ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อรหันต์ ๘ ทิศ มรรค ๘ องค์ สัมพันธ์กันอย่างไร.?  (อ่าน 8800 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28938
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


อรหันต์ ๘ ทิศ มีความเป็นมาอย่างไร.?

    คงต้องเริ่มด้วย "คำนมัสการบูชาพระอรหันต์แปดทิศ" เรียกอีกอย่างว่า พุทธมงคลคาถา
    นอกจากพระคาถาชินบัญชรอันลือชื่อของท่านแล้ว พุทธมังคลคาถาถือเป็นอีกหนึ่งบทคาถาของท่านสมเด็จพระพุฒาจารย์โต  ที่ถือว่ามีอิทธิฤทธิ์ด้านลาภผลและมงคลทั้งปวง เพราะคำว่าพุทธมังคลคาถานี้ คือการนมัสการบูชาพระอรหันต์แปดทิศ ซึ่งล้วนแต่เป็นพระมหาเถระที่ยิ่งใหญ่ทั้งสิ้น

    คำบาลี
    สัมพุทโธ ทิปะทัง เสฏโฐ
    นิสินโน เจวะ มัชฌิเม
    โกณฑัญโญ ปุพพะภาเค จะ
    อาคเณยเย จะ กัสสะโป
    สารีปุตโต จะ ทักขิเณ
    หะระติเย อุปาลิ จะ
    ปัจฉิเมปิ จะ อานันโท
    พายัพเพ จะ ควัมปะติ
    โมคคัลลาโน จะ อุตตะเร
    อีสาเนปิ จะ ราหุโล
    อิเม โข มังคะลา พุทธา
    สัพเพ อิธะ ปะติฏฐิตา
    วันทิตา เต จะ อัมเหหิ
    สักกาเรหิ จะ ปูชิตา
    เอเตสัง อานุภาเวนะ
    สัพพะโสตถี ภะวันตุโน

    อิจเจวะมัจจันตะนะมัสสะเนยยัง
    นะมัสสะมาโน ระตะนัตตะยังยัง
    ปุญญาภิสันทัง วิปุลัง อะลัตถัง
    ตัสสานุภาเวนะ หะตันตะราโย


    คำแปล
    สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ประเสริฐกว่าสัตว์สองเท้า ทรงประทับนั่งอยู่ท่ามกลาง มี
    ท่านอัญญาโกญฑัญญะ อยู่ทางทิศบูรพา (ตะวันออก)
    ท่านพระมหากัสสปะ อยู่ทางทิศอาคเนย์ (ตะวันออกเฉียงใต้)
    ท่านพระสารีบุตร อยู่ทางทิศทักษิณ (ใต้)
    ท่านพระอุบาลี อยู่ทางทิศหรดี (ตะวันตกเฉียงใต้)
    ท่านพระอานนท์ อยู่ทางทิศปัจฉิม (ตะวันตก)
    ท่านพระภควัมปติ อยู่ทางทิศพายัพ (ตะวันตกเฉียงเหนือ)
    ท่านพระโมคคัลลานะ อยู่ทางทิศอุดร (เหนือ)
    ท่านพระราหุล อยู่ทางทิศอิสาณ (ตะวันออกเฉียงเหนือ)

    ด้วยสรรพมงคลอันพระอริยเจ้าทั้งหลายผู้ประดิษฐานอยู่ ณ ทิศทั้งหลายเหล่านี้ ที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้ทำการกราบไหว้สักการบูชาซึ่งท่านผู้ประเสริฐทั้งหลายเหล่านั้น ขอความสวัสดีจงมีแก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย
    ข้าพเจ้าขอนอบน้อมนมัสการซึ่งพระรัตนตรัย และด้วยการนมัสการพระอริยสาวกเจ้าทั้งหลายนี้
    ข้าพเจ้าได้รับแล้วซึ่งความหลั่งไหลของบุญอย่างไพบูลย์ (บุญอันเกิดจากการระลึกถึงพระอรหันต์ทั้งแปดทิศ) ด้วยอานุภาพแห่งพระรัตนตรัยนั้น ขออันตรายทั้งหลายจงถึงความพินาศสิ้นไปเทอญ

   
    คำนมัสการบูชาพระอรหันต์แปดทิศนี้ สมเด็จโตแต่งขึ้นเอง หรือดัดแปลงมาจากไหน.?
    หากพิจารณาคาถาชินบัญชร ซึ่งสมเด็จโตท่านดัดแปลงมาจาก ชินบัญชร ภาษาสิงหล แล้ว
    รายนามของพระอรหันต์ทั้งแปดทิศ ล้วนอยู่ในคาถาชินบัญชรทั้งสิ้น (พระควัมปติ คือ พระสีวลี)
    ถามว่า คาถาชินบัญชร ฉบับสมเด็จโต กับคำนมัสการบูชาพระอรหันต์แปดทิศ คาถาไหนถูกแต่งขึ้นก่อน.?
    คำถามต่อมา เหตุใดจึงกำหนดให้อรหันต์แต่ละองค์อยู่ทิศนั้นๆ มีเหตุผลอะไร.?
    ปัญหานี้ ผมละมึนตึ้บ.!!??


    พระพุทธเจ้าตรัสเรื่องทิศไว้บ้างไหม.?
    พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๑  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๓ ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค กล่าวไว้ว่า
    [๑๙๘] ดูกรคฤหบดีบุตร ก็อริยสาวกเป็นผู้ปกปิดทิศทั้ง ๖ อย่างไร
              ท่านพึงทราบทิศ ๖ เหล่านี้ คือ พึงทราบ
              มารดาบิดาว่า เป็นทิศเบื้องหน้า
              อาจารย์ เป็นทิศเบื้องขวา
              บุตรและภรรยา เป็นทิศเบื้องหลัง
              มิตรและอำมาตย์ เป็นทิศเบื้องซ้าย
              ทาสและกรรมกร เป็นทิศเบื้องต่ำ
              สมณพราหมณ์ เป็นทิศเบื้องบน ฯ

   
    สรุปก็คือ พระพุทธองค์ให้พระอรหันต์อยู่ทิศเบื้องบนทั้งหมด


    โปรดติดตามตอนต่อไป

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 19, 2013, 11:37:55 am โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28938
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: อรหันต์ ๘ ทิศ มรรค ๘ องค์ สัมพันธ์กันอย่างไร.?
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 20, 2013, 12:38:27 pm »
0

พระพุทธเจ้าผินพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออก ในวันเพ็ญเดือน ๖ วันตรัสรู้
เราลองกำหนดให้อรหันต์ทั้งแปดองค์ รวมทั้งพระพุทธเจ้า หันหน้าไปทางทิศตะวันออก จะได้ตำแหน่งดังนี้

     เบื้องหน้าพระพุทธเจ้าจะเป็นทิศตะวันออก คือ  พระอัญญาโกญฑัญญะ
    เบื้องขวาพระพุทธเจ้าจะเป็นทิศใต้           คือ  พระสารีบุตร อัครสาวกเบื้องขวา
     เบื้องซ้ายพระพุทธเจ้าจะเป็นทิศเหนือ       คือ  พระโมคคัลลานะ อัครสาวกเบื้องซ้าย

     เบื้องหลังพระพุทธเจ้าจะเป็นทิศตะวันตก   คือ  พระอานนท์

ด้วยการกำหนดแบบนี้จะได้ตำแหน่งของอัครสาวกซ้ายขวาที่ลงตัวพอดี ต่อไปลองไล่ตามเข็มนาฬิกา หรือ ตามพุทธมงคลคาถา ตำหน่งของอรหันต์ที่เหลืออีก ๔ องค์ ก็จะถูกต้องตามทิศที่กำหนดไว้พอดี เช่น
     ระหว่างพระอัญญาโกญฑัญญะ กับ พระสารีบุตร คือ ทิศตะวันออกเฉียงใต้ จะเป็นพระมหากัสสปะ
     ระหว่างพระอัญญาโกญฑัญญะ กับ พระโมคคัลลานะ คือ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จะเป็นพระราหุล


ลำดับของพระอรหันต์ที่เรียงไว้(๑-๘) จะให้ความสำคัญอย่างไร
     พระอัญญาโกญฑัญญะเป็นองค์ที่ ๑. เพราะเป็นอริยสาวกองค์แรก
     พระมหากัสสปะเป็นองค์ที่ ๒. เพราะเป็นประธานปฐมสังคายนา และสนิทกับพระพุทธเจ้ามาก ถึงขั้นทรงแลกเปลี่ยนผ้าสังฆาฏิกับท่าน
     พระสารีบุตรเป็นองค์ที่ ๓. เพราะเป็นอัครสาวกเบื้องขวา จำเป็นต้องอยู่เบื้องขวาของพระพุทธองค์
     พระอุบาลีเป็นองค์ที่ ๔. เพราะเป็นเอตทัคคะในทางผู้ทรงพระวินัย เป็นกำลังสำคัญในปฐมสังคายนา
     พระอานนท์เป็นองค์ที่ ๕. เพราะเป็นพุทธอุปัฏฐาก ต้องคอยรับใช้พระพุทธเจ้า ตำแหน่งนี้อยู้เบื้องหลังพระพุทธองค์ อีกทั้งเป็นกำลังสำคัญในปฐมสังคายนา
     พระควัมปติเป็นองค์ที่ ๖. ตำแหน่งนี้อรรถกถาจารย์มีมติที่ต่างกัน เพราะชื่อควัมปตินั้น เป็นเพียงอสีติสาวกที่ไม่ใช่เอตทัคคะ แต่อรหันต์อีกเจ็ดองค์ล้วนเป็นเอตทัคคะทั้งสิ้น
     ดังนั้นบางท่านเห็นว่าน่าเป็นพระสีวลี บางท่านว่าเป็นพระมหากัจจายนะ ซึ่่งทั้งสองท่านเป็นเอตทัคคะ
     หากกำหนดให้เป็นพระสีวลี อาจเป็นเพราะท่านเป็นเอตทัคคะในทางผู้มีลาภมาก ไปไหนมาไหนจะไม่อดอยาก
     หากกำหนดให้เป็นพระมหากัจจายนะ อาจเป็นเพราะท่านเป็นเอตทัคคะในทางผู้อธิบายความย่อให้พิสดาร
คนที่จะอธิบายข้อธรรมของพระพุทธเจ้าได้ชัดเจน นอกจากพระสารีบุตรแล้ว ก็เห็นแต่เพียงพระมหากัจจายนะเท่านั้น
     พระโมคคัลลานะเป็นองค์ที่ ๗. เพราะเป็นอัครสาวกเบื้องซ้าย จำเป็นต้องอยู่เบื้องซ้ายของพระพุทธองค์
     พระราหุลเป็นองค์ที่ ๘. เพราะเป็นเอตทัคคะในทางผู้ใคร่ในการศึกษา การที่จะรักษาธรรมวินัยให้ยืนยาวได้ต้องอาศัยการศึกษาอบรมจากคนรุ่นหลัง
    เป็นที่น่าสังเกตว่า ในบรรดาแปดอรหันต์ พระอัญญาโกญฑัญญะมีอาวุโสมากที่สุด พระราหุลมีอาวุโสน้อยที่สุด และทั้งสองถูกกำหนดให้นั่งติดกัน


     เพื่อนๆมีความเห็นเป็นอย่างไร ช่วยแถลงหน่อยครับ
     
     โปรดติดตามตอนต่อไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 23, 2013, 06:49:43 pm โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28938
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: อรหันต์ ๘ ทิศ มรรค ๘ องค์ สัมพันธ์กันอย่างไร.?
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2013, 10:47:26 am »
0



อรหันต์ ๘ องค์ แบ่งได้เป็น ๔ กลุ่ม

   ๑. หมุนธรรมจักร คือ พระอัญญาโกณฑัญญะ หากไม่มีท่าน พระพุทธเจ้าจะหมุนธรรมจักรไม่ได้ เนื่องจากท่านได้สร้างบารมีมาเพื่อเป็นผู้รู้ธรรมคนแรก อีกทั้งยังเป็นหัวหน้าปัญจวัคคีย์ อรหันตสาวก ๕ องค์แรก
   ๒. อัครสาวก คือ คู่อัครสาวกขวาและซ้าย  พระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ พระพุทธเจ้าจะขาดอัครสาวกไม่ได้
   ๓. ปฐมสังคายนา ประกอบด้วย พระมหากัสสปะ พระอานนท์ และพระอุบาลี สัทธรรมของพระพุทธเจ้าจะดำรงอยู่ครบห้าพันปีได้จำเป็นต้องมี "ธรรมวินัยที่ถูกต้อง" เอาไว้ตรวจสอบ
   ๔. สนับสนุน คือ พระสีวลี และพระราหุล การสืบทอดพุทธศาสนาจำเป็นต้องอาศัยปัจจัยสี่ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค ปัจจัยสี่นี้ พระสีวลี เอตทัคคะในทางผู้มีลาภมาก จะช่วยได้เป็นอย่างดี จะเห็นว่า เกือบทุกวัดในประเทศไทยจะมีรูปหล่อพระสีวลี
       ส่วนพระราหุลนั้น ท่านเป็นองค์ต้นกำเนิดกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ซึ่่งสอนกรรมฐานทุกกอง อย่างมีระบบและมีขั้นตอนเป็นลำดับๆไป จะเห็นว่าในกรรมฐานสายอื่นๆจะสอนกรรมฐานไม่ครบทั้งหมด การที่สอนกรรมฐานเพียงบางกองหรือบางส่วน อาจทำให้ธรรมวินัยเลือนหายไปบางส่วน การสอนกรรมฐานทั้งหมดเป็นการยืดอายุไม่ให้ธรรมวินัยสูญหายไปก่อนเวลาอันควร
       การที่พระราหุลเป็นเอตทัคคะในทางผู้ใคร่ในการศึกษา เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า ท่านชอบศึกษาทุกเรื่อง   
       คำว่า"ศึกษา"นั้น ในบาลีใช้คำว่า"สิกขา" อย่างน้อยก็ขอให้คิดว่า ไตรสิกขา(ศีลสมาธิปัญญา)นั้น
       ท่านศึกษามาอย่างดี สามารถที่จะให้ข้อธรรมที่ถูกต้องได้


หมายเหตุุ เหตุที่เลือกพระสีวลี ไม่เลือกพระควัมปติหรือพระมหากัจจายานะนั้น เพราะในคาถาชินบัญชรไม่ได้กล่าวถึงสองท่านนี้ แต่กล่าวถึงพระสีวลี


       โปรดติดตามตอนต่อไป
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

Jiraiya

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 115
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: อรหันต์ ๘ ทิศ มรรค ๘ องค์ สัมพันธ์กันอย่างไร.?
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2013, 06:11:44 pm »
0
 st11 st12

  ติตตามอ่านมาหลายวันแล้วครับ ขอบคุณที่มาแจกความรู้ อย่างต่อเนื่องด้วยครับ

  st12
บันทึกการเข้า
ซาบซึ้ง ถึงใจ ภาวนาเข้มข้น ไม่หวลคืนกลับ ดับแล้ว ดับจริง

kosol

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 65
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: อรหันต์ ๘ ทิศ มรรค ๘ องค์ สัมพันธ์กันอย่างไร.?
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 22, 2013, 10:11:59 am »
0
ติดตามอยู่ครับ

 thk56 st11 st12
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28938
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: อรหันต์ ๘ ทิศ มรรค ๘ องค์ สัมพันธ์กันอย่างไร.?
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤษภาคม 22, 2013, 11:45:26 am »
0

โบราณสถานพระเชตวัน มหาวิหาร นครสาวัตถี รัฐอุตรประเทศ

ขอนำบุญมาฝากสมาชิก CDC ทุกคน  ขอให้มั่งคั่งเหมือนอนาถบิณฑิกเศรษฐี ที่นอกจากจะร่ำรวย ยังได้รับการยกย่องเป็นเอตทัคคะในฝ่ายผู้เป็นทายก และบรรลุโสดาบัน  โดยเมื่อวันที่ 3-15 กุมภาพันธ์ 2555 ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสไปจาริกแสวงบุญ 4 สังเวชนียสถาน ประเทศอินเดียมา ขอแบ่งปันประสบการณ์บางส่วนที่ประทับใจ  นั่นก็คือ ประวัติของวัดพระเชตวัน ผืนดินที่แทบทุกตารางนิ้วเคยมีพระอริยสาวกสัมผัสมาก่อน
 
เดิมวัดเชตวันเป็นพระราชอุทยานสำหรับเสด็จประพาสของเจ้าเชต เจ้าชายในราชวงศ์โกศลแห่งเมืองสาวัตถี เป็นพระราชอุทยานร่มรื่นนอกตัวเมืองหลวง มีเนื้อที่ 80 ไร่ (32 เอเคอร์)  ซึ่งอนาถบิณฑิกเศรษฐีขอซื้อเพื่อสร้างวัดถวายพระพุทธเจ้า  เจ้าเชตกำหนดราคาขายโดยให้นำแผ่นทองคำมาปูเต็มพื้นที่ ๆ ต้องการซื้อ สุดท้ายเหลือพื้นที่ทางเข้าที่นำเหรียญทองมาปูไม่ทัน แต่เจ้าเชตก็ซาบซึ้งในความศรัทธาของอนาถบิณฑิกะจึงยอมยกพื้นที่ทางเข้าให้ด้วย แต่มีข้อแม้ว่า ต้องใช้ชื่อท่านเป็นชื่อวัด  รวมราคาพื้นที่นี้แพงมหาศาลถึง 18 โกฏิ นอกจากนั้นอนาถบิณฑกเศรษฐีได้สร้างถาวรวัตถุต่าง ๆ ให้ด้วย ทำให้การสร้างวัดแห่งนี้มีราคาถึง 54 โกฏิ
 
วัดนี้เป็นศูนย์กลางเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่สำคัญที่สุดในครั้งพุทธกาล  สถานที่ที่พระพุทธองค์ประทับนานถึง ๑๙ พรรษา  ประกอบด้วย

 


มูลคันธกุฎี
สถานที่ประทับของพระพุทธองค์ ทรงแสดงธรรมโปรดหมู่เทวดาและมนุษย์ ณ ที่แห่งนี้ พระราชาปเสนทิโกศล อนาถบิณฑิกเศรษฐี และเทวดาผู้มีศักดิ์ใหญ่ มาเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าที่มูลคันธกุฎี ความมีในพระสูตรมากมาย

 


หมู่กุฏิพระอริยสาวก
มีพระสาวกองค์สำคัญมาสนองงาน ในภาพเป็นกุฏิพระสารีบุตร โดยรอบจะมีกุฏิพระอรหันต์อีกเช่น พระสีวลีเถระ พระมหากัสสปะสังฆวุฒาจารย์ องคุลีมาล พระโมคคัลลานะ พระอุบาลี พระอานนท์ เป็นต้น

 


อานันทโพธิ
ต้นไม้มงคลในเชตวัน พระโมคคัลลานะนำเมล็ดจากพุทธคยาโดยทางอากาศ  ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีผู้ปลูกตามพุทธประสงค์ ด้วยความดำริของพระอานนท์ องค์สมเด็จพระทศพลเสด็จมาเจริญภาวนาตลอดราตรี

 


วิหารธรรมสภา
ที่ชุมนุมฟังธรรม ชนจากทิศทั้ง ๔ มาเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงธรรมโปรดเวไนยนิกร เป็นสถานที่กำเนิดคำสอนจากพระสูตร คาถาธรรมบทจำนวนมาก นางปฏาจาราวิสาขามหาอุบาสิกา มาฟังธรรมที่นี่ด้วย

 


เจดีย์พระอรหันต์แปดทิศ
พระพุทธเจ้าทรงมอบภาระการเผยแผ่ให้หมู่พระอรหันต์เจ้า กระจายออกไปประกาศพุทธธรรม อุปสมบทกุลบุตรผู้ศรัทธา ตามเสด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าในบางคราว ครั้งสำคัญมีขึ้นจะกลับมาที่เชตวันเพื่อรับพระโอวาทและแสดงธรรม อันเป็นที่ตั้งแห่งความสําเร็จแก่บรรดามหาสาวกทั้งหลาย

 


ที่บรรลุธรรมของชนทุกหมู่เหล่า
พระเชตวันมหาวิหาร รมณียสถานอันร่มรื่นเป็นที่แสวงหาโมกข์ธรรมมาแต่โบราณ มีผู้ดวงตาเห็นธรรมยกระดับจากปุถุชนเป็นอริยชนจำนวนมาก คำสอนสำคัญๆแสดงที่นี่ ทุกวันนี้จึงมีสาธุชนผู้ใฝ่ธรรมไปศึกษาปฏิบัติมิได้ขาด

 
ที่มา: เวบไซต์วัดไทยเชตวัน มหาวิหาร
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก www.chaloke.com/content/มาฆะบูชา



รูป Orbs ที่ถ่ายได้ชัดเจนที่อินเดีย


ภาพ Orb ดวงหนึ่ง เมื่อขยายใหญ่ขึ้น


พระพุทธปรินิพพาน


Orbs มากมายที่พุทธคยา

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก www.chaloke.com/content/มาฆะบูชา

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 22, 2013, 12:04:56 pm โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28938
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: อรหันต์ ๘ ทิศ มรรค ๘ องค์ สัมพันธ์กันอย่างไร.?
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤษภาคม 22, 2013, 11:59:57 am »
0

แดนแห่งพระอรหันต์

     บริเวณวัดเชตวันมหาวิหารจากถนนหลวง จะมีรั้วเหล็กเชื่อมกับประตูเข้า เมื่อจ่ายค่าธรรมเนียมเข้าชม ๕ US $ อีกด้วย จากนั้นค่อยเดินอย่างช้า ๆ ก็จะถึงพระเจดีย์อรหันต์ ๘ ทิศ กุฎีพระมหากัสสปะ กุฎีพระสิวลี กุฎีพระโมคคัลลานะ กุฎีพระองคุลีมาล กุฎีพระอานนท์ กุฎีพระสารีบุตร

     สถูปพระโมคคัลลานะและพระสารีบุตร ซึ่งเหลืออยู่แต่ฐาน ไม่มีสิ่งใดที่ทำให้เกิดความรู้สึกอย่างอื่นยิ่งไปกว่าความสังเวชสลดใจ เห็นซากแห่งความพินาศแล้วทำให้เราเห็นธรรมมากขึ้นทุกทีว่า ร่างกายของเราก็คงแตกสลายไปจากโลกนี้ แม้แต่พระอรหันต์ก็ยังไม่สามารถหนีความตายไปได้ นับประสาอะไรกับตัวเรา ซึ่งมีชีวิตก็เหมือนกับหยดน้ำหยดหนึ่งปรากฏขึ้นในโลก เมื่อเรารู้สภาพความเป็นจริงเช่นนี้ ทุกคนควรวางรากฐานในชีวิตให้เหมือนกับฐานของสถูปพระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร ซึ่งแม้ส่วนอื่น ๆ จะพังไปหมดแล้ว ฐานก็ยังคงเหลืออยู่เป็นอนุสรณ์ชั่วกาลนาน

     ในบริเวณพระอารามเชตวัน นอกจากจะมีร่มไม้ใบบังที่ร่มรื่น ยังเป็นที่อาศัยของสัตว์นานาชนิด เช่น ลิงหน้าขาว ตัวสีเทา หางยาว เหมือนกับว่าสวมหมวกไว้บนหัว บ้างกระโดดไป กระโดดมา บ้างนั่งอยู่ตามซากโบราณสถาน ตามประสาสัตว์ เห็นพวกเราเดินผ่านมา ลิงพวกนี้จะนั่งเฉย ไม่สนใจอะไร คนต่างหากที่กลับไปสนใจลิงว่า พวกนี้มาทำอะไรอยู่ที่นี่



    จากที่ประชุมสงฆ์ หรือที่เรียกกันว่า สังฆสภา ผ่านเจดีย์ทั้ง ๘ กระทั่งถึงกุฎีพระมหากัสสปะ พระอรหันต์ผู้เลิศด้วยปฏิปทาทางธุดงค์ และที่ข้าง ๆ กันนั้นเป็นกุฏิใหญ่นั่นเรียกกันว่า กุฎีพระสีวลี ผู้อุดมด้วยโชคลาภวาสนา ในที่ไม่ไกลนักก็ถึงสถูปอันเป็นที่เคยอาศัยของพระองคุลิมาลกับพระอานนท์ และสถูปทรงกลมเป็นที่ที่พระโมคคัลลานะเคยจำพรรษาอยู่ กับที่ไม่ห่างกันก็เป็นสถูปอันเป็นที่พำนักของพระอัครสาวกเบื้องขวาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ พระสารีบุตร
     มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมกุฏิพระสีวลี พระสารีบุตร กับพระบรมศาสดา จึงมีขนาดที่พอ ๆ กัน
     มีผู้แก้ว่า การบริหารงานจะสำเร็จได้ก็ต้องอาศัยส่วน ๓ เป็นกำลัง คือ
         - กำลังทรัพย์ ได้แก่ พระสีวลี
         - กำลังสติปัญญา ได้แก่ พระสารีบุตร
         - กำลังบริหาร ได้แก่ พระบรมศาสดา


     ตำนานกล่าวถึงพระสีวลีว่า พระมหาสาวกองค์หนึ่ง เป็นพระโอรสของพระนางสุปปวาสา ซึ่งเป็นพระราชธิดาของพระเจ้ากรุงโกลิยะ ปรากฏว่าตั้งแต่ท่านปฏิสนธิในครรภ์ เกิดลาภสักการะแก่พระมารดาเป็นอันมาก ตามตำนานว่าอยู่ในครรภ์มารดาถึง ๗ ปี พระมารดาเจ็บพระครรภ์ถึง ๗ วัน ครั้นประสูติแล้วก็ทำกิจการต่าง ๆ ได้ทันที
     ต่อมาท่านบวชในสำนักของพระสารีบุตร ในวันที่บวช พอมีดโกนตัดกลุ่มผมครั้งที่ ๑ ได้บรรลุโสดาปัตติผล
     ครั้งที่ ๒ ได้บรรลุสกทาคามิผล ครั้งที่ ๓ ได้บรรลุอนาคามิผล พอปลงผมเสร็จก็ได้สำเร็จพระอรหัตตผล
     ท่านสมบูรณ์ด้วยปัจจัยลาภ และทำให้ลาภเกิดแก่ภิกษุสงฆ์เป็นอันมาก ได้รับยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะในทางมีลาภมาก


ที่มา http://www.watthaichetavan.org/index.php?lay=show&ac=article&Id=538706834&Ntype=1
ขอบคุณภาพจาก http://www.dhamma5minutes.com/




    ฟังประวัติของพระอรหันต์แปดทิศ ซึ่งประกอบด้วย กุฏิพระสารีบุตร พระสีวลี พระมหากัสสปะ องคุลีมาล พระโมคคัลลานะ พระอุบาลี พระอานนท์ และพระราหุล



ประวัติพระอรหันต์แปดทิศ โพสต์โดย Kdhamma Dhamma


ขอบคุณภาพและคลิปจาก
http://www.dhamma5minutes.com/webboard.php?id=261&wpid=0041
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 23, 2013, 08:38:23 am โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28938
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: อรหันต์ ๘ ทิศ มรรค ๘ องค์ สัมพันธ์กันอย่างไร.?
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พฤษภาคม 23, 2013, 09:35:49 am »
0
เจดีย์พระอรหันต์ 8 ทิศ


ตำนานอรหันต์แปดทิศนั้น เท่าที่ค้นได้ไม่ชัดเจนว่า มีกำเนิดจากแหล่งใด แต่ที่วัดเชตวันมหาวิหาร หรือ วัดพระเชตวัน อารามของบิณฑิกเศรษฐี ปรากฏมีเจดีย์พระอรหันต์แปดทิศ พร้อมทั้งมีกุฏิอรหันต์บางส่วนอยู่ด้วย เจดียนี้สร้างด้วยจุดประสงค์ใด ใครเป็นผู้สร้าง ถึงวันนี้ยังไม่มีหลักฐานปรากฏ เท็จจริงเป็นอย่างไรไม่อาจทราบได้ เพราะในพระไตรปิฎกไม่ได้บันทึกไว้

     ผมเองไม่เคยไปวัดเชตวัน เพื่อนๆท่านใดมีโอกาสไปมา เล่าให้ฟังบ้าง เท่าที่ค้นหาในเว็บไซต์ต่างๆ
     ในเว็บ http://www.dhammahansa.com/buddhist%20holy%20places.php
     มีภาพถ่ายซากกุฏิของอรหันต์บางส่วน ให้ชมด้วย แต่ไม่มีการยืนยันว่า อรหันต์ทั้งแปดเป็นใครบ้าง
     ซากกุฏิที่มี ระบุว่าเป็นของ พระสารีบุตร พระโมคคัลลานะ พระมหากัสสปะ พระอานนท์ พระอุบาลี
     พระสีวลี พระราหุล พระองคุลีมาล แต่ไม่มีกุฏิของพระอัญญาโกณฑัญญะ
     อีกทั้งไม่มีกุฏิของพระควัมปติ และพระมหากัจจายานะ

     ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า แท้จริงแล้วอรหันต์แปดทิศเป็นใครกันแน่ ประเด็นที่น่าสงสัยคือ
       - เหตุใดไม่มีกุฏิพระอัญญาโกณฑัญญะ
       - เหตุใดไม่มีกุฏิพระควัมปติ หรือ พระควัมปติ คือ พระสีวลี



กุฎิพระสีวลี

   
     ถึงตรงนี้ขออธิบายเพิ่มเติมว่า อสีติสาวกของพระพุทธเจ้ามี ๘๐ องค์ (พระสาวกผู้ใหญ่ ๘๐ องค์)
     แบ่งเป็นเอตทัคคะ ๔๑ องค์ ที่เหลืออีก ๓๙ องค์ไม่ใช่เอตทัคคะ
     ตัวอย่างเช่น พระควัมปติ ซึ่งเป็นเพื่อนของพระยสกุลบตร เป็นอสีติสาวกธรรมดาไม่ใช่เอตทัคคะ
     พระองคุลีมาลก็เช่นกัน หากถามว่า พระควัมปติมีบทบาทที่สำคัญหรือไม่
     ตอบว่า มี และปรากฏในพระไตรปิฏกด้วย ดังนี้


     ๘. ควัมปติเถรคาถา
     สุภาษิตเกี่ยวกับการพ้นกิเลส
    [๑๗๕]    เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย พากันนอบน้อมพระควัมปติ ผู้ห้ามแม่น้ำสรภูให้หยุดไหลได้ด้วยฤทธิ์
     ไม่ติดอยู่ในกิเลสและตัณหาไรๆ ไม่หวั่นไหวต่อสิ่งอะไรทั้งสิ้น
     เป็นผู้ผ่านพ้นเครื่องข้องทั้งปวง เป็นมหามุนี ผู้ถึงฝั่งแห่งภพ.

     
     ในอรรถกถาอธิบายไว้ว่า พระพุทธเจ้าได้ตรัสสั่งให้ พระควัมปติใช้ฤทธิ์สะกดกระแสน้ำเอาไว้
     เพราะมีภิกษุเป็นอันมากนอนที่เนินทราย ริมแม่น้ำสรภู

    การที่วัดเชตวันฯที่อินเดีย ปรากฏซากเจดีย์อรหันต์แปดทิศ และมีซากกุฏีพระสีวลีอยู่ด้วย
     ทำให้มีน้ำหนักที่พอสรุปได้ว่า ในบรรดาอรหันต์แปดทิศนั้น น่าจะมีพระสีวลีรวมอยู่ด้วย


     โปรดติดตามตอนต่อไป

      :25: :25: :25:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 23, 2013, 09:38:11 am โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

saichol

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 247
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: อรหันต์ ๘ ทิศ มรรค ๘ องค์ สัมพันธ์กันอย่างไร.?
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: พฤษภาคม 23, 2013, 12:32:54 pm »
0
 st11 st12
 ติดตามอยู่ นะคะ


  thk56
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28938
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: อรหันต์ ๘ ทิศ มรรค ๘ องค์ สัมพันธ์กันอย่างไร.?
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: พฤษภาคม 27, 2013, 11:18:19 am »
0
ans1 ans1 ans1

คำแปล พระคาถาชินบัญชร
    พระอนุรุทธะอยู่ที่ใจ
    พระสารีบุตรอยู่เบื้องขวา
    พระโมคคัลลาน์อยู่เบื้องซ้าย
    พระอัญญาโกณฑัญญะอยู่เบื้องหลัง
    พระอานนท์กับพระราหุลอยู่หูขวา
    พระกัสสะปะกับพระมหานามะอยู่หูซ้าย     
   
    มุนีผู้ประเสริฐ คือ พระโสภิตะผู้สมบูรณ์ด้วยสิริ ดังพระอาทิตย์ส่องแสงอยู่ที่ทุกเส้นขน ตลอดร่างทั้งข้างหน้าและข้างหลัง
    พระเถระกุมาระกัสสะปะผู้แสวงบุญทรงคุณอันวิเศษ มีวาทะอันวิจิตรไพเราะอยู่ปากเป็นประจำ
    พระปุณณะ พระอังคุลิมาล พระอุบาลี พระนันทะ และพระสีวะลี พระเถระทั้ง 5 นี้ จงปรากฏเกิดเป็นกระแจะจุณเจิมที่หน้าผาก
    ส่วนพระอสีติมหาเถระที่เหลือ ผู้มีชัยและเป็นพระโอรสเป็นพระสาวกของพระพุทธเจ้าผู้ทรงชัย แต่ละองค์ล้วนรุ่งเรืองไพโรจน์ด้วยเดชแห่งศีลให้ดำรงอยู่ทั่วอวัยวะน้อยใหญ่
       
    พระรัตนสูตรอยู่เบื้องหน้า
    พระเมตตาสูตรอยู่เบื้องขวา
    พระอังคุลิมาลปริตรอยู่เบื้องซ้าย
    พระธชัคคะสูตรอยู่เบื้องหลัง
    พระขันธปริตร พระโมรปริตรและพระอาฏานาฏิยสูตร เป็นเครื่องกางกั้นดุจหลังคาอยู่บนนภากาศ


 ans1 ans1 ans1

    คำแปล คำนมัสการบูชาพระอรหันต์แปดทิศ
    สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ประเสริฐกว่าสัตว์สองเท้า ทรงประทับนั่งอยู่ท่ามกลาง มี
    ท่านอัญญาโกญฑัญญะ อยู่ทางทิศบูรพา (ตะวันออก)
    ท่านพระมหากัสสปะ อยู่ทางทิศอาคเนย์ (ตะวันออกเฉียงใต้)
    ท่านพระสารีบุตร อยู่ทางทิศทักษิณ (ใต้)
    ท่านพระอุบาลี อยู่ทางทิศหรดี (ตะวันตกเฉียงใต้)
    ท่านพระอานนท์ อยู่ทางทิศปัจฉิม (ตะวันตก)
    ท่านพระภควัมปติ อยู่ทางทิศพายัพ (ตะวันตกเฉียงเหนือ)
    ท่านพระโมคคัลลานะ อยู่ทางทิศอุดร (เหนือ)
    ท่านพระราหุล อยู่ทางทิศอิสาณ (ตะวันออกเฉียงเหนือ)


 ans1 ans1 ans1

มรรคมีองค์ 8 หรือ อัฏฐังคิกมรรค (เรียกเต็มว่า อริยอัฏฐังคิกมรรค แปลว่า “ทางมีองค์ 8 ประการ อันประเสริฐ”); องค์ 8 ของมรรค (มัคคังค) มีดังนี้
       1. สัมมาทิฏฐิ (เห็นชอบ ได้แก่ ความรู้อริยสัจจ์ 4 หรือ เห็นไตรลักษณ์ หรือ รู้อกุศลและอกุศลมูลกับกุศลและกุศลมูล หรือเห็นปฏิจจสมุปบาท)
       2. สัมมาสังกัปปะ (ดำริชอบ ได้แก่ เนกขัมมสังกัป อพยาบาทสังกัป อวิหิงสาสังกัป)
       3. สัมมาวาจา (เจรจาชอบ ได้แก่ วจีสุจริต 4)
       4. สัมมากัมมันตะ (กระทำชอบ ได้แก่ กายสุจริต 3)
       5. สัมมาอาชีวะ (เลี้ยงชีพชอบ ได้แก่ เว้นมิจฉาชีพ ประกอบสัมมาชีพ)
       6. สัมมาวายามะ (พยายามชอบ ได้แก่ ปธาน หรือ สัมมัปปธาน 4)
       7. สัมมาสติ (ระลึกชอบ ได้แก่ สติปัฏฐาน 4)
       8. สัมมาสมาธิ (ตั้งจิตมั่นชอบ ได้แก่ ฌาน 4)


       องค์ 8 ของมรรค จัดเข้าในธรรมขันธ์
       3 ข้อต้น คือ ข้อ 3-4-5 เป็น ศีล
       ข้อ 6-7-8 เป็น สมาธิ
       ข้อ 1-2 เป็น ปัญญา

 ans1 ans1 ans1

      เปรียบเทียบระหว่างชินบัญชรกับอรหันต์แปดทิศ
      จะเห็นว่า อรหันต์แปดทิศน่าจะได้แนวคิดมาจากชินบัญชร
      ทั้งสองคาถานี้เรียบเรียงโดยสมเด็จโต และชินบัญชร(ต้นฉบับภาษาสิงหล)น่าจะมีมาก่อน
      คาถาชินบัญชร นำอสีติสาวกทั้งหมดมาร้อยเรียงเป็นคาถา
      แต่อรหันต์แปดทิศคัดเอาเอตทัคคะเพียงแปดองค์ มาสถิตย์อยู่บนทิศทั้งแปด

      อรหันต์แปดทิศเปรียบเทียบกับมรรค ๘
      ๑. อัญญาโกณฑัญญะ - สัมมาทิฏฐิ
      ๒. มหากัสสปะ - สัมมาสังกัปปะ
      ๓. สารีบุตร - สัมมาวาจา
      ๔. อุบาลี - สัมมากัมมันตะ
      ๕. อานนท์ - สัมมาอาชีวะ
      ๖. สีวลี - สัมมาวายามะ
      ๗. โมคคัลลานะ - สัมมาสติ
      ๘. ราหุล - สัมมาสมาธิ

         
 ans1 ans1 ans1

      ข้อแรก ไม่น่าจะมีปัญหา อริยสาวกผู้เห็นไตรลักษณ์เป็นองค์แรกกับมรรคข้อแรก ก็สมกันอยู่
      ข้อสอง จนปัญญาครับไม่รู้จะยกอะไรมาอธิบาย เพราะสัมมาสังกัปปะอยู่ในส่วนของปัญญา แต่ก็ขอแถมนิดหนึ่ง ประวัติของพระมหากัสสปะพิสดารมาก โดยเฉพาะตอนท่านจะนิพพาน
      ท่านอธิษฐาน ขอให้สรีระของท่านยังคงสภาพเดิมไม่สูญสลาย จนกระทั่งพระศาสนาพระศรีอริยเมตไตร ซึ่งพระองค์จะพาหมู่ภิกษุสงฆ์มายังภูเขากุกกุฏสัมปาตบรรพตแล้ว ยกสรีระของพระเถระวางบนพระหัตถ์ขวาชูขึ้นประกาศสรรเสริญคุณของพระเถระแล้ว เตโชธาตุก็จะเกิดขึ้นเผาสรีระของท่านบนฝ่าพระหัตถ์ของพระศรีอริยเมตไตรพุทธเจ้านั้น


      ข้อสาม เป็นสัมมาวาจา ข้อนี้พอกล้อมแกล้มได้ เนื่องจากพระพุทธเจ้าตรัสว่า สารีบุตรประกอบด้วยธรรม ๘ ประการ ควรไปเป็นทูตได้ เพื่อนๆครับ..เป็นทูตต้องมีวาทะศิลป์ ต้องมีวาจาสุภาษิต ธรรม ๘ ประการคือ
         เป็นผู้รับฟัง ๑
         ให้ผู้อื่นรับฟัง ๑
         เรียนดี ๑
         ทรงจำไว้ดี ๑
         รู้เอง ๑
         ให้ผู้อื่นรู้ ๑
         เป็นผู้ฉลาดต่อสิ่งที่มีประโยชน์และไม่มีปร่ะโยชน์ ๑
         ไม่ก่อการทะเลาะ ๑
     อีกอย่างก็คือ ทีเกี่ยวกับวาจา คือ การบันลือสีหนาท พระสารีบุตรได้กล่าวบันลือสีหนาท ต่อหน้าพระพุทธเจ้า เมื่อครั้งมีภิกษุรูปหนึ่งกล่าวตู่พระสารีบุตร จนภิกษุปุถุชนถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่


 ans1 ans1 ans1

     ข้อสี่ พระอุบาลีกับสัมมากัมมันตะ ข้อนี้พอถูๆไถๆ ได้บ้าง กายสุจริตเป็นเรื่องของศีลล้วนๆ พระอุบาลีเชี่ยวชาญในศีลหรือพระวินัย ๒๒๗ ข้อเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งยังเป็นเอตทัคคะในทางผู้ทรงพระวินัยอีกด้วย
     ข้อห้า อานนท์กับสัมมาอาชีวะ อาชีพของพระอานนท์ คือ อุปัฏฐากพระพุทธเจ้า จริงๆแล้ว ภิกษุไม่สามารถประกอบอาชีพได้ แต่ก็เว้นจากมิจฉาชีพ ภิกษุต้องประกอบวิปัสสนาธุระ และคันถธุระ การอุปัฏฐากพระพุทธเจ้าน่าจะจัดเป็นคันถธุระได้ (ข้อนี้บอกตรงๆว่า น้ำขุ่นๆ ครับ)


     ข้อหก สีวลีกับสัมมาวายามะ ไม่รู้จะดำน้ำไปอย่างไง มึนตึีบครับ
     ข้อเจ็ด โมคคัลลานะกับสัมมาสติ หากจะคุยกัน ก็ต้องพูดว่า สติสร้างสมาธิ สมาธิทำให้มีฤทธิ์ ก็น่าจะได้นะครับ


     ข้อแปด ราหุลกับสัมมาสมาธิ เอาสมาธิไปเป็นข้อเจ็ดเสียแล้ว ข้อแปดจะจบอย่างไงดี เพื่อนๆครับ เจโตวิมุตติ คือ การข่มกิเลสไว้ด้วยสมาธิ อรหันต์ทั่วไปแบ่งเป็นสองแระเภทใหญ่ คือ วิปัสสก และอุภโตภาค
          วิปัสสก คือ อรหันต์ที่สำเร็จด้วย ปัญญาวิมุตติ
          อุภโตภาพ คือ อรหันต์ที่สำเร็จด้วย เจโตวิมุตติ และปัญญาวิมุุติ
     พระราหุลเป็นองค์ต้นของกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ กรรมฐานมัชฌิมาฯ เป็นกรรมฐานที่สำเร็จด้วยเจโตวิมุตติ พร้อมด้วยปัญญาวิมุตติ 
     อีกอย่างพระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า "บุรุษที่ควรฝึก อันตถาคตผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธสอนให้วิ่ง ย่อมวิ่งไปได้ทั่วทั้ง ๘ ทิศ" โดยให้แต่ละทิศเปรียบเสมือน ฌาน ๘ หรือสมาบัติ ๘ (อยู่ในสฬายตนวิภังคสูตร)
     ฌาน ๘ ประกอบด้วย รูปฌาน ๔ และอรูปฌาน ๔  สัมมาสมาธิ ก็คือ รูปฌาน ๔ 
     ขอให้สังเกตว่า "๘ ทิศ" กับ "สัมมาสมาธิ" สัมพันธ์กันเนื่องมาจากฌาน ๘ นั่นเอง
     ดังนั้น อรหันต์องค์ที่ ๘ กับ ทิศทั้ง ๘ และ ฌาน ๘(สัมมาสมาธิ) เกี่่ยวข้องกันด้วยประการฉะนี้     
       

     การเปรียบเทียบครั้งนี้เป็นไปด้วยความลำบาก อาจไม่สมเหตุสมผล
     ก็ขอให้ถือว่า เป็นการคุยเป็นเพื่อน อย่างน้อยก็อยู่ในเรื่องที่เป็นกุศล
     ขอยุติกระทู้นี้ ไว้แต่เพียงเท่านี้
      :25: :25: :25:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 27, 2013, 11:20:55 am โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ