ชีวิตเราถ้าเลือกได้ ก็อยากเลือก อยู่ในกลุ่มคนดี มีธรรมะ มีการภาวนา มีน้ำใจ แต่ชีวิตในความเป็นจริง เป็นไปไม่ได้ ในหลวงพระองค์ จึงทรงตรัสไว้ ให้ส่งเสริมคนดี และ ให้คนดีมีอำนาจ ถึงแม้คำตอบจะได้อย่างนี้ แต่โจทย์ในชีวิตประจำวัน นั้นทำได้ยาก เพราะคนดี ไม่มีป้ายแขวนคอ ว่าเป็นคนดี และ ทุกคน มีโอกาสเป็นทั้งคนดีและคนชั่ว หาก ไม่มีการรักษาศีล ภาวนาแล้ว โอกาสเหมือน ๆ กัน
ดังนั้น ในชีวิตการทำงาน ผมเองก็เจอคนไม่ดี เป็นส่วนมาก คนที่เกลือกกลั้วอบายมุขมีมากกว่า คนที่ไม่ยุ่งและคนที่ เกลือกกลั้ว อบายมุข ก็ไม่ชอบคนที่ดี ซะด้วย เพราะเป็นเรื่องที่ขัดหู ขัดตาเขา ดังนั้นการรังแก กลั่นแกล้ง จึงมีเกิดขึ้นด้วยเป็นธรรมดา โดยเฉพาะ ชีวิตการทำงานบางคน ก็เหยียบเอาผลงานเป็นของตน เพื่อก้าวเข้าสู่ความก้าวหน้าในชีวิตของเขา
ดังนั้นการอยู่ในสังคม จึงต้องสวม หัวโขน ไว้บ้างการประกาศตนเป็นคนดีนั้น ต้องเด็ดเดี่ยว ไม่ใช่เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย หากเมื่อประกาศว่าเราเป็นคนดี โจทย์จะยากขึ้น เพราะคนชั่ว ก็จะอาศัยความเป็นคนดี ของเรานั้นเป็นข้อได้เปรียบ ดังนั้น เมื่อเราประกาศเป็นคนดี ก็ต้องเด็ดเดี่ยว ยอมถูกเอาเปรียบ เสียสละ อดกลั้น อดทน มีศีล มีภาวนา นะครับ เรื่องนี้ผมเข้าใจดี เพราะเป็นตรา เป็นยี่ห้อ ที่เราจะภาคภูมิใจที่สุด แม้เราอาจจะต้องน้ำตาไหล เมื่อถูกกระทำ ย่ำยี และเอาเปรียบ แต่คุณค่า มันอยู่ที่ใจ ของเราครับ
อดทน ข่มกลั้น มีศีล มีภาวนา เป็นตราบุญ ซึ่งจะสิ้นสุดได้ และไม่มีต่อไป
อย่าพยาบาท ผูกโกรธ มันจะเป็นตราบาป ไม่สิ้นสุด
