ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เข้าพรรษา 'ทำบุญด้วยปัญญา'  (อ่าน 2067 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
เข้าพรรษา 'ทำบุญด้วยปัญญา'
« เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2013, 11:01:20 am »
0



เข้าพรรษา'ทำบุญด้วยปัญญา'
เรื่องไตรเทพ ไกรงู ภาพ คัมภีร์ อาบสุวรรณ์

        ภาพคนไทยเข้าวัดทำบุญถวายสังฆทานในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ร่วมเทศกาลงานบุญอื่นๆ เป็นภาพที่รู้สึกอนุโมทนาชื่นชมยินดีว่า ชาวพุทธไทยยุคข้าวยากหมากแพงก็ยังไม่ทอดทิ้งบุญทานการกุศล กลับพากันทำบุญบำรุงศาสนาด้วยศรัทธาที่เหนียวแน่นมากขึ้น แต่ในทางกลับกัน "การทำบุญถวายสังฆทานส่วนใหญ่คนไทยขาดปัญญา"
 
         ด้วยความเคยชินและอาศัยความสะดวกไว้ก่อน คนจำนวนไม่น้อยจะซื้อถังสังฆทานสำเร็จรูป (ถังเหลือง) ในถังสังฆทานราคาถูกๆ เห็นของเต็มถัง แต่ที่ไหนได้มีแต่ขยะยัดใส่รองเต็มถังแล้วเอาของทำบุญจุกๆ จิกๆ อย่างละนิดละหน่อย มาปิดปากถังไว้ให้เห็นว่ามีของมากมายจนล้นปากถัง ที่เห็นวางขายกันอยู่ทั่วไป ทั้งนี้การสำรวจพบว่ากว่า ๕๐% เป็นของที่ไม่มีคุณภาพใช้งานจริงไม่ได้ เช่น ผ้าจีวรสั้นและบางจนแทบจะเป็นผ้าซีทรู ใบชาเหม็นผงซักฟอกที่วางมาข้างๆ (กลายเป็นใบชารสโอโม่)

        กระดาษชำระหยาบและมีกลิ่นเหม็น แปรงสีฟันแข็งจนพระค่อนประเทศเป็นโรคเหงือกอักเสบหรือแม้แต่ตัวภาชนะที่ใส่ คือ ถัง ก็ยังทำจากพลาสติกคุณภาพต่ำใส่อะไรได้แป๊บเดียวก็ฉีก แตก พัง ส่วนการถวายผ้าอาบน้ำฝน ปัจจุบันผ้าอาบน้ำฝนส่วนใหญ่ขนาดไม่ได้มาตรฐาน พระมักจะหาซื้อมาใช้เอง รวมทั้งผ้าไตรจีวรด้วย
   

         :welcome: :welcome: :welcome:

         พระราชวิมลโมลี (ดำรง ทิฏฺฐธมฺโม ป.ธ.๙, ศษ.ด.) รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครราชสีมา และเจ้าอาวาสวัดพายัพ พระอารามหลวง บอกว่า "สาเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นก็เพราะทั้งพระทั้งโยมต่างมีแต่ความมักง่าย ไม่ศึกษา ไม่เคารพพระวินัย ฝ่ายโยมผู้ถวายก็ทำหา ฝ่ายร้านค้าก็เห็นแก่ได้ มุ่งทำขายเอากำไรเป็นสำคัญ ฝ่ายพระผู้รับก็ไม่ประสีประสาเรื่องพระวินัย ปล่อยไปนานๆ ความผิดเพี้ยนก็จะฝังรากจนแก้ไม่ได้ การกระทำผิดๆ ก็เลยกลายเป็นถูก ใครทักท้วงคัดค้านก็กลายเป็นมารศาสนา คนขวางโลก"

       สำหรับการทำบุญด้วยปัญญานั้นก็มีอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะเรื่องการถวายหลอดไฟ แทนเทียนพรรษานั้น เป็นผลพวงมากจากพระพรหมมังคลาจารย์ หรือหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ อดีตเจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษดิ์ เมื่อครั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ ท่านถึงกับออกมาเทศน์ขอร้องให้ลดการถวายเทียนพรรษาโดยให้เปลี่ยนเป็นหลอดไฟแทน ด้วยเหตุที่ว่าคนมาถวายเทียนพรรษาจนล้นวัด ในขณะที่แสงสว่างที่พระใช้กันจริงๆ คือ แสงสว่างจากหลอดไฟฟ้า

        นอกจากนนี้แล้วปัจจุบันมีพระหลายรูปกล้าที่จะบอกญาติโยมตรงๆ ว่าซื้อของใช้ที่จำเป็นแยกใส่ถุงหูหิ้วสามารถถวายพระได้ทันทีไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรให้ยุงยากถือว่าเป็นสังฆทานได้เช่นกัน ขณะเดียวกันญาติโยมก็จะถามพระตรงๆ ว่าที่วัดขาดอะไรบ้าง ทำให้คำว่า "ตักบาตรอย่าถามพระ" เปลี่ยนเป็น "ตักบาตรต้องถามพระ"





รู้ทันสันดาพระจาก'คู่มือการทำบุญ'

         ภาพ 'ภิกษุสันดานกา' เป็นภาพของนายอนุพงษ์ จันทร ที่ได้รับรางวัลเหรียญทองจากการชนะเลิศการประกวดผลงานศิลปกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ 53 ประจำปี 2550 ประเภทจิตรกรรม ที่วาดขึ้นเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในสังคม ได้แนวคิดจากนิทานทางพุทธศาสนาเรื่องเปรตภูมิ โดยต้องการนำเสนอภาพดังกล่าวเพื่อกระตุ้นให้สังคมช่วยกันปกป้องพระพุทธศาสนาไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของผู้แสวงหาประโยชน์จากพุทธศาสนา

        "คู่มือการทำบุญ" เป็นหนังสือแนวธรรมะที่ขึ้นชื่อว่าขายดี มีทั้งพระทั้งฆราวาสเขียนออกมาขายจำนวนมาก ด้วยวัตถุประสงค์ที่ไปในทิศทางเดียวกันคือ "ฉลาดทำบุญ หรือทำบุญอย่างฉลาด รวมทั้งทำบุญด้วยปัญญา" เพราะบุญคือ สิ่งที่เกิดขึ้นในจิตใจแล้วทำให้จิตใจใสสะอาด ปราศจากความเศร้าหมองขุ่นมัว ก้าวขึ้นสู่ภูมิที่ดี เกิดขึ้นจากการที่ใจสงบ ทำให้เลือกคิดเฉพาะสิ่งที่ดี ที่ถูก ที่ควร ที่เป็นประโยชน์ แล้วพูดดี ทำดี ตามที่คิดนั้น

 
        :sign0144: :sign0144: :sign0144:
 
        “มหาฉุย” ได้สะท้อนชีวิตพระไว้ว่า ปัจจุบันวิถีชีวิตพระแทบจะถูกวิถีชาวโลกกลืนกลบจนนึกว่าชีวิตพระก็เหมือนชีวิตเรา อย่างที่โบราณเรียกว่า แค่โกนหัวเอาผ้าเหลืองมาห่อตัว ใช้ชีวิตไม่แตกต่างจากฆราวาส การสร้างภาพของพระในปัจจุบันก็จะออกไปในทางการศึกษา เผยแผ่ธรรมะ ที่ทำจริงก็มีมาก ส่วนของไม่จริงก็มีอยู่ไม่ใช่น้อย โดยจะอาศัยสื่อโทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ เพื่อประชาสัมพันธ์คุณวิเศษของตน ให้มีชื่อเสียงโด่งดัง  พระอยากเป็นฆราวาส พระสงฆ์บางองค์เลียนแบบฆราวาส แทนที่จะให้ชาวบ้านเกาะผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์ แต่กลับไปเกาะขากางเกงฆราวาสดัง โดยเฉพาะการตายของสตีฟ จ็อบส์ อดีตประธานกรรมการบริหารและอดีตประธานบริษัทแอปเปิล

        อย่างไรก็ตาม “มหาฉุย” ได้สรุปไว้ว่า “หลายวาระที่มีธุระเกี่ยวข้องกับพระ ซึ่งพระถูกยกให้เป็นสะพานบุญ เหมือนบุรุษไปรษณีย์เชื่อมต่อกับโลกหน้า พวกเราอาจจะมองข้ามไป ทั้งที่เราทุกคนก็มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนาเปี่ยมล้นหัวใจอยู่แล้ว แต่เราในฐานะพุทธศาสนิกชนที่ดี เราควรรู้จักอีกมุมหนึ่งของชีวิตพระสงฆ์ไว้บ้างก็ดี”



 ans1 ans1 ans1


พระโปรดสัตว์-โยมโปรดเปรต

        "พระกับเปรตต้องแยกกันให้ออก ก่อนที่พระจะออกบิณฑบาตก็จะบอกให้พระไปโปรดสัตว์ แต่ความจริงกลับกายเป็นว่า โยมโปรดเปรต บ้านไหน ซอยใด ใส่บาตรด้วยอาหารดีๆ เยอะๆ ถวายปัจจัยมากๆ พระก็จะมุ่งไปบ้านนั้น ซอยนั้น บิณฑบาตจนตายคาซอย พอซอยอื่นไม่ใส่ไม่ไป เป็นพระต้องโปรดให้ทั่ว อาตมาตั้งหลักไว้ว่าต้องไปซอยที่ไม่มีพระไปบิณฑบาตเลยสักรูป ทำให้ซอยที่เขาไม่เคยได้เห็นพระได้ใส่บาตรพระ ได้ทำบุญบ้าง ไม่ใช่ไปยืนออกันอยู่ตรงตลาดที่แม่ค้าขายอยู่ตรงนั้น เทวนไป เวียนมา อยู่ตรงนั้นแหละ" นี่เป็นคำแนะนำของพระราชธรรมนิเทศ หรือพระพยอม กัลยาโณ พระนักเทศน์ชื่อดังแห่งวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี

       ในขณะที่พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม หัวหน้าพระวินยาธิการจังหวัดนครปฐม ท่านได้ทำหน้าที่อย่างแข็งขัน เช้าตรู่ของทุกๆ วัน หากไม่มีกิจนิมนต์นอกฉันเช้า หลวงพี่น้ำฝนจะตื่นตั้งแต่ตี ๕ เพื่อเตรียมตัวออกไปบิณฑบาต โดยท่านเดินบิณฑบาตในตลาดรอบองค์พระปฐมเจดีย์ทั้ง ๔ แห่ง เป็นระยะทางเกือบ ๕ กิโลเมตร ใช้เวลาเกือบ ๒ ชั่วโมง


        :49: :49: :49:

       สำหรับคำพูดที่ว่า "บิณฑบาตโปรดโยมปราบเปรต" หลวงพี่น้ำฝน บอกว่า ในสังคมละเลยการประพฤติในศีลธรรม ไม่เว้นแม้แต่ผู้ที่เข้ามาบวชในพระพุทธศาสนา กล่าวคือ บางคน บางกลุ่ม เมื่อบวชแล้วไม่สนใจศึกษา และปฏิบัติตามหลักพระธรรมวินัย กฎ ระเบียบ คำสั่งมหาเถรสมาคม อาศัยช่องทางจากความเชื่อ ความเลื่อมใสในพระรัตนตรัยของชาวพุทธ ที่ยังไม่ค่อยเข้าใจหลักพระพุทธศาสนา แสวงหาผลประโยชน์โดยวิธีการต่างๆ เช่น บางคนเข้ามาบวชในพระพุทธศาสนาแล้วออกแสวงหาลาภสักการะ โดยการออกบิณฑบาตบ้าง บอกบุญ เรี่ยไรเงินทอง เพื่อประโยชน์ตนเองบ้าง ปักกลด ทำทีเป็นผู้ปฏิบัติเคร่งครัด บางพวกตั้งตนเป็นหมอดูทำนายทายทัก บอกใบให้หวย เป็นหมอยา หมอเสน่ห์ ยิ่งกว่านั้นบางพวกถึงขนาดปลอมบวช โดยใช้อุบายที่แยบยลยากที่จะแก้ไข

      อย่างไรก็ตามในฐานะที่เป็นหัวหน้าพระวินยาธิการจังหวัดนครปฐม หลวงพี่น้ำฝน ได้มีคำแนะนำไม่ให้ญาติโยมใส่บาตรพระกับพระที่ไม่น่าเลื่อมใสไว้ ๗ ประการ คือ
      ๑.ย่ามใหญ่ ซึ่งภายในย่ามอาจมีผ้าขนหนู เสื้อผ้า สบู่ ยาสีฟัน อย่างครบคันรวมอยู่ในย่าม
      ๒.จีวรไม่สะอาด เพราะต้องนอนตามสถานีรถไฟ
      ๓.มีบาตรและกลดพระติดตัวในย่านชุมชนเมือง ซึ่งกิจของพระธุดงค์ต้องเดินห่างจากชุมชนเมือง ๒๕ กม.เป็นการเดินในป่าไม่ใช่ในเมือง
      ๔.นอนมั่วทุกแห่ง
      ๕.แหล่งที่พักไม่แน่นอน สัญจรอยู่ตลอดเวลา และ
      ๗.อธิษฐานพรรษาไม่ถูก ไม่มีใบสุทธิ


ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.komchadluek.net/detail/20130723/164061/เข้าพรรษาทำบุญด้วยปัญญา.html#.Ue9QPKxYxGp
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

Akira

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 653
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: เข้าพรรษา 'ทำบุญด้วยปัญญา'
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2013, 12:02:14 pm »
0
 :67: :smiley_confused1:

  เห็นภาพแล้ว ดูว่าเดี๋ยวนี้จะยุ่งยากมากขึ้น นะ

 :c017:
บันทึกการเข้า
เครดิต ยายกบ มาศึกษาธรรมะจ้า แก๊งค์ อ๊บ อ๊บ

SRIYA

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 199
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: เข้าพรรษา 'ทำบุญด้วยปัญญา'
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2013, 01:14:35 pm »
0
 :67: :67: :67: :c017:
บันทึกการเข้า
อยากให้ทุกชีวิต มีความอบอุ่น