« ตอบกลับ #1 เมื่อ: สิงหาคม 18, 2014, 07:52:47 pm »
0
พระอธิการคึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล แห่งวัดนาป่าพง จ.ปทุมธานี ไม่มีใครที่ไม่รู้จักท่าน ผมเองได้มีโอกาสไป"มศว"พบเจอและสดับฟังธรรมในแบบฉบับของท่านแล้วต้องอึ้งแลฉงน อึ้งในความที่ท่านนั้นกล่าวเทศน์ให้พิจารณาเห็นถึงความสำคัญของพุทธวจนะ โดยเฉพาะสิกขาบท 150 ข้อ ที่พระพุทธองค์กล่าวบัญญัติไว้ครั้งเมื่อทรงพระชนม์ชีพ แม้จะทรงกล่าวตรัสฝากไว้ครั้งแต่ปลงอายุสังขารจวนจะเสด็จดับขันธ์แก่พระอานนท์ว่าให้ภิกษุสงฆ์ถือเอาพระธรรมวินัยเป็นศาสดาสิกขาบทใดสงฆ์เห็นสมควรจะตัดทอนลงบ้างก็ได้ แต่ในความเป็นจริงสงฆ์หาได้ตัดทอนลงแต่อย่างไรไม่กลับนับเนื่องเอาข้อเสขิยะวัตร 75 (ข้อพึงศึกษาว่า) และ อนิยต 2 ผนวกเข้าทั้งหมดเป็น 227 ในข้างฝ่ายเถรวาทมาจวบกระทั่งทุกวันนี้ แต่ด้วยความที่ท่านพระอธิการคึกฤทธิ์นั้นเดิมเป็นผู้คงแก่เรียนเพียรแต่ศึกษาปฏิเสธทุกตำราคัมภีร์ของสงฆ์เถระทั้งปวงที่มี และไม่นำเอามากล่าวอ้างด้วยเห็นว่าผิดวิปริตจากพุทธวจนะแล้วเทศน์กล่าวสอนศรัทธาญาติธรรมให้เชื่อตามอย่างแบบตนค้นให้เห็นจริงไม่ฟังใคร ซึ่งโดยตามธรรมเนียมพระสายวัดป่านั้นจะถือครูบาอาจารย์อย่างยิ่งยวด แต่ไฉนท่านพระอธิการคึกฤทธิ์เสมือนลืมอาจารย์ซะอย่างนั้น ผมพิจารณาแล้วประหลาดใจอยู่พอสมควร จริงจริงแล้วข้อวัตรปฏิบัติสงฆ์เท่าที่มีก็ประกอบด้วย ปาราชิก 4, สังฆาทิเสส 13, นิสสัคคียะปาจิตตีย์ 30, ปาจิตตีย์ 92, ปาฏิเทสนียะ 4, อธิกรณสมถะ 7, อนิยต 2 และ เสขิยะวัตร 75 สงฆ์จะต้องด้วยอาบัติก็มี ปาราชิก(อาบัติหนักขาดจากความเป็นสงฆ์ทันที), สังฆาทิเสส(อาบัติอย่างกลางต้องปริวาสอยู่กรรม), ปาจิตตีย์, ถุลลัจจัย, ทุกกฏ และ ทุพภาษิต(อาบัติขั้นเบาปลงประจานเสียต่อภิกษุ/สงฆ์ได้) ข้อที่ผมอยากให้สังเกตคือเสขิยะวัตร 75 เดิมเป็นเพียงให้ภิกษุศึกษาว่าเห็นควรหรือไม่แล้วจึงกระทำไม่นับเนื่องในพุทธบัญญัติเป็นเด็ดขาดแต่ครั้งทรงพระชนม์ชีพ หากแต่สงฆ์ปฐมสังคายนานำมาผนวกเนื่องเข้าในสิกขาบทปรับเป็นทุกกฏ ในส่วนที่เป็นเพียงศึกษาว่านั้นให้ใช้กับสามเณรไปซะ ในส่วนของอนิยต 2 นั้นเป็นเพียงแต่ไม่แน่นอนขั้นสงสัยใกล้เคียงเสมือนถูกปรักปรำไม่มีมูลคือต้องรอพยานชี้มูล กรณีอย่างท่านพระอธิการคึกฤทธิ์นั้น ถ้าเป็นอดีตคงแยกนิกายไปอย่างมหายานแต่นี่เป็นเถรวาทจะผิดแผกแปลกไปมากกว่านี้คงยอมให้เป็นไปไม่ได้แล้วนั่นเอง หรือเพื่อนๆเห็นต่างครับ.!