ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ผมสอนลูกเสมอว่าคนเรามี 2 ประเภท ในการสืบต่อพระพุทธศาสนา  (อ่าน 2668 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

นัยนา

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 191
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ผมสอนลูกเสมอว่าคนเรามี 2 ประเภท 

ประเภทแรกสามารถแจกแจงความผิดพลาดของคนอื่นได้หมด  รู้ว่าคนอื่นไม่ดีอย่างไร  ควรปรับปรุงอย่างไร  แต่ความผิดของตนไม่เห็น  ไม่แก้ไข

กับประเภทที่สองที่ไม่สนความผิดคนอื่นเท่ากับมุ่งมั่นในการปรับปรุงตัวเอง

มีคนอย่างประเภทแรกมากๆ สังคมไม่เจริญขึ้น เพราะไม่มีใครแก้ไข  มัวแต่หวังให้คนอื่นแก้ไข

ผมสอนให้ลูกเป็นประเภทที่สองครับ  ไม่ต้องรอให้ใครแก้ไขอะไร  เราทำอะไรได้  ทำเองเลย  เพิ่มคุณแค่ให้ทั้งตนเองและสังคม

ที่เขียนอย่างนี้เพราะเห็นคนหลายคนชอบเพ่งโทษพระ  แล้วก็มาสรุปว่าศาสนาพุทธเสื่อม

พระพุทธเจ้าท่านฝากศาสนาของท่านไว้กับพุทธบริษัทสี่นะครับ
นอกจากภิกษุและภิกษุณีแล้ว  อุบาสกและอุบาสิกาก็มีหน้าที่นะครับ

สำหรับ ผม  ต่อให้ภิกษุสวนใหญ่ไม่ทำหน้าที่  ถ้าอุบาสกและอุบาสิกายังรู้และปฏิบัติหน้าที่พุทธศานิกชนที่ดี  ศาสนายังไม่สาบสูญไปง่ายๆ หรอกครับ

แต่การชี้นิ้วออกนอกตัว  ไม่เห็นในหน้าที่ตนเองอย่างนี้ต่างหาก  ที่ทำให้ศาสนาเสื่อม

จากคุณ \\ : Pee Kay

บันทึกการเข้า

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
สำหรับ ผม  ต่อให้ภิกษุส่วนใหญ่ไม่ทำหน้าที่  ถ้าอุบาสกและอุบาสิกายังรู้และปฏิบัติหน้าที่พุทธศานิกชนที่ดี  ศาสนายังไม่สาบสูญไปง่ายๆ หรอกครับ


ประโยคนี้ผมถือว่าสำคัญ ปัจจุบันพระสงฆ์ศึกษาร่ำเรียนทั้งคดีโลกและคดีธรรมมาก มากจนห่างหายจากการ

ภาวนา หากแต่สวนทางกับอุบาสก/อุบาสิกา ที่ขวนขวายไปสู่วิถีภาวนามากกว่า เพียงขอให้มีสงฆ์ผู้นำชี้แนว

ทางเดิน โลกยุคต่อไปข้างหน้าคงต้องอาศัยอุบาสก/อุบาสิกา รักษาแนวทางภาวนาเป็นพระอนาคามีเป็นแน่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 14, 2011, 05:35:14 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา