แทบหมดกำลังใจเลย!
เรื่องมีอยู่ว่า ครูของนีย์ที่เคารพและขอคำปรึกษาบ่อย ๆ เป็นครูเกษียณแล้ว คุณครูมีชื่อว่า พัส ( สมมุติ )
นีย์ เรียกครูผู้นี้ว่า ครูพัส ......
ตอนที่ครูพัส เกษียณก็เลือกเก็บเป็นบำนาญ เพราะว่าเป็นครูระดับอาวุโส เงินบำนาญที่ได้จึงตกเป็นเดือน ๆ ละประมาณ 20000 กว่าบาท
ครูพัสเป็นครูที่มัธยัสถ์ สันโดษในสิ่งที่มี เงินเดือนคุณครูบวกกับหลักทรัพย์ของคุณครูนั้นทำให้ไม่มีเรื่องที่ต้องใช้เงินเท่าไหร่
พืชผักก็ปลูกกินเอา ข้าวก็ซื้อพอตนเองได้อยู่ได้ทาน ได้เที่ยว เนื่องจากครูพัสนั้นเป็นครูโสด พ่อแม่ ก็เสียชีวิตแล้ว พี่น้องก็ไม่มีเป็นลูกคนเดียว
ทรัพย์สมบัติเรียกว่าไม่เดือดร้อน
หลังจากครูพัส ได้เกษียณไปเป็นเวลา 3 ปีเงินเดือนบำนาญที่ไม่ค่อยได้ไปถอนนั้นก็มียอดในบัญชีราว ๆ 600,000 กว่าบาท
ซึ่งครูพัสจะนำเงินส่วนนี้ไปสร้างบ้านหลังใหม่ หลังจากที่คุยแบบกับช่างเรียบร้อยแล้ว ครูพัสก็ตกลงทำสัญญาก่อสร้าง
แล้วจึงได้ไปถอนเงินที่ธนาคาร ซึ่งคุณครูคำนวณเงินไว้เรียบร้อยแล้วว่ามีเหลือเฟือ
พอไปถึงธนาคาร คุณครูพัส ได้ถอนเงินออกมาด้วยยอด 500,000 บาท แต่ครูพัสตกแทบตกใจเพราะเจ้าหน้าที่ธนาคารบอกว่า
เงินได้ถูกถอนไปใน 3 เดือนที่ผ่านมาด้วยคุณครูเอง ครูพัสก็ได้ชี้แจงว่าบอกเจ้าหน้าที่ว่า ครูนั้นไม่เคยไม่เคยมาถอนเงินเลย
โดยเฉพาะการถอนเงินต่างสาขา
สรุปคุยกันไม่รู้เรื่องเท่าไร เพราะเจ้าหน้าที่ก็ยืนยัน ตามที่สาขารับแจ้งมาว่าผู้ถอนได้ใช้บัตรประชาชนด้วยถูกต้อง
ความต้องถึงตำรวจแล้ว ครูพัสได้แจ้งความให้เจ้าหน้าที่ติดต่อประสานงานไปที่ธนาคารสาขา ที่เงินได้ถูกถอน
ชึ่งจากกล้องวงจรปิดนั้นก็ได้เห็นหน้าตาคนถอน ซึ่งไม่ใช่ครูพัส แต่ได้แสดงบัตรประชาชนชื่อเดียวกับครูพัสเป็นผู้หญิงกลางคนดูอ่อนกว่า
อายุในบัตรมาก
สุดท้ายก็เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการกันต่อไปทุกวันนี้ ครูพัสยังไม่ได้เงินคืนเลยคะ ผ่านมา 2 ปีแล้ว
ครูพัสเล่าให้ฟังน้ำตานองหน้า เห็นแล้วหน้าเวทนาเหมือนกัน
สาเหตุที่คนร้ายสามารถถอนเงินได้นั้น
1.มีสมุดธนาคาร ซึ่งได้ขโมยมาจากบ้านครูนั่นเอง
2.ทำบัตรประชาชนปลอม
3.หัดปลอมลายเซ็นตามหลังสมุด
4.ถอนเงินต่างสาขา เป็นต่างจังหวัด
==================================
กลับมาในเรื่อง กฏแห่งกรรม
เพราะว่า นีย์ ได้ไปบ่นเรื่องของเสีย ที่ทะยอยกันเสีย และเงินไม่มี
คุณครูก็เลยเล่าเรื่องของคุณครูให้ฟัง
เลยเอามาเล่าในห้องกฏแห่งกรรมด้วยคะ