พิมพ์

[raponsan]

ภาพใหญ่ : ไหว้หลวงพ่อศรีประจันต์ , ภาพเล็ก : ต้นโพธิ์ของวัดที่พระพุทธรูปลอยมาติด

ไหว้หลวงพ่อศรีประจันต์ พระประธานลอยมาติดต้นโพธิ์

วัดศรีจันต์ ตั้งอยู่ที่ตำบลมดแดง อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี มีตำนานเล่าขานตามความเชื่อที่ชาวบ้านได้ประสบพบมา วัดศรีจันต์อยู่ติดแม่น้ำท่าจีน หรือเรียกอีกอย่างว่าแม่น้ำสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักที่หล่อเลี้ยงชาวสุพรรณบุรีมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

พระอธิการอนพัทย์ อนุตตโร หรือ หลวงพี่พงษ์ เจ้าอาวาสวัดศรีจันต์ เล่าถึงความเป็นมาของวัดว่า มีเรื่องราวเล่าขานกันมานานแสนนาน ไม่เคยเป็นวัดร้างมาก่อน มีพระจำวัดอยู่ตลอดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เชื่อว่าวัดศรีจันต์สร้างขึ้นในสมัยต้นยุคอยุธยา เดิมชื่อวัดศรีประจันต์ ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับอำเภอศรีประจันต์ และเป็นชื่อแม่ยายของขุนแผน แต่ชาวบ้านเรียกกันสั้นๆ ตามประสาเสียงเหน่อสุพรรณบุรีว่า "วัดศรีจันต์"

"วัดศรีจันต์เป็นวัดที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน ส่งผลให้น้ำท่วมบ้างแห้งบ้าง ถาวรวัตถุจึงแทบไม่มีหลงเหลือให้เห็น และในอดีตต้นไม้เกือบทุกต้นในวัดจะเป็นที่ผูกเรือของชาวบ้านและพระ เพราะพื้นที่ของวัดศรีจันต์ทั้งหมด 140 ไร่ในสมัยก่อน ส่วนใหญ่เป็นอ่าวลึก มีน้ำท่วมขัง ในปัจจุบันเหลือพื้นที่ประมาณ 20 ไร่ 29 วา ทิศตะวันออกของวัดติดแม่น้ำท่าจีน ทิศเหนือของวัดก็เป็นอ่าวน้ำ เป็นอ่าวที่ช้างลงในสมัยโบราณ ทางทิศใต้เป็นอ่าวควายลง วัดอยู่ระหว่างอ่าวช้างกับอ่าวควาย ทำให้ในอดีตไม่มีใครกล้าบุกรุก"

พระสมเด็จย้อนยุคเนื้อผงเนื้อแตกลายงา วัดระฆัง

หลวงพี่พงษ์เล่าอีกว่า ต่อมาพ.ศ.2498 มีการสร้างโบสถ์โดยเจ้าคุณสมเด็จแพที่มารู้จักกับพระอาจารย์กัน เจ้าอาวาสวัดศรีจันต์ จึงรับเป็นประธานจัดสร้างโบสถ์ให้ในสมัยนั้น โดยให้หลวงพ่อสด หลวงปู่โต๊ะ หลวงปู่เต๋ หลวงปู่ก้าย อาจารย์คัก มาช่วยดูแลการสร้างและเสร็จสิ้นในปีพ.ศ.2500 และฝังลูกนิมิตในปีพ.ศ.2501

หลวงพ่อศรีประจันต์ ที่ประดิษฐานในพระอุโบสถก็มีประวัติความเป็นมาเก่าแก่ ตั้งแต่ช่วงพม่ายกทัพมาประชิดกรุงศรีอยุธยา เป็นพระพุทธรูปปูนปั้น ลงรักปิดทอง ปางสมาธิ ขนาดหน้าตักกว้าง 5 ศอก

ชาวบ้านเล่าขานกันว่า หลวงพ่อศรีประจันต์อยู่บนแพขัดลอยมาตามแม่น้ำท่าจีน ไปติดหน้าวัดหลายแห่ง ชาวบ้านช่วยกันดึงขึ้นจากแพ แต่ไม่สำเร็จ กระทั่งลอยมาติดใต้ต้นโพธิ์หน้าวัดศรีจันต์ ชาวบ้านอัญเชิญขึ้นจากแพมาประดิษฐานในวัดได้และเรียกกันว่าหลวงพ่อศรีประจันต์ เป็นพระประธานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้านและทหารกล้าในยุคสมัยนั้น ต่างบนบานสานกล่าวให้ต่อสู้ชนะข้าศึก

เมื่อสมปรารถนาก็จะนำมีดดาบ มีดสั้น และหอก มาแก้บน จนเป็นที่กล่าวขวัญถึงปัจจุบันถึงความศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องอยู่ยงคงกระพัน ด้วยเหตุนี้เอง บรรดาเกจิอาจารย์ส่วนใหญ่นิยมนำมวลสารสำคัญของวัดศรีจันต์ไปทำพิธีปลุกเสกพระเครื่องและเครื่องรางของขลัง

หลวงพี่พงษ์ยังเล่าถึงการพัฒนาวัดศรีจันต์ว่า หลังจากที่เข้ามารับตำแหน่งเจ้าอาวาส ได้พัฒนาพื้นที่โดยรอบวัด มีการถมดินให้สูงเท่ากับถนนใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดน้ำท่วมขัง โดยใช้งบประมาณไปมากถึง 8 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังต้องบูรณะศาสนสถานที่สำคัญหลายแห่งของวัด ทั้งพระอุโบสถ หอระฆัง หอสวดมนต์ ซึ่งมีความเก่าแก่มาก แต่เนื่องจากทางวัดยังขาดแคลนทุนทรัพย์ในการปรับปรุงวัด ล่าสุดวัดศรีจันต์จะจัดทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2556 เพื่อสมทบทุนสร้างหอสวดมนต์ กุฏิสงฆ์หลังใหม่ ให้แก่พระสงฆ์ ซึ่งจะสร้างเหมือนกันหมดทั้งวัด

กำหนดตั้งองค์กฐินในวันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2556 เวลา 13.00 น. ทอดกฐินในวันอาทิตย์ที่ 10 พ.ย. เวลา 13.00 น. ญาติโยมผู้มีจิตศรัทธาติดต่อสอบถามได้ที่ 0-3549-7302, 08-6712-2326 และ 08-5407-0604

 

ทำบุญทอดกฐินสามัคคี รับพระสมเด็จวัดระฆัง

ผู้ที่ทำบุญทอดกฐินสามัคคีกองละ 599 บาท จะได้รับสมเด็จย้อนยุควัดระฆังฯจำนวน 1 องค์ เป็นพระเนื้อผงเนื้อแตกลายงา ปลุกเสกที่วัดระฆังฯ โดยใช้มวล สารและวิธีการพุทธา ภิเษกแบบโบราณ เชื่อว่าใครมีแล้วจะรุ่งเรืองในการงาน

ผู้ที่ทำบุญกองละ 1,500 บาท จะได้รับพระสมเด็จไกเซอร์วัดระฆังฯจำนวน 1 องค์ มีการสร้างและพุทธาภิเษกเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2556 ที่ผ่านมา ใช้มวลสารโบราณ พระทุกองค์สร้างขึ้นที่วัดระฆังฯและปลุกเสกที่วัดระฆังฯ เชื่อว่าใครที่มีในความครอบครองก็จะประสบแต่ความสำเร็จ ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน

ผู้ที่ทำบุญกองละ 20,000 บาท จะได้รับพระสมเด็จ กรุวัดระฆังฯ ซึ่งเชื่อกันว่ามีการขุดค้นพบที่วัดระฆังฯ อายุน่าจะอยู่ระหว่าง 50-70 ปี ซึ่งมีเพียง 30 องค์เท่านั้น สำหรับผู้มีจิตศรัทธาติดต่อสอบถามได้ที่ 0-3549-7302 08-6712-2326 และ 08-5407-0604

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNM05UWTJOelEyTnc9PQ==&sectionid=

[PRAMOTE(aaaa)]

อนุโมทนาสาธุ