ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ชายไทยทำร้าย "เมีย" สูงเป็นอันดับ 7 ของโลก.! "เมา" เหตุหลักรุนแรงในบ้าน  (อ่าน 1613 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

ชายไทยทำร้าย"เมีย"สูงเป็นอันดับ7ของโลก!
"เมา"เหตุหลักรุนแรงในบ้าน หญิงไทย"ทนได้" รักจึงยอม

นายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธานเปิดงานสัมมนา "รายงานสถานการณ์ความรุนแรงในครอบครัว" จัดโดย มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว และสำนัก งานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ที่โรงแรมปริ๊นซ์พาเลซ มหานาค  เมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา

นายสมชาย เจริญอำนวยสุข ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว เปิดเผยว่า จากการสำรวจใน หัวข้อการ ทำร้ายคู่สมรส พบว่า
    ประเทศไทยมีการทำร้ายกันของคู่สมรสอยู่ประมาณอันดับที่ 30 ของโลก
    ผู้ชายเป็นฝ่ายทำร้ายผู้หญิงสูงเป็นอันดับ 7 ของโลก
    ที่สำคัญพบว่า ผู้หญิงยอมรับการถูกทำร้ายสูงอันดับ 2 ของโลก จากทั้งหมด 49 ประเทศ   
    ทั้งนี้ความรุนแรงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สืบเนื่องจากปัญหาเชิงทัศนคติ
    โดยเฉพาะผู้หญิงที่ได้รับการปลูกฝังให้เป็นฝ่ายอดทนเพื่อครอบครัว


"ดังนั้นต้องปรับค่านิยม ขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการมีหลักสูตรเจนเดอร์ในโรงเรียนตั้งแต่ระดับอนุบาล เพื่อปลูกฝังการเคารพสิทธิความเท่าเทียมระหว่างเพศให้อยู่ในใจตั้งแต่เด็ก ขณะเดียวกันกระทรวงพม. พยายามจัดระบบหน่วยบริการช่วยเหลือ OSCC ศูนย์ช่วยเหลือทางสังคม ซึ่งจะเป็นช่องทางให้ผู้ถูกกระทำมีทางเลือกเพิ่มขึ้น" นายสมชายกล่าว

ด้านนายวิเชียรกล่าวว่า ความรุนแรงในครอบครัวมีมากขึ้นและจำนวนเพิ่มขึ้น หลายคนอาจมองว่าสังคมสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้รวดเร็วจึงดูว่ามีความรุนแรงเพิ่มขึ้น แต่แท้จริงแล้วอาจเป็นสองอย่างประกอบกัน คือในอดีตคนที่ถูกกระทำรุนแรงในครอบครัวไม่กล้าเปิดเผยตัว แต่ไม่ได้หมายความว่าเมื่อถูกกระทำรุนแรงในครอบครัวแล้วจะต้องปกปิด เราพยายามรณรงค์ให้ทุกครอบครัวอบอุ่นไม่ก่อความรุนแรง สิ่งสำคัญอยากให้ผู้ที่ถูกกระทำก้าวข้ามความกลัวออกมาเผชิญร่วมแก้ปัญหา




เมื่อถามว่าสัดส่วนของผู้ถูกกระทำรุนแรงแล้วกลับเข้าสู่สังคมได้มีเท่าใด นายชวลิตกล่าวว่า หากผ่านกระบวนการแล้วทุกคนสามารถกลับสู่ครอบครัวได้ทั้งหมด ไม่มีใครต้องอยู่ในการดูแลของเราตลอดชีวิต แต่ใช้เวลามากน้อยแตกต่างกัน ขณะเดียวกันพบว่า
    มีผู้ถูกกระทำซ้ำมาขอความช่วยเหลือ ซึ่งเราใช้กระบวนการทางสังคมเข้าไปแก้ปัญหา
    ดูว่าแต่ละรายมีปัญหาตรงไหน พยายามลดการกระทำซ้ำ
    แต่สิ่งที่เป็นปัญหามากตอนนี้และเป็นปัญหาใหม่ คือ ผู้ที่ถูกกระทำความรุนแรงไม่ออกมาแสดงตน
    เราจึงรณรงค์ว่าการกระทำความรุนแรงในครอบครัวเป็นเรื่องสำคัญ รัฐบาลจึงตั้งศูนย์ช่วยเหลือทางสังคม (OSCC) เป็นช่องทางใหม่ให้ทุกคนที่ประสบปัญหาเข้าถึงเจ้าหน้าที่ได้สะดวก และได้รับการแก้ไขทุกกรณี

   น.ส.จรีย์ ศรีสวัสดิ์ ฝ่ายส่งเสริมภาคีเครือข่าย มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า
   ข่าวความรุนแรงในครอบครัว มีปัจจัยกระตุ้นจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ร้อยละ 29.13
   ประเภทข่าวความรุนแรงในครอบครัวแบ่งออกเป็น 6 ประเภท ได้แก่
        1.ฆ่ากันร้อยละ 59.16,
        2.ฆ่าตัวตายร้อยละ 24.02,
        3.ทำร้ายกันร้อยละ 8.71,
        4.ความรุนแรงอื่นๆ 3.10,
        5.ตั้งครรภ์ไม่พร้อมร้อยละ 2.7 และ
        6.ล่วงละเมิดทางเพศร้อยละ 2.4




เผยแพร่เมื่อ 4 ธ.ค. 2012 โดย jeejaju


  "หากเปรียบเทียบการใช้ความรุนแรงในครอบครัว เมื่อปี 2554
     เราจะพบข่าวการฆ่ากัน ร้อยละ 49.70 ขณะที่ปี 2555 พุ่งสูงถึงร้อยละ 59.16
     และหากจำแนกประเภทตามความสัมพันธ์ของผู้กระทำและผู้ถูกกระทำ คือ ระหว่างสามีภรรยาร้อยละ 64.97
     รองลงมา คือคู่รักแบบแฟนร้อยละ 15.74     
    สำหรับจังหวัดที่มีการก่อเหตุฆ่ากันของสามีภรรยา พบว่า เกิดเหตุที่กรุงเทพฯ มากที่สุด
    จังหวัดรองลงมาคือ สมุทรปราการ นครปฐม ปทุมธานี และชลบุรี
    การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยหลักในการกระตุ้นให้มีการก่อเหตุมากที่สุด"
น.ส.จรีย์กล่าว


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1365655357&grpid=00&catid=&subcatid=
วันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 11:40:34 น.
http://www.trekkingthai.com/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ