ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ฝากใจไว้ที่อีสาน สบตาสาวอุบล (๑)  (อ่าน 6777 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28450
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ฝากใจไว้ที่อีสาน สบตาสาวอุบล (๑)
« เมื่อ: มกราคม 04, 2015, 10:33:50 pm »
0
       
                      ฝากดวงใจดวงนี้ไว้ที่อีสาน
                      เมื่อคราวพบดวงมาลย์ สาวตาหวาน"อุบลนคร"
                      ตาสบตา เมื่อมองมาหัวใจออนซอน
                      อยากจะเว้าคำวอน กลัวบังอรจะไม่เชื่อใจ.......












สามพันโบก อ.โพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานี
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 04, 2015, 11:39:41 pm โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28450
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ฝากใจไว้ที่อีสาน สบตาสาวอุบล (๑)
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มกราคม 04, 2015, 10:44:07 pm »
0









นำภาพแม่น้ำโขงที่สามพันโบกมาให้ชมครับ ฝั่งตรงข้ามคือ เมืองนครเพ็ง แขวงสาละวัน สปป.ลาว
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28450
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ฝากใจไว้ที่อีสาน สบตาสาวอุบล (๑)
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มกราคม 04, 2015, 10:52:29 pm »
0


สามพันโบก
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

สามพันโบก เป็นแก่งหินหรือกุมภลักษณ์ที่อยู่ใต้ลำน้ำโขง ในอำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี เกิดจากแรงน้ำวนกัดเซาะ กลายเป็นแอ่งมากกว่า 3,000 แอ่ง และจะปรากฏให้เห็นในช่วงฤดูแล้งที่น้ำแห้งขอด แก่งหินดังกล่าวก็จะโผล่พ้นน้ำคล้ายภูเขากลางลำน้ำโขง จนชาวบ้านเรียกว่า แกรนแคนยอนน้ำโขง ซึ่งจะปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นตั้งแต่ประมาณเดือนตุลาคม - พฤษภาคม ซึ่งหลังจากนั้นจะมีน้ำหลากมาท่วมโบกเหล่านั้นจมหายไปอยู่ใต้แม่น้ำ
_________________________
th.wikipedia.org/wiki/สามพันโบก





บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28450
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ฝากใจไว้ที่อีสาน สบตาสาวอุบล (๑)
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มกราคม 04, 2015, 11:05:54 pm »
0









      ภาพชุดนี้เป็นจุดสำคัญแห่งหนึ่งของสามพันโบก เป็นท่าจอดของเรือนำเที่ยวลำน้ำโขง จุดนี้เรียกว่า "เวินเหว" เป็นจุดที่กระแสน้ำพัดมาปะทะกับแนวหิน แรงปะทะทำให้กระแสน้ำตรงนี้ไหลทวน สวนทางกับกระแสน้ำของแม่น้ำโขง
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28450
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ฝากใจไว้ที่อีสาน สบตาสาวอุบล (๑)
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มกราคม 04, 2015, 11:19:44 pm »
0







บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28450
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ฝากใจไว้ที่อีสาน สบตาสาวอุบล (๑)
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มกราคม 04, 2015, 11:37:48 pm »
0



แกรนด์แคนยอนเมืองสยาม คือแก่งหินงามสามพันโบก

นายเรืองประทิน  เขียวสด  ครูโรงเรียนบ้านสองคอน  ซึ่งเป็นในผู้ส่งเสริมการท่องเที่ยวในบริเวณดังกล่าว  ระบุว่า  สามพันโบก  ถือว่าเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาตามธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในลำน้ำโขงเท่าที่ทราบกันมา  ซึ่งในบริเวณเดียวกัน  มีสถานที่ที่ชาวบ้านเรียกว่า  แกรนแคนยอนน้ำโขง  อันเกิดจากการกัดเซาะของน้ำหลายพันปี  เป็นร่องน้ำขนาดใหญ่  สูงประมาณ  3-7  เมตร  กว้างประมาณ  20  เมตร 

แก่งหินสามพันโบก เป็นกลุ่มหินทรายแนวเทือกเขาภูพานตอนปลายที่ทอดตัวยาวริมฝั่งโขงไทยและลาว  สายน้ำแคบและเป็นคุ้งน้ำ  ณ เส้นรุ้งที่ N.15 องศา 47.472 ลิปดา และเส้นแวงที่ E.105 องศา  23.983 ลิปดา ริมฝั่งโขงบริเวณนี้เป็นกลุ่มหินที่เรียงตัวทอดยาว เป็นสันดอนขนาดใหญ่พื้นที่กว่า 30 ตารางกิโลเมตร ผาหินบริเวณโค้งด้านหน้ารับแรงน้ำที่ไหลจากตอนบน  ก่อเกิดประติมากรรมธรรมชาติที่งดงาม

จุดเด่นที่น่าสนใจคือ โบก อันเกิดจากกระแสน้ำได้พัดพาก้อนกรวด หิน  ทราย  และเศษไม้  กัดเซาะขัดแผ่นหินทรายให้เกิดเป็นหลุมแอ่ง  มีขนาดเล็กๆจนถึงขนาดใหญ่จำนวนมากมาย หินบางก้อนถูกกัดกร่อนคล้ายงานแกะสลักเป็นรูปสัตว์ รูปหัวใจ รูปมิกกี้เมาส์จากโบกจำนวนมากมาย   จนสถานที่แห่งนี้ถูกขนานนามว่า  สามพันโบก

แก่งสามพันโบก  เป็นแก่งหินที่อยู่ใต้ลำน้ำโขงในช่วงฤดูน้ำหลาก  ประมาณเดือนกรกฏาคม – เดือนตุลาคม  และโผล่พ้นน้ำอวดความงามให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมได้  ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน – มิถุนายน ทุกปี





เปิดตำนานสามพันโบก

จากประติมากรรมหินทรายที่มีรูปร่างดงามแปลกตา ก่อเกิดตำนานเรื่องเล่าตำนานพญานาคชุดแม่น้ำโขง  ทุ่งหินเหลื่อม  หินหัวสุนัข  และปู่จกปู

ตำนานหินหัวสุนัข  ทางเข้าของแกรนด์แคนยอนแม่น้ำโขง  มีหินสวยงามลักษณะคล้ายหัวสุนัข  ซึ่งมีตำนานเล่าขานกันต่างๆ นานา  บ้างก็ว่า แต่ก่อนมีเจ้าเมืองเป็นผู้เรืองอำนาจประทับใจความงามของสามพันโบก  จึงได้ส่งเสนามาศึกษาเพิ่มเติม  เมื่อมาแล้วพบขุมทรัพย์เป็นทองคำ  จึงให้สุนัข เฝ้าทางเข้าจนกว่าเจ้าเมืองจะออกมา  เมื่อเจ้าเมืองได้เห็นสมบัติเกิดความโลภ  กลัวเสนาจะได้ส่วนแบ่งจึงได้ออกไปทางอื่น  สุนัขผู้ภักดีก็เฝ้ารออยู่ตรงนั้นจนตายในที่สุด  บางตำนานก็ว่าลูกพญานาคในลำน้ำโขงเป็นผู้ขุดเพื่อให้เกิดลำน้ำอีกสายหนึ่งและได้มอบหมายให้สุนัขเป็นผู้เฝ้าทางระหว่างการขุดจนกระทั่งสุนัขได้ตายลงกลายเป็นหินรูปสุนัขในที่สุด

ตำนานหาดหินสี หรือทุ่งหินเหลื่อม  ทุ่งหินเหลื่อมอยู่ในพื้นที่บ้านคำจ้าว  ตำบลเหล่างาม  อำเภอโพธิ์ไทร  เป็นกลุ่มหินสีที่มีลักษณะแปลกตา  คือหินแต่ละก้อน  จะมีผิวเรียบเป็นมันประกอบด้วยสีเหลือง เขียว ม่วง น้ำเงิน  มีขนาดตั้งแต่ก้อนเล็กเท่ากำปั้นและก้อนใหญ่สุดมีขนาดใหญ่กว่า 3 เมตร  กระจายเป็นกลุ่ม 3 กลุ่มใหญ่  หินแต่ละก้อนถ้านำมาเรียงต่อกันจะเชื่อมกันได้สนิทคล้ายจิ๊กซอว์หินสี  จากตำนานชาวบ้านที่เล่าขานต่อกันว่ากลุ่มหินสีดังกล่าวคือทองคำพญานาค  ซึ่งเกิดจากการขุดสร้างแม่น้ำโขงของพญานาคตัวพ่อและตัวแม่  ส่วนร่องน้ำเล็กที่คู่ขนานกับแม่น้ำโขงเป็นผลงานของลูกพญานาคที่ขุดเล่น  จนเกือบทะลุกับแม่น้ำโขง  ลูกพญานาคพบหินเหมือนทองคำ  จึงขุดขึ้นกองไว้เป็นบริเวณกว้างประมาณ 2 ไร่

ทุ่งหินเหลื่อม  ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาศึกษาอย่างเป็นทางการ  จึงมีคำถามที่รอคำตอบมากมาย  ว่าหินกลุ่มนี้มากจากไหน หรือเกิดขึ้นอย่างไร  และคำตอบจากนักท่องเที่ยวทุกคนคือ  ความมหัศจรรย์ของธรรมชาตินั่นเอง

ตำนานปู่จกปู  หลุมโบกที่เกิดขึ้นมากมาย  ก่อเกิดเรื่องเล่า  ปู่พาหลานมาจับปาบริเวณถ้างต้อน  (ต้อนเป็นเครื่องมือดักปลาของคนอีสาน)  บังเอิญไม่สามารถจับปลาได้จึงใช้มือล้วงปูหินริมน้ำโขงจนเกิดโบกจำนวนมาก





สามพันโบกในอดีต   เป็นแหล่งที่ชาวบ้านมาจับปลาในหน้าแล้งตามหลุมแอ่ง  โบก และสระบุ่ง  เนื่องจากลุ่มแอ่งจำนวนมากมายเหล่านี้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดจำนวนมากที่ชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงใช้สำหรับการดำรงชีพ

สามพันโบกเริ่มเป็นที่รู้จัก  และปรากฏสู่สายตานักท่องเที่ยว  เมื่อนายเรืองประทิน  เขียวสด   ครูโรงเรียนบ้านสองคอน  ผู้บุกเบิกได้พบความงามของสามพันโบก  จึงได้ชวน  นายสมชาติ  เบญจถาวรอนันท์  เว็บมาสเตอร์ไกด์อุบลดอทคอม  นายชาย  บุดดีวัน  ผู้ใหญ่บ้านโป่งเป้าและ อบต.เหล่างาม  จัดกิจกรรม  แคมปิ้ง  เพื่อการประชาสัมพันธ์  ผ่านสื่อเว็บไซต์  ชุดกิจกรรมนอนกลางโขงชมทะเลดาว  เมื่อเดือน 15-16 ธันวาคม 2549  ได้รับความสนใจจากกลุ่มคนชอบท่องเที่ยวทางธรรมชาติ  และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  สำนักงานอุบลราชธานี  เขต 2 (ปัจจุบันเป็น ททท.สำนักงานอุบลราชธานี)  ได้นำแหล่งท่องเที่ยวนี้  เข้าในกิจกรรมท่องเที่ยวแม่น้ำโขงรับตะวันใหม่ก่อนใครในสยามมาตลอด

สามพันโบกได้รับความสนใจอย่างมากเมื่อโฆษณาของ ท.ท.ท. ชุด เที่ยวไทยครึกครื้นเศรษฐกิจไทยคึกคัก  เริ่มออกฉายภาพ  สถานที่ท่องเที่ยวซึงเป็นฉากจบของโฆษณาชุดนี้จึงกลายเป็นคำถามว่า  ที่ไหนกัน  เมืองไทยมีที่แห่งนี้ด้วยหรือ นับตั้งแต่นั้นมา  แก่งสามพันโบก  จึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่  ที่กำลังเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวติดอันดับประดับประเทศ


ขอบคุณข้อมูลจาก http://guideubon.com/news/view.php?t=37&s_id=14&d_id=14
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 04, 2015, 11:55:29 pm โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28450
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ฝากใจไว้ที่อีสาน สบตาสาวอุบล (๑)
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มกราคม 04, 2015, 11:55:03 pm »
0








ภูมิใจนำเสนอครับ ภาพชุดนี้ บรรยากาศเหมือนเมืองนอกเลย
สมแล้วครับ กับสมญา "แกรนด์แคนยอนเมืองสยาม"
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28450
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ฝากใจไว้ที่อีสาน สบตาสาวอุบล (๑)
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มกราคม 05, 2015, 12:04:06 am »
0





ภาพชุดนี้ เหมือนกับเดินอยู่ใน"ทะเลทราย" ที่อยู่ติดกับ"โอเอซิส"

           
ภาพที่สามพันโบก มีให้ชมกันเท่านี้ครับ  :25:  :49: :welcome:
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ฝากใจไว้ที่อีสาน สบตาสาวอุบล (๑)
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มกราคม 05, 2015, 08:47:52 am »
0
มีทั้งภาพและการบรรยายสมบูรณ์
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

kittisak

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +42/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 653
  • พุทธัง อะระหัง พุทโธ นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
Re: ฝากใจไว้ที่อีสาน สบตาสาวอุบล (๑)
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: มกราคม 05, 2015, 03:49:02 pm »
0
 st11 st12 st12

 แสดงว่า คุณ raponson น่าจะชอบตรงจุดนี้มาก นะครับ เพราะที่ทราบมาจากเฟค คือ คนขับรถ ไม่ได้ลงไปตามลำดับ จากที่พระอาจารย์ แสดงไว้ แสดงว่า ต้องชอบ สามพันโบก เป็นอย่างมาก

 ขอบคุณภาพถ่าย นะครับ สวยมาก

  thk56
บันทึกการเข้า
ความสุขอันเกิดจากการแบ่งปัน ดีกว่าความทุกข์ที่มีแต่จะเอา

waterman

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 302
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ฝากใจไว้ที่อีสาน สบตาสาวอุบล (๑)
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: มกราคม 06, 2015, 11:31:28 am »
0
ถ้าอ่านตามลำดับ ที่ปรากฏข้อความ ในเฟค สามพันโบก เป็นลำดับ ที่ 26 ของ ธรรมะสัญจร อิสาณครับ แสดงว่าผู้โพสต์ น่าจะชอบ ส่วนนี้มากนะครับ จึงนำเสนอ ส่วนนี้ก่อน

  ส่วนตัวก็ชอบทั้งหมด แหละครับ ภาพธรรมชาติ สวยงาม วันนี้ดู วีดีโอ สามพันโบก ของพระอาจารย์แล้ว ก็ยิ่งเห็นบรรยากาศโดยรวม ด้วย

 
  st12 thk56
บันทึกการเข้า

kittisak

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +42/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 653
  • พุทธัง อะระหัง พุทโธ นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
Re: ฝากใจไว้ที่อีสาน สบตาสาวอุบล (๑)
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: มกราคม 06, 2015, 11:33:24 am »
0
วีดีโอ ดูดี ยิ่งตอนเห็นพระอาจารย์แสดงหิน บอกว่า หินธรรมดา ผมรู้สึกสนใจมากครับ และพยายามมองหินนั้นให้ละเอียด ที่สำคัญผมลองใช้ วิธีการดูด้วยจิตทิพย์ ที่พระอาจารย์สอนไว้ตอนดูภาพ เห็นรัศมี สีน้ำเงิน ที่ก้อนหินนั้น ด้วย ไม่ทราบหินก้อนนี้พระอาจารย์ ทิ้งไปแล้วหรือยัง ครับ

 
 :c017: thk56 :25:
บันทึกการเข้า
ความสุขอันเกิดจากการแบ่งปัน ดีกว่าความทุกข์ที่มีแต่จะเอา

modtanoy

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-5
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 213
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ฝากใจไว้ที่อีสาน สบตาสาวอุบล (๑)
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: มกราคม 06, 2015, 11:35:22 am »
0
วีดีโอ ดูดี ยิ่งตอนเห็นพระอาจารย์แสดงหิน บอกว่า หินธรรมดา ผมรู้สึกสนใจมากครับ และพยายามมองหินนั้นให้ละเอียด ที่สำคัญผมลองใช้ วิธีการดูด้วยจิตทิพย์ ที่พระอาจารย์สอนไว้ตอนดูภาพ เห็นรัศมี สีน้ำเงิน ที่ก้อนหินนั้น ด้วย ไม่ทราบหินก้อนนี้พระอาจารย์ ทิ้งไปแล้วหรือยัง ครับ

 
 :c017: thk56 :25:

 ตื่นเต้น อะไร กัน คะ ลุง
แค่ก้อนหินธรรมดา เอง

  :smiley_confused1:
บันทึกการเข้า

timeman

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 91
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ฝากใจไว้ที่อีสาน สบตาสาวอุบล (๑)
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: มกราคม 06, 2015, 11:37:04 am »
0
วีดีโอ ดูดี ยิ่งตอนเห็นพระอาจารย์แสดงหิน บอกว่า หินธรรมดา ผมรู้สึกสนใจมากครับ และพยายามมองหินนั้นให้ละเอียด ที่สำคัญผมลองใช้ วิธีการดูด้วยจิตทิพย์ ที่พระอาจารย์สอนไว้ตอนดูภาพ เห็นรัศมี สีน้ำเงิน ที่ก้อนหินนั้น ด้วย ไม่ทราบหินก้อนนี้พระอาจารย์ ทิ้งไปแล้วหรือยัง ครับ

 
 :c017: thk56 :25:


 :96: :96: :96:

 ตื่นเต้น อะไร กัน คะ ลุง
แค่ก้อนหินธรรมดา เอง

  :smiley_confused1:
บันทึกการเข้า
ทะลุมิติ มาหา ความจริง ของตัวเอง

sakol

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 242
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ฝากใจไว้ที่อีสาน สบตาสาวอุบล (๑)
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: มกราคม 06, 2015, 11:45:35 am »
0
 st11 st12 st12

  ติดตามครับ ส่วนคุณ modtanoy ปีนี้ 2558 แล้ว นะครับ หลงปี หรือป่าว ครับ

 
บันทึกการเข้า

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ฝากใจไว้ที่อีสาน สบตาสาวอุบล (๑)
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: มกราคม 08, 2015, 09:12:52 am »
0
เรื่องใหม่ยังไม่มา  ชมสาวอุบล....กันอีกครั้ง
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: ฝากใจไว้ที่อีสาน สบตาสาวอุบล (๑)
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: มกราคม 11, 2015, 10:22:38 am »
0


สามพันโบกบอกตรงตรงเลยว่าไม่เคยไป ที่ไปเป็นด้วยเจตนาคุณปุ้มต้องการขอไปเรียกว่าตามใจโชเฟอร์นิสสันครับ แต่พอไปได้เห็นต้องเรียกว่าหลงเสน่ห์สาวอุบลฯจริงจริงนะ มุมนี้สวยสุดครับ ผมเกือบพลาดด้วยสังเกตเห็นผู้คนมา ณ จุดเวินเหวด้านใต้กันเสียส่วนมากผมจะอยู่เร้นไปด้านเหนือ ซึ่งมีแต่โบกเป็นหลุมเล็กๆมากมายครั้นจะเดินกลับก็เอะใจเหลียวเห็นผู้คนมากทางด้านใต้จึงเดินลัดเลาะไปยลชมก็ต้องเรียกว่าพลาดจากจุดนี้คงเสียดายโบกกว้างมากน้ำใสเย็นอุ่นจนผมต้องลงแช่เท้าดื่มด่ำเอากับธรรมชาติที่โอกาสมีไม่ได้บ่อย ต้องขอบคุณคุณปุ้มครับงานนี้ที่หาญนอกลู่ทางพาไป


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 11, 2015, 10:26:05 am โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา