ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: โรงเรียนนี้มีดีอะไร.? “พ่อแม่ชาวญี่ปุ่น” ถึงยอมต่อคิวรอ เพื่อให้ลูกได้เรียนที่นี  (อ่าน 2040 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29399
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


โรงเรียนนี้มีดีอะไร.? “พ่อแม่ชาวญี่ปุ่น” ถึงยอมต่อคิวรอ เพื่อให้ลูกได้เรียนที่นี่เท่านั้น

โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นจัดงานกีฬาถึง 3 ครั้งใน 1 ปี แต่ถึงกระนั้นก็เป็นโรงเรียนอนุบาลยอดนิยมสูงสุดแห่งหนึ่งขนาดผู้ปกครองหลายคนยอมสแตนบายรอการ cancel จากผู้ปกครองท่านอื่นๆ เพื่อลูกตัวเองจะได้เข้าศึกษาในอนุบาลแห่งนี้

โปรแกรมการเรียนที่นี่ก็แตกต่างไปจากโรงเรียนอนุบาลอื่นๆ ตอนที่สำนักข่าวแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นเข้าไปสัมภาษณ์ผู้อำนวยการโรงเรียน นักข่าวเห็นภาพเด็กอนุบาลกลุ่มหนึ่งอยู่ในสภาพวิ่งไปร้องไห้ไปบนดาดฟ้าของตึก  พวกเขาวิ่งเท้าเปล่า แถมวิ่งเร็วสุดชีวิต ใกล้ๆ มีคุณครูที่ยังดูหนุ่มอยู่คอยกวดขันอยู่พร้อมส่งเสียงบอกเด็กอนุบาลเหล่านั้นว่า

     “เอ้า วิ่งไป 9 รอบ”
     “ถ้าไม่ส่งเสียงครบทุกคน ก็จะไม่ให้เลิกวิ่งนะ  นี่ไม่ได้ให้มาวิ่งเล่นๆ นะ”




หนึ่งรอบมีระยะทางประมาณ 150 เมตร เด็กอนุบาลวัย 5 ขวบประมาณ 70 คนออกวิ่งตามที่คุณครูสั่งท่ามกลางเสียงลมหายใจเข้าออกรัวๆ ก็จะได้ยินเสียงสะอื้นร้องไห้อยู่บ้างเป็นบางครั้ง แต่สำหรับเด็กอนุบาลวัย 5 ขวบซึ่งเป็นพี่ใหญ่ของโรงเรียนอนุบาลแห่งนี้  หาได้น้อยมากที่ยังคงร้องไห้อยู่

สิ่งที่กล่าวมานี้เป็นเพียงแค่..การเริ่มต้นวันหนึ่งในโรงเรียนอนุบาลแห่งนี้เท่านั้นครับ…

โรงเรียนอนุบาลแห่งนี้มีชื่อว่า Buddy Sports Kindergarden ก่อตั้งเมื่อปี 1981ที่นี่เริ่มต้นจากเด็กเล็กเพียงแค่ 4 คนในวันก่อตั้ง จนตอนนี้โรงเรียนอนุบาลแห่งนี้เติบใหญ่มีสาขาในเมืองใหญ่ถึง 4 สาขา และอีก 3 สาขาใน  Kanagawa มีนักเรียนอนุบาลในเครือรวมทั้งสิ้นมากถึง 1,700 คน ทุกๆ แห่งแน่นมาก จะสมัครเข้าเรียนได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย (ข้อมูล ณ เดือนตุลาคมปี 2016)

งานกีฬาสีที่นี่จะถูกจัดถึง 3 ครั้งในเดือนมิถุนายน ตุลาคม และพฤศจิกายน พี่ใหญ่สุดในโรงเรียนจะต้องผ่านบททดสอบอันท้าทาย  ด้วยการวิ่งแข่งขันระยะ 300 เมตร และการต่อพิระมิดมนุษย์ (การต่อตัวขึ้นไปถึง 4 ชั้น)


ภาพการต่อพิระมิดมนุษย์ (การต่อตัวขึ้นไป4 ชั้นโดยใช้นักเรียนอนุบาลทั้งหมด10 คน) http://blogos.com/article/146396/


นอกเหนือจากนั้นโรงเรียนแห่งนี้ยังมีจัดแข่งขันแชร์บอลในเดือนมิถุนายน เข้าแคมป์สกีในเดือนมกราคม และการแข่งขันฟุตบอลในเดือนกุมภาพันธ์ เรียกได้ว่ากิจกรรมเชิงกีฬามีไม่หยุดไม่หย่อนตลอดทั้งปีและวันสำคัญที่สุดของเด็กๆ เหล่านี้คือ "วันจบการศึกษาครับ" ในวันนั้นเด็กๆ จะได้รับภารกิจว่าต้องผ่านการทดสอบสามอย่างนี้ให้ได้  คือ กระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง 6 ชั้น, การตีลังกา, การยืนด้วยแขนสองข้างและศีรษะ  ถ้าคนใดคนหนึ่งในชั้นเรียนนั้นๆ ทำไม่สำเร็จ ก็ถือว่าไม่จบการศึกษาไปทั้งชั้น

หนึ่งในการทดสอบที่ต้องผ่านไปให้ได้ให้จบพร้อมกันทั้งชั้น “การยืนด้วยแขนสองข้างและศีรษะ”
 https://www.vitaminmama.com/education/youchien/sc-tsuduki/バディスポーツ幼児園-横浜市都筑区/ 


ฉะนั้น เพื่อนคนอื่นๆ ก็จะคอยส่งเสียงเชียร์เต็มที่ให้กับเพื่อนที่กำลังจะกระโดดมีแรงฮึดเพื่อให้ข้ามสิ่งกีดขวางได้ สำเร็จไปด้วยกัน



นักข่าวสงสัยว่าทำไมโรงเรียนแห่งนี้ ต้องวางโครงสร้างการเรียนการสอน(โหด) ถึงขนาดนี้ จึงได้เข้าไปสัมภาษณ์คุณ Suzuki  ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลแห่งนี้

     ท่านบอกกับเราว่า
    “เด็กมัธยมญี่ปุ่นสมัยนี้ไม่ค่อยอดทน ไม่มีความจริงจังในตัวเอง  ทำให้เข้าชมรมได้ไม่นานก็ล้มเลิก”
     แต่กีฬาเป็นศิลปะที่จะสอนให้เราสามารถก้าวขึ้นไปเหนือกว่าศักยภาพของตัวเอง  เพราะจะทำได้หรือไม่ได้นั้นขึ้นอยู่กับตัวเด็กเอง จะให้ใครมาทำแทนไม่ได้
 
     เมื่อผู้อำนวยการตั้งกฎเกณฑ์ว่า “ถ้าทำไม่สำเร็จ จะไม่ให้จบอนุบาลนะ”
     คือการสร้างสถานการณ์ให้เด็กเกิดความพยายาม
    "พวกเค้าต้องหัดเจอสถานการณ์ที่มีความกดดันบ้าง"
     และสิ่งสำคัญสูงสุดคือ วิธีการสอนสั่งแทนที่เราจะบอกว่า "ต้องทำนะ" 
     ให้เราเปลี่ยนไปใช้คำว่า “ถ้าเริ่มทำแล้ว ต้องทำได้แน่ ๆ” 

     เชื่อมั้ยครับเมื่อไม่บังคับ แต่ให้กำลังใจ เด็กทุกคนจบการศึกษาได้อย่างปลอดภัยครับ ตอนนี้ที่นี่ถือเป็นสถาบันการศึกษาที่สำคัญแห่งหนึ่ง ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งบ่มเพาะคนญี่ปุ่นให้แข็งแรงทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ

     ถ้าเป็นคุณล่ะ อยากส่งลูกไปโรงเรียนอนุบาลลักษณะนี้มั้ยครับ.?



Boom JapanSalaryman
ผู้เขียนหนังสือ BestSeller  “JapanDarkSide ถึงร้ายก็รัก”
Twitter.com/JapanSalaryboom
Facebook.com/JapanSalaryman
Content Credit :
http://www.news-postseven.com/archives/20161022_455221.html?PAGE=1#container

ขอบคุณบทความและภาพจาก
https://today.line.me/th/pc/article/โรงเรียนนี้มีดีอะไร+“พ่อแม่ชาวญี่ปุ่น”+ถึงยอมต่อคิวรอ+เพื่อให้ลูกได้เรียนที่นี่เท่านั้น-lvGZQv
THE HIPPO ,  Reporter : JapanSalaryman , เผยแพร่ : 27 กันยายน 2561 เวลา 20.00 น.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 28, 2018, 07:56:14 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ