ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เมืองร้อยวัดที่รัฐฉาน มหายานแห่ง"เชียงตุง"  (อ่าน 2009 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29435
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


เมืองร้อยวัดที่รัฐฉาน มหายานแห่ง"เชียงตุง"
รายงานพิเศษ : มนทิรา จูฑะพุทธิ / รายงาน

ด้วยความที่นคราโบราณแห่งนี้ เคยสร้างโดยปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ล้านนา คือ พญาเม็งราย เมื่อประมาณ 700 ปีมาแล้ว (ก่อนที่พระองค์จะสร้างเมืองเชียงใหม่) จึงทำให้เชียงตุงมีบรรยากาศและกลิ่นอายละม้ายคล้ายเชียงใหม่เมื่อ 50 ปีก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิถีชีวิตและศรัทธาอันแรงกล้าที่มีต่อพระพุทธศาสนา

"เชียงตุง" ตั้งอยู่ในรัฐฉาน ประเทศพม่า จากแม่สายข้ามด่านที่ท่าขี้เหล็ก นั่งรถชิลชิล ชมวิวประมาณ 4 ชั่วโมง ระยะทาง 160 กิโลเมตร ก็ถึง เมืองนี้ตั้งอยู่ในหุบเขา มีลักษณะเป็นแอ่งกระทะ โอบล้อมด้วยเทือกเขา จึงทำให้อากาศดีและมีธรรมชาติสวยงาม เพราะอยู่ในอ้อมกอดของขุนเขา แถมยังมีแม่น้ำขนาบสองสาย คือแม่น้ำโขงซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออก และแม่น้ำสาละวินทางทิศตะวันตก

ด้วยความที่อาณาเขตด้านทิศเหนือติดกับสิบสองปันนา และทางทิศใต้ติดกับอาณาจักรล้านนา เชียงตุงจึงเป็นเมืองที่มีความสำคัญ เพราะเป็นดินแดนที่อยู่ระหว่างเส้นทางการค้าขายจากจีนตอนใต้และล้านนาไทย เหนืออื่นใดเมืองนี้ยังคงบริสุทธิ์ ขนาดคนใจแข็งถ้าได้มาเห็น เป็นต้องตกหลุมรัก

เชียงตุง ได้รับสมญานามว่าเป็นเมือง "3 จอม 7 เชียง 9 หนอง 12 ประตู" ขอแถมเลขเด็ดสามตัวสุดท้าย คือ "100 วัด" เพราะหลังจากที่ได้ตระเวนไหว้พระเกือบ 20 วัด เพื่อถวายเทียนพรรษาและผ้าอาบน้ำฝนก่อนเทศกาลเข้าพรรษาในชั่วระยะเวลาเพียงแค่ 3 วัน ความจริงก็ปรากฏ ว่าเขมรัฐนครแห่งนี้เป็นที่ตั้งของวัดที่สำคัญทางพุทธศาสนากว่าร้อยวัด ชนิดขับรถออกนอกประตูเมืองประตูใดประตูหนึ่ง ก็จะเห็นวัดเล็กวัดน้อยวัดใหญ่เรียงรายอยู่รอบชุมชน และนี่คือ 3 วัดศักดิ์สิทธิ์ที่พลาดไม่ได้ถ้าได้ไปเยือนเมืองเชียงตุง


 :welcome: :welcome: :welcome:

1.วัดอินทบุปผาราม

วัดที่พระอินทร์และเทพเทวามาช่วยสร้างพระพุทธปฏิมา ไม่เกินจริงหากจะกล่าวว่า วัดทุกวัดในเชียงตุงล้วนสวยงาม วิจิตร และอลังการงานสร้างมาก โดยเฉพาะที่วัดอินท์-วัดอายุกว่า 500 ปีแห่งนี้ เป็นวัดที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในนครเชียงตุง ทั้งพระพักตร์ของพระพุทธปฏิมาที่อิ่มเอม ดวงเนตร ที่เมตตา ซุ้มเหนือเศียรพระพุทธรูป ที่แกะสลักจากไม้อายุนับร้อยปี และนาคขดบนเพดานวิหารประดับทองคำเหลืองอร่าม

ตามตำนานเล่าว่า พระพุทธรูปที่งดงามที่สุดในเชียงตุงพระองค์นี้นามว่า "พระอินทร์" คหบดีแห่งเมืองเชียงตุงมีดำริให้สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา แต่ไม่ว่าจะสร้างอย่างไร ก็ไม่แล้วเสร็จเสียที โดยเฉพาะในส่วนเศียรของพระพุทธรูป

เย็นวันหนึ่งขณะที่เหล่าช่างศิลป์พากันนั่งระทดท้อ มีชีปะขาวตนหนึ่งเดินเข้ามาหา ถามว่า "เราจะขอช่วยสร้างได้ไหม" ช่างทั้งหมดต่างดีใจ ตอบว่า "ได้เลย" สิ้นคำกล่าว "ตกลง" ปรากฏการณ์ที่ไม่คาดฝันก็พลันเกิด เป็นลมมรสุมมืดฟ้ามัวดิน แผ่นดินสะเทือน


 :67: :67: :67:

ตามประวัติบอกว่าพลังนั้นรุนแรงเสียจนช่างทั้งหมดหมดสติ จนรุ่งอรุณของวันใหม่ใกล้ฟ้าสาง สามเณรน้อยจุดเทียนเดินเข้ามาในวิหารหลังนี้ ปรากฏพระพุทธปฏิมาสำเร็จสมบูรณ์สวยงาม เณรรีบปลุกช่างให้ตื่น ถามว่าทำได้ยังไงในคืนเดียว บรรดาช่างต่างพากันงงงัน

ในที่สุดก็ได้ข้อสรุปตรงกันว่า ต้องเป็นพญาอินท์แปลงร่างมาช่วยสร้างอย่างแน่นอน อันเป็นที่มาของชื่อวัดอินทร์แห่งนี้

บริเวณด้านหลังองค์พระประธาน ยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปโบราณล้ำค่าอีกหลายสิบองค์ ซึ่งงามเหลือเกิน รวมทั้งบ่อน้ำทิพย์ศักดิ์สิทธิ์ที่ร่ำลือกันว่ารักษาโรคให้หายชะงัดมานักต่อนักแล้ว ญาติโยมจากเมืองไทยจึงพากันต่อแถวคิวยาว เพื่อรับน้ำทิพย์จากเณรน้อยที่จ้วงกระบวยตักน้ำจากบ่อรดใส่มือแต่ละคนอย่างตั้งใจ เพราะเห็นถึงศรัทธาที่หลั่งไหลมาอย่างไม่ขาดสาย





2.วัดพระธาตุจอมคำ

วัดแห่งพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า พระธาตุเก่าแก่อายุกว่า 1,200 ปี ที่ถือว่าศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองเชียงตุง เพราะเป็นที่บรรจุพระเกศาขององค์พระศาสดา องค์เจดีย์เป็นสีทองอร่ามเพราะทำจากทองแท้ โดดเด่นเห็นแต่ไกลเพราะตั้งอยู่บนจอมคำ (จอมหมายถึงเนินเขา) ฝั่งตรงข้ามหนองตุง มีความสูง 226 ฟุต กว้าง 84 ฟุต

พระธาตุแห่งนี้นอกจากจะเป็นที่เคารพของชาวเชียงตุงแล้ว ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองยังนิยมมาสักการบูชา เชื่อกันว่าถ้าได้มาบูรณะพระธาตุองค์นี้ จะทำให้ตำแหน่งหน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า

ภายในวิหารมีภาพเขียน จิตรกรรมฝาผนังลงรักปิดทอง เล่าเรื่องราวในพุทธศาสนา เริ่มตั้งแต่พระ พุทธเจ้าเสด็จมาที่ เชียงตุงพร้อมทั้งพระสงฆ์สาวก เมื่อมาถึงจอมสัก มีนาคสองตัวพี่น้องนำอาหารมาถวายพระพุทธเจ้า พระองค์ทรงมอบพระเกศาให้สองเส้น แล้วพยากรณ์ว่า ในเวลาอีกไม่ช้านาน จะมีฤาษีมาที่นี่ ขอให้นาคเอาเส้นเกศามอบให้ฤาษี

100 ปีให้หลัง มีฤาษีนามว่า "ตุงคฤๅษี" ได้เดินทางมาถึงเมืองนี้ตามพุทธพยากรณ์จริงๆ นาคสองตัวได้นำพระเกศาไปถวาย ฤๅษีจึงสร้างพระธาตุเพื่อบรรจุพระเกศาของพระ พุทธเจ้า ซึ่งก็คือพระธาตุจอมคำแห่งนี้ และเมืองนี้ก็ได้ชื่อว่าเชียงตุงตามชื่อของฤๅษี


 :sign0144: :sign0144: :sign0144:

3.วัดป่าแดงมหาวิหาร

วัดแห่งสายสัมพันธ์เชียงใหม่-เชียงตุง วัดนี้เป็นตัวอย่างอันดีที่ทำให้เห็นถึงความสัมพันธ์แน่นแฟ้นระหว่างเชียงใหม่และเชียงตุง เนื่องเพราะคณะสงฆ์วัดป่าแดงมหาวิหาร จากเชียงใหม่ ได้เดินทางเผยแผ่ศาสนานิกายลังกาวงศ์ใหม่ (ป่าแดงหลวง) มายังนคราแห่งนี้เมื่อ 500 กว่าปีก่อน เมื่อสร้างวัดแห่งนี้ขึ้นจึงให้ชื่อว่าวัดป่าแดงเฉกเช่นเดียวกัน ด้วยเหตุนี้เราจึงเห็นวัดที่เชียงตุงมักมีชื่อเหมือนวัดที่เชียงใหม่อยู่หลายวัด อาทิ วัดพระสิงห์ วัดเชียงยืน วัดหัวข่วง

ในพระวิหาร มี "พระเจ้าตอง" องค์ทองอร่าม ซึ่งเป็นพระพุทธรูปเพียงองค์เดียวที่ยังหลงเหลือให้เห็นในยุคที่พระเจ้าเจ็ดพันตูได้ส่งพระสมณทูตพร้อมพระพุทธรูป 4 องค์มาประดิษฐานที่เชียงตุง พระประธานทุกองค์ล้วนห่มผ้าตามคติความเชื่อแบบมหายาน ที่เชื่อว่าเมื่อเข้าฝนเข้าหนาว ต้องห่มผ้าให้พระพุทธรูป มิเช่นนั้นพระพุทธรูปจะหนาว

มหายานได้แผ่อิทธิพลมายังประเทศจีน และเลยมาถึงเมืองเชียงตุงด้วย บันไดทางขึ้นสู่พระอุโบสถสังเกตดีๆ แทนที่จะเป็นพญานาคเหมือนบ้านเรา กลับเป็นมังกร (ซะงั้น) หน้าประตูทางเข้ามีเทวดาสององค์ทำหน้าที่จดบุญจดบาป ซึ่งชอบมาก เพราะยุคดิจิตอลที่ผู้คนไม่เกรงกลัวต่อบาปกรรมกันแล้ว ก็เห็นจะมีแต่เทพยดาอารักษ์เท่านั้นที่จะช่วย (จดบันทึก) ได้

ในยุคสมัยที่ทุกอย่างเร่งรีบและร้อนรน ลองหยุดเวลาไว้ที่นคราแห่งเชียงตุง เมืองที่ยังไม่สิ้นแสงฉาน ที่ซึ่งอดีตกาลคือปัจจุบัน


 :49: :49: :49:

ทัวร์เชียงตุง : แนะนำ "มูลนิธิการศึกษาและเผยแผ่พระพุทธศาสนาภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง" เป็นการเดินทางท่องเที่ยวแบบศิลปวัฒนธรรมที่อิ่มอกอิ่มใจและอิ่มบุญในเวลาเดียวกัน พระอาจารย์ ดร.เสน่ห์ ธัมมวโร มีกำหนดทอดกฐินหลังออกพรรษา ประมาณเดือนตุลาคม 2556 เพื่อสร้างกุฏิที่พำนักพระภิกษุสงฆ์และสามเณร ณ วัดหนองห้อง เมืองเชียงตุง สนใจสอบถามโทร. 08-6670-4579, 08-19509109, www.mkmcu.net


ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNM05qRTJOekUzTUE9PQ==&sectionid=
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ