พระนางพิมพาทรงเศร้าโศกเสียพระทัย ด้วยเข้าพระทัยว่า พระนางถูกพระพุทธเจ้าทรงทอดทิ้ง ความเสียพระทัยมีมาก
พระนางเสด็จดำเนินมาเองไม่ได้ ต้องจูงและประคองมา พอมาถึงที่พระพุทธเจ้าประทับอยู่
พระนางก็ล้มฟุบลง กลิ้งเกลือกพระเศียรลงเหนือพระบาทพระพุทธเจ้า แล้วพิลาปรำพันกันแสงแทบสิ้นสมปฤดี
สิกขาบท ๑๐ ในขุททกปาฐะ
[๒] ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เจตนาเครื่องงดเว้นจากการฆ่าสัตว์
ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เจตนาเครื่องงดเว้นจากการลักทรัพย์
ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เจตนาเครื่องงดเว้นจากอพรหมจรรย์
ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เจตนาเครื่องงดเว้นจากมุสาวาท
ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เจตนาเครื่องงดเว้นจากการดื่มน้ำเมา คือ สุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เจตนาเครื่องงดเว้นจากการบริโภคอาหารในเวลาวิกาล
ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เจตนาเครื่องงดเว้นจากการฟ้อน การขับ การประโคม และการดูการเล่นอันเป็นข้าศึก
ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เจตนาเครื่องงดเว้นจากการลูบไล้ทัดทรงประดับดอกไม้และของหอม อันเป็นลักษณะแห่งการแต่งตัว
ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เจตนาเครื่องงดเว้นจากการนั่งการนอนบนที่นั่งที่นอนใหญ่
ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เจตนาเครื่องงดเว้นจากการรับทองและเงิน ฯ
จบสิกขาบท ๑๐พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ บรรทัดที่ ๑๓ - ๒๖. หน้าที่ ๑ - ๒.
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=25&A=13&Z=26&pagebreak=0 ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=2ภาพจาก
http://www.dhammajak.net/
อรรถกถา ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ สิกขาบท ๑๐ บทว่า อพฺรหฺมจริยํ ได้แก่ ความประพฤติไม่ประเสริฐ.
เจตนาเป็นเหตุละเมิดฐาน คือ การซ่องเสพอสัทธรรม เป็นไปทางกายทวาร
โดยการซ่องเสพเมถุน คือ การสมสู่กันสองต่อสอง ชื่อว่า อพรหมจรรย์....ฯลฯ
ส่วนอพรหมจรรย์ มีองค์ ๔ คือ
๑. อชฺฌาจริยวตฺถุ สิ่งที่พึงล่วงละเมิด
๒. เสวนจิตฺตํ จิตคิดจะเสพ
๓. ปโยคํ สมาปชฺชติ พยายามเข้าถึง
๔. สาทิยติ ยินดี ที่มา
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=2ภาพจาก
http://i883.photobucket.com/
ศีลสิบของสามเณร ข้อสาม คือ อพรหมจรรย์ เป็นการห้ามเสพเมถุน
องค์ประกอบของศีลข้อนี้ที่นำมาตัดสินมีสามข้อ คือ จิตที่คิดจะเสพ พยายามเข้าถึง และยินดี
หากการกระทำใดๆไม่ประกอบดัวยข้อใดข้อหนึ่งแล้ว ไม่น่าจะเป็นการละเมิดศีล
แต่อาจเป็นโลกวัชชะ(โลกติเตียน)
สิ่งหนึ่งที่คนชอบเหมารวม ไม่ยอมแยกแยะ คือ พอเห็นคนห่มผ้าเหลืองแล้ว
จะต้องคิดว่า คนนั้นจะถูกเนื้อต้องตัวผู้หญิงไม่ได้
ทั้งที่เณรถือศีลแค่สิบข้อเท่านั้น ไม่มีข้อไหนที่ระบุชัดเจนว่า ห้ามถูกตัวผู้หญิง
