ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ฮือฮา พบพระพุทธรูปโบราณขนาดใหญ่ใต้ฐานองค์พระประธานวัดอ่างทองฯ  (อ่าน 1823 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29432
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

ฮือฮา พบพระพุทธรูปโบราณขนาดใหญ่ใต้ฐานองค์พระประธานวัดอ่างทองฯ

ชาวอ่างทองฮือฮาพบพระพุทธรูปโบราณขนาดใหญ่อายุหลายร้อยปี พร้อมเครื่องใช้โบราณใต้ฐานพระประธานวัดดังกลางเมือง หลังจ้างช่างยกโบสถ์หนีน้ำ เจ้าอาวาสสั่งคนเฝ้าหวั่นโจรบุกฉก...


เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ที่ จ.อ่างทอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คนงานที่วัดอ่างทองวรวิหาร จ้างมาเพื่อยกพระอุโบสถ ป้องกันน้ำท่วม แจ้งว่าพบพระพุทธรูปยืนเนื้อสำริดปางประทานพรขนาดสูงใหญ่ พระพุทธรูปนั่งเนื้อสำริดปางมารวิชัยและปางสมาธิ หน้าตักกว้างกว่า 3 ศอก  จำนวน 3 องค์

โดยหลังจากการขุดเพื่อยกฐานโบสถ์ขึ้นพบพระและสิ่งของทั้งหมดอยู่ใต้ฐานพระประธานหรือหลวงพ่อทองดำ ที่อยู่ในพระอุโบสถ นอกจากนี้ยังมีพระเครื่องและเครื่องใช้สมัยโบราณอยู่รวมกันอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งทางช่างนำมารวบรวมไว้แต่ยังไม่สามารถนำออกจากใต้พระอุโบสถได้ เนื่องจากพระมีขนาดใหญ่ โดยหลังพบทางคนงานรีบไปแจ้งให้ทางเจ้าอาวาสทราบ และช่วยกันเฝ้าไว้เพื่อป้องกันการสูญหาย

พระครูสุทธิกิจจาทร เจ้าอาวาสวัดอ่างทองวรวิหารเปิดเผยว่า หลังจากถูกน้ำท่วมหลายปีติดต่อกันทำให้ทางวัดและญาติโยมร่วมกันจ้างช่างมายกพระอุโบสถให้พ้นน้ำเนื่องจากวัดอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาและมีพื้นที่ต่ำกว่ามาก โดยตั้งใจว่ายกพระอุโบสถเป็นพระราชกุศลถวายให้กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เนื่องจากเป็นวัดหลวง ซึ่งเมื่อพบพระพุทธรูปเก่าแก่ก็จะอัญเชิญขึ้นไปประดิษฐานภายในพระอุโบสถ แต่ต้องรอให้ยกเสร็จเสียก่อนจึงจะสามารถทำได้


 ans1 ans1 ans1

สำหรับวัดอ่างทองวรวิหาร เป็นวัดหลวง เดิมเป็นสองวัดอยู่ติดกันชื่อวัดโพธิ์ทองและวัดโพธิ์เงิน พ.ศ.๒๔๔๓ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕) ได้เสด็จพระราชดำเนินทางชลมารค เพื่อไปทรงหล่อพระพุทธชินราชจำลอง ที่จังหวัดพิษณุโลก เมื่อเรือพระที่นั่งแล่นผ่านมาถึงหน้าวัดโพธิ์ทองและวัดโพธิ์เงิน ทรงทอดพระเนตรเห็นรั้วหน้าวัดต่างกันเป็น ๒ ตอน

จึงทรงรับสั่งถามสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ซึ่งโดยเสด็จฯ ไปในเรือพระที่นั่งนั้นด้วย ว่าเป็นเพราะเหตุใด สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ จึงได้กราบบังคมทูลฯ ว่า เป็น ๒ วัดติดกัน คือ ทางทิศตะวันตกเป็นวัดโพธิ์ทอง ทางด้านทิศตะวันออกเป็นวัดโพธิ์เงิน ต่างวัดต่างทำ จึงไม่เหมือนกัน

พระองค์จึงทรงรับสั่งว่า “ควรจะมารวมให้เป็นวัดเดียวกัน” และให้ชื่อขึ้นใหม่ว่า “วัดอ่างทอง” เมื่อเสด็จกลับจากการหล่อจำลองพระพุทธชินราชจำลองแล้ว เสนาบดีกระทรวงหาดไทย ได้มีหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทองว่า ให้รวมวัดโพธิ์ทองและวัดโพธิ์เงินเข้าเป็นวัดเดียวกัน แล้วขนานนามวัดขึ้นใหม่ว่า วัดอ่างทอง แต่ไม่ทราบว่าสร้างตั้งแต่สมัยใด ซึ่งหลวงพ่อทองดำ ที่อยู่ในพระอุโบสถ เป็นที่เคารพศรัทธาของคนในจังหวัดอ่างทองเป็นอย่างมาก.


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/content/region/361615
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อนุโมทนาสาธุ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา