ถ้าเจอแบบนี้ ก็ต้องให้นึกถึง ธรรมข้อแรกก่อน
1. อดทน อดกลั้นต่อสิ่งที่ทำให้เกิดความไม่พอใจ นักปฏิบัติธรรมส่วนใหญ่ รวมทั้งอาตมาเองก็เคยพลาดตรงนี้มาแล้ว คือ เมื่อเราเจอคนไม่ดี และ ก็อยากให้เขาเป็นคนดี ก็หาวิธีการที่จะให้เขาเป็นคนดี สุดท้ายก็ไม่สามารถทำให้เขาเลิกหลอกลวง ข่มขู่ หรือสิ่งไม่ดีได้ นั่นหมายถึง ความไม่พอใจที่กำลังกรุ่นอยู่ในใจ หรือเรียกง่าย ๆ ว่า ติดดี การติดดี เป็นทุกข์เช่นกัน เพราะเท่ากับมีความปรารถนาอยากให้เขาเป็นคนดี หรือดี ไม่ได้ดั่งใจ ก็สร้างความทุกข์ให้แก่จิตใจแก่เรา
2.สติ ตามระลึก รู้ตัว ตรวจสถานะของเราว่าเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะไปเปลี่ยนแปลงคนอื่นได้ด้วยคุณธรรม ถ้าตรวจสถานะแล้วไม่ได้ ก็ สัมปชัญญะ คือรู้ตัวเสียว่าเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นควรจะหลีกเลี่ยง จากคนเหล่านี้ ไม่มีความจำเป็นต้องเผชิญหน้า ต่อคนเหล่านี้ บางท่านคิดว่าการทำเยี่ยงนี้เป็นการหนีปัญหา ถ้ามองอย่างนั้นก็ดูเหมือนจะใช่ แต่ความจริงก็คือ บางครั้งกำลังของเราก็ไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงอะไรได้ในเหตุการณ์ต่าง ๆ ดังนั้นจะสังเกตว่า นักปฏิบัติธรรมส่วนใหญ่ จะหลีกเลี่ยงการเผชิญปัญหาที่แก้ไม่ได้ ด้วยศานติ เพื่อรักษา ศานติ ไว้
เรื่องนี้มีความสำคัญ เพราะบางคนยึดติดกับคำว่าแพ้ หรือ ชนะ กันมากเกินไป จึงไม่สามารถสะสางปัญหาได้ ทุกวันนี้อาตมาเองก็เจอะเจอปัญหา เรื่องแพ้ ชนะ อย่างนี้มากกันพอสมควร ซึ่งในใจสติ จะบอกว่า มันไร้สาระจริง ๆ
3.ปัญญา การแก้ไขเหตุการณ์ บางครั้งก็ต้องดูสถานการณ์ บางครั้งเราเป็นคนถูกก็ไม่ใช่ว่าจะต้องยืนกรานว่าเราถูก เขาต้องผิดประมาณนี้ เพราะบางครั้งการเป็นคนถูกก็ไม่ใช่การแก้ปัญหา เพราะปัญหาการหลอกลวง ข่มขู่ นี้มาจากการต้องการชนะ หรือ กดดันข่มเหงเป็นหลัก ดังนั้นใช้ปัญญาให้ถูกสถานการณ์
4.ทาน ให้ พยายามให้ก่อน จนถึงที่สุดให้ อภัย
ก็เป็นคุณธรรมที่พอจะนำไปใช้ได้ ในชีิวิตประจำวัน
