« เมื่อ: มิถุนายน 04, 2013, 11:00:59 am »
0
ตามรอยพระแก้วมรกต ไปเชียงราย : คอลัมน์ถิ่นไทยงาม
เดี๋ยวนี้การเดินทางไปไหว้พระตามวัดต่างๆ ดูจะอยู่คู่กับทัวร์ไทย รวมถึงทัวร์ชาวต่างชาติที่มาเที่ยวเมืองไทย ด้วยว่าเมืองไทยเป็นเมืองพุทธ มีวัดวาอารามเก่าแก่ สวยงาม ตามศิลปะสมัยก่อนมากมาย และมากไปกว่านั้นคือเรื่องราวที่เล่าต่อๆ กันมา ของแต่ละสถานที่
เรื่องราวของ พระแก้วมรกต หรือ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ที่ประดิษฐานอยู่ ณ วัดศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว กรุงเทพฯ ก็เป็นอีกเรื่องที่ถกกันไปจบสิ้นถึงที่มาที่ไป คงบอกยากว่าใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เพราะยุคสมัยการปกครอง ขอบเขตอาณาจักรเปลี่ยนแปลงไป แต่หนึ่งในสถานที่ ที่ค้นพบพระแก้วมรกตยุคแรกเริ่ม อยู่ที่วัดพระแก้ว อ.เมือง จ.เชียงราย เมื่อปี 1977
วัดพระแก้ว แต่เดิมชื่อวัดป่าญะ หรือป่าเยี้ยะซึ่งแปลว่าป่าไผ่ เพราะความที่วัดตั้งอยู่ในป่าไผ่นั่นเอง ว่ากันว่า เป็นวัดที่เจ้ามหาพรหมผู้ครองเมืองเชียงรายเป็นผู้อัญเชิญพระแก้วมรกตมาจากเมืองกำแพงเพชร ช่วงเวลานั้นสถานการณ์บ้านเมืองไม่สู้ดีนัก จึงได้พอกปูนทับองค์พระแก้วมรกต แล้วนำไปบรรจุไว้ในเจดีย์วัดป่าเยี้ยะ
จนปี 1977 เกิดฟ้าผ่าองค์พระเจดีย์พังทลายลง และได้พบพระแก้วมรกตซ่อนไว้ในพระเจดีย์ ในช่วงเวลานั้นเชียงรายอยู่ภายใต้การปกครองของเชียงใหม่ ในยุคสมัยของพระเจ้าสามฝั่งแกน เมื่อทราบข่าวจึงได้อัญเชิญพระแก้วมรกตไปเมืองเชียงใหม่ ชาวเมืองเชียงรายที่ทราบข่าวก็เรียกว่าป่าเยี้ยะว่า วัดพระแก้ว จนถึงปัจจุบัน

.
ส่วนองค์พระแก้วมรกต ได้มีการอัญเชิญไปประดิษฐานยังเมืองต่างๆ คือ ลำปาง เชียงใหม่ หลวงพระบาง เวียงจันทน์ กรุงธนบุรี และกรุงเทพมหานคร ส่วนองค์พระเจดีย์มีการบูรณะใหม่ และกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนองค์พระเจดีย์ เป็น โบราณสถานสำคัญของชาติ เมื่อปี พ.ศ.2478
ขณะที่วัดพระแก้วเอง ก็มีพระพุทธรูปหยก หรือพระแก้วหยก ที่คณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนชาวเชียงรายร่วมกันสร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีมีพระชนมายุครบ 90 พรรษา โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2534 เรียกว่า พระหยกเชียงราย และได้อัญเชิญมาประดิษฐาน ที่หอพระหยก ณ วัดพระแก้วนี่เอง


ทราบประวัติกันไปแล้ว การเดินทางเที่ยวชมบริเวณวัดก็มีอรรถรสมากขึ้น ทั้งบริเวณอุโบสถ ที่เป็นวิหารทรงเชียงแสน ประดิษฐานพระเจ้าล้านทอง พระพุทธรูปสำริด ปางมารวิชัย รวมถึง โฮงหลวงแสงแก้ว อาคาร 2 ชั้นทรงล้านนา ที่ตกแต่งสวยงาม โดยรอบจะมีซุ้มประดิษฐานองค์พระ ด้านในจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงพระพุทธรูปสำคัญ และศิลปะสมัยล้านนา ช่องกลางบันไดขึ้นชั้น 2 มีตุงที่ทอสวยงาม ผืนยาวแขวนอยู่
จากหน้าต่างด้านบน มองเห็นบริเวณโดยรอบวัด รวมถึงพระเจดีย์ที่อยู่หลังวิหาร หรือใครจะเดินเล่นบริเวณวัด โดยเฉพาะด้านโฮงหลวงแสงแก้ว จะสัมผัสได้ถึงความร่มเย็น เห็นความสวยงามของศิลปะสมัยเก่า เรียกว่า สบายตาและสบายใจกันทีเดียวขอบคุณภาพและบทความจาก
www.komchadluek.net/detail/20130602/159944/ตามรอยพระแก้วมรกตไปเชียงราย.html#.Ua1cENj0YXE