ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ฝ่าฝืนไล่จากวัด! มส.ตอบกลับ ศธ. ยัน ห้าม"พระ-เณร"เรียนช่าง-สอบเข้าราชการ-ชิงทุน  (อ่าน 2718 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29398
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



ฝ่าฝืนไล่จากวัด! มส.ตอบกลับ ศธ. ยัน ห้าม"พระ-เณร"เรียนช่าง-สอบเข้าราชการ-ชิงทุน

มส.ยันไม่ผ่อนปรน "พระ-เณร" เรียนช่าง-สอบแข่ง แม้ ศธ.ทำหนังสือขอ

นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า กรณีสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้นำคำสั่งของมหาเถรสมาคม (มส.) เรื่องห้ามพระภิกษุสามเณรเรียนวิชาชีพ หรือสอบแข่งขัน หรือสอบคัดเลือกอย่างคฤหัสถ์ พ.ศ.2538 ขึ้นบนเว็บไซต์ของ สพฐ.โดยออกคำสั่งห้ามพระภิกษุสามเณรเรียนวิชาชีพ หรือสอบแข่งขันอย่างคฤหัสถ์ ในโรงเรียน หรือสถานที่ต่างๆ ปะปนกับชาย-หญิง และห้ามสอบคัดเลือกเพื่อเข้ารับราชการ และสอบชิงทุนจากรัฐบาล ถ้าพระภิกษุสามเณรรูปใดฝ่าฝืน เมื่อเตือนแล้วไม่ฟังจะถูกจัดการให้ออกจากวัด ส่วนในระดับพระสังฆาธิการ ให้เจ้าคณะสังกัดพิจารณาลงโทษฐานละเมิดจริยาพระสังฆาธิการตามาควรแก่กรณี นั้น

จริงๆ แล้วมติดังกล่าวไม่ใช่คำสั่งห้ามพระภิกษุ หรือสามเณรเรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน แต่ห้ามภิกษุ หรือสามเณร ไปสอบแข่งขันเรียนต่อทางวิชาชีพ หรือสอบเข้ารับราชการอย่างคฤหัสถ์ หรือคนทั่วไป เพราะจะเกิดความไม่เหมาะสม แสดงให้เห็นว่าภิกษุรูปนั้นไม่มีความประสงฆ์ที่จะบวชเรียนในพระธรรมวินัย


 :96: :96: :96: :96:

ซึ่งคำสั่งดังกล่าวออกมาตั้งแต่ปี 2538 และกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เคยมีหนังสือเพื่อสอบถามไปยัง มส.ขอให้ผ่อนปรน ให้พระภิกษุ หรือสามเณรสามารถสอบเข้าเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย หรือสอบเข้ารับราชการ หากสอบได้ค่อยลาสิกขา หรือสึกจากการเป็นพระภายหลัง แต่ มส.ยืนยันคำสั่งเดิม เพราะเห็นว่าไม่เหมาะสม ถือเป็นความผิดอาจทำให้เกิดข้อครหา หรือในธรรมเรียกว่า โลกะวัชชะ 


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1430805460
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

นักเดินทาง

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 695
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เรียนวิชาช่าง มันก็มีความสำคัญ นะ ถ้าไม่ให้เรียน แต่ใช้ให้ทำงานช่าง พระเณร ก็ทำงานแบบพึ่งตนเองไปสินะ เมื่อก่อน วิชาช่างที่ผมเห็นพระไปเรียนกันมาก ก็คือ ซ่อมวิทยุ โทรทัศน์ นะ เดี๋ยวนี้ก็น่าจะเป็น ซ่อม คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต ช่างแอร์ ไฟฟ้า ช่างเชื่อม ช่างยนต์ ดู จิตภาวันวิทยาลัย สมัย อจ.กิตติวุฑโฒ อยู่สิครับ มีทุกช่าง นะครับ

  ผมว่า ไร้สาระ นะครับ เพราะทุกวันนี้ ที่พระเณร เรียน ป. ตรี โท เอก สายสามัญ ก็เพราะว่า จะนำไปเรียนต่อ ทำงานกันทั้งนั้นแหละครับ ผมมีประสบการณ์ ในโรงเรียน บุญวาทย์ ที่ลำปาง พระเณร เรียนสายสามัญก็เพราะว่า ต้องการไปเรียนต่อ ในสาย ป.ตรี และ ลาสิกขา ออกมาทำงาน กันนั่นแหละครับ

   ถ้างดประกาศอย่างนี้ รับรอง พระเณร จะน้อยลงไปอีกมาก ก็ต้อง อยู่ที่ คณะสงฆ์ ส่งเสริม การศึกษา สายสามัญไปเพื่ออะไร กันแน่ ครับ

   :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0


สมัยเมื่อผมบวชเป็นสามเณร สามเณรเข้าเรียน กศน กันได้เพียง ม ต้น ไม่สามารถเรียนได้ในชั้น ม ปลาย แต่แท้แล้วสามเณรมีไม่น้อยจากอีสานที่ไม่มีโอกาสและเงินทุนที่จะศึกษาเล่าเรียนกันสูงๆ ดังนั้นอนาคตเยาวชนบ้านไร่บ้านทุ่งโนนราบสูงก็ต้องมาเป็นเณรเรียนธรรม/บาลี แบบเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็มีฝันกันในเรื่องอนาคตในหน้าที่การงานราชการอย่างเช่น "อนุศาสน์" กองทัพบก, ครู, ช่างฝีมือ(กรณีนี้หมดหนทางเลือก) การนำเสนอให้เป็นไปในรูปแบบดังกล่าวนั้นก็เพียงการแก้ไขหาหนทางแก่เยาวชนที่ไม่ปรารถนาเส้นทางเดินสายธรรม(เรียนบาลีไม่เก่งสอบเปรียญไม่ได้) การปิดกั้นรั้งหนทางแก่น้องเณรเยื่องอย่างนี้มีข้อดีข้อเสียคิดเอา ทุกวันนี้พระหนุ่มเณรน้อยขวนขวายตามสังคมปรามาสต้องออกมามีบทบาททางสังคมมีช่วยแบกปูนหามไม้สาธารณกันวุ่นวาย เดี๋ยวจะหาว่าขอข้าวชาวบ้านกินเปล่า สบายไม่ทำงานเป็นกาฝากสังคม เรื่องดีดีไม่เล่า แต่เรื่องเน่าเล่าไม่เลิก นี่ผมจึงว่าเราใช้สถาบันศาสนาส่งเสริมปริยัติด้านการศึกษาไปมาก พระเณรขาดการใส่ใจเพียรวิปัสสนา พระศาสนาก็เพียงหนึ่งองค์กรสังคมที่ต้องตอบสนองไปในทางโลกเสียมาก พระศาสนามีผู้ที่จะธำรง "พุทธวงษ์" กันนั้นมีกี่มากน้อยกัน ใครเด่นเสนอหน้าก็ด่าผ่านเฟคเป็นกันซะอย่างนั้น รู้ไหมว่าพระศาสนาได้เสื่อมลงแล้ว เหลือเพียงสัญลักษณ์ริ้วธงที่คงไว้อย่างน่าละอายในคำกล่าวว่าตนคือชาวพุทธ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 05, 2015, 09:40:10 pm โดย ธุลีธวัช (chai173) »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา