิดเห็นอยู่ ให้มีชีวิตอยู่ พูด เรื่อง ถูก หรือ ผิด เพิ่มโอกาสแห่งความสุข และชีวิตให้แก่เรา

เจริญธรรม

 ;)
   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 10, 2011, 09:13:59 am โดย ธัมมะวังโส »
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ครูนภา

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +25/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 608
  • ภาวนา ร่วมกับพวกท่าน แล้วสุขใจ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ฟังเรื่องนี้นะ
ในจีนโบราณ มีที่ห่างไกลอยู่เมืองหนึ่ง อุดมสมบูรณ์ด้วย ข้าว และ ปลา มีประชากร ไม่ต่ำกว่า 3000คน ทุกคนอยู่อย่างมีความสุข ด้วย เหตุนี้ จึงมีหลายๆเมือง อยากมาตีเมืองๆนี้ แต่ก็ไม่มีใครสามารถตีได้ เพราะมีนักรบผู้เก่งกล้า 500คน พอนักรบทราบว่าเมืองไหนกำลังยกทัพเขามาตี ก็จะยกกำลัง เข้าไปฆ่าศัตรูก่อนที่จะมาถึงเมือง ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องสร้างกำแพงเมือง นักรบเหล่านี้ครั้นเมื่อว่างศึก ก็จะทำนา หาปลา ปั้นหม้อ ไปตามประสา
(ขอลัดเลยแล้วกันครับ)
อยู่มาวันหนึ่ง เหล่านักรบก็ตกลงว่าการฆ่าคนนี้เป็นบาป จึงสัญญากันว่าจะไม่ฆ่าคนอีกแล้ว เพราะคิดว่า ทุกๆเมืองจะเลิกคิดมารุกรานอีกแล้ว แต่คิดผิดเพราะว่า เมืองที่พ่ายแพ้ไปนั้น ได้รวมมือยกทัพมาตีเพื่อล้างแค้น และครั้งนี้ไม่ได้มาตี เพื่อเอาทรัพยากร

และแน่นอน ทหารที่ฆ่าคนไม่ได้ ก็ไม่ต่างกับหุ่นไล่กาเคลื่อนที่ ครั้งคิดว่า จะไปตัดมือทุกๆคน เพื่อไม่ให้จับอาวุธ ก็ไม่สามารถทำได้ สุดท้าย นักรบทั้ง500คน ตายทั้งหมด และมีนักรบ100คนโดนตัดหัวเสียบไว้ พอทหารศัตรู ยกพลมาถึงเมือง ชาวบ้าน ก็ไม่ทันตั้งตัว เพราะไม่คิดว่า นักรบผู้กล้าทั่ง500คน จะแพ้ แต่ พอเห็นหัวของนักรบถูกเสียบเอาไว้ ซึ่งบางคนก็เป็นสามี บางคนก็เป็นลูกชาย บางคนก็เป็นพ่อ ทำให้ชาวเมืองหวาดกลัวและหลั่งน้ำตา
(ขอลัดอีกรอบ)
เมืองถูกเผา หญิงสาวโดนข่มขืน เด็กโดนฆ่า  คนแก่โดนย่ำยีก่อนตาย  ชาวเมืองทุกคนถูกฆ่าตายหมดสิ้น โดยไม่มีการจับมาเป็นทาส
END.

มาเข้าเรื่องกัน คิดว่าผลของการ ฆ่าและไม่ฆ่า มันเเป็นอย่างไร
การที่ไม่ฆ่าทหารศัตรู ก็คือการปล่อยให้ชาวเมืองและตัวเองตาย ซึ่งเป็นไปตามกรรม อย่างนั้นดีแล้วหรือ? ถูกต้องแล้วหรือ?

จากคุณ    : YMS-15

 :96:
บันทึกการเข้า
ศรัทธา ปัญญา ขันติ ความเพียร คุณสมบัติผู้ภาวนา
ขอเป็นกัลยาณมิตร กับทุกท่าน ที่เป็นกัลยาณมิตร

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
          ตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนานแห่งมวลมนุษยชาติไม่มีเลยที่ไม่รุกรานกัน มนุษย์คิดหมายจะข่มเหงซึ่ง

กันและกันด้วยหลงผิดในลาภ ยศ สุข สรรเสริญ อันไม่จีรัง ด้วยยึดถือกำลังอำนาจศักดิ์ศรีเป็นสิ่งถูกต้อง กระทำ

ย่ำยี ยื้อแย่ง ชิงดีชิงเด่น มนุษย์ชื่อว่าประเสริฐ แต่ก็โง่มืดบอดมาตลอดแห่งการสร้างอารยธรรม มีเพียงผู้รู้เห็น

เป็นภัย วางบทบาทตนเองเป็นปราชญ์สอนสั่งผู้คนให้รู้บริหารตนเองอยู่ด้วยจริยธรรม เมตตาธรรม เล็งแลเห็น

สัจธรรม ซึ่งก็เป็นเพียงให้รู้หยั่งคิดได้ด้วยตนแห่งตน เพื่อความผาสุข สงบสุข แห่งชุมชน สังคม บ้านเมือง แว่น

แคว้น อาณาจักร และแผ่ขยายไปเป็นลัทธิ ศาสนา ครอบคลุมสู่ทุกมวลสรรพสัตว์ เรียกว่านานาอารยชน หากแต่

มาพ่ายแพ้เมื่อเริ่มเข้าสู่ยุคนวัตกรรมรูปธรรมวัตถุนิยมใจชนผู้คนเสื่อมถอยหลงสุขเสพสัมผัสทิ้งจิต ทิ้งธรรม ทิ้ง

แม้คำว่าศักดิ์ศรีเพียงเพื่อวัตถุเงินทอง วันนี้ประจักษ์เป็นอย่างนั้นใช่หรือไม่ครับ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 13, 2011, 07:01:31 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0










http://www.youtube.com/watch?v=mSrqEkwDExM (The video's owner prevents external embedding)
http://www.youtube.com/watch?v=2kuna7sC5ek (The video's owner prevents external embedding)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 10, 2011, 08:42:54 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา