ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: แนวทางของสวนโมกข์ คืออะไร.? : วิปัสสนาบนหน้าข่าว  (อ่าน 4536 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

แนวทางของสวนโมกข์คืออะไร? : วิปัสสนาบนหน้าข่าว
โดย พิสุทธิ์ เกรียงบูรพา เรื่อง ศูนย์ภาพเนชั่น ภาพ

      "Yesterday solution is today problem!"

คำของวิทยากรท่านหนึ่ง แว่วเข้ามาในห้วงคำนึงของผม ในสัมมนาครั้งนั้น ท่านกำลังวิเคราะห์กลยุทธ์ รูปแบบทางการเมือง ที่มักเริ่มต้นด้วย ความพยายามที่จะแก้ไขให้บ้านเมืองดีขึ้น แต่แล้วก็ฝังความเห็นแก่ตัว แอบเอามาพัวพันไปด้วยเสียทุกที เพราะฉะนั้นเวลายิ่งแก้ มันก็เลยจะยิ่งยุ่ง พันตู เข้าไปทุกที ไม่ต่างกับลิงแก้แห ด้วยเหตุนี้และเหตุนี้ กระสุนดินดำ สรรพเงินงบประมาณมากมาย จึงถูกโยกไหลเข้าไปกระเป๋าใครต่อใคร ร่ำรวยกันเป็นเฉพาะที่ เฉพาะบุคคล สุดท้ายบ้านเมืองของเราจึงไม่พัฒนาไปถึงไหนซักที ก็เป็นเพราะหลัก อิทัปปัจจยตาง่ายๆ ... ความหมายของข้อความข้างบนก็คือ ด้วยเหตุแห่งการหา วิธีแก้ปัญหาอย่างผิดๆ ของวันนี้ จึงเกิดเป็นปัญหาคือผลของพรุ่งนี้ หรือวิธีแก้ปัญหา (ที่ขาดสัมมาทิฏฐิ) ของเมื่อวาน กลายเป็นปัญหาของวันนี้ ฉันใดฉันนั้น


 :96: :96: :96: :96: :96:

ขณะนี้กระแสข่าววัดธารน้ำไหล หรือสวนโมกขพลาราม โด่งดังมากขึ้นอย่างผิดหูผิดตา หลังจาก ๒๑ ปีแห่งการจากไปของท่านพุทธทาส ก็เพราะมีแกนนำระดับตำนานเข้าไปบวช แฟนคลับมากมาย จึงได้หลั่งไหล ตามไปเฝ้าใส่บาตร สัมภาษณ์ กันอย่างเนืองๆ ด้วยความเป็นแม่เหล็กของพระท่านนี้ ไม่นานก็ประพฤติตัวคล้ายจะเป็นตัวแทนของสวนโมกข์ทั้งคณะไปโดยปริยาย หลายคนที่อาจจะเพิ่งรู้จักวัดสวนโมกข์ จากสื่อเหล่านี้ เกรงว่าจะเข้าใจผิด คิดว่าท่านเป็นเจ้าอาวาส เสียเอง

กระทั่งผมเห็นภาพในข่าว ที่พระรูปนี้ ไปยืนติดดาว ประดับยศให้นายตำรวจ สิ่งที่มิใช่กิจสงฆ์ ทั้งมิได้เหมาะสมแก่สมณสารูปแห่งพุทธสาวก ปรากฏแก่ลูกพระ ผู้โด่งดังจากสวนโมกข์ ซะแล้ว ...

 :25: :25: :25: :25: :25:

ศิษยานุศิษย์ หรือผู้ได้รับอิทธิพล ปาฏิหาริย์จากอรรถาธิบายธรรมของท่านอาจารย์พุทธทาส ทุกท่าน ทุกคนต่างก็ทราบดี ถึงแนวทางการก่อตั้งสวนโมกข์ เพื่ออะไร, ธรรมะแท้ ธรรมตรง แก่นพุทธศาสน์อันบริสุทธิ์ เพื่อให้ชาวพุทธเลิกมัวเมา แม้สวรรค์สมบัติก็ไม่เอา หมายมุ่งแต่เพียงวิมุตติธรรม การหลุดพ้น ดับทุกข์สิ้นเชิง โดยถ่ายเดียว ท่านไม่สนด้วยว่า สวนโมกข์จะโด่งจะดัง จะมีจะจน จะเกิดจะไม่เกิด ...

ดูจากประวัติศาสตร์ ขณะท่านเพิ่งเร่มก่อสร้างโรงมหรสพทางวิญญาณ ราวปี พ.ศ.๒๕๐๕ สวนโมกข์มีเงินทุนเพียง หลัก ๓-๔ พันบาท ขนบธรรมเนียมที่นี่ ก็ไม่มีการเรี่ยไรแต่อย่างใด มีเพียงกลุ่มวงใน ปากต่อปาก กับพวกที่ปวารณาด้วยศรัทธา บางครั้งได้เงินบริจาคมาจากบุคคลประเภทนักการเมือง เป็นหลักแสน (สมัยเมื่อปี ๒๕๐๕ ถือเป็นเงินจำนวนมหาศาล) ท่านพุทธทาสให้คนสืบเช็คถึงพฤติกรรม ความบริสุทธิ์ของผู้บริจาค เมื่อพบว่า ที่มาของเงินนั้น อาจไม่บริสุทธิ์ ท่านถึงกับปฏิเสธไปดื้อๆ ก็ยังมี เป็นต้น,



ปริญญาแห่งสวนโมกข์ ที่ท่านพุทธทาสฝากชาวโลกไว้ คือ “ตายก่อนตาย” คือแนวทางนิพพาน ดับทุกข์สิ้นเชิง หมดสิ้นแล้วซึ่งตัวกูของกู ... ดูเหมือน ดีกรีฉบับดั้งเดิมของท่านพุทธทาส ดูไม่น่าสนใจในสมัยนี้แล้วหรือกระไร กว่า ๖๐ ปีที่ท่านอาจารย์วางรากฐานเอาไว้ เหตุใดไม่แน่นหนักเหมือนเดิม?

เจตนาจะทำให้บ้านเมืองสอดคล้อง หรือเกิดสันติภาพนั้น ไม่จำเป็นต้องมาทำอะไรที่สวนโมกข์หรอกนะครับ ไม่ต้องมีพระใหม่ ใครมานำด้วย แต่ก่อนอื่นเราๆท่านๆ ล้วนต้องหันมาน้อมสำรวจตนเอง และครอบครัวก่อน เริ่มสร้างสันติภาพน้อยๆ ในหัวใจ ด้วยการมีสัมมาทิฐิ (เราชาวพุทธเกิดมาทำไม เป้าหมายสูงสุดคืออะไร), ด้วยการสมาทานไตรสิกขา ด้วยการปฏิบัติอานาปานสติ ฯลฯ สวนโมกข์ ก็จะเกิดขึ้นแล้วทันที ในจิตใจของท่าน ไม่จำเป็นต้องมาสวนโมกข์อันเป็นเพียงสถานที่ที่สัปปายะ ก็ย่อมได้


 st12 st12 st12 st12 st12

สมัยนั้นใครที่มานั่งเฝ้าจะใส่บาตรแต่กับท่านพุทธทาส หรือจ้องจะถวายเงินใส่มือท่าน หรือเอาแต่จะยึดมั่นในตัวท่านองค์เดียว การันตีได้ว่าพวกเขาเหล่านั้นอาจถูกเมินหรือไม่แยแสจากท่านเลยทีเดียว บางครั้งยังถูกท่านเล่นงานด้วยอุบายธรรมต่างๆ นานา ดังตัวอย่างนี้ สมัยนั้นมีโยมวัยทำงานคนหนึ่งมาสวนโมกข์ทุกวันๆ อยู่เกือบจะทั้งวัน ท่านพุทธทาสถึงกับเอ่ยปากไล่ให้กลับไปทำมาหากิน ไปอยู่ที่บ้าน อยู่กับครอบครัว ไม่จำเป็นต้องมาที่นี่ทุกวัน ก็ปฏิบัติธรรมได้ (เพราะการทำงานคือการปฏิบัติธรรม)

สังคมที่กำลังป่วยหนักอยู่ในขณะนี้ ....มิได้ต้องการพระระดับแม่เหล็ก ที่เดี๋ยวก็มา เดี๋ยวก็ไป หรือพระที่มีลีลา ท่าทาง สาธยายธรรมอันผิวเผินได้อย่างเปี่ยมล้นสีสันบันเทิง อย่างเป็นแฟชั่น แต่เรากำลังต้องการ พระ (หรือฆราวาส) ที่สามารถบรรยายธรรม ช่วยกันเผยแผ่ธรรม ระดับแม่เหล็ก ใช้ธรรมแท้ เป็นตัวดึงดูด มิได้ใช้ตัวบุคคลดูด, ดูดศรัทธาเพื่อเปิดดวงตาธรรมให้ชาวบ้าน มิใช่ดูดเงินชาวบ้านที่ศรัทธาอ่อนโยน, สาธยายโลกุตรธรรม ให้สาธุชนนำไปใช้ดับทุกข์ได้ด้วยตัวเองจริงๆ มิใช่ พูดให้สบายใจประเดี๋ยวประด๋าวแล้วก็เสพติดท่านกันงอมแงม หลายคนถึงขั้นขาดท่านไม่ได้ (มิอาจอยู่ได้ด้วยตัวเองจริงๆ) ต้องเข้ามาพึ่งท่าน ต้องเห็นท่าน ต้องฟังเสียงท่าน ติดตามความเคลื่อนไหวของท่าน อย่างคลั่งไคล้ ตลอดเวลา


        ans1 ans1 ans1 ans1 ans1

       พระผู้ใหญ่ท่านหนึ่งกล่าวว่า หากอาจารย์พุทธทาส ยังมีชีวิตอยู่ เชื่อว่า พระท่านนี้ถูกสับแหลกแน่ครับ!
       ผู้เขียนใคร่ขอถามว่า ... แนวทางของสวนโมกข์จะอยู่ตรงไหนครับ.?
       บวชไม่ทัน ๕ พรรษา อย่าริอาจ แสดงธรรม (วงการสงฆ์ท่านว่าไว้)
       ใครไม่ทำ ตามที่สอน  อย่ามาอ้อน เรียกอาจารย์ (พุทธทาสดำรัส)


       ปริญญา ที่แห่งนี้  พุ่งตรงที่ พระนิพพาน
       ดับตัวกูของกูนั้น  คือนิพพาน ตายก่อนตาย
       โอ้สหาย ช่วยกันมอง  ควรสอดส่อง สวนโมกข์ไหม?
       ปฏิปทา พระรุ่นใหม่  ใช่หรือไม่ ในแนวทาง?
       ปฏิบัติธรรม เพียง “สมอง”  อาจบกพร่อง และอ้างว้าง
       “สภาวะธรรม” คือทางสายกลาง ไม่รกร้าง แต่บริสุทธิ์ ตามพุทธองค์ฯ


ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20141129/196838.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

nopporn

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 248
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: แนวทางของสวนโมกข์ คืออะไร.? : วิปัสสนาบนหน้าข่าว
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2014, 08:55:20 am »
0
ที่จริงแล้ว ในแนวทางสวนโมกข์ เน้นหนักที่การฟัง ๆ แล้วเข้าใจง่ายกว่า ภาวนากรรมฐาน
ดังนั้นในแนวทาง ฟัง พูด จึงมีคนตอบรับมากกว่า

ส่วนเรื่อง กรรมฐาน นั้น เป็นเรื่องการฝึก สมาธิ อันมี อุปจาระฌาน เป็นต้นไป คนจึงสนใจน้อย

และยิ่งยุคนี้ครูสายพม่า ในแนวทางหนอ นั้นออกมาพูดว่า แค่ ขณิกะสมาธิ ก็เพียงพอต่อการบรรลุธรรมแล้ว ดังนั้นคนก็เลยหันไปฝึกกรรมฐาน ในแนวทางนี้มากขึ้น เพื่อน ๆ เราไปวัดมหาธาตุ มากกว่า 30 คนนะ ในขณะเดียวกันไปวัดราชสิทธารามเพียง 2 คนเท่านั้น จะเห็นว่า อัตรา การไปฝึกภาวนา แตกต่างกัน

  นั่นเป็นเพราะอะไร ทำไม คนถึงไม่สนใจในแนวทาง มัชฌิมาน้อย มันก็เป็นคำตอบนัย ๆ

  ส่วนแนวทางสวนโมกข์ นั้น ออกไปแนวเซ้นมาก ตอนนี้บรรดาลูกศิษย์ พยายามจะฟื้นฟูขึ้น มา ที่เป็นสายนี้โดยตรง ก็ สิกขมาลัย สวนโมกข์กรุง วัดนาป่าพง รวมถึงท่าน ว. วชิรเมธี ด้วย ในสายวัดอ้อน้อย ตลอดไปถึงสาย หลวงปู่ชา ก็ ไปแนวทางสายสวนโมกข์ นะจ๊ะ

  :s_hi:
บันทึกการเข้า
อยู่แก๊งค์ ป่วนอ๊บ

Hero

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 557
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: แนวทางของสวนโมกข์ คืออะไร.? : วิปัสสนาบนหน้าข่าว
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2014, 09:26:13 am »
0
วัดที่สอนในแนวทาง สวนโมกข์ ก็มีเยอะนะ แต่ที่เป็นทางการ ในกทม. มี 2 วัด และ ก็ หนึ่งสถานที
 

   1. วัดชลประทานรังสฤษดิ์ ปากเกร็ด นนทบุรี
   2. วัดปัญญา  ปทุกธานี ( ขณะนี้ เจ้าอาวาสวัดนี้ ได้รับคำสั่งให้ย้ายมาเป็นเจ้าอาวาส วัดชล )
   3. สวนโมก กรุงเทพ ( สถานีรถไฟ )
   4. สิกขมาลัย ( แม่ชีศํนสนีย์ )

  สายนี้เน้นการฟัง และ พูด ผมลองเข้าไปคบหาดูแล้วหลายท่าน ชอบพูดสอน บางท่านพูดเป็นต่อยหอย พูดมากน่ารำคาญ บางครั้ง คือ พยายามพูดเป็นสอนมีความรู้สึกว่า ถูกสอน ตลอดที่สนทนาด้วย

   ที่ชอบจริง ๆ ส่วนตัว คือ แนว ยุบหนอ พองหนอ ของ ท่านเจ้าคุณโชดก มากกว่า ครับ  คือ ดูแล้วภาวนาไม่ยาก ใช้อิริยาบถ ด้วยกำหนดดูรู้ตาม จนเห็นนามรูป

     :s_hi:
บันทึกการเข้า
ทำไมต้องมีอินทรีแดง เพราะสังคมเราบางครั้งก็ตาบอด
ปล่อยให้คนดี เดือดร้อน ดังนั้นจึงต้องมีผู้ปกป้องคนดี
hero ไม่ได้มีแต่ในหนังเท่านั้น นะครับ

KIDSADA

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 439
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: แนวทางของสวนโมกข์ คืออะไร.? : วิปัสสนาบนหน้าข่าว
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2014, 10:08:40 am »
0
ว่าโดยรวม แนวสวนโมกข์ นี่ก็ดี นะครับ คือ สอนให้คนฉลาด ไม่หลงงมงาย กับเรื่องไสยศาสตร์ ไม่ต้องมาสร้าง วัตถุมงคล แบบไร้สาร ผมว่า ไร้สาระมากเรื่อง ของวัตถุมงคล เรื่องพวกนี้ ผมว่าไม่มีจริงหรอกครับ

  :49:
บันทึกการเข้า
เราชอบ ป่วนแก็งค์ อ๊บ อ๊บ

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: แนวทางของสวนโมกข์ คืออะไร.? : วิปัสสนาบนหน้าข่าว
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2014, 07:26:43 pm »
0



ปัญญา...เน้นๆ   ภาวนา...ไม่เน้น ครับ! หรือ แบบ แบบว่า เซ็น ว่างั้นเถอะ!

ต้นแบบสายปัญญาต้องสวนโมกข์ฯ พูดพร่ำ อักษรดำดำ กระดาษขาวขาว ธรรมะทำไม.?

 ask1           ans1           ask1           ans1

หากเป็นเสียเช่นนี้ก็บัณฑิตลิขิตเพียรจำนำมากล่าวพล่ามไปหมื่นตำราจารไปพันอักษร ผมไม่ได้พูดพล่อยแต่นำรูปแบบของท่านพระโพธิธรรมมากล่าวอ้างก็เท่านั้น เซ็นเนื้อแท้ใช้การกล่าวสอนโดยวิธีการที่เรียกว่าอุปเท่ห์นั้นมาก ครูอาจารย์ไม่พูดมากเสียเวลาทำสมาธิรบกวนท่านตบหน้าถีบซักสองสามทีให้กลับไปคิด คนเขลานำวิธีการแบบนี้ไปตีความแบบ แบบว่า ปัญญาล้วนๆเน้นกระทำ/ปัญญา สมาธิหายไปไหน ครูอาจารย์ท่านขณะสอนยังไม่ทิ้งสมาธิ เนี้ยต้องโทษศิษย์ที่เขลาเรียนเซ็นไม่เป็นเลยต้องเข็นเข่งลำเค็ญเสียอย่างนี้


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 01, 2014, 08:31:56 am โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา