ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ขาดได้ก็ซ่อมได้...“เราจะกลับมา” ศรัทธายังแรงกล้าที่ “สะพานมอญ” สังขละบุรี  (อ่าน 1864 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29390
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


ขาดได้ก็ซ่อมได้...“เราจะกลับมา”
ศรัทธายังแรงกล้าที่ “สะพานมอญ” สังขละบุรี


น้ำป่าเชี่ยวกรากพัดจนสะพานมอญขาดพัง
        หลังจากฝนตกติดต่อกันอย่างหนักเป็นเวลา 3 วัน ใน อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ทำให้เกิดน้ำป่าไหลเชี่ยวกราก พัดพาเอาตอไม้ สวะ และแพที่หลุดจากหลักปะทะกับเสา “สะพานมอญ” ซึ่งนอกจากจะส่งผลกระทบต่อการสัญจรข้ามไป-มาของชาวบ้านแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวใน อ.สังขละ อีกด้วย เพราะสะพานมอญถือเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวไฮไลท์สำคัญในอำเภอแห่งนี้ที่มีผู้คนเดินทางมาสัมผัส เที่ยวชม และถ่ายรูปคู่กับสะพานไม้อันสุดคลาสสิกแห่งนี้ไม่ได้ขาด


สะพานมอญในอดีต (ปี 2550)
       สะพานมอญ เป็นสะพานไม้ที่มีความยาวเป็นอันดับที่ 2 ของโลก(รองจากสะพานไม้อูเบ็งในพม่า) โดยข้อมูลส่วนใหญ่ระบุว่ายาว 850 เมตร แต่ข้อมูลจากไกด์เยาวชนในพื้นที่ระบุว่ายาว 455 เมตร
       
       สะพานมอญ ถือเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของสังขละบุรี มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า "สะพานอุตตมานุสรณ์" โดยตั้งตามชื่อของพระราชอุดมมงคล หรือหลวงพ่ออุตตมะแห่งวัดวังก์วิเวการาม พระเกจิซึ่งเป็นดังศูนย์รวมจิตใจของทั้งชาวไทย ชาวมอญและชาวกะเหรี่ยงแห่งเมืองสังขละ ซึ่งท่านเป็นผู้ดำเนินการสร้างสะพานขึ้นจากความร่วมแรงร่วมใจของชาวมอญที่มีศรัทธาต่อองค์หลวงพ่ออุตตมะ โดยชาวบ้านร่วมกันสร้างขึ้นในปี 2528 ใช้เวลาสร้าง 2 ปี จนมาเสร็จสิ้นในปี 2530 กล่าวกันว่าท่อนไม้ใหญ่ที่นำมาใช้ส่วนหนึ่งนำมาจากต้นไม้ที่ยืนต้นตายอยู่ใต้เขื่อนเขาแหลม ตัวสะพานยาว 455 เมตร ทอดข้ามลำน้ำซองกาเลีย และยังเป็นสะพานเชื่อมระหว่างตัวอำเภอสังขละบุรีกับหมู่บ้านชุมชนชาวมอญอีกฝั่งหนึ่งเข้าด้วยกัน



       
บรรยากาศเก่าๆ ของสะพานไม้ในอดีต
       สะพานไม้แห่งนี้ แม้สร้างด้วยฝีมือช่างพื้นบ้าน แต่กลับดูสวยงามคลาสสิก อีกทั้งยังเป็นสะพานที่มีชีวิต จากภาพวิถีชาวแพในลำน้ำเบื้องล่าง และภาพวิถีของผู้คนที่เดินข้ามฝั่งไปมา โดยเฉพาะภาพวิถีชาวมอญ ที่ยามเช้าจะเห็นสาวๆ ชาวมอญทาแป้งทานาคาเดินเทินของบนศีรษะข้ามจากฝั่งมอญไปทำงานฝั่งเมืองกันอย่างคึกคัก


สะพานไม้มอญที่เพิ่งซ่อมแซมเสร็จใหม่ (ปี2556)
        ในปี 2538 ซึ่งเป็นปีที่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ ระดับน้ำในเขื่อนเขาแหลมเองก็ได้เพิ่มสูงมากจนกระทั่งท่วมสะพานไม้ และเอ่อล้นเข้าท่วมฝั่งบ้านเรือนริมฝั่งน้ำด้วยเช่นกัน แต่หลังจากนั้นสะพานไม้ก็ยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ ไม่เกิดความเสียหายหนักหนาแต่อย่างใด


โครงสร้างสะพานที่ทำด้วยไม้
       หลังจากการใช้งานมากว่า 20 ปี จากเดิมที่ทุกปีชาวบ้านจะช่วยกันซ่อมแซมตามสภาพ สะพานมอญที่ใช้งานมายาวนานเริ่มชำรุดจนอาจเป็นอันตรายกับประชาชนที่สัญจรผ่านไปมา ทำให้ต้องมีการซ่อมแซมสะพานครั้งใหญ่เป็นครั้งที่ 5 ซึ่งเป็นครั้งล่าสุดเมื่อปี 2554 โดยเทศบาลสังขละบุรี โดยเมื่อซ่อมเสร็จ หน้าตาของสะพานได้เปลี่ยนไปบ้าง จากเดิมที่มีแผ่นไม้สั้นบ้างยาวบ้างปูเป็นพื้นดูไม่เป็นระเบียบแต่สวยงามคลาสสิก ก็กลายเป็นแผ่นไม้ขนาดเท่ากันวางเรียงเป็นระเบียบดูมั่นคงแข็งแรง นอกจากนั้นยังติดตั้งเสาไฟฟ้าเพิ่มเติมโดยหัวเสาเป็นหงส์สีทองคาบโคมไฟตลอดแนวสะพาน ซึ่งบางคนกล่าวว่าแม้สะพานจะดูสวยงามแข็งแรงขึ้น แต่ก็ขาดเสน่ห์ความคลาสสิกแบบดั้งเดิมไป


อีกไม่นานสะพานไม้คงได้รับการซ่อมแซมกลับมาดังเดิม
         จนกระทั่งวันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา ได้มีฝนตกหนักต่อเนื่องและน้ำจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรทะลักลงมาสมทบ ทำให้แพที่ลอยอยู่ในแม่น้ำซองกาเลียพร้อมทั้งท่อนไม้ที่ลอยมากับน้ำกระแทกตอม่อจนต้านไม่ไหว ทำให้ช่วงกลางสะพานพังลงเป็นระยะทางรวมกว่า 50 เมตร
       
       ทั้งนี้หลังข่าวสะพานมอญขาดเป็นที่รับรู้ในวงกว้างในโลกไซเบอร์ มีการส่งข้อความให้กำลังใจต่อชาวสังขละเป็นจำนวนมาก พร้อมเชื่อมั่นว่าสะพานมอญจะได้รับการซ่อมแซมให้กลับมาใช้ได้ดังเดิมและเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันมีเสน่ห์ของสังขละบุรีโดยเร็ววัน ดังที่ปรากฏในหน้าเพจของ ททท.กาญจนบุรี ว่า
       
       " เ ร า จ ะ ก ลั บ ม า "
       
       ขอบคุณทุกๆ แรงใจ ที่รักและเป็นห่วงเรา เรายังสบายดี และเสียหายเพียงแค่บางส่วน ... เราเกิดมาจากแรงศรัทธาของคนที่นี่ เกือบ 30 ปีที่ผ่านมา เราผ่านการซ่อมแซมมาแล้วถึง 5 ครั้ง และในครั้งนี้ก็เช่นกัน ศรัทธาของพวกคุณทุกๆ คนจะยังทำให้เรายืนหยัดอยู่ต่อไป
       
       ขอเวลาเราซักนิด ... ไม่ช้าเราจะกลับมา
       
        ans1 ans1 ans1
       
       สำหรับผู้ที่อยากช่วยบูรณะฟื้นฟูสะพานไม้มอญ สามารถบริจาคเงินสมทบทุนได้ ณ วัดวังก์วิเวการาม หรือที่ตู้รับบริจาคบริเวณเชิงสะพานทั้งสองฝั่ง หรือโอนเข้าบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสังขละบุรี ชื่อบัญชี “วัดวังก์วิเวการาม (สะพานไม้)” บัญชีเลขที่ 679 216755 4 ได้ตามจิตศรัทธา


ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000093048
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29390
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


“คงเดิม-เสริมปูน” 2 แนวทาง ซ่อมสะพานมอญ สังขละบุรี

สะพานมอญที่พังขาดลงมา
       หลัง“สะพานมอญ” หรือ “สะพานอุตตมานุสรณ์” ใน อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ถูกน้ำป่าพัดพาเอาตอไม้ สวะ และแพที่หลุดจากหลักปะทะกับโครงสร้างสะพาน จนสะพานมอญขาดเป็นระยะทางรวมกว่า 50 เมตร เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา
       
       ทั้งนี้หลังเหตุการณ์ผ่านพ้นได้มีการพูดถึงเรื่องของการซ่อมแซมสะพาน ซึ่งนาย “ชาธิป รุจนเสรี” นายอำเภอสังขละบุรี เปิดเผยว่า สำหรับแนวทางบูรณะจะประสานโยธาธิการและผังเมืองให้ตรวจสอบสะพานอย่างละเอียด เพื่อวางแผนบูรณะซ่อมแซมสะพานให้เร็วที่สุด ซึ่งการซ่อมแซมเบื้องต้น มี 2 แนวทาง คือบูรณะซ่อมแซมโดยคงรูปแบบสะพานไม้แบบเดิมไว้ หรือปรับเปลี่ยนมาใช้ปูนซีเมนต์เป็นส่วนโครงสร้างของสะพาน เพื่อรับน้ำหนักและต้านทานกระแสน้ำ
       
       ในเรื่องนี้คงจะต้องมีการหารือกันให้รอบคอบ เพราะสะพานมอญแห่งนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของชาวสังขละบุรี มีคุณค่าทางจิตใจต่อชาวบ้านในพื้นที่อย่างมาก การใช้ปูนซีเมนต์จึงอาจเป็นทางเลือกสุดท้าย



สะพานมอญในโครงสร้างไม้แบบดั้งเดิมอันเป็นเอกลักษณ์ของสังขละบุรี
       อย่างไรก็ดีนายอำเภอสังขละบุรีให้ข้อมูลว่า คาดว่าการซ่อมแซมสะพานคงต้องรอหมดฤดูฝนก่อน ประมาณเดือน พ.ย. – ธ.ค. เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้อย่างปลอดภัย และง่ายต่อการซ่อมแซม
       
       สำหรับผู้ที่อยากช่วยบูรณะฟื้นฟูสะพานไม้มอญ สามารถบริจาคเงินสมทบทุน ได้ ณ วัดวังก์วิเวการาม หรือ ที่ตู้รับบริจาคบริเวณเชิงสะพานทั้งสองฝั่ง หรือ โอนเข้าบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสังขละบุรี ชื่อบัญชี “วัดวังก์วิเวการาม (สะพานไม้)” บัญชีเลขที่ 679 216755 4 ได้ตามจิตศรัทธา


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000093749
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

kobyamkala

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 2236
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
Unseen สะพานนี้อาจจะเป็นตำนาน เพราะว่าอาจจะไม่มีอนุรักษ์ โครงแบบเดิมกลายเป็น ปูน และ เหล็ก ต้องอยู่ที่จุดขาย เวลาคนไปเที่ยวที่นี่เขาถ่ายรูป เขาไปก็เพื่อชมสะพาน อันซีน แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นปูน เหล็กแล้ว ก็คงไม่ต่างอะไรจากสะพานทั่ว ๆ ไป

  :014: :014: :014: thk56
บันทึกการเข้า
แล้วลองแอบมาแย้มกะลา
เพื่อดูโลก เห็นแล้วตกใจโลกนี้กว้างใหญ่จริง ๆ