ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พระสงฆ์ควรพูดเรื่องโลกหรือไม่.!!  (อ่าน 2618 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29339
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
พระสงฆ์ควรพูดเรื่องโลกหรือไม่.!!
« เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2014, 08:17:43 am »
0


พระสงฆ์ควรพูดเรื่องโลกหรือไม่.!!
โดย...พระอาจารย์อารยะวังโส

ปุจฉา
ได้อ่านข่าวเห็นพระภิกษุออกมาพูดจา และมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับทางการเมือง หรือมีการเทศนาในเรื่องการเมืองใคร่อยากจะเรียนถามว่าเป็นกิจของสงฆ์หรือไม่...ท่านพระอาจารย์มองปัญหาดังกล่าวอย่างไร.!?


วิสัชนา
ขอเจริญพรสาธุชนผู้มีศรัทธามั่นคงในพระพุทธศาสนา เทศกาลสงกรานต์เพิ่งผ่านพ้นไป ชาวไทยส่วนใหญ่ได้กลับไปสู่ตระกูล เพื่อร่วมทำบุญกุศลเนื่องในเทศกาลปีใหม่ไทย สืบสานประเพณีวิถีพุทธ รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ เพื่อขอขมาลาโทษหากเคยล่วงเกิน และเพื่อขอพร อันหมายถึง คำสั่งสอน ที่จะได้นำไปใช้ในการดำเนินชีวิต เป็นกำลังใจในการต่อสู้ต่อไป เพื่อขจัดอุปสรรคปัญหาทั้งปวงที่ชีวิตต้องเผชิญ

การได้รับคำแนะนำสั่งสอน...การได้รับพรอันประเสริฐ...การได้รับกำลังใจที่เป็นเลิศ เป็นยอดปรารถนาของสัตว์เราทั้งหลาย ซึ่งจะต้องเปิดใจให้กว้างต่อการน้อมรับคำสั่งสอน อันมีคุณประโยชน์ไม่ว่าจะในเชิงดุด่าว่ากล่าวตักเตือน หรือคำชมเชยสรรเสริญเยินยอ โดยให้มองลงไปในรายละเอียดแห่งคำพูดดังกล่าวว่ามีคุณประโยชน์หรือไม่เป็นสำคัญ...ไม่ใช่อยู่ที่คำชมหรือคำกล่าวติเตียน ซึ่งไม่ว่าจะเป็นคำชมหรือคำติเตียน หากผู้กล่าวมีเจตนาดีในคำพูดเหล่านั้น มักจะมีคำแนะนำตักเตือนแฝงอยู่ อันให้ผู้รับตั้งตนดำรงชีวิตอยู่ในความไม่ประมาท


 :25: :25: :25:

ในพระพุทธศาสนา การพูดจาว่ากล่าวจึงถูกกำกับโดยศีล ที่ห้ามพูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบกล่าวคำเหลวไหลไร้สาระ ซึ่งหากเป็นพระภิกษุก็ต้องลงลึกไปในความเป็นสัมมาวาจา หรือวจีสุจริต หมายถึง งดเว้นการพูดทุจริตโดยเจตนา และจะต้องศึกษาลงไปในพุทธปฏิปทาว่าเป็นอย่างไร อันพระภิกษุสงฆ์ควรถวายความเคารพด้วยการดำเนินตาม

ดังที่ทรงมีพุทธดำรัสว่า...ตถาคตกล่าวคำจริง มีประโยชน์ แม้บางครั้งไม่ไพเราะอ่อนหวาน จะพึงรู้กาลอันควรกล่าว และจะกล่าวคำจริง มีประโยชน์ ไพเราะอ่อนหวานสมานมิตรโดยปกติ ส่วนคำกล่าวที่จริง แต่ไม่มีประโยชน์จะไม่กล่าวเลย จึงไม่ต้องกล่าวถึง การกล่าวคำไม่จริง...

 :96: :96: :96:

ที่สำคัญในพระพุทธศาสนาให้รู้จักความควรพูด กาลควรกล่าว อันเป็นไปเพื่อประโยชน์โดยธรรมเป็นสำคัญ เช่น จะต้องพูดเพื่อสนับสนุนความมักน้อย ความสันโดษ ความปลีกหลีกเร้น ความไม่คลุกคลีความเพียรอันยิ่ง การพูดในเรื่องของศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติ และญาณทัศนวิมุตติ และจะต้องพูดด้วยความเมตตากรุณา การพูดใดๆ ของพระภิกษุในพระพุทธศาสนา จึงไม่ส่งเสริมไปทางการมุ่งสู่โลกธรรม

จึงไม่พูดกล่าวใดๆ ที่นำไปสู่การให้คุณชี้โทษแบบโลกๆ ซึ่งในทางตรงข้ามจะต้องพูดด้วยคำมงคล ที่นำไปสู่การให้สติปัญญา บำรุงขวัญกำลังใจให้หมู่ชนเกิดความศรัทธาในพระพุทธศาสนาเพื่อชักชวนกันประกอบการกุศลกรรมยิ่งขึ้น... คำว่า คำมงคล นั้น หมายถึง ลักษณะคำดุด่า หรือคำสรรเสริญก็ได้ทั้งสองประการ นัยสำคัญอยู่ที่เจตนา



ดังนั้น หากคำกล่าวนั้นมุ่งไปสู่ประโยชน์โดยธรรม เพื่อประโยชน์ของมหาชน... เพื่อสนับสนุนให้รู้รักสามัคคีในหมู่ชน ก็คงไม่แปลกที่พระภิกษุจะพูด แม้จะเป็นเรื่องสังคม การเมือง แต่จะต้องพูดอย่างมีหลักธรรมชี้ชัด แสดงให้เห็นอย่างแจ่มแจ้ง ไม่คลุมเครือว่าต้องเป็นไป*เพื่อความยุติธรรม...จึงหมายถึง ผู้พูดโดยเฉพาะ พระภิกษุ จะต้องมีพรหมวิหารธรรมรักษาจิต อบรมภาวนาด้วยเมตตากรุณา มุทิตา อุเบกขา อยู่ตลอดเวลา เรียกว่า มีกรรมฐานบริหารจิตด้วยพรหมวิหารธรรม...จนเกิดคุณธรรมประเสริฐรักษาจิตให้มีสติปัญญา ละวางอคติธรรมได้สิ้น

การพูดกล่าวใดๆ ที่มีจิตใจสงบเยือกเย็นเปี่ยมล้นด้วยพรหมวิหารธรรม จึงไม่เป็นโทษภัยกับผู้ใดเพราะผู้กล่าวจะรู้ความควรรู้กาลควร ที่มุ่งสู่ประโยชน์โดยธรรม จะไม่กล่าวด้วยความลำเอียง(อคติธรรม) จากธรรม จนเสียความยุติธรรม ด้วยอำนาจฉันทาคติ โทสาคติ โมหาคติ และภยาคติซึ่งเป็นวิสัยของปุถุชน หมายถึง *คนหยาบ...คนหนา!!

 st12 st12 st12

ประเด็นสำคัญจึงอยู่ที่หลักธรรมตามที่กล่าวมา ซึ่งจะเป็นคำตอบได้ว่า พระภิกษุควรพูดอย่างไร ในความเกี่ยวเนื่องกับเรื่องโลกๆ ไม่ว่าจะเป็นสังคม การเมือง เศรษฐกิจ จะควรพูดหรือไม่ควรพูดจะควรเกี่ยวข้องอย่างไรที่ไม่เสียต่อสมณสารูป ก็อยู่ตรงหลักธรรมตามที่กล่าวมาเป็นข้อพิจารณา ซึ่งสาธุชนควรทำความเข้าใจในเจตนา และเนื้อหาสาระที่พูดเป็นสำคัญ อย่าเพิ่งด่วนชี้โทษ หรือชื่นชมยินดี เดี๋ยวจะลงนรกตามไปด้วย ไม่ได้ประโยชน์อะไร... พึงรู้จักวินิจฉัยโดยคำนึงถึงเจตนาเป็นหลัก... เจตนานี่แหละ คือ ตัวศีล... ศีล คือ เจตนา และเจตนา คือ ตัวบ่งชี้ถึงกรรม

เมื่อเข้าใจสมณธรรม ในเรื่องการพูดจาแล้วก็ย่อมจะเข้าใจถึงสมณสารูป อันรวมถึง สมณวิสัยหรือพฤติกรรมของพระภิกษุอันควรดำเนินตามอริยวินัย ตรงนี้แหละเป็นตัวชี้เป็นชี้ตาย ความเป็นสมณะหรือไม่... ซึ่งจะต้องศึกษาในสิกขาบท ๒๒๗ สิกขาบท ในปาฏิโมกขสังวรศีล รวมถึงอินทรียสังวรศีล อาชีวปาริสุทธิศีล และปัจจัยสันนิสิตศีล โดยเฉพาะอาชีวปาริสุทธิศีล จะเป็นตัวแสดงอาชีพของพระภิกษุในพระพุทธศาสนานี้ ที่จะไม่ประกอบอาชีพด้วยเดรัจฉานวิชา ได้แก่ ศิลปวิทยา

นอกพระพุทธศาสนาชนิดใดชนิดหนึ่ง ซึ่งไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ซึ่งมีรวบรวมไว้ถึง ๑๕๓ ชนิด ที่แสดงเดียรัจฉานวิชา หนึ่งในนั้น*คือการรับจ้างพูด หรือ*พูดเพื่อแสวงหาประโยชน์ทางโลกธรรมหรือการพูดโดยมีเจตนาโอ้อวด...ซึ่งนั่นไม่ใช่พระภิกษุในอริยวินัยนี้อย่างแน่นอน...

     เจริญพร


ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.posttoday.com/ธรรมะ-จิตใจ/290177/พระสงฆ์ควรพูดเรื่องโลกหรือไม่-
http://www.dhammadelivery.com/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: พระสงฆ์ควรพูดเรื่องโลกหรือไม่.!!
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2014, 02:06:41 pm »
0
          

สงฆ์คันถธุระ ข้างฝ่ายปริยัติคามวาสี มีที่ผมเห็นโดดเด่นคือ ท่าน ว.วชิรเมธี พูดเรื่องธรรมระคนโลกได้เก่งถือได้ว่าเป็นปราชญ์ แต่ก็ยังห่างหากจะเทียบเคียงพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.ปยุตฺโต) ผมนั้นประหวั่นว่าสงฆ์จะขวนขวายกล้ำกรายเฉียดโลกมากและมากขึ้น ซึ่งก็เด่นเห็นชัดแล้วอย่างหลวงปู่พุทธอิสระ แนวโน้มพระสงฆ์ไทยจะกลายและบานปลายวุ่นวายไม่พิพ้ฒน์แต่จะพิบัติในอนาคตแต่นี้ไปเป็นแน่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 21, 2014, 02:33:46 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา