เคยอ่านตำรา มามากมาย บางอย่างก็แต่งขึ้นแต่ไม่ปรากฎว่ามีที่มาจากพระไตรปิฎก
เลยต้องฟังหูไว้หู พิจารณาก่อนดีกว่าเชื่อไปตามตำรา
เช่น อุปกิเลส วิปัสสนูกิเลส
คำว่ากิเลส เป็นอะไรที่เข้าใจง่ายๆ
๑) วิปัสสนูปกิเลส ไม่ใช่คำที่พระพุทธเจ้าบัญญัติขึ้น
แต่เป็นศัพท์ใหม่ของคัมภีร์ชั้นหลัง
เป็นสิ่งที่มีอยู่จริง และเกิดขึ้นกับนักภาวนาทั่วไป
๒) วิปัสสนูปกิเลส แท้จริงไม่ใช่กิเลสที่เกิดขึ้นกับผู้ปฏิบัติวิปัสสนาอย่างถูกต้อง
ได้ผลบางอย่างที่ดี
แต่เป็นสภาพน่าชื่นชม
ทำให้คนที่เจริญสติน้อย คนที่มีสติหลงลืม
เกิดความติดใจ ราคะ ไม่ทำให้อยากไปไกลเกินกว่านั้น
หรือบางทีถึงขั้นเข้าใจว่าเป็นการบรรลุมรรคผล
ขอให้ดูนิยามตามคัมภีร์ชั้นหลังซึ่งเป็นต้นบัญญัติว่าไว้ดังนี้ครับ
วิปัสสนูปกิเลส อุปกิเลสแห่งวิปัสสนา
สภาพน่าชื่นชม
ทำให้คนที่เจริญสติน้อย คนที่มีสติหลงลืม
เกิดความติดใจ ราคะ ไม่ทำให้อยากไปไกลเกินกว่านั้น
ทำให้เข้าใจผิดว่าตนบรรลุมรรคผลแล้ว
จึงไม่ดำเนินก้าวหน้าต่อไปในวิปัสสนาญาณ มีอยู่ ๑๐ อย่างคือ
๑. โอภาส แสงสว่าง ๒. ปีติ ความอิ่มใจ ๓. ญาณ ความรู้
๔.ปัสสัทธิ ความสงบการและจิต ๕. สุข ความสบายกายสบายจิต
๖. อธิโมกข์ ความน้อมใจเชื่อ ๗. ปัคคาหะ ความเพียรที่พอดี
๘.อุปัฏฐาน สติชัด ๙. อุเบกขา ความวางจิตเป็นกลาง ๑๐. นิกันติ ความพอใจ
