ตำนานวัดในอยุธยา อันเกี่ยวเนื่องกับ 'พระเจ้าตากสิน'พาเที่ยวชมวัดในอยุธยา ที่เรามักเข้าใจว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดเกี่ยวเนื่องด้วยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช แต่ยังมีความเกี่ยวเนื่องกับสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชที่น่าเที่ยวชมเช่นกัน
“อยุธยา” สำหรับใครหลายคน เป็นจังหวัดที่สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวและหาอาหารอร่อยทานได้สะดวก มีทั้งกุ้งแม่น้ำตัวโต โรตีสายไหมแป้งสด ก๋วยเตี๋ยวอยุธยาชามไม่โตแต่รสชาติ ก๋วยเตี๋ยวโตมาก วัดในอยุธยาทุกวัดบันทึกความจำที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ ครั้งอยุธยายังรุ่งเรือง และในสงครามการเสียกรุงและเอกราชครั้งที่ 2เป็นบาดแผลลึกที่ยังปรากฎภาพให้เห็นมาจนทุกวันนี้
คนส่วนมากเคยไปเที่ยวชมและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดที่เกี่ยวเนื่องด้วย “สมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ล่าสุดโด่งดังกันมาก ได้แก่ “วัดไชยวัฒนาราม” แต่ยังมีวัดในอยุธยาที่มีความเกี่ยวเนื่องกับ “สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” และน่าไปเที่ยวชมด้วยเช่นกัน
เริ่มจาก วัดเชิงท่า วัดตีนท่า วัดติณ วัดคลัง หรือวัดโกษาวาสน์ วัดนี้ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าวาสุกรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นวัดที่ “พระเจ้าตากสิน” ได้บวชเรียนร่วมกับรัชกาลที่ 1 ปัจจุบันมีรูปหล่อขนาดเท่าองค์จริงของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี หรือสมเด็จพระเจ้าตากสินทรงบัลลังค์ประดิษฐานอยู่ที่วัดด้วย
วัดแห่งนี้สร้างอยู่ใกล้ปากคลองท่อด้านเหนือตรงกับ “วัดพุทไธศวรรย์” ส่วนชื่อวัดติณที่มาเรียกในสมัย “พระเพทราชา” เรื่อยมาจนถึงสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ เพราะเคยใช้วัดแห่งนี้เป็นที่รวบรวมหญ้า เพื่อข้ามไปส่งให้ช้างม้าในพระบรมมหาราชวัง
ส่วนชื่อ “โกษาวาส” ได้มาด้วยพระยาโกษาธิบดี (ปาน) ทำการบูรณปฏิสังขรณ์ ภายหลังกลับจากการเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศฝรั่งเศสในสมัย “สมเด็จพระนารายณ์มหาราช” วัดเชิงท่าถูกกำหนดให้เป็นโบราณสถานสำคัญรูปแบบทางสถาปัตยกรรม ประติมากรรม และจิตกรรม เป็นงานศิลปกรรมสมัยอยุธยาตอนปลาย
“วัดเกาะแก้ว” เป็นวัดที่ตั้งค่าย 1 ใน 9 ค่ายของ “สมเด็จพระเจ้าตากสิน” ปัจจุบันหลักฐานทางประวัติศาสตร์ยังพอมีให้ชมเพียงพระเจดีย์ กับพระพุทธรูปเนื้อสำริดอายุ 300 กว่าปี ส่วนอุโบสถหลังเก่าจมหายไปกับน้ำ

“วัดโพธิ์สาวหาญ” ตั้งอยู่ที่อำเภออุทัย เป็นอีกวัดหนึ่งที่มีส่วนเกี่ยวข้องสำคัญกับการรักษาทัพของสมเด็จพระเจ้าตากสิน วันที่ 4 มกราคมพ.ศ.2309 ขณะกำลังถอยทัพจากกรุงศรีอยุธยาจนมาถึงวัดโพธิ์หาญ หรือวัดโพธิ์สังหาร หรือวัดโพธิ์หาญ
เมื่อพม่ายกทัพมาทัน โดยไทยกำลังเป็นฝ่ายเสียเปรียบ และสมเด็จพระเจ้าตากสินตกอยู่ในวงล้อมของพม่า พลันมีสตรี 2 นางถือดาบเข้ามาช่วยจนสมเด็จพระเจ้าตากสินสามารถตีฝ่าวงล้อมออกมาได้ แต่สตรีทั้ง 2 นางนั้นเสียชีวิต
ต่อมาภายหลังเมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินทรงกอบกู้เอกราชของไทยและขึ้นครองราชย์แล้ว ทรงรำลึกถึงคุณความดีของสตรีทั้ง 2 จึงทรงโปรดทำนุบำรุงบ้านโพธิ์สังหารและวัดขึ้นมาใหม่ ทรงพระราชทานนามว่า โพสาวหาญ หมายถึง หมู่บ้านอันมีสตรีผู้กล้าหาญ@@@@@
วัดแห่งนี้ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว เพราะการเดินทางอาจอยู่ไกลกว่าวัดอื่นๆ ในตัวเมืองอยุธยา แต่บ้านโพสาวหาญ บ้านพรานนกนี้ มีความสำคัญมาก นอกจากเป็นพื้นที่ีจุดปะทะไทย-พม่า แล้วยังเป็นจุดกำเนิดของ “วันทหารม้า” ด้วย
โดยนับจากวีรกรรม ครั้งวันที่ 4 มกราคมพ.ศ.2309 “วัดพรานนก” เป็นชื่อพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าตากสินตามอาชีพของพรานต่อนก ที่บอกทางไปยังเมืองจันทบุรีเพื่อรวมไพร่พลกลับมากู้ชาติ “วัดพรานนก” เป็นอีกวัดหนึ่งที่มีความสำคัญเกี่ยวเนื่องกับเหตุการณฺ์สำคัญในการกู้ชาติ
ที่วัดแห่งนี้ยังปรากฎมีรูปปั้นของ “เฒ่าคำ” พรานต่อนกคนสำคัญอยู่ด้วย สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจประวัติศาสตร์การเดินทัพของสมเด็จพระเจ้าตากสิน ยังมี “วัดพิชัยสงคราม” วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับโรงแรมกรุงศรีริเวอร์ เป็นที่รวมพลครั้งแรก
ส่วน “วัดหันตรา” เป็นวัดที่เกิดการปะทะครั้งแรกระหว่างกองทัพของ “สมเด็จพระเจ้าตากสิน” กับ กองทัพพม่า จุดเด่นของวัดนี้เห็นจะมีเพียง “โบสถ์มหาอุด” ที่เรียกแบบนี้เพราะมีเพียงแต่ทางเข้าด้านหน้าไม่มีทางออกด้านหลัง........................................
คอลัมน์ : ชำเลืองเมืองโดย “แรมทาง”
ขอบคุณภาพจาก : วิกิพีเดีย , faiththaistory
ที่มา :
https://www.dailynews.co.th/article/648615อังคารที่ 12 มิถุนายน 2561 เวลา 10.00 น.