ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สาเหตุการบวช : อกหัก หลักลอย คอยงาน สังขารเสื่อม เลื่อมใส ไข่ตาย  (อ่าน 11648 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29288
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
.



สาเหตุการบวช 6 ประการ
อกหัก หลักลอย คอยงาน สังขารเสื่อม เลื่อมใส ไข่ตาย




 :25: :25: :25:

บวชของคนเรานั้นมีหลายสาเหตุ เรามาดูกันว่าการบวชของคนเรานั้น มีสาเหตุมาจากเรื่องใดบ้าง.?

1. อกหัก

เมื่อความรักไม่สมหวัง จิตใจมันช่างหดหู่ เมื่อเรารักเขาแต่เขาไม่รักเรา จะทำอย่างไร จิตใจมันสับสนวุ่นวาย ว้าวุ่น ต้องการความสงบ ก็ขอบวชดีกว่า ดีกว่าไปทำร้ายคนที่เรารัก คนที่มารักคนรักของเราหรือทำร้ายตัวเองให้เป็นบาปเป็นกรรม ติดตัวไปชาตินี้และชาติหน้า แต่เมื่อบวชแล้วก็ไม่มีใครรับรองได้หรอกครับว่า จะจิตใจสงบหรือเปล่า

2.หลักลอย

คนหลักลอยคือคนไม่มีหลักฐานบ้านช่องมั่นคง ไม่มีงานหรือมีแต่เป็นงานที่มีรายได้น้อย ไม่มีเงินหรือมีแต่มีน้อย ไม่สามารถสร้างความมั่นคงให้ตัวเองหรือใคร ๆ ได้ มองเห็นพระภิกษุ มีงาน(สวดศพ สวดเจริญพระพุทธมนต์ เทศนา ฯลฯ) มีเงิน ญาติโยมถวายลาภสักการะมากมาย ก็เอาวะ บวชดีกว่า บวชตลอดชีวิตก็ดี หรือบวชสักพัก มีเงินเยอะแล้วค่อยสึกออกมาทำอะไร ๆ ก็ได้

3. คอยงาน

เรียนจบมาแล้ว หางานทำไม่ได้ หรือทำงานอยู่ดี ๆ เจ้าของกิจการกราบเรียนเชิญให้ออก เนื่องจากเศรษฐกิจตกต่ำ หรือทำงานไม่คุ้มกับค่าจ้าง เอาไว้ก็รังแต่จะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย ออกจากงานแล้วก็ำทำไงล่ะ หางานได้ก็ดีไป หางานไม่ได้ทำไงล่ะ ไม่มีเงินใช้ หันซ้ายหันขวาเห็นพระคุณเจ้าไม่เคยตกงานเลย มีแต่งานเข้าตลอด บวชดีกว่า





4. สังขารเสื่อม

เหตุนี้มักเิกิดกับผู้สูงอายุ คือ กำลังวังชาถดถอย จากที่เคยทำงานได้ ก็เริ่มไม่มีแรง ไม่คล่องแคล่วเหมือนตอนหนุ่ม ๆ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ถ้าไม่มีกิจการอะไรเป็นของตัวเอง มักเหี่ยวเฉา ไม่สดชื่น เมื่อได้บวชแล้ว ก็มีญาติโยมมาหา มาปรึกษา มานิมนต์ไปทำโน่นทำนี่ มาขอหวย ขอเลข มาสักยันต์ ประพรมน้ำมนต์ มาให้เสกพระ ฯลฯ ไม่ว่างเลย สนุกสนาน

โดยเฉพาะผู้เกษียณแล้ว เคยชินกับการสั่งโน่นสั่งนี่ ให้คนทำตาม เมื่อมาเป็นพระก็สบาย อยากได้อะไรก็สั่งญาติโยมได้ ญาติโยมคนไหนมีตังค์แล้วเกิดความเลื่อมใส อยากได้อะไรก็เอามาประเคนให้หมด

แต่ก็มีบางคนสังขารเสื่อม บวชแล้วสงบเสงี่ยม สำรวม ตามแบบพระที่ดีก็มี ไม่ใช่ไม่ดีเสียหมดทุกองค์ แล้วก็ไม่ใช่แต่ผู้สูงอายุที่สังขารเสื่อม หนุ่ม ๆ ก็มี เช่นอาจมีความไม่สมประกอบอะไรบางอย่าง ไม่สามารถทำงานทำมาหากินได้สมบูรณ์เหมือนคนอื่น ก็ขออาศัยร่มกาสาวพัตร์ เป็นที่พึ่ง

5. เลื่อมใส

อันนี้แหละครับ หายาก เรียกว่า นี่แหละ..ของแท้ เป็นที่ต้องการมากของพระพุทธศาสนา หากมีผู้มาบวชเพราะเลื่อมใสในพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเป็นจำนวนมาก พระพุทธศาสนาของเราก็จะอยู่ยั้งยืนยงไปอีกนาน ซึ่งการบวชโดยเพราะความเลื่อมใสนี้มีจำนวนน้อย ส่วนใหญ่ยังบวชเพราะสาเหตุอื่นอยู่ คือบวชหวังผลใดผลหนึ่ง ไม่ใช่การเสียสละตัวเองเพื่อศาสนาที่แท้จริง

6. ไข่ตาย

คำว่า "ไข่ตาย" เป็นคำที่พูดกันในภาคใต้ ภาคอื่นไม่รู้เหมือนกันหรือเปล่า คำว่าไข่ตาย พูดเป็นภาษาเขียน คือ หมดสมรรถภาพทางเพศ ต่างกับเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ เพราะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศนั้น คือ เสื่อมแต่ยังไม่หมด ยังพอทำอะไรได้

แต่หมดสมรรถภาพทางเพศ คือ หมดแล้วแหละ ดูได้อย่างเดียว(ฮา..) เมื่อไม่สามารถพาตัวเองไปสู่สวรรค์ชั้นดาวดึงค์ สู่จุดสุดยอดของมนุษยชาติได้แล้ว จะอยู่ในโลกแห่งโลกียะต่อไปอีกทำไม อย่ากระนั้นเลย บวชเป็นบรรชิตเพศดีกว่าเรา ทำอะไรใครไม่ได้แล้ว ได้แต่นัวเนีย ๆ อย่างเดียว เสียอารมณ์เปล่า ๆ





สรุปสาเหตุของการบวช คือ อกหัก หลักลอย คอยงาน สังขารเสื่อม เลื่อมใส ไข่ตาย 6 ประการ

นี่คือ สาเหตุทั้งหมดที่ทำให้คนเราบวช การบวชทดแทนคุณพ่อแม่ บวชหน้าศพ บวชหน้าไฟ บวชเพราะขัดบุพการีไม่ได้ ก็รวมอยู่ในข้อเลื่อมใสแหละครับ แม้ไม่เลื่อมใสในพระุพุทธศาสนา ก็ถือว่าเลื่อมในตัวพ่อแม่พี่น้อง ผู้ที่กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งให้ได้บวช ก็ถือว่าดีมากครับ

สาเหตุที่ได้เล่าเรื่องสาเหตุการบวชให้ได้รับรู้ เพราะได้ข่าวมาว่า คุณฟิล์ม รัฐภูมิ ซุปเปอร์สตาร์ของเรากำลังจะบวช ไม่รู้เขาคิดเองหรือเปล่า หรือได้รับแรงบันดาลใจจากใคร ถ้าบวชจริงก็ขออนุโมทนาสาธุด้วย

เมื่อก่อนนั้น ผมเองคิดว่า ผมไม่เห็นด้วยกับการบวชที่ไม่ใช่มาจากความเลื่อมใส แต่เมื่อได้ยินอุปปัชฌาจารย์ ท่านสั่งสอนพระขณะทำการบวช ท่านกล่าวว่า "ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นภิกษุด้วยเหตุอันใด หรือด้วยเวลาเพียงหนึ่งนาที ก็ขอให้ตั้งจิตมั่น กระทำตนเป็นภิกษุที่ดี" ฉะนั้น ไม่ว่าจะบวชด้วยเหตุอันใด ก็ขอให้ท่านเป็นพระที่ดี จรรโลงพระพุทธศาสนาต่อไปด้วยเทอญ (ไม่ต้องสาธุ เพราะผมไม่ใช่พระ)

อนึ่ง บางครั้งผมก็รู้สึกเสียดาย comment ที่ได้แสดงในบอร์ดนี้ ผมจึงตั้งใจว่าจะเขียนเป็นบทความลงในบล็อก หากท่านสนใจจะได้อ่านบทความอื่น ๆ อีก ตามลายเซ็นข้างล่าง ขอขอบคุณ






ขอขอบคุณ :-
ภาพจาก : pinterest
บทความ : สาเหตุของการบวช 6 ประการ « เมื่อ: 19 ตุลาคม 2010, 19:30:06 »
ผู้เขียน : wareerant | โพสต์ที่ : ThaiSEOBoard.com
website : https://www.thaiseoboard.com/index.php?topic=145531.0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 02, 2025, 08:56:12 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
1. อกหัก เมื่อความรักไม่สมหวัง จิตใจมันช่างหดหู่ เมื่อเรารักเขาแต่เขาไม่รักเรา จะทำอย่างไร จิตใจมันสับสนวุ่น
วาย ว้าวุ่น ต้องการความสงบ ก็ขอบวชดีกว่า ดีกว่าไปทำร้ายคนที่เรารัก คนที่มารักคนรักของเราหรือทำร้ายตัวเอง
ให้เป็นบาปเป็นกรรม ติดตัวไปชาตินี้และชาติหน้า แต่เมื่อบวชแล้วก็ไม่มีใครรับรองได้หรอกครับว่า จะจิตใจสงบหรือเปล่า




อกหัก

     ชู้รักเรือล่มแล้ว            ไกลกู่
ครวญใคร่ไห้หดหู่            ทุกข์ชี้
ชายชนหลากร้างคู่        ฤาบวช
หนี้บาปร้างหลีกลี้         รักร้ายชายลา.


                                              ธรรมธวัช.!




http://writer.dek-d.com/margaret-diana/writer/viewlongc.php?id=687247&chapter=4
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 29, 2012, 08:50:52 am โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
2. หลักลอย คนหลักลอยคือคนไม่มีหลักฐานบ้านช่องมั่นคง ไม่มีงานหรือมีแต่เป็นงานที่มีรายได้น้อย ไม่มีเงินหรือมีแต่มีน้อย ไม่สามารถสร้างความมั่นคงให้ตัวเองหรือใคร ๆ ได้ มองเห็นพระภิกษุ มีงาน(สวดศพ สวดเจริญพระพุทธมนต์ เทศนา ฯลฯ) มีเงิน ญาติโยมถวายลาภสักการะมากมาย ก็เอาวะ บวชดีกว่า บวชตลอดชีวิตก็ดี หรือบวชสักพัก มีเงินเยอะแล้วค่อยสึกออกมาทำอะไร ๆ ก็ได้



หลักลอย

     พ่อเรือแจวฟากข้าม        ใครหมาย
หาอยู่เลี้ยงเพียงกาย           อดมื้อ
ทุกข์ลี้หลีกหนีคลาย           เงาร่ม ศาสน์แฮ
ชนม์ค่านี้ธรรมยื้อ            ประโยชน์หล้าเกษมแล.


                                                      ธรรมธวัช.!




http://ecard.kapook.com/content.php?id=17608&category_id=122
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 29, 2012, 08:51:53 am โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
3. คอยงาน เรียนจบมาแล้ว หางานทำไม่ได้ หรือทำงานอยู่ดี ๆ เจ้าของกิจการกราบเรียนเชิญให้ออก เนื่องจากเศรษฐกิจตกต่ำ หรือทำงานไม่คุ้มกับค่าจ้าง เอาไว้ก็รังแต่จะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย ออกจากงานแล้วก็ำทำไงล่ะ หางานได้ก็ดีไป หางานไม่ได้ทำไงล่ะ ไม่มีเงินใช้ หันซ้ายหันขวาเห็นพระคุณเจ้าไม่เคยตกงานเลย มีแต่งานเข้าตลอด บวชดีกว่า

คอยงาน

     เพียรร่ำรู้ถ่อยแท้               งานเมิน
เป็นเต่าคืบเข่าเพลิน              บ่ร้อน
พร่ำแต่หน่ายหมายเงิน        พนันจ่าย
สิ้นคิดกินเกลือก้อน            บาตรคว้าปลงผม.


                                                     ธรรมธวัช.!
   



http://forum.plus.in.th/index.php?topic=448.0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 22, 2012, 09:28:57 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
4. สังขารเสื่อม เหตุนี้มักเิกิดกับผู้สูงอายุ คือกำลังวังชาถดถอย จากที่เคยทำงานได้ ก็เริ่มไม่มีแรง ไม่คล่องแคล่วเหมือนตอนหนุ่ม ๆ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ถ้าไม่มีกิจการอะไรเป็นของตัวเอง มักเหี่ยวเฉา ไม่สดชื่น เมื่อได้บวชแล้ว ก็มีญาติโยมมาหา มาปรึกษา มานิมนต์ไปทำโน่นทำนี่ มาขอหวย ขอเลข มาสักยันต์ ประพรมน้ำมนต์ มาให้เสกพระ ฯลฯ ไม่ว่างเลย สนุกสนาน โดยเฉพาะผู้เกษียณแล้ว เคยชินกับการสั่งโน่นสั่งนี่ ให้คนทำตาม เมื่อมาเป็นพระก็สบาย อยากได้อะไรก็สั่งญาติโยมได้ ญาติโยมคนไหนมีตังค์แล้วเกิดความเลื่อมใส อยากได้อะไรก็เอามาประเคนให้หมด แต่ก็มีบางคนสังขารเสื่อม บวชแล้วสงบเสงี่ยม สำรวม ตามแบบพระที่ดีก็มี ไม่ใช่ไม่ดีเสียหมดทุกองค์ แล้วก็ไม่ใช่แต่ผู้สูงอายุที่สังขารเสื่อม หนุ่ม ๆ ก็มี เช่นอาจมีความไม่สมประกอบอะไรบางอย่าง ไม่สามารถทำงานทำมาหากินได้สมบูรณ์เหมือนคนอื่น ก็ขออาศัยร่มกาสาวพัตร์ เป็นที่พึ่ง



สังขารเสื่อม

     คร่ำคร่าเรือเก่าใกล้          แจวจอด
ร้าวแตกผุกร่อนคอด            เสื่อมทิ้ง
ตนหย่อนเฒ่าแรงถอด        ยื้อร่ม ศาสน์แฮ
ตายเผื่อค่าสู่หิ้ง                ลูกปลื้มยินดี.


                                                 ธรรมธวัช.!




http://vanishgroom.exteen.com/20100513/entry
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 27, 2012, 10:57:23 pm โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
5. เลื่อมใส อันนี้แหละครับ หายาก เรียกว่า นี่แหละ ของแท้ เป็นที่ต้องการมากของพระพุทธศาสนา หากมีผู้มาบวชเพราะเลื่อมใสในพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเป็นจำนวนมาก พระพุทธศาสนาของเราก็จะอยู่ยั้งยืนยงไปอีกนาน ซึ่งการบวชโดยเพราะความเลื่อมใสนี้มีจำนวนน้อย ส่วนใหญ่ยังบวชเพราะสาเหตุอื่นอยู่ คือบวชหวังผลใดผลหนึ่ง ไม่ใช่การเสียสละตัวเองเพื่อศาสนาที่แท้จริง


เลื่อมใส

     หนึ่งชายชนชีพเร้น          เห็นภัย
ตนเสื่อมลำดับวัย                 ลุคล้อย
โสดปลีกหลีกพิสมัย            อย่างเยื่อง ขรัวนา
บาตรแล่งตะพายย้อย        เดี่ยวร้างลาเธอ.


                                                     ธรรมธวัช.!




http://widget.sanook.com/widget-category/text/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%87%E0%B8%B2%20%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%81/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 26, 2012, 12:40:45 am โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

ธุลีธวัช (chai173)

  • ปัญญา นัตถิ อฌายโต “ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่พินิจ”
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +35/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2905
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
6. ไข่ตาย คำว่าไข่ตายเป็นคำที่พูดกันในภาคใต้ ภาคอื่นไม่รู้เหมือนกันหรือเปล่า คำว่าไข่ตาย พูดเป็นภาษาเขียน คือ หมดสมรรถภาพทางเพศ ต่างกับเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ เพราะเืสื่อมสมรรถภาพทางเพศนั้น คือเสื่อม แต่ยังไม่หมด ยังพอทำอะไรได้ แต่หมดสมรรถภาพทางเพศคือ หมดแล้วแหละ ดูได้อย่างเดียว (ฮา) เมื่อไม่สามารถพาตัวเองไปสู่สวรรค์ชั้นดาวดึงค์ สู่จุดสุดยอดของมนุษยชาติได้แล้ว จะอยู่ในโลกแห่งโลกียะต่อไปอีกทำไม อย่ากระนั้นเลย บวชเป็นบรรชิตเพศดีกว่าเรา ทำอะไรใครไม่ได้แล้ว ได้แต่นัวเนีย ๆ อย่างเดียว เสียอารมณ์เปล่า ๆ



ไข่ตาย

     ชายสิ้นเชื้อเสื่อมชู้           สู่สม
สรรสวาทขลาดเขื่องงม        รักห้าว
ค่าชายพ่ายภิรมย์              เหลืองห่ม ปลงแฮ
ลี้อ่าวเพียรร่ำกร้าว            ตราบล้าวายชนม์.


                                                    ธรรมธวัช.!




http://xn--12caa8grcvblb2b.exteen.com/20110707/entry-10

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 29, 2012, 07:50:04 am โดย THAWATCHAI173 »
บันทึกการเข้า
ศรัทธา, ศีล, พาหุสัจจะ, วิริยารัมภะ, ปัญญา

สมภพ

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 485
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
สาธุ ก็ลุ้นอยู่ว่า คุณ ธรรมธวัช จะแต่งกลอนจบภายในเดือน เม.ย.55 หรือไม่นะครับ

 มีสำนวน ที่ตรงไป ตรงมา ดีครับ

  :25: :c017:

บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29288
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
.
 :25: :25: :25:

“บวชพระ” ของผู้ชายสมัยอยุธยา บวชด้วยเหตุผลอะไรบ้าง.?


ภาพประกอบเนื้อหา – พระสงฆ์สยามในอดีต



 st12 st12 st12

“บวชพระ” หรือ อุปสมบทเป็นพระสงฆ์ ในปัจจุบันมักได้อ้างอิงคำตอบหลักๆ ว่าเพื่อแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่, ศึกษาพระธรรมกล่อมเกลาจิตใจ ฯลฯ แล้วหากเป็นสมัยอยุธยา “การบวช” เวลานั้น เป็นด้วยหตุผลอันใดกันบ้าง เหมือนหรือต่างจากทุกวันนี้อย่างไร

@@@@@@@

(๑) บวชพระเพื่อการศึกษา

การบวชเป็นไปเพื่อเพิ่มโอกาสในการศึกษา คงเป็นเรื่องปกติและเหตุจำเป็นในยุคที่ไม่มีสถาบันการศึกษาโดยตรงเช่นปัจจุบัน พ่อแม่ส่วนใหญ่จึงพาลูกชายไปฝากที่วัด ซึ่งไม่ใช่แค่บวชเรียนทางธรรม แต่ยังสอนเรียนทางโลก ที่สามารถร่ำเรียนไปพร้อมๆ กัน



การศึกษาจากวัด พระสงฆ์เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้


ดังที่ “จดหมายเหตุ ลา ลูแบร์ : ราชอาณาจักรสยาม” ตอนหนึ่งบันทึกว่า “พระสงฆ์อันเป็นอาจารย์ในวัด สอนเป็นต้นว่าให้อ่าน ให้เขียนหนังสือ หัดคิดเลข และทำบัญชี”

นอกจากนี้ การบวชยังเป็นหนึ่งในเงื่อนไขในการรับราชการ ในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ทรงกำหนดให้ผู้ชายที่เข้ารับราชการทุกคนจะต้องเคยบวชเรียนมาก่อน

(๒) บวชหนีงาน

พระสงฆ์ในสังคมอยุธยาได้สิทธิ์พิเศษไม่ต้องสังกัดมูลนาย, ไม่ต้องเกณฑ์แรงงาน, ไม่ต้องจ่ายส่วย ฯลฯ การบวชจึงเป็นช่องทางหนึ่งที่ไพร่สามารถพ้นจากระบบไพร่ได้ชั่วคราว หรือเป็นวิธีหลบหนีออกจากระบบเกณฑ์แรงงาน จนบางครั้งก็ทำให้ขาดแรงงานที่จำเป็น  ซึ่งบางคนที่บวชก็ไม่มีศรัทธาต่อพระศาสนา

ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์จึงมีการสอบไล่พระที่ไปบวชเพื่อหลีกเลี่ยงราชการ แล้วประพฤติย่อหย่อนไม่ปฏิบัติพระธรรมวินัย ไม่ศึกษาเล่าเรียนก็ไล่ออกไปใช้แรงงาน โดยจัดให้มี “การสอบความรู้พระสงฆ์” ทั่วราชอาณาจักรเป็นครั้งคราว พระรูปใดที่สอบไม่ได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด ก็ให้สึกออกมาเป็นแรงงานดังเดิม

(๓) บวชอวดรวย

ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจของสังคมอยุธยาก็คือ “การสร้างวัด” บรรดาขุนนางใหญ่ที่มากอำนาจ หรือเศรษฐีผู้มีอันจะกินทั้งหลาย แม้จะมีอำนาจหรือทรัพย์สินมากมาย อวดดีสร้างบ้านเรือนให้ใหญ่ดั่งใจไม่ได้ เพราะจะเป็นการทำเทียมเจ้านาย อาจมีโทษถึงชีวิต การสร้างวัดของตนเองจึงเป็น “ทางออก” ให้ได้อวดบารมี



ภาพโคลงภาพ “สร้างกรุงศรีอยุธยา” เขียนโดย นายอิ้ม ในสมัยรัชกาลที่ 5 (ภาพจากหนังสือ “พระราชพงศาวดาร เล่ม ๑ ฉบับพิมพ์ ร.ศ. ๑๒๐ พ.ศ. ๒๔๔๔) โดยกรมศึกษาธิการ กระทรวงธรรมการ


ดังความตอนหนึ่งใน “นิราศทวาราวดี” ของหลวงจักรปาณี (ฤกษ์) ที่ว่า

เมื่อครั้งกรุงยังสนุกสุขสบาย   ได้ยินฝ่ายผู้เฒ่าเขาเล่ามา

ว่าเศรษฐีมีทรัพย์ไม่นับได้  สร้างวัดให้ลูกรักนั้นนักหนา ​

ถ้าบุตรใครไม่มีซึ่งวัดวา  ไปเล่นอารามเขาเศร้าฤทัย

เจ้าของเขาเฝ้าเปรยเยาะเย้ยหยอก  กลับมาบอกบิดาน้ำตาไหล

พ่อก็สร้างอารามให้ตามใจ  วัดจึงได้เกลื่อนกลาดดูดาษดา


@@@@@@@

(๔) บวชหนีภัยการเมือง

ผู้บวชมักเป็นผู้นำหรือเจ้านายที่มีหน้าที่ในบ้านเมือง เมื่อมีการการเปลี่ยนรัชกาล หรือผู้มีอำนาจที่อยู่ตรงข้ามกับฝ่ายตนเองขึ้นมาเป็นใหญ่ เช่น กรณี พระเฑียรราชา พระอนุชาต่างพระมารดากับสมเด็จพระไชยราชา ทรงเลือกออกบวชหลังสมเด็จพระไชยราชาเสด็จสวรรคต พระนางศรีสุดาจันทร์และขุนวรวงศาธิราชกุมอำนาจไว้ในมือได้

เมื่อ “บวชพระ” ด้วยเหตุผลข้างแล้วเป็นเช่นไร วงการสงฆ์ในสมัยนั้นเป็นเช่นไร

“ประดนธรรม” หนังสือที่แต่งขึ้นในสมัยปลายอยุธยา ตอนหนึ่งกล่าวว่า

“…บ้างบวชอยู่บ้าน…ทำการงาน…อนึ่งบวชปองวัตถุเงินทองของส่วยของสัด ค่านาค่าสวน ด้านด้วยคำนับ ชิงกันเป็นเจ้าวัด…สารพัดทั่วแผ่นดิน หมอนวด หมอยา หมอกฤษ์ หมอชตา…ลวงราษฎร์ทั้งหลาย…ใช่ลูกพระตถาคต บวชเป็นขบถต่อพระศาสนา”



ภาพพระสงฆ์ในจิตรกรรมฝาผนังภายในหอพระไตรปิฎก วัดบวรนิเวศวิหาร


อ่านเพิ่มเติม :-

    • บรรพชาอุปสมบท ทางเลือกที่ช่วยเจ้านายหลายพระองค์ “รอด”
    • พระสงฆ์ “อิทธิพล” หนึ่งในท้องถิ่น ด้วยความรู้และอาคมที่สร้างศรัทธาบารมี






ขอขอบคุณ :-
ผู้เขียน : วิภา จิรภาไพศาล
เผยแพร่ : วันศุกร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ.2568
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก : เมื่อ 31 มกราคม 2568
website : https://www.silpa-mag.com/history/article_147469
อ้างอิง : พระมหาทศพล จนฺทวํโส (มาบัณฑิตย์). “การบวชในสมัยอยุธยา” ใน วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์ ปีที่ 6 ฉบับที่ 5 (กรกฎาคม 2562)
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ