- สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน «
- กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้
11
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: เครื่องเติมอากาศ ดูเพิ่มเติม www.เครื่องเติมอากาศ.net
เมื่อ: มิถุนายน 13, 2025, 09:33:26 pm
|
||
เริ่มโดย aventure1 - กระทู้ล่าสุด โดย aventure1 | ||
ดันกระทู้
|
12
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: เครื่องเติมอากาศ www.เครื่องเติมอากาศ.net เครื่องเติมอากาศในบ้าน เติมออกซิเจนบำบ
เมื่อ: มิถุนายน 13, 2025, 07:09:40 pm
|
||
เริ่มโดย aventure1 - กระทู้ล่าสุด โดย aventure1 | ||
ดันกระทู้
|
13
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: เครื่องเติมอากาศ ทำหน้าที่ดึงอากาศจากภายนอกเข้ามาเติมอากาศภายในบ้าน
เมื่อ: มิถุนายน 13, 2025, 04:37:51 pm
|
||
เริ่มโดย aventure1 - กระทู้ล่าสุด โดย aventure1 | ||
ดันกระทู้
|
14
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: เครื่องเติมอากาศ, เครื่องเติมอากาศบริสุทธิ์, เครื่องเติมอากาศในบ้าน-ในห้องนอน
เมื่อ: มิถุนายน 13, 2025, 01:48:09 pm
|
||
เริ่มโดย aventure1 - กระทู้ล่าสุด โดย aventure1 | ||
ดันกระทู้
|
15
เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: แก่นธรรมในสังยุตตนิกาย | นำพาให้พบกับแสงสว่างส่องใจ
เมื่อ: มิถุนายน 13, 2025, 11:30:59 am
|
||
เริ่มโดย raponsan - กระทู้ล่าสุด โดย raponsan | ||
.
![]() ขยายความ : มีสติปัญญาที่ข้อต่อ ๒. ![]() ![]() ![]() พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๗ ภาษาบาลี อักษรไทย พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๙ สุตฺต. สํ. ขนฺธวารวคฺโค [๒๘๔] สาวตฺถี ฯ สกฺกายญฺจ โว ภิกฺขเว เทสิสฺสามิ สกฺกายสมุทยญฺจ สกฺกายนิโรธญฺจ สกฺกายนิโรธคามินีปฏิปทญฺจ ตํ สุณาถ ฯ [๒๘๕] กตโม จ ภิกฺขเว สกฺกาโย ฯ ปญฺจุปาทานกฺขนฺธาติสฺส วจนียํ ฯ กตเม ปญฺจ ฯ เสยฺยถีทํ ฯ รูปูปาทานกฺขนฺโธ ฯเปฯ วิญฺญาณูปาทานกฺขนฺโธ ฯ อยํ วุจฺจติ ภิกฺขเว สกฺกาโย ฯ [๒๘๖] กตโม จ ภิกฺขเว สกฺกายสมุทโย ฯ ยายํ ตณฺหา โปโนพฺภวิกา นนฺทิราคสหคตา ตตฺรตตฺราภินนฺทินี ฯ เสยฺยถีทํ ฯ กามตณฺหา ภวตณฺหา วิภวตณฺหา ฯ อยํ วุจฺจติ ภิกฺขเว สกฺกายสมุทโย ฯ [๒๘๗] กตโม จ ภิกฺขเว สกฺกายนิโรโธ ฯ โย ตสฺสาเยว ตณฺหาย อเสสวิราคนิโรโธ จาโค ปฏินิสฺสคฺโค มุตฺติ อนาลโย ฯ อยํ วุจฺจติ ภิกฺขเว สกฺกายนิโรโธ ฯ [๒๘๘] กตมา จ ภิกฺขเว สกฺกายนิโรธคามินีปฏิปทา ฯ อยเมว อริโย อฏฺฐงฺคิโก มคฺโค ฯ เสยฺยถีทํ ฯ สมฺมาทิฏฺฐิ สมฺมาสงฺกปฺโป ฯเปฯ สมฺมาสมาธิ ฯ อยํ วุจฺจติ ภิกฺขเว สกฺกายนิโรธคามินีปฏิปทาติ ฯ ![]() พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๙ สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค ๓. สักกายสูตร ว่าด้วยสักกายะตามแนวอริยสัจธรรม [๒๘๔] พระนครสาวัตถี. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงสักกายะ สักกายสมุทัย สักกายนิโรธ และสักกายนิโรธคามินีปฏิปทา แก่เธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงฟัง. [๒๘๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สักกายะเป็นไฉน.? คำว่าสักกายะนั้น ควรจะกล่าวว่า อุปาทานขันธ์ ๕. อุปาทานขันธ์ ๕ เป็นไฉน.? อุปาทานขันธ์ ๕ นั้น ได้แก่ อุปาทานขันธ์คือ รูป ฯลฯ อุปาทานขันธ์คือ วิญญาณ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่า สักกายะ. [๒๘๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สักกายสมุทัยเป็นไฉน.? สักกายสมุทัยนั้น คือ ตัณหา อันนำให้เกิดในภพใหม่ ประกอบด้วยความกำหนัด ด้วยอำนาจความเพลิดเพลินยิ่งในภพหรืออารมณ์นั้น. กล่าวคือ กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา. ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่า สักกายสมุทัย. [๒๘๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สักกายนิโรธเป็นไฉน.? คือ ความดับโดยไม่เหลือแห่งตัณหานั้นแล ด้วยมรรค คือ วิราคะ ความสละ ความสละคืน ความหลุดพ้น ความไม่อาลัย. ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่า สักกายนิโรธ. [๒๘๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สักกายนิโรธคามินีปฏิปทาเป็นไฉน.? คือ อริยมรรค ประกอบด้วยองค์ ๘ นี้ กล่าวคือ สัมมาทิฏฐิ ฯลฯ สัมมาสมาธิ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่า สักกายนิโรธคามินีปฏิปทา. จบ สูตรที่ ๓. ![]() ![]() ![]() ข้อมูลภาพรวมโดย AI : สักกายทิฏฐิสมุทยคามินีปฏิปทา "สักกายทิฏฐิสมุทยคามินีปฏิปทา" หมายถึง การละทิ้งความคิดเห็นผิดว่าขันธ์ 5 (รูป เวทนา สัญญา กิจกรรม วิญญาณ) เป็นตัวตนหรือเป็นของตนอย่างแท้จริง. "สมุทยคามินีปฏิปทา" เป็นคำที่ใช้ในพุทธศาสนาเพื่ออธิบายการละทิ้ง (สมุทัย) และการออกจาก (คามินี) การยึดมั่นในขันธ์ 5. รายละเอียดเพิ่มเติม :- สักกายทิฏฐิ : ความเห็นผิดที่ถือว่าขันธ์ 5 หรือกายใจ หรือรูปนาม เป็นตัวเราของเราอย่างแท้จริง, เป็นการยึดมั่นว่าสิ่งเหล่านั้นคือตัวตนของเรา. สมุทยคามินีปฏิปทา : เป็นกระบวนการที่นำไปสู่การละทิ้งสังโยชน์และกิเลสต่าง ๆ, โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สักกายทิฏฐิ, ซึ่งเป็นเครื่องผูกรัดคนให้ติดอยู่ในวัฏสงสาร. สรุป : "สักกายทิฏฐิ สมุทยคามินีปฏิปทา" หมายถึง การละทิ้งความเห็นผิดว่าขันธ์ 5 คือตัวตน และการปฏิบัติเพื่อออกจากวัฏสงสารจากการยึดมั่นในตัวตน. ![]() พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ] สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค ๓. สักกายสูตร ว่าด้วยสักกายะ [๑๐๕] เรื่องเกิดขึ้นที่กรุงสาวัตถี พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “ภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงสักกายะ เหตุเกิดแห่ง สักกายะ ความดับแห่งสักกายะ และปฏิปทาที่ให้ถึงความดับแห่งสักกายะ เธอทั้งหลายจงฟัง สักกายะ เป็นอย่างไร.? คือ ควรกล่าวได้ว่า ‘สักกายะนั้น ได้แก่ อุปาทานขันธ์ ๕ ประการ’ อุปาทานขันธ์ ๕ ประการ อะไรบ้าง คือ ๑. รูปูปาทานขันธ์ ฯลฯ ๕. วิญญาณูปาทานขันธ์ นี้เรียกว่า สักกายะ เหตุเกิดแห่งสักกายะ เป็นอย่างไร.? คือ ตัณหาอันทำให้เกิดอีก ประกอบด้วยความเพลิดเพลินและความกำหนัด มีปกติเพลิดเพลินยิ่งในอารมณ์นั้นๆ คือ ๑. กามตัณหา ๒. ภวตัณหา ๓. วิภวตัณหา นี้เรียกว่า เหตุเกิดแห่งสักกายะ ความดับแห่งสักกายะ เป็นอย่างไร.? คือ ความดับตัณหาไม่เหลือด้วยวิราคะ ความสละ ความสละคืน ความพ้น ความไม่อาลัยในตัณหา นี้เรียกว่า ความดับแห่งสักกายะ ปฏิปทาที่ให้ถึงความดับแห่งสักกายะ เป็นอย่างไร.? คือ อริยมรรคมีองค์ ๘ นี้แล ได้แก่ ๑. สัมมาทิฏฐิ ๒. สัมมาสังกัปปะ ฯลฯ ๘. สัมมาสมาธิ นี้เรียกว่า ปฏิปทาที่ให้ถึงความดับแห่งสักกายะ” สักกายสูตรที่ ๓ จบ ![]() ![]() ![]() อรรถกถา สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค ขันธสังยุตต์ จุลปัณณาสก์ อันตวรรคที่ ๑ สักกายสูตร ว่าด้วยสักกายะตามแนวอริยสัจธรรม อรรถกถาสักกายสูตรที่ ๓ แม้สูตรที่ ๓ ก็เหมือนกัน คือ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ตามอัธยาศัยของเวไนยสัตว์ผู้จะตรัสรู้ได้ ด้วยคำว่า สกฺกาโย โดยทรงประกอบขันธ์ ๕ เข้ากับอริยสัจ ๔. จบอรรถกถาสักกายสูตรที่ ๓ |
16
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: เครื่องเติมอากาศ เครื่องเติมอากาศในบ้านช่วยเติมออกซิเจนในห้อง
เมื่อ: มิถุนายน 13, 2025, 11:20:33 am
|
||
เริ่มโดย aventure1 - กระทู้ล่าสุด โดย aventure1 | ||
ดันกระทู้
|
17
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: กล่องกระดาษลูกฟูก โรงงานผลิตกล่องลูกฟูกใน อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี
เมื่อ: มิถุนายน 12, 2025, 10:57:53 pm
|
||
เริ่มโดย todaytimepost11 - กระทู้ล่าสุด โดย todaytimepost11 | ||
ขออนุญาต อัพเดทกระทู้
|
18
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: กล่องกระดาษลูกฟูก 5 ชั้น คือกล่องกระดาษที่มีความหนาของกระดาษลอน 5 ชั้น
เมื่อ: มิถุนายน 12, 2025, 08:49:57 pm
|
||
เริ่มโดย todaytimepost11 - กระทู้ล่าสุด โดย todaytimepost11 | ||
ขออนุญาต อัพเดทกระทู้
|
19
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: กล่องลูกฟูก คือกล่องบรรจุสินค้าที่ใช้เพื่อใส่พัสดุ สินค้า ก่อนนำไปส่งที่ไปรษณีย์
เมื่อ: มิถุนายน 12, 2025, 06:46:28 pm
|
||
เริ่มโดย todaytimepost11 - กระทู้ล่าสุด โดย todaytimepost11 | ||
ขออนุญาต อัพเดทกระทู้
|
20
เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: แก่นธรรมในสังยุตตนิกาย | นำพาให้พบกับแสงสว่างส่องใจ
เมื่อ: มิถุนายน 12, 2025, 11:59:06 am
|
||
เริ่มโดย raponsan - กระทู้ล่าสุด โดย raponsan | ||
.
![]() ขยายความ : มีสติปัญญาที่ข้อต่อ ๑. ![]() ![]() ![]() พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๘ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๐ [ฉบับมหาจุฬาฯ] สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค , ๒. ยมกวรรค หมวดว่าด้วยคู่ ๑. ปฐมปุพเพสัมโพธสูตร ว่าด้วยความดำริก่อนตรัสรู้ สูตรที่ ๑ [๑๓] เรื่องเกิดขึ้นที่กรุงสาวัตถี พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “ภิกษุทั้งหลาย เมื่อก่อนเราเป็นโพธิสัตว์ยังไม่ได้ตรัสรู้ ได้มีความคิดดังนี้ว่า ‘อะไรหนอเป็นคุณ(๑-) อะไรเป็นโทษ(๒-) ของจักขุ (ตา) อะไรเป็นเครื่องสลัดออกจากจักขุ ฯลฯ โสตะ (หู) ฯลฯ ฆานะ (จมูก) ฯลฯ ชิวหา (ลิ้น) ฯลฯ กาย อะไรเป็นคุณ อะไรเป็นโทษของมโน (ใจ) อะไรเป็นเครื่องสลัดออกจากมโน ภิกษุทั้งหลาย เรานั้นได้มีความคิดดังนี้ว่า ‘สภาพที่สุขโสมนัสอาศัยจักขุเกิดขึ้น นี้เป็นคุณของจักขุ สภาพที่จักขุไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรผันเป็นธรรมดา นี้เป็นโทษของจักขุ ธรรมเป็นที่กำจัดฉันทราคะ ธรรมเป็นที่ละฉันทราคะ(๓-) ในจักขุ นี้เป็นเครื่องสลัดออกจากจักขุ สภาพที่สุขโสมนัสอาศัยโสตะ ฯลฯ สภาพที่สุขโสมนัสอาศัยฆานะ ฯลฯ สภาพที่สุขโสมนัสอาศัยชิวหาเกิดขึ้น นี้เป็นคุณของชิวหา สภาพที่ชิวหา ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรผันเป็นธรรมดา นี้เป็นโทษของชิวหา ธรรมเป็นที่กำจัดฉันทราคะ(๔-) ธรรมเป็นที่ละฉันทราคะในชิวหา นี้เป็นเครื่องสลัดออกจากชิวหา สภาพที่สุขโสมนัสอาศัยกาย ฯลฯ สภาพที่สุขโสมนัสอาศัยมโน นี้เป็นคุณของมโน สภาพที่มโนไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรผันเป็นธรรมดา นี้เป็นโทษของมโน ธรรมเป็นที่กำจัดฉันทราคะ ธรรมเป็นที่ละฉันทราคะในมโน นี้เป็นเครื่องสลัดออกจากมโน’ ภิกษุทั้งหลาย ตราบใดเรายังไม่รู้คุณโดยความเป็นคุณ โทษโดยความเป็นโทษ และเครื่องสลัดออกโดยความเป็นเครื่องสลัดออกจากอายตนะภายใน ๖ ประการนี้ ตามความเป็นจริงอย่างนี้ ตราบนั้นเราก็ยังไม่ยืนยันว่า ‘เป็นผู้ตรัสรู้สัมมาสัมโพธิ-ญาณอันยอดเยี่ยมในโลกพร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ เทวดา และมนุษย์’ @@@@@@@ แต่เมื่อใดเรารู้คุณโดยความเป็นคุณ โทษโดยความเป็นโทษ เครื่องสลัดออกโดยความเป็นเครื่องสลัดออกจากอายตนะภายใน ๖ ประการนี้ตามความเป็นจริงอย่างนี้ เมื่อนั้นเราจึงยืนยันว่า ‘เป็นผู้ตรัสรู้สัมมาสัมโพธิญาณอันยอดเยี่ยมในโลกพร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ เทวดา และมนุษย์’ อนึ่ง ญาณทัสสนะ(๕-) เกิดขึ้นแล้วแก่เราว่า ‘วิมุตติของเราไม่กำเริบ ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย บัดนี้ภพใหม่ไม่มีอีก” ปฐมปุพเพสัมโพธสูตรที่ ๑ จบ ________________________________ (๑-) คุณ (อัสสาทะ) หมายถึงสภาวะที่อร่อยหรือสภาวะที่สุขกายและสุขใจที่เกี่ยวข้องกามคุณ(องฺ.จตุกฺก.อ. ๒/๑๐/๒๘๘, องฺ.จตุกฺก.ฏีกา ๒/๑๐/๒๘๘) (๒-) โทษ (อาทีนวะ) หมายถึงสภาวะที่ไม่อร่อย มีทุกข์กายและทุกข์ใจซึ่งมีธรรมเป็นเหตุ(องฺ.จตุกฺก.อ. ๒/๑๐/๒๘๘, องฺ.จตุกฺก.ฏีกา ๒/๑๐/๒๘๘) (๓-) ธรรมเป็นที่กำจัดฉันทราคะ ธรรมเป็นที่ละฉันทราคะ หมายถึงนิพพาน (องฺ.ติก.อ. ๒/๑๐๔/๒๕๗) (๔-) ฉันทราคะ หมายถึงความกำหนัดที่ไม่รุนแรง (ฉันทะ) และความกำหนัดที่รุนแรง (ราคะ)(วิ.อ. ๓/๓๒๙/๕๗๒, ขุ.ม.อ. ๘/๑๐๕) (๕-) ญาณทัสสนะ หมายถึงปัจจเวกขณญาณ ญาณหยั่งรู้ด้วยการพิจารณาทบทวน คือ สำรวจรู้มรรคผล กิเลสที่ละได้แล้ว และนิพพาน (องฺ.ติก.อ. ๒/๑๐๔/๒๕๗) ![]() ![]() ![]() ๒. ทุติยปุพเพสัมโพธสูตร ว่าด้วยความดำริก่อนตรัสรู้ สูตรที่ ๒ [๑๔] “ภิกษุทั้งหลาย เมื่อก่อนเราเป็นโพธิสัตว์ยังไม่ได้ตรัสรู้ ได้มีความคิดดังนี้ว่า ‘อะไรหนอเป็นคุณ อะไรเป็นโทษของรูป อะไรเป็นเครื่องสลัดออกจากรูป อะไรเป็นคุณ อะไรเป็นโทษของสัททะ อะไรเป็นเครื่องสลัดออกจากสัททะ ฯลฯ คันธะ ฯลฯ รส ฯลฯ โผฏฐัพพะ อะไรเป็นคุณ อะไรเป็นโทษของธรรมารมณ์ อะไรเป็นเครื่องสลัดออกจากธรรมารมณ์’ ภิกษุทั้งหลาย เรานั้นได้มีความคิดดังนี้ว่า ‘สภาพที่สุขโสมนัสอาศัยรูปเกิดขึ้น นี้เป็นคุณของรูป สภาพที่รูปไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรผันเป็นธรรมดา นี้เป็นโทษของรูป ธรรมเป็นที่กำจัดฉันทราคะ ธรรมเป็นที่ละฉันทราคะในรูป นี้เป็นเครื่องสลัดออกจากรูป สภาพที่สุขโสมนัสอาศัยสัททะ ฯลฯ คันธะ ฯลฯ รส ฯลฯ โผฏฐัพพะ ฯลฯ สภาพที่สุขโสมนัสอาศัยธรรมารมณ์เกิดขึ้น นี้เป็นคุณของธรรมารมณ์ สภาพที่ธรรมารมณ์ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรผันเป็นธรรมดา นี้เป็นโทษของธรรมารมณ์ ธรรมเป็นที่กำจัดฉันทราคะ ธรรมเป็นที่ละฉันทราคะในธรรมารมณ์ นี้เป็นเครื่องสลัดออกจากธรรมารมณ์’ @@@@@@@ ภิกษุทั้งหลาย ตราบใดเรายังไม่รู้คุณโดยความเป็นคุณ โทษโดยความเป็นโทษ และเครื่องสลัดออกโดยความเป็นเครื่องสลัดออกจากอายตนะภายนอก ๖ ประการนี้ ตามความเป็นจริงอย่างนี้ ตราบนั้นเราก็ยังไม่ยืนยันว่า ‘เป็นผู้ตรัสรู้สัมมาสัมโพธิญาณอันยอดเยี่ยมในโลก พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ เทวดา และมนุษย์’ แต่เมื่อใด เรารู้คุณโดยความเป็นคุณ โทษโดยความเป็นโทษ เครื่องสลัดออกโดยความเป็นเครื่องสลัดออกจากอายตนะภายนอก ๖ ประการนี้ตามความเป็นจริงอย่างนี้ เมื่อนั้นเราจึงยืนยันว่า ‘เป็นผู้ตรัสรู้สัมมาสัมโพธิญาณอันยอดเยี่ยมในโลกพร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ เทวดาและมนุษย์’ อนึ่ง ญาณทัสสนะเกิดขึ้นแล้วแก่เราว่า ‘วิมุตติของเราไม่กำเริบ ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย บัดนี้ภพใหม่ไม่มีอีก” ทุติยปุพเพสัมโพธสูตรที่ ๒ จบ ![]() พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๘ ภาษาบาลี อักษรไทย พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๐ สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค ยมกวคฺโค ทุติโย [๑๓] ปุพฺเพ เม ภิกฺขเว สมฺโพธาย อนภิสมฺพุทฺธสฺส โพธิสตฺตสฺเสว สโต เอตทโหสิ โก นุ โข จกฺขุสฺส อสฺสาโท โก อาทีนโว กึ นิสฺสรณํ โก โสตสฺส ฯเปฯ โก ฆานสฺส ฯ โก ชิวฺหาย ฯ โก กายสฺส ฯ โก มนสฺส อสฺสาโท โก อาทีนโว กึ นิสฺสรณนฺติ ฯ ตสฺส มยฺหํ ภิกฺขเว เอตทโหสิ ยํ โข จกฺขุํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ อยํ จกฺขุสฺส อสฺสาโท ยํ จกฺขุํ อนิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ อยํ จกฺขุสฺส อาทีนโว โย จกฺขุสฺมึ ฉนฺทราควินโย ฉนฺทราคปฺปหานํ อิทํ จกฺขุสฺส นิสฺสรณํ ฯเปฯ ยํ ชิวฺหํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ อยํ ชิวฺหาย อสฺสาโท ยา ชิวฺหา อนิจฺจา ทุกฺขา วิปริณามธมฺมา อยํ ชิวฺหาย อาทีนโว โย ชิวฺหาย ฉนฺทราควินโย ฉนฺทราคปฺปหานํ อิทํ ชิวฺหาย นิสฺสรณํ ฯเปฯ ยํ มนํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ อยํ มนสฺส อสฺสาโท โย มโน อนิจฺโจ ทุกฺโข วิปริณามธมฺโม อยํ มนสฺส อาทีนโว โย มนสฺมึ ฉนฺทราควินโย ฉนฺทราคปฺปหานํ อิทํ มนสฺส นิสฺสรณํ ฯ {๑๓.๑} ยาวกีวญฺจาหํ ภิกฺขเว อิเมสํ ฉนฺนํ อชฺฌตฺติกานํ อายตนานํ เอวํ อสฺสาทญฺจ อสฺสาทโต อาทีนวญฺจ อาทีนวโต นิสฺสรณญฺจ นิสฺสรณโต ยถาภูตํ นาพฺภญฺญาสึ ฯ เนว ตาวาหํ ภิกฺขเว สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธติ ปจฺจญฺญาสึ ฯ ยโต จ โขหํ ภิกฺขเว อิเมสํ ฉนฺนํ อชฺฌตฺติกานํ อายตนานํ เอวํ อสฺสาทญฺจ อสฺสาทโต อาทีนวญฺจ อาทีนวโต นิสฺสรณญฺจ นิสฺสรณโต ยถาภูตํ อพฺภญฺญาสึ ฯ อถาหํ ภิกฺขเว สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธติ ปจฺจญฺญาสึฯ ญาณญฺจ ปน เม ทสฺสนํ อุทปาทิ อกุปฺปา เม วิมุตฺติ อยมนฺติมา ชาติ นตฺถิทานิ ปุนพฺภโวติ ฯ ปฐมํ ฯ ![]() ![]() ![]() พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๘ ภาษาบาลี อักษรไทย พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๐ สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค [๑๔] ปุพฺเพ เม ภิกฺขเว สมฺโพธาย อนภิสมฺพุทฺธสฺส โพธิสตฺตสฺเสว สโต เอตทโหสิ โก นุ โข รูปานํ อสฺสาโท โก อาทีนโว กึ นิสฺสรณํ โก สทฺทานํ ฯเปฯ โก คนฺธานํ ฯเปฯ โก รสานํ ฯ โก โผฏฺฐพฺพานํ ฯ โก ธมฺมานํ อสฺสาโท โก อาทีนโว กึ นิสฺสรณนฺติ ฯ ตสฺส มยฺหํ ภิกฺขเว เอตทโหสิ ยํ โข รูเป ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ อยํ รูปานํ อสฺสาโท ยํ รูปา อนิจฺจา ทุกฺขา วิปริณามธมฺมา อยํ รูปานํ อาทีนโว โย รูเปสุ ฉนฺทราควินโย ฉนฺทราคปฺปหานํ อิทํ รูปานํ นิสฺสรณํ ฯ ยํ สทฺเท คนฺเธ รเส โผฏฺฐพฺเพ ยํ ธมฺเม ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ อยํ ธมฺมานํ อสฺสาโท ยํ ธมฺมา อนิจฺจ ทุกฺขา วิปริณามธมฺมา อยํ ธมฺมานํ อาทีนโว โย ธมฺเมสุ ฉนฺทราควินโย ฉนฺทราคปฺปหานํ อิทํ ธมฺมานํ นิสฺสรณํ ฯ {๑๔.๑} ยาวกีวญฺจาหํ ภิกฺขเว อิเมสํ ฉนฺนํ พาหิรานํ อายตนานํ เอวํ อสฺสาทญฺจ อสฺสาทโต อาทีนวญฺจ อาทีนวโต นิสฺสรณญฺจ นิสฺสรณโต ยถาภูตํ นาพฺภญฺญาสึ ฯ เนว ตาวาหํ ภิกฺขเว สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อนุตฺตรํ สมฺมา สมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธติ ปจฺจญฺญาสึ ฯ ยโต จ โขหํ ภิกฺขเว อิเมสํ ฉนฺนํ พาหิรานํ อายตนานํ เอวํ อสฺสาทญฺจ อสฺสาทโต อาทีนวญฺจ อาทีนวโต นิสฺสรณญฺจ นิสฺสรณโต ยถาภูตํ อพฺภญฺญาสึ ฯ อถาหํ ภิกฺขเว สเทวเก โลเก สมารเก สพฺรหฺมเก สสฺสมณพฺราหฺมณิยา ปชาย สเทวมนุสฺสาย อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธติ ปจฺจญฺญาสึ ฯ ญาณญฺจ ปน เม ทสฺสนํ อุทปาทิ อกุปฺปา เม วิมุตฺติ อยมนฺติมา ชาตินตฺถิทานิ ปุนพฺภโวติ ฯ ทุติยํ ฯ ![]() อรรถกถา สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค สฬายตนสังยุตต์ ยมกวรรคที่ ๒ ๑. สัมโพธสูตรที่ ๑ ยมกวรรคที่ ๒ อรรถกถาสัมโพธสูตรที่ ๑-๒ ยมกวรรคที่ ๒ สูตรที่ ๑ และสูตรที่ ๒ มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้. บทว่า อชฺฌตฺติกานํ ได้แก่ ชื่อว่า อัชฌัตติกะ โดยที่เป็นภายใน. ก็ความที่อายตนะเหล่านั้นเป็นภายใน พึงทราบได้ก็เพราะฉันทราคะความกำหนัดด้วยอำนาจความพอใจมีกำลังเกินประมาณ. จริงอยู่ อายตนะภายในเหมือนภายในเรือนของพวกมนุษย์ อายตนะภายนอกเหมือนอุปจารใกล้ๆ เรือน คือ ฉันทราคะในภายในเรือนของพวกมนุษย์ที่เต็มไปด้วยลูกเมีย ทรัพย์และข้าวเปลือกมีกำลังเกินประมาณ. พวกมนุษย์ไม่ให้ใครๆ เข้าไปในที่นั้น. มีผู้กล่าวว่า จะประโยชน์อะไรด้วยเหตุเพียงเสียงภาชนะมีประมาณน้อยนี้ ฉันทราคะมีกำลังเกินประมาณในอายตนะภายใน ๖ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน. อายตนะเหล่านั้นท่านเรียกว่า ภายใน เพราะฉันทราคะมีกำลังนี้ด้วยประการฉะนี้. @@@@@@@ แต่ในอุปจารใกล้ๆ เรือน ไม่มีกำลังอย่างนั้น. มนุษย์ก็ดี สัตว์สี่เท้าก็ดีที่เที่ยวไปในที่นั้น ไม่มีใครห้ามเลย แม้จะไม่ห้ามก็จริง ถึงอย่างนั้น เมื่อไม่ปรารถนาก็ไม่ให้จับแม้เพียงตระกร้าขนดิน. ดังนั้น พวกเขาเหล่านั้นจึงไม่มีฉันทราคะมีกำลังเกินประมาณในที่นั้น. แม้ในรูปเป็นต้น ก็ไม่มีฉันทราคะที่มีกำลังเกินประมาณในที่นั้นเหมือนกัน ฉะนั้น ท่านจึงเรียกอายตนะเหล่านั้นว่า ภายนอก. แต่เมื่อว่าโดยพิสดาร อายตนะทั้งภายในและภายนอกได้กล่าวไว้แล้วในคัมภีร์วิสุทธิมรรค. คำที่เหลือในสูตรทั้ง ๒ มีนัยดังกล่าวแล้ว ในหนหลังนั่นแล. จบอรรถกถาสัมโพธสูตรที่ ๑-๒ ![]() ![]() ![]() พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ. ปยุตฺโต) อุปจาร เฉียด, จวนเจียน, ที่ใกล้ชิด, ระยะใกล้เคียง, ชาน, บริเวณรอบๆ ; ดังตัวอย่างคำที่ว่า อุปจารเรือน อุปจารบ้าน แสดงตามที่ท่านอธิบายในอรรถกถาพระวินัยดังนี้ อาคารที่ปลูกขึ้นร่วมในแค่ระยะน้ำตกที่ชายคาเป็นเรือน, บริเวณรอบๆ เรือนซึ่งกำหนดเอาที่แม่บ้านยืนอยู่ที่ประตูเรือนสาดน้ำล้างภาชนะออกไปหรือแม่บ้านยืนอยู่ภายในเรือนโยนกระด้ง หรือไม้กวาดออกไปภายนอกตกที่ใด ระยะรอบๆ กำหนดนั้นเป็นอุปจารเรือน บุรุษวัยกลางคนมีกำลังดี ยืนอยู่ที่เขตอุปจารเรือน ขว้างก้อนดินไป ก้อนดินที่ขว้างนั้นตกลงที่ใด ที่นั้นจากรอบๆ บริเวณอุปจารเรือน เป็นกำหนดเขตบ้าน, บุรุษวัยกลางคนมีกำลังดีนั้นแหละ ยืนอยู่ที่เขตบ้านนั้นโยนก้อนดินไปเต็มกำลัง ก้อนดินตกเป็นเขตอุปจารบ้าน; สีมาที่สมมติเป็นติจีวราวิปปวาสนั้น จะต้องเว้นบ้านและอุปจารบ้านดังกล่าวนี้เสีย จึงจะสมมติขึ้น คือ ใช้เป็นติจีวราวิปปวาสสีมาได้ ; ดู ติจีวราวิปปวาสสีมา ด้วย |